Unconscious เผลอใจรัก!
Writer : Aile'N
ตอนที่ 1
"กรอด.. โอ้ย นึกไม่ออกโว้ย!! แม่ง!!" ใครบางคนที่ยังคงนอนจมอยู่กับความวุ่นวายใจตะโกนออกมาเสียงดัง เพราะมืดแปดด้าน.. หมดจนปัญญาจะประมวลความคิดย้อนไปถึงอดีตอันแสนขื่นขมที่เพิ่งได้เผชิญมาเมื่อคืน จำได้แค่ว่าเมื่อวานเป็นวันแต่งงานของเพื่อนน้องชายและหลังจากจบงานเธอและเพื่อนๆ น้องรวมทั้งไอ้ผู้ชายคนที่เพิ่งจะเดินออกจากห้อง ได้ไปสังสรรค์กันต่อที่ผับ และมันจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้เลยนอกจากความเมาที่ทำให้เช้าวันต่อมาเธอต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้!
เธอควรจะรู้สึกยังไงดี? ก็ในเมื่อเธอกับไอ้บ้านั่นเห็นกันมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะน้องชายของเธอกับน้องชายเขาเป็นเพื่อนรักกัน และที่สำคัญตอนยังเรียนอยู่มันก็ดันเป็นรุ่นพี่ร่วมสถาบันของเธอมาตลอดกระทั่งเรียนจบ แม้หลังจากเรียนจบแล้ว จะห่างหน้าห่างตากันไปพักใหญ่เพราะเธอไปอยู่กับแม่ที่ฝรั่งเศส นานๆ ทีถึงจะกลับมาเยี่ยมพ่อกับน้องก็เถอะ แต่กลับมาบังเอิญเจอกันทีไรก็แทบจะไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลยสักนิด ปากหมายังไงก็ยังคงมาตรฐานเดิมอยู่อย่างนั้น แล้วนี่.. มันเรื่องบ้าอะไรกัน!?
ต้องมาเสียตัวให้ผู้ชายที่ไม่ชอบขี้หน้ากันมาตั้งแต่จำความได้เนี่ยนะ!?
"ไอ้บ้าเอ้ย!? ฉันเนี่ยนะเริ่มก่อน? ไม่มีทางอ่ะ!! มันต้องเข้าใจอะไรผิดแน่ๆ มันต่างหากที่กระทำชำเราฉันแล้วโยนความผิดให้ฉัน! ต้องใช่แน่ๆ!!" คนบนเตียงนอนกอดหมอนหมกมุ่นอยู่กับความคิดของตัวเองอย่างเคร่งเครียด ไม่รู้สึกตัวกระทั่งว่าใบหน้าสวยจัดนั้นยุ่งเหยิงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนขนาดไหน เรียกได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้มันทำให้เธอทั้งช็อก ทั้งสับสน และโกรธเป็นอย่างมาก แล้วยิ่งจำเหตุการณ์ทั้งหมดไม่ได้ก็ยิ่งหงุดหงิดเพราะไม่รู้จะเอาอะไรไปเถียงสู้คำครหาของใครคนนั้นได้ อีกอย่างก็รู้สึกกลัวใจตัวเองไม่น้อยเหมือนกันว่าอาจจะเมาแล้วกล้าทำอะไรแผลงๆ แบบนั้นลงไปจริงๆ!
"แม่ง.. " เสียงหวานสบถเบาๆ ออกมาด้วยความรู้สึกเดิมที่ยังคงหาทางบรรเทาออกไปไม่ได้ และนั่นก็เป็นเสียงสุดท้ายก่อนที่เปลือกตาคู่สวยจะปิดลงไปด้วยความเพลีย..
ตื่นขึ้นมาอีกทีในตอนบ่ายกว่าๆ ก็อดไม่ได้ต้องเหวี่ยงวีนอยู่กับตัวเองด้วยความโมโหอีกครั้ง สลัดยังไงก็ไม่หลุดออกไปจากความคิดเสียที แต่ก็รู้ดีว่ามันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือทำให้อะไรดีขึ้นจึงตัดใจแล้วตะเกียกตะกายลุกขึ้นจากเตียงเพื่อไปอาบน้ำแต่งตัวด้วยความยากลำบาก เนื่องจากอาการเสียดตรงช่วงล่างและปวดระบมตามร่างกายยังไม่หายสนิท เพียงทุเลาลงไปบ้างแล้วเท่านั้น พอเป็นแบบนี้แล้วมันก็อดคิดไม่ได้ว่าใครคนนั้นมันจะต้องกระทำชำเราร่างกายเธออย่างป่าเถื่อนมากแน่ๆ ถึงได้เจ็บปวดรวดร้าวได้ขนาดนี้!
ยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธจัด พออาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดเดิมเสร็จร่างสูงเพรียวก็พาตัวเองมาหยุดยืนจังก้าอยู่กลางห้อง กวาดสายตามองไปรอบๆ แล้วพบว่าที่นี่คือห้องของไอ้ผู้ชายคนนั้นในคอนโดของเพื่อนน้องชายที่ชื่อ 'เนตัน' ซึ่งเพิ่งจะสละโสดไปเมื่อวานเป็นเหตุให้เธอและไอ้ 'ปริ้นท์' นั่นต้องไปสังสรรค์กับพวกนั้นด้วยเลยมาลงเอยกับความอัปยศแบบนี้ไงล่ะ!
เพล้งงงง!!
ยืนจ้องข้าวของทุกอย่างภายในห้องคนอื่นด้วยสายตาประทุษร้ายอยู่นาน ร่างสูงเพรียวก็บันดาลโทสะ ใช้มือกวาดแจกันและกรอบรูปที่ตั้งโชว์อยู่บนหลังตู้ลงไปบนพื้นจนแตกกระจาย ระเนระนาดไม่เหลือชิ้นดี ทว่ามันก็ยังดับไฟแค้นในใจเธอไม่ได้ จึงเปลี่ยนเป้าหมายต่อไปยังโต๊ะทำงาน มีเอกสารเล็กๆ น้อยๆ พร้อมอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เครื่องหรูอยู่บนนั้น แต่ทุกอย่างก็ถูกกวาดลงบนพื้นในเวลาต่อมา..
โครมมมมม!!
ความโกรธทำให้ทุกสิ่งอย่างภายในห้องดูขวางหูขวางตาไปเสียหมด พวกมันเลยถูกโยนลงพื้นจนไม่เหลืออะไรที่เป็นชิ้นดีให้ประทุษร้ายได้อีก
เพล้ง! ตุ้บ! โครม!!
"ฮึ่ย!!" เสียงโครมครามจากการทำลายข้าวของภายในห้องคนอื่นเงียบสงบลง ทว่าสภาพห้องเละเทะแทบจำสภาพเดิมไม่ได้ก็ยังไม่สามารถบรรเทาอารมณ์คนหงุดหงิดฟุ้งซ่านได้เลยแม้แต่น้อย เลยหยุดไว้แค่นั้นแล้วเชิดหน้าเดินกระฟัดกระเฟียดออกจากห้องไป
ติ๊งต่องๆๆๆ
"มาแล้วค่ะมาแล้ว! อ่าว.. คุณเฌอแตมเองหรอคะ? ป้าก็นึกว่าใคร" หญิงแม่บ้านที่รีบกุลีกุจอออกมาเปิดประตูถามออกมาด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นเพื่อนสาวของลูกชายเจ้าของบ้านมายืนกดออดเรียกด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์ เพราะปกติไม่เคยเห็นเป็นแบบนี้เลยสักครั้ง แม้จะมาบ้านนี้บ่อยจนเหมือนจะเป็นคนในครอบครัวเดียวกันไปแล้วแต่ทุกครั้งร่างเพรียวจะขับรถมาเอง ต่างจากวันนี้ที่มาตัวเปล่าแถมไม่แต่งหน้าอีกต่างหาก เรียกง่ายๆ ก็คือเหมือนทุกอย่างมันแปลกตาและผิดคาดไปจนหมด
"ไอ้แดนอยู่บ้านใช่มั้ยคะ?" ผู้มาใหม่ถามถึงเจ้าของบ้านโดยไม่สนใจจะพูดคุยกับอีกฝ่าย แถมแสดงออกชัดว่าเบื่อที่จะยืนอยู่ตรงนี้เต็มที หญิงแม่บ้านวัยกลางคนก็เลยต้องรีบหลบทางให้
"ค่ะ อยู่ข้างใน" สิ้นคำบอกกล่าว 'เฌอแตม' ก็เดินเข้าไปข้างในทันทีโดยไม่ต้องมีใครนำทาง เธอรู้ทุกอย่างในบ้านหลังนี้ดีเพราะมาบ่อยจนเหมือนจะกลายเป็นบ้านหลังที่สองของตัวเองไปเสียแล้ว
"นึกว่าคนบ้าที่ไหนมาเล่นออดบ้านคนอื่น แล้วนั่น.. เป็นไรมาวะ?" เจ้าของบ้านที่เป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่สมัยเรียนละสายตาออกจากหน้าจอโน้ตบุ๊กที่กำลังใช้ทำงานอยู่เพื่อสนใจผู้มาใหม่ แต่พอเห็นสภาพเพื่อนสาวคนสนิทที่ปกติจะเดินเฉิดฉายเข้ามาด้วยความสง่างามราวกับอยู่บนแคทวอล์คนางแบบแล้วกลับต้องเกิดอาการเหวอไปชั่วขณะเพราะผิดคาดจากวันก่อนๆ ไปมาก วันนี้เหมือนนางแบบจะถูกตะคริวกินขาเสียมากกว่าเลยเหมือนจะทรงตัวได้ไม่แข็งแรงนัก แถมตอนเดินมาหย่อนตัวนั่งลงบนโซฟายังทำหน้าเหมือนท้องผูกมาหลายวันอีก =_=^
"อย่าเพิ่งถามอะไรได้มะ หงุดหงิด!" น้ำหนักตัวที่หย่อนลงบนโซฟาทำความเจ็บปวดแล่นริ้วขึ้นมาเล่นงานจนเฌอแตมเผลอเอาความโกรธมาลงที่เพื่อนอย่างอดไม่ได้ เรียกสั้นๆ ก็พาลนั่นแหละ!
