คุณท่านพุฒิพงศ์
“พิมสุดา! ที่ฉันเตือนเธอ นั่นก็เพราะว่าฉันความหวังดีนะ”
“ถ้าคุณท่านไม่รู้อะไรก็เก็บความปรารถนาดีไว้เถอะนะคะ พิมไม่ต้องการ”
“ถึงเธอจะพูดแบบนั้นก็เถอะนะ ใจเธอเองนั่นแหละย่อมรู้ดี...” คนแก่บนรถเข็นวีลแชร์มองตามแผ่นหลังของผู้หญิงที่เพิ่งวิ่งจากไป
เธอยังคงเป็นคนคนเดียวในชีวิตและดวงใจของคนชราที่แสนหวง ห่วงและหวังดี
ครั้งหนึ่งพิมสุดาเป็นผู้หญิงที่ชายชราขี้โรคคนนี้ต้องการเธอมาร่วมชีวิตหลังจากที่ศรีภรรยาตายจากไปแล้ว แต่ก็นั่นแหละ! เขาเองก็แก่เกินกว่าจะมีเมียเด็กอายุห่างกันเกินเท่าตัวได้
และโรคติดต่อร้ายแรงที่ได้มาจากความมักมากแสนมักง่ายของตัวเอง พุฒิพงศ์เลยกลัวว่าพิมสุดาอาจจะได้รับเชื้อนี้ไปด้วย
เขากล้าพูดได้เต็มปากว่ารักหญิงสาวคนนี้ไม่น้อยกว่าภรรยาคู่ยากที่จากไป และแม้จะรักเธอมากมายเพียงใดแต่ก็ไม่อาจมีอะไรได้ด้วย ทำได้เพียงให้เธออยู่ใกล้ๆ ตัวเท่านั้น
ในเมื่อเอาเป็นเมียไม่ได้ แต่ชาตินี้ก็อย่าว่าจะได้มีผัว
เธอต้องอยู่เป็นผู้หญิงของเขาไปตลอดจนกว่าชีวิตใครจะหาไม่ไปก่อน
ซึ่งพิมสุดาก็หลงในกลิ่นเงินอันหอมหวนของอำนาจ วาสนาและบารมี ทรัพย์สินเงินทอง มรดกมูลค่าหลายล้านนี้สามารถรั้งตัวพิมสุดาให้ติดหนึบได้อย่าไม่ยากเย็น
เธออาศัยจากความใกล้ชิดสนิทสนมคุ้นเคยจนกลายเป็นความผูกพัน ท้ายที่สุดนั้นเธอจึงก้าวขึ้นมาเป็นว่าที่ผู้ครอบครองทุกอย่างไปโดยปริยาย เพราะทายาทเพียงคนเดียวละทิ้งทุกอย่างตั้งแต่วันหย่ากับภรรยา
Rrrrrrrrrr
“ว่ายังไง”
(ข่าวดีครับคุณท่าน)
“เออ! ก็ว่ามาสิวะฉันรอฟังอยู่เนี้ย”
(บริษัทรับเหมาที่มาเลเดินทางไปถึงซูดานเรียบร้อยแล้วครับท่าน)
“ทุกอย่างราบรื่นดีนะ”
(ครับ! เธอและทีมงานไปถึงโดยสวัสดิภาพ)
“อืม! แล้วเจ้าตัวเล็กนั่นล่ะ”
(ไปพักกับคุณนินิวเพื่อนเธอครับ)
“ขอบใจนายนะกลม มีนายคนเดียวนี้แหละที่ฉันมั่นใจว่าภักดี”
(ผมยินดีครับท่าน)
รอยยับย่นบนแก้มตอบสากจากการยกยิ้มที่หาได้ยากผุดประดับขึ้นบนใบหน้า
มีหลายอย่างที่คนชราสงสัยจนในที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะยื่นมือเข้าไปยุ่ง
ในเมื่อไอ้พวกหนุ่มๆ สาวๆ มันก่อเรื่องไว้เสียจนวุ่นวายไปหมดแล้วยังไม่มีปัญญาแก้ คนแก่กว่าจึงได้สร้างแผนซ้อนแผน จัดฉากให้เรื่องทุกอย่างมันเกิดขึ้น
คาดว่าหากตายก็คงจะนอนตาไม่หลับเป็นแน่ ถ้าคนชรายังไม่รู้ว่าเด็กน้อยที่ปลานิลแอบไปคลอดที่มาเลเซียใช่หรือไม่ใช่หลานของเขา
นึกเสียดายที่ปล่อยเวลาให้ล่วงเลยมาตั้งสองปีกว่า
นี้ถ้าหากย้อนเวลากลับไปตอนที่ตัวเขายังสุขภาพดี คงบินไปดูหน้าอดีตลูกสะใภ้และหลานด้วยตัวเองเสียตั้งแต่วันคลอด
