บทที่ 1
จุดเริ่มต้นของความเจ็บปวด
"บอกหลายครั้งแล้วใช่ไหมดา ผมไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับห้องส่วนตัวของผม ถ้าคุณจะเข้ามาทำความสะอาด คุณก็ช่วยขออนุญาตผมก่อนได้ไหม ฮะ!" ศรันย์ตะโกนใส่หน้าดาหลันด้วยความโกรธอย่างรุนแรงที่เข้ามาในห้องส่วนตัวของเขาโดยไม่ได้รับอนุญาต เขาเคยบอกกับหญิงสาวตรงหน้าหลายครั้งแล้ว แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ฟังอะไรเขาเลย น่าเบื่อที่สุด
"ดาขอโทษค่ะ ดาแค่จะเข้าไปทำความสะอาดให้" ดาหลันตอบออกไปด้วยเสียงสั่นคลอนจนเห็นได้ชัด เขาไม่เคยขึ้นเสียงหรือตะโกนแบบนี้ใส่เธอเลยสักครั้ง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาทำ เธอรู้ว่าเขาบอกหลายรอบแล้ว แต่มันก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไป เขาทำความสะอาดไม่เป็นเธอเลยต้องทำให้แทน
"ช่างเถอะ แต่ผมขอบอกคุณไว้ก่อนนะว่าอย่าให้ผมรู้ว่าคุณเข้ามาให้ห้องนี้อีก ห้องนี้มันคือห้องส่วนตัวของผม ถ้าผมไม่อนุญาตใครก็ห้ามเข้ามา ถึงคุณจะเป็นแฟนผม ก็ใช่ว่าจะมีสิทธิ์ทำอะไรก็ได้ในคอนโดนี้ เพราะที่นี่มันคือของผม คุณออกไปจากห้องนี้เดี๋ยวนี้" ดาหลันน้ำตาแทบตกในเมื่อได้ยินคำพูดที่ออกจากปากคนที่เธอรัก เธอพยักหน้ารับพร้อมกับเดินออกไปจากห้องของศรันย์ด้วยน้ำตาที่ไหลออกมาเป็นทางยาว
ตั้งแต่คบกันมาเกือบสองปีเขาไม่เคยมีกิริยาแบบนี้ใส่เธอเลยสักครั้ง แต่ตั้งแต่ที่เขาไปเที่ยวต่างประเทศกับครอบครัวครั้งนั้นมันทำให้ศรันย์คนเดิมหายไป เธอไม่คุ้นชินกับเขาในตอนนี้เอาเสียเลย ดาหลันนั่งร้องไห้อยู่ในห้องครัวอย่างเงียบ ๆ เธอไม่อยากให้เขารู้ว่าเธอกำลังร้องไห้อยู่ กลัวเขาจะหงุดหงิด ช่วงนี้เขาหงุดหงิดง่ายและเหวี่ยงอารมณ์ใส่เธอบ่อยมาก มากจนเธอเองก็ไม่ทันตั้งตัวเหมือนกัน
"วันนี้ผมไม่ทานข้าวเย็นนะ จะออกไปทานกับคุณพ่อคุณแม่ คุณก็หาอะไรทานเองแล้วกัน" เขาเดินออกมาบอกดาหลันที่กำลังนั่งร้องไห้อยู่ในครัว พูดเสร็จเขาก็เดินออกไปจากห้องทันที ถึงแม้จะเห็นว่าดาหลันกำลังร้องไห้อยู่ แต่แล้วยังไง! เขาไม่ได้ทำอะไรเธอสักหน่อย อยากร้องก็ร้องไปสิ ดาหลันได้แต่มองตามชายเสื้อคนรักของเธอไปจนสุดกรอบประตู ทันทีที่ประตูหน้าห้องถูกปิด เธอก็ยิ่งปล่อยโฮออกมาอย่างหนักหน่วง หัวใจของเธอมันเจ็บปวดเหลือเกิน ผู้ชายคนที่เธอรักเขาไม่เหมือนเดิมแล้ว เขาไม่สนใจด้วยซ้ำว่าเธอกำลังเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม เธอจะทำอย่างไรดี ทำไมทุกอย่างที่เธอตั้งใจทำให้เขามันเหมือนจะพังลงไปทุกที ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บ
หลังจากที่เขาออกไปจากห้อง ดาหลันก็ได้แต่นั่งร้องไห้อยู่ตรงที่เดิม ตกค่ำแล้วเธอยังไม่ได้ทานอะไรเลยเพราะมัวแต่ร้องไห้ หญิงสาวใช้มือปาดน้ำตาที่ไหลอาบอยู่ข้างแก้มออกจนหมด และเดินไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำ เธอยืนมองตัวเองในกระจกด้วยความสมเพชตัวเอง ชีวิตของเธอ รูปร่าง หน้าตา ไม่มีอะไรเหมาะสมกับศรันย์เลยแม้แต่นิดเดียว เขาเป็นถึงลูกชายคนเดียวของเจ้าของโรงแรมห้าดาวที่มีชื่อเสียงไปทั