"อ่าว มาบ้านคนอื่นในสภาพนี้เสือกไม่ให้ถาม แถมเหวี่ยงวีนใส่อีก เป็นแขกประเภทไหนวะ" เจ้าของบ้านถากถางกลับเสียงขุ่นพลางมองหน้าคนฟังนิ่งๆ ในบรรดาเพื่อนในกลุ่มเดียวกัน 'แดนไท' มักจะเป็นคนรองรับอารมณ์ในทุกๆ อารมณ์ของเฌอแตมมากที่สุดเพราะอยู่ด้วยกันบ่อยกว่าใคร บางวันแทบจะ 24 ชั่วโมงเลยก็ว่าได้ เหตุผลไม่ใช่เรื่องอื่นไกล เป็นเพราะเขาเป็นคนเดียวที่ยังโสดอยู่ สามารถงอแงใส่ยังไงก็ได้โดยไม่ต้องกลัวจะมีปัญหากับแฟนสาวของเขาเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ จนบางทีก็อดคิดไม่ได้ว่าอาจจะเป็นเพราะยัยผู้หญิงคนนี้ก็เป็นได้ที่ทำให้ไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้าทอดสะพานถึงเขา! =_=^
"ถ้าไม่หยุดพูดมากกูจะง้างปากมึง!" ดวงตากลมโตปราศจากเครื่องประทินโฉมใดๆ ปราดมองจิกใส่คนฝั่งตรงข้ามพร้อมแยกเขี้ยวใส่เมื่ออารมณ์ขุ่นมัวถูกกวนหนักเข้าไปอีก ถ้าเป็นคนอื่นก็คงจะมีขนลุกขนชันกันบ้าง แต่นี่รู้จักกันมานานคนมองเลยได้แค่ไหวไหล่อย่างไม่สะทกสะท้านเท่านั้น
"โหดจริ๊ง! แล้วนี่มึงจะมาทำไมทุกวันเนี่ย จำทางกลับบ้านตัวเองไม่ไง้?" พอเห็นสภาพไม่ปกติของเพื่อน เจ้าของบ้านเลยอดว่าขึ้นมาอีกไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้จริงจังอะไรนักแค่ไม่เข้าใจว่าในสภาพลำบากลำบนขนาดนี้ทำไมเฌอแตมถึงยังเลือกที่จะมาหาเขาเหมือนปกติมากกว่าการพักผ่อนสบายๆ อยู่ที่บ้าน
"ไล่?" เสียงกดต่ำถามกลับเรียบๆ พร้อมหรี่ตามองร่างสูงหน้านิ่งๆ
"ก็.. เปล่า แค่แนะนำ" คนตัวสูงรีบปฏิเสธเลิกลั่กเมื่อมองเห็นลางไม่ดีจากท่าทางนั้น ทั้งที่ก็รู้ว่าเฌอแตมกำลังอารมณ์ไม่ดีเขาก็ยังกวนอารมณ์เธอไม่หยุด โดยที่หลงลืมไปชั่วขณะว่าคนตรงหน้านี้เป็นถึงลูกสาวเจ้าพ่อมาเฟียแก๊งใหญ่ที่เก่งกาจเรื่องศิลปะป้องกันตัวใช่ย่อย แถมยังเลือดเย็นกว่าน้องชายเป็นไหนๆ ขืนกวนอารมณ์มากๆ เพื่อนก็เพื่อนเถอะ.. ถูกหักคอได้ง่ายๆ เหมือนกัน!