เผลอๆ จะจับตรวจ DNA ซะเลยว่าใช่หรือไม่ใช่ เรื่องอะไรจะปล่อยให้ลูกสะใภ้และหลานไปตกระกำลำบากกันสองแม่ลูก
หรือถ้าเด็กนั่นไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของเจ้าภัทร แต่คนที่ร่ำรวยอุดมไปด้วยทรัพย์สมบัติ ทำไมคุณท่านจะอุปการะปลานิลกับลูกไม่ได้
นี้ก็เป็นอีกหนึ่งเด็กสาวที่คนชรารักและปรารถนาดีด้วยใจมิใช่เชิ่งชู้สาว เขาหวังให้เธอมีความสุข ความสบายไม่น้อยกว่าพิมสุดาเช่นกัน
คนแก่เฒ่านึกปวดใจที่คนหนุ่มสาวเอาแต่พ่อแง่แม่งอนประชดประชัน
ยัยนิลก็ดื้อด้านจะเป็นซิงเกิ้ลมัมทั้งที่ต้นทุนตัวเองก็ไม่มี ส่วนไอ้ภัทรนี้ก็โง่บรมที่โดนเมียโกหกว่าท้องกับคนอื่นทั้งๆ ที่รู้ดีว่าคนอย่างปลานิลนิสัยใจคอเป็นเช่นไร
“คุณท่าน...ค่ะ!” คนแก่เพ่งสายตาเบลอๆ มองรูปเด็กน้อยที่คนสนิทแอบติดตามถ่ายมาได้ตอนอยู่ในสนามบิน
เด็กชายผมดำสนิทตัดกับผิวซีดเผือดในอ้อมกอดแม่ตัวเอง
“มีอะไร” สายตาอ่อนล้าละจากเครื่องมือสื่อสารมองหน้าคนร้องเรียก
พิมสุดาออกไปกรี๊ดเพื่อสงบสติอารมณ์และเมื่อคิดได้ เธอก็เดินกลับเข้ามาหาชายแก่ขี้โรคอีกครั้ง
แหละนี้คือหนึ่งในข้อดีของหมอพิมสุดา คือเธอทำผิดแล้วรู้จักขอโทษ
“พิมไม่โทษว่าเป็นงาน เพราะความเครียดที่ทำให้พิมแสดงกิริยาที่ไม่สมควรกับคุณท่านนะคะ พิมมันสิ้นคิดเอง พิมกราบขอโทษนะคะ” หญิงสาวนั่งคุกเข่าลงกับพื้นต่อหน้าพุฒิพงศ์แล้วบรรจงพนมมือ
จากนั้นก็ก้มลงกราบแทบเท้าเพื่อขออภัย
พิมสุดาสำนึกในความเมตตากรุณาที่คุณท่านมีต่อตนและครอบครัว
หากไม่มีความช่วยเหลือจากคนคนนี้พิมสุดาก็คงเป็นได้แค่คนธรรมดาคนหนึ่ง
พ่อแม่ติดการพนันสร้างภาระหนี้สินไว้มากจนไม่มีเงินส่งให้เรียน ซ้ำยังต้องกระเตงกันหนี้นักเลงที่ตามมาทวงเงินและขู่ทำร้ายร่างกาย
ความบังเอิญในคืนที่ฝนพรำ หากพิมสุดาในวัย16ปีตอนนั้น ไม่เจอกับคุณท่าน เธอและพ่อแม่อาจจะโดนกระทืบตายไม่ต่างจากหมาข้างถนน
คุณท่านเคยตามล้างตามเช็ดหนี้พนันให้ทุกบาททุกสตางค์จนในที่สุด พ่อและแม่ก็ตายหน้าบ่อนเพราะถูกปล้นเงิน
“เธอรู้ไหมว่าความแก่มีดียังไง”
“ความแก่ความเสื่อมของร่างกายมีข้อดีด้วยเหรอคะ พิมเป็นหมอมาก่อนยังไม่เห็นข้อดีของมันเลย” หญิงสาวผู้สำนึกผิดก้มปาดเช็ดน้ำตา
ข้อดีของคุณท่านก็คือไม่เคยโกรธเธอ
“เพราะว่าอยู่มาจนแก่ป่านนี้ไง เห็นอะไรมาเยอะ เจออะไรมาเยอะ ทำดีไว้หลายอย่างแต่ก็ทำเลวไว้มากเหมือนกัน และทั้งสองสิ่งนี้มันเอามาทดแทนชดเชยกันไม่ได้ แล้วเมื่อถึงวันหนึ่งที่เรารู้ว่าเราใกล้จะตาย เราจะคิดถึงแต่เรื่องเลวๆ ในอดีตที่เราเคยทำไว้...”