"จะไปไหนก็ไปๆ จะนอน" ร่างบางหน้ามุ่ย ตัดบทไล่เจ้าของบ้านไปให้ห่างจากสายตาก่อนที่จะสติขาดหักคอเขาเข้าจริงๆ แม้สภาพร่างกายตอนนี้จะทำได้แค่นอนเอนตัวพิงพนักโซฟานิ่งๆ ก็เถอะ
"มานอนอะไรตรงนี้ล่ะ จะนอนก็ขึ้นข้างบนไป" เสียงทุ้มเอ่ยบอกจริงจัง ไม่มีท่าทีว่าจะกวนอะไรอีก เพราะถึงเวลาที่เขาจะต้องทำงานต่อแล้วเหมือนกัน แต่ก็อดห่วงสภาพเพื่อนไม่ได้ที่ควรจะได้นอนบนเตียงนุ่มๆ มากกว่าโซฟาแคบๆ แบบนี้
"จะให้กูคลานขึ้นไปหรือไงห้ะ!?" ความหวังดีถูกเชือดเฉือนด้วยความหงุดหงิดที่ไม่อาจหาทางบรรเทาลงได้ ไม่ว่าทางใด เจ้าของบ้านเลยต้องเลิกเซ้าซี้ ปล่อยคนขี้วีนไปตามเวรตามกรรมแล้วหอบเอาโน้ตบุ๊กหนีออกมา เพื่อไปทำงานที่อื่น ก่อนไปไม่วายบ่นพึมพำเสียงประชดให้คนข้างหลังต้องมองจิกตามไปจนลับสายตา
"เชี่ย.. รมณ์เสียเหี้ยไรมาถึงมาลงที่กูเนี่ย"
คฤหาสน์ตระกูลฟิลเลอร์..
หลังจากถ่อสังขารไปนอนรบกวนเพื่อนตลอดช่วงบ่ายจนเต็มอิ่ม ลูกสาวเจ้าพ่อก็กลับเข้ามาอาบน้ำแต่งตัวใหม่ยังบ้านตัวเองที่ดูไม่เหมือนบ้านคนสักเท่าไร เพราะแทบจะทุกตารางนิ้วจะมีชายชุดดำยืนรักษาความปลอดภัยอยู่เต็มไปหมดตั้งแต่หน้าประตูรั้วทางเข้าบ้านยันหน้าบันไดทางขึ้นห้อง ดีที่ไม่เข้าไปเฝ้ายันในห้อง!
"เพิ่งเข้ามาไม่ใช่หรือไง จะออกไปอีกแล้ว หัดอยู่ติดกับบ้านกับช่องเป็นบ้างมั้ยห้ะเจ้าแตม!" สองเท้าเล็กบนส้นสูงสีดำสนิทหยุดชะงักตามเสียงทัก ก่อนที่ร่างเพรียวนั้นจะหันไปมองทางโซฟาห้องนั่งเล่นอันเป็นที่มาของเสียงคมเข้มนั้นอย่างไม่สามารถเมินเฉยได้
"แตมดูแลตัวเองได้น่าพ่อ" เสียงหวานเอ่ยบอกเรียบๆ เหมือนเบื่อหน่ายที่จะฟังคำตักเตือนในเรื่องเดิมๆ ของบิดาเต็มที
"รู้.. แต่มันจะเที่ยวอะไรได้ทุกวี่ทุกวัน ไม่เบื่อหรือไง?" ผู้เป็นนายใหญ่ของบ้านวางแก้วกาแฟลงบนจานรองก่อนเงยหน้าขึ้นมองสบตาลูกสาวคนโตด้วยสายตาตำหนิ ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ต้องมาตักเตือนเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้ แต่มันอดไม่ได้จริงๆ เพราะเฌอแตมชักจะเที่ยวบ่อยเกินไป อาทิตย์หนึ่งไม่กลับบ้านก็มีจนแทบจะลืมไปแล้วว่าหน้าตาลูกเป็นอย่างไร
"ถ้าเบื่อแตมคงไม่ออกหรอกค่ะ ไปนะคะ" ร่างบางย้อนกลับนิ่งๆ ก่อนบอกลาแล้วเดินออกไปโดยไม่รอให้พ่อได้หักห้ามหรือพูดอะไรยืดยื้อไปมากกว่านี้อีก
"ดูมันย้อน.. เห้อ ฉันจะทำยังไงกับมันดีเนี่ย" คู่สนทนาที่ถูกทิ้งค้างไว้กลางอากาศบ่นพึมพำกับมือขวาคนสนิทที่ยืนคอยอำนวยความสะดวกเจ้านายอยู่ข้างๆ ด้วยความเหนื่อยใจ เหนื่อยกายจากงานแล้วก็ยังไม่พอต้องมาเหนื่อยหน่ายกับความประพฤติของลูกอีก นี่ถ้า 'ซีเตอร์' ลูกชายคนเล็กอยู่ก็คงจะดี อย่างน้อยๆ เฌอแตมก็ยังเชื่อฟังน้องมากกว่าพ่อมัน เขาจะได้ฝากเตือนกันได้บ้าง ตลกดีเหมือนกัน.. เป็นถึงหัวหน้าแก๊งมาเฟียที่คุมลูกน้องให้อยู่ใต้อำนาจได้เป็นพันๆ คนแต่ลูกสาวคนเดียวกลับคุมไม่ได้ =_=^
คิงผับ..
หลังจากที่นอนคิดนั่งคิดมาครึ่งค่อนวัน เฌอแตมก็ตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้วว่ายังไงเธอก็จะต้องรู้ให้ได้ว่าเมื่อคืนเธอไปยั่วผู้ชายคนนั้นยังไงกันแน่ เป็นเรื่องจริงหรือโกหกที่เขาพูดมา มันข้องใจเธอมาตลอดทั้งวันจนต้องถ่อมาหาคำตอบด้วยตัวเองถึงที่นี่ ตอนนี้ยังไม่ค่อยดึกนักคนเลยยังไม่เยอะสามารถเดินไปที่เคาน์เตอร์บาร์ได้โดยไม่ติดขัดอะไร
"เจเจ!!" ทันทีที่มาถึงบาร์เสียงหวานก็ตะโกนเรียกเด็กหนุ่มพนักงานประจำเคาน์เตอร์บาร์เสียงดังด้วยชื่อเล่นเต็มยศแบบที่ไม่ค่อยมีใครเรียกให้ได้ยินนัก
"ห้ะ? ครับ!?" คนถูกเรียกสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ ประการแรกคือชื่อเล่นเต็มๆ ที่ถูกเรียกและประการต่อมาก็เพราะยืนหันหลังและเสียงเรียกของใครคนนั้นไม่ใช่เบาๆ คนใจลอยเลยขวัญอ่อนได้โดยง่าย
"ทำไมฉันจำเรื่องเมื่อวานไม่ได้เลยวะ ไอ้ปริ้นท์มันบังคับฉันไปใช่มั้ยห้ะ!?" สองมือเรียวสวยคว้าจับเข้าที่คอเสื้อเด็กหนุ่มตรงหน้าแล้วกระชากเข้าหาตัวทันทีเมื่อร่างสูงนั้นหันมาหา ใบหน้าหล่อใสที่ออกอาการเหรอหราอยู่แล้วในตอนแรกก็ยิ่งเหวอไปกันใหญ่กับท่าทางโมโหร้ายของคนตรงหน้า
"หา???" เสียงเบาเปล่งออกมาอย่างงงๆ พลางกระพริบตาปริบๆ ครั้นพอคิดตามคำพูดของอีกฝ่ายถึงเริ่มจะเข้าใจอะไรขึ้นมาบ้าง แม้จะไม่ทั้งหมดแต่ก็พอจะคุยกับเธอรู้เรื่อง
"เฮีย...บังคับอะไรซ้อครับ? เมื่อวานผมเห็นซ้อนั่นแหละเกาะติดเฮียอย่างกับตุ๊กแก! ไอ้เราก็นึกว่าไม่ถูกกัน ที่ไหนได้.." เด็กหนุ่มตอบกลับหน้างง ก่อนแอบอมยิ้มตอนท้ายประโยค ใครๆ ก็รู้ว่าปริ้นท์กับเฌอแตมไม่ค่อยจะกินเส้นกันเท่าไร แม้น้องชายทั้งคู่จะเป็นเพื่อนรักกัน อาจจะเป็นเพราะความกวนประสาทของฝ่ายชายมาเจอกับความขี้โวยวายของฝ่ายหญิงก็เป็นได้ เจอกันทีไรเป็นต้องปะทะฝีปากกันทุกที แล้วใครจะเชื่อว่าเมื่อคืนเฌอแตมกับปริ้นท์เดินควงกันออกจากผับไปอย่างแนบชิด.. ถ้าไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง!
ปัง!!
"พูดดีๆ นะ! ใครเกาะติดใครไม่ทราบ!!" ฝ่ามือเล็กๆ คู่เดิมที่น้ำหนักไม่เล็กตามขนาดปล่อยจากคอเสื้อเด็กหนุ่มบาร์เทนเดอร์ไปประทับลงบนเคาน์เตอร์บาร์เต็มแรงจนเกิดเสียงดัง ทำพนักงานที่กำลังทำงานอยู่รอบข้างต้องหันมามองด้วยความสงสัยใคร่รู้ แต่ก็น้อยคนนักที่จะกล้าเข้ามายุ่งเพราะรู้ดีว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร
"เอ่อ.. ก็.." เจอึกอักเมื่อเห็นสถานการณ์เริ่มไม่ปลอดภัย แต่ที่พูดไปก็เป็นความจริง เขาไม่ได้โกหก เขาเห็นแบบนั้นจริงๆ
"ฉันต้องเมามากแน่ๆ! แล้วมีอะไรอีกห้ะ? ฉันทำอะไรอีก บอกมาให้หมด!" ไม่ว่าจะมองยังไง สีหน้า แววตา ของคนตรงหน้าก็ไร้วี่แววว่าสิ่งที่เขาพูดมาจะเป็นเพียงการล้อเล่น เฌอแตมเลยต้องเปลี่ยนมาเค้นเอาเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดจากเจอย่างไม่มีทางเลือก เธอจะต้องรู้ให้ได้ว่ามันเกิดเรื่องนั้นขึ้นได้ยังไง เริ่มจากตรงไหน และเป็นมายังไง!!