...
“พิม..! เรื่องที่ติดค้างอยู่ในใจเธอมันยังทำให้เธอนอนฝันร้ายได้ขนาดนี้ ลองคิดดูสิว่าถ้าเธอต้องเป็นอย่างต่อไปเรื่อยๆ จนเธออายุเท่าฉันมันจะทรมานแค่ไหน” คนเรากินนอนร่วมห้องร่วมเตียงทุกวันเหตุใดคุณท่านจะไม่รู้
หลายคืนที่พิมสุดาละเมอร้องไห้และกรีดร้อง หลายคืนที่พูดหลุดว่าผิดไปแล้วแต่ก็ไม่มีโอกาสได้ขอโทษ
“ชีวิตคนเราไม่แน่นอนนะพิม แต่ตอนนี้ที่แน่นอนก็คือเธอยังมีโอกาสแก้ไขความเลวในอดีตกับคนที่เธอเคยทำร้ายเขา...”
“พิมไม่มีหน้าไปพบน้อง” หญิงสาวทิ้งตัวซบตักชายชราที่กล่าวสอน
ในอดีตพิมสุดาทำเรื่องที่แสนเลวร้ายมากๆ จนไม่กล้าแม้แต่จะพบเจ้าตัวอีกแล้ว
“น้องจะให้อภัยหรือเปล่านั่นคือสิทธิ์ของน้อง ส่วนเรา...เราทำผิดก็ต้องขอโทษเขาเท่านั้น”
“แต่พิม...”
“ยัยนิลไม่ใช่คนใจร้ายนี้...ใช่ไหม” ทั้งสองต่างรู้ดีกว่าปลานิลเป็นคนเช่นไร
มิเช่นนั้นในอดีตเธอคงมิกลายเป็นคนโปรดของคุณท่าน และน้องสาวที่น่ารักของพิมสุดา
“ค่ะ! พิมจะลองดู”
...
“ไม่สิ! พิมจะต้องขอโทษยัยนิลให้ได้ ส่วนน้องจะให้อภัยพิมรึเปล่า พิมก็ได้แต่ภาวนาและเข้าใจน้อง”
“ขอบคุณเธอมากนะพิม” ชายชราบนรถเข็นลูบศีรษะอย่างรักใคร่และแผ่วเบา
คนเราเมื่อผิดแล้วยอมรับและพร้อมที่จะปรับตัวแบบนี้เหตุใดจึงจะไม่สมควรได้รับการอภัย
“ขอบคุณพิมทำไมคะ พิมยังไม่ได้ทำอะไรเลย”
“เธอทำให้ฉันสบายใจแล้วพิม ฉันหมดห่วงไปอีกเรื่องแล้วถ้าตายตอนนี้ก็หลับตาได้ข้างหนึ่ง”
“คุณท่านก็!!” พิมสุดาแว้ดเสียงสูงกับมุกตลกร้าย เธอเลิกคิดว่าอยากให้ใครตายมานานมากแล้ว “จะต้องไม่มีใครตายทั้งนั้น”
“ฉันน่ะเจ็ดสิบกว่าแล้วนะพิม ทั้งหัวใจ ความดัน HIV อีก ความตายอยู่กับฉันตลอดเวลา”
“พิมจะไม่ปล่อยให้คุณท่านเป็นอะไรแน่นอน” หญิงสาวกอดขาอ่อนแรงบนรถเข็นไว้แน่นด้วยสองมือ
แบบนี้แล้วคนป่วยจะมีหมอดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่ออะไรกัน
“ไม่ต้องห่วงนะ ฉันต่างหากที่จะไม่มีวันปล่อยเธอต้องลำบากแน่นอน ต่อให้ฉันไม่อยู่แล้วเธอก็จะ...//ไม่เอาค่ะ! พิมไม่เอา” การสนทนาจบลงอย่างกะทันหันเพราะหญิงสาวกลั้นน้ำตาที่เอ่อล้นไม่ไหว
ไม่ว่าอนาคตข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น พิมสุดาก็ยังไม่พร้อมที่จะเจอ
ผู้อำนวยคนสวยในสายตาของใครต่อใคร จริงๆ แล้วก็อ่อนไหวบอบบาง ภายใต้เปลือกนอกที่ดูเก่งกาจและแข็งแรง เธอก็แค่ผู้หญิงขี้ขลาดที่กลัวว่าวันหนึ่งจะต้องเผชิญหน้ากับความจริงและอดีตอันเลวร้ายเพียงลำพัง