"เอ่อ ก็.. ไม่รู้สิฮะ ผมเห็นแค่ตอนเฮียกับซ้อประคองกันเดินผ่านบาร์ออกจากผับไปแค่นั้นเอง ส่วนตัวกว่านั้นไม่รู้หรอกครับ ต้องไปถามเฮียเอาเองแล้วล่ะ" เจส่ายหน้าปฏิเสธระรัว ก่อนแนะให้เฌอแตมไปถามคู่กรณีเอาเอง เพราะเขาเป็นแค่พนักงาน เมื่อคืนก็ทำงานตลอดแค่บังเอิญมองไปเห็นชั่วไม่กี่วินาทีก่อนที่ทั้งคู่จะเดินออกจากผับไปเท่านั้น ถ้าเกิดเฌอแตมอยากรู้ก็คงจะมีแค่ทางเดียวคือต้องไปถามปริ้นท์เอาเอง
"ใครจะไปถามคนอย่างมันกัน.." เสียงหวานเปล่งเนิบๆ ผ่านไรฟันที่กำลังขบกันแน่นออกมาด้วยความคับแค้น มือที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์เผลอกำแน่นเมื่อพูดถึงใครบางคนขึ้นมา อาการที่เป็นทำคนมองอดสงสัยไม่ได้เลยแอบถามออกมาอย่างเนียนๆ
"ซ้อไปโกรธอะไรใครมาครับเนี่ย หรือเมื่อวานเฮียปริ้นท์เอาซ้อไปทิ้งไว้ข้างถังขยะ ฮ่าๆๆ" เด็กหนุ่มแกล้งหยอกเย้าติดตลก แต่คนฟังกลับไม่ตลกด้วย.. ดวงตาคู่สวยที่มีพลังทำลายล้างสูงตวัดมองหน้าคนพูดนิ่งๆ เท่านั้นก็ทำให้อีกฝ่ายยอมสงบปากสงบคำได้โดยง่าย
"เอ่อ ไปทำงานก่อนดีกว่าเนาะ^^ แหะๆ ตามสบายเลยฮะ" เด็กหนุ่มยิ้มแห้งกลบเกลื่อนรังสีอำมหิต ก่อนจะรีบพาตัวเองออกไปให้ไกล แต่ยังไม่ทันไปไหนก็ถูกเรียกไว้เสียก่อน
"เดี๋ยว!"
"อะ อะไรครับ?" คนถูกเรียกหันมากขานรับเสียงสั่น หน้าตาซีดเซียว และมีเหงื่อผุดซึมตามไรผมราวกับเด็กกระทำความผิดแล้วกลัวถูกจับได้
"ไปบอกคิมว่าฉันขอดูกล้องวงจรปิดทุกตัวในผับ!" เฌอแตมสั่งเรียบๆ ก่อนโบกมือไล่ให้เจรีบไป เพราะเห็นท่าทางที่แสดงออกว่าหวาดกลัวเธอจนหัวหดแล้วรู้สึกรำคาญใจชอบกล เธอไม่ใช่นางยักษ์ใจมารสักหน่อย ทำไมทุกคนจะต้องกลัวขนาดนั้นด้วย! =3=
"หืม? อ่า.. ครับๆ เดี๋ยวผมไปบอกให้" ใบหน้าหล่อใสแสดงออกถึงความสงสัยเล็กน้อย แต่นึกได้พอดีว่าไม่ควรจะถามอะไรกวนใจสาวรุ่นพี่ให้มันมากไปกว่านี้เลยก้มหน้ารับคำและรีบไปบอกคิมให้แต่โดยดี
"คุณเฌอแตมมีอะไรหรือเปล่าครับ ทำไมถึงจะขอดูกล้องวงจรปิด" ไม่นานนักบุรุษวัยสามสิบกลางๆ ในชุดสูทสีดำสุดเนี้ยบตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าซึ่งเป็นผู้จัดการสถานบันเทิงแห่งนี้ก็เดินเข้ามาถามไถ่ถึงสาเหตุของความต้องการแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยของเธอ ใบหน้าหล่อคมนั้นค่อนข้างตึงเครียดเล็กน้อยตามประสา เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นจากความผิดพลาดของตัวเองที่ดูแลได้ไม่ทั่วถึง
"ไม่มีอะไรสำคัญหรอก.." เฌอแตมบอกปัดพร้อมลุกขึ้นยืน เป็นเชิงบีบบังคับให้คิมนำทางไปยังที่หมายทั้งที่อีกฝ่ายยังไม่ทันบอกว่าจะให้ดูหรือไม่ แต่เพราะมั่นใจว่าจะไม่มีใครในนี้กล้าปฏิเสธเธออย่างแน่นอน.. เหตุผลก็น่าจะรู้ๆ กันอยู่!
"..งั้นเชิญตามผมมาเลยครับ" คิมทำท่านึกคิดอะไรบางอย่าง ก่อนจะตอบรับแล้วเดินนำไปที่ทางขึ้นชั้นสองของผับ อันเป็นห้องวีไอพีของบรรดาเจ้าของผับทั้งห้าคน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือน้องชายของเฌอแตมนั่นเอง
"กลับไปทำงานเหอะ ฉันไม่สร้างปัญหาให้หรอก แค่จะขอดูสภาพตัวเองตอนเมาเสียหน่อย" ร่างบางเอ่ยบอกคิม หลังจากได้เข้ามานั่งอยู่หน้าจอกล้องวงจรปิดทุกตัวในผับเป็นที่เรียบร้อย คำบอกกล่าวนั้นจะเรียกว่าไล่กรายๆ ก็คงจะไม่ผิดนัก เพราะเกรงว่าคิมจะรู้เห็นวีรกรรมที่อาจจะไม่เข้าท่าของเธอด้วยถ้าเขายังยืนคุมอยู่แบบนี้
"ครับ" ผู้จัดการหนุ่มตอบรับ ก่อนโค้งศีรษะแล้วเดินออกจากห้องไปอย่างไม่มีทางเลือก แต่ก็วางใจได้ในระดับหนึ่งว่าเฌอแตมจะไม่สร้างปัญหาอย่างแน่นอน หรือถ้าสร้างเธอก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล เจ้านายคงจะไม่ตำหนิอะไรเพราะทุกคนคงจะรู้นิสัยเธอดีว่าถูกขัดใจจะเป็นอย่างไร =_=^
หลังจากที่คิมออกไปแล้ว เฌอแตมก็เริ่มเช็คภาพจากกล้องวงจรปิดภายในผับไปที่ละตัว กรอกลับไปกลับมาอยู่นานก็ไม่ยังได้ความอะไร จนมาถึงตัวเกือบจะสุดท้ายที่ติดอยู่บริเวณทางแยกระหว่างทางไปห้องน้ำหญิงที่อยู่ทางซ้ายมือและทางขวาก็คือทางไปห้องน้ำชาย ภาพต้องหน้าทำเอาเธอต้องเบ้ปากออกมาอย่างอดไม่ได้ แน่นอนว่าเธอไม่ได้นั่งมองภาพตัวเองแล้วนึกหมั่นไส้อย่างแน่นอน =_=^ คนเดียวที่เธอแสดงอาการแบบนี้ใส่ไม่ว่าจะยืนอยู่ตรงหน้าตัวเป็นๆ หรือเป็นแค่ภาพจากกล้องวงจรปิดก็มีแค่คนๆ เดียวเท่านั้น คือคนที่มันทำให้เธอต้องหัวหมุนวิ่งวุ่นหาหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์ใจของตัวเองว่าไม่ได้ไปยั่วเขาอยู่นี่ไงล่ะ!
ถ้าคนอื่นมองภาพที่กำลังปรากฏต่อหน้าเธออยู่ในตอนนี้ก็คงจะเห็นเป็นผู้ชายรูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาดีเข้าขั้นดีมาก กำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ตรงจุดปลอดผู้คน โดยที่ข้างกายมีสาวสวยแวะเวียนมาหว่านเสน่ห์ใส่ไม่ขาด หลายคนเข้ามาแล้วจากไปด้วยท่าทางเหมือนเสียดาย เหลือเพียงแค่สองสามคนที่เหมือนจะครองตนเป็นเจ้าที่ไม่ยอมจากไปเสียที ซึ่งถ้าคนอื่นมองก็คงจะเฉยๆ แต่พอเป็นเฌอแตมคนนี้เห็นแล้วมันหมั่นไส้!!
"หืมมม???" คนที่กำลังจะประทุษร้ายใส่หน้าจอมอนิเตอร์เพราะรู้สึกหมั่นไส้คนที่ยืนเก๊กหล่ออยู่ข้างในเป็นอันต้องชะงักค้างกลางอากาศ ตากลมกระพริบปริบๆ ก่อนจะรีบขยับเข้าไปเพ่งสายตามองสิ่งที่ปรากฏขึ้นในจอใกล้ๆ เมื่อเห็นผู้หญิงอีกคนเดินเซเข้าไปหาผู้ชายคนนั้น ซึ่งดูจากท่าทางที่แทบจะยืนไม่อยู่แล้วก็รู้ในทันทีว่าเมามาก ประเด็นคือหน้าเหมือนเธอนี่สิ!! แล้วชุดที่ใส่อยู่ก็เป็นชุดของเธอชัดๆ 0[]0!!?
"เชี่ย...!!" เสียงเบาสบถออกมาด้วยความช็อกสุดขีดกับเหตุการณ์ต่อจากนั้นที่เธอเดินโซซัดโซเซเข้าไปยืนต่อหน้าปริ้นท์แล้วเหมือนชี้หน้าด่าหรือพูดอะไรบางอย่างกับเขา ก่อนจะขยับเข้าไปใกล้อีกจนเกือบจะแนบชิดกัน แม้เมาหนักแต่ก็ยังมีเรี่ยวแรงคว้าคอเสื้อของใครคนนั้นแล้วเงยหน้าชูคอขึ้นพูดอะไรสักอย่างที่คงจะไม่ใช่เรื่องดี แถมดูเหมือนจะพาลใส่สาวๆ รอบตัวเขาจนพวกนั้นแตกกระเจิงไปอีก
"เหี้ยยย!! ไอ้แตม!!? มึง..." คำหยาบมากมายหลุดออกมาจากปากคนสวยโดยไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด เพียงแต่สิ่งที่เห็นมันกระตุ้นให้สมองสั่งการออกมาแบบนั้น ผู้หญิงอายุเกือบเลขสามที่นอกจากจะคออ่อนแล้วเวลาเมายังรั่วและช่วยเหลือตัวเองไม่ได้จนเพื่อนห้ามกินเหล้า บัดนี้กำลังกระทำการอุกอาจโดยการหาเรื่องผู้ชายร่างสูงใหญ่กว่าตัวเองไม่พอ มือยังเลื้อยลงไปเคล้นเป้ากางเกงของเขาเต็มแรง แถมทั้งบีบและคลึงด้วยหน้าตาไร้อารมณ์อย่างไม่มียางอายอีก!!
เฌอแตมนั่งอึ้ง ช็อกตาค้างไปชั่วขณะกับการกระทำของตัวเองที่เห็น แม้จะเป็นเพราะความมึนเมาแต่บอกได้คำเดียวว่ารับไม่ได้!มันจริงอย่างที่เจบอก.. หลังจากที่เธอไปกระทำการอุกอาจใส่เขา เธอก็หาทางกลับไปยังทางที่มาไม่ได้ ได้แต่ยืนคอตกขาเป๋ซบตัวเองลงไปกับร่างกำยำนั้นอย่างหมดสภาพ กลายเป็นว่าคนที่เป็นฝ่ายออดอ้อนออเซาะร่างสูงนั้นได้อย่างน่าไม่อายกว่าผู้หญิงคนอื่นกลับกลายเป็นเธอเสียได้! และภาพสุดท้ายที่เห็นก็คือเธอกับเขาเดินประคองกันออกไปจากผับอย่างที่เจบอกจริงๆ
คนอื่นไม่ได้หรือไง? ใครก็ได้ที่ไม่ใช่ผู้ชายคนนี้.. ทำไมล่ะ ทำไมต้องเป็นมันด้วย!!?
"เป็นไงบ้างฮะ ได้เรื่องอะไรมั้ย?" เด็กหนุ่มคนเดิมถามขึ้นด้วยความอยากรู้เมื่อเห็นร่างเพรียวบางเดินกลับมานั่งลงที่เดิมด้วยท่าทางต่างจากเดิม(?) แต่เดาไม่ถูกว่าเพราะอะไร ไม่รู้ได้เรื่องหรือไม่ได้เรื่องกันแน่
"ยุ่ง!! ...เอาเหล้ามา!!" เฌอแตมแว้ดกลับหน้ายุ่ง ทำคนถูกเหวี่ยงสะดุ้งตกใจชนิดเกือบทำแก้วในมือหล่นลงพื้น เพราะอารมณ์โมโหร้ายที่ว่าร้ายสุดๆ แล้วในตอนเข้ามา ยังสู้อารมณ์ในตอนนี้ไม่ได้เลย เหมือนถูกคูณสิบเข้าไป.. ไม่รู้ไปเห็นอะไรมา!
..
..
..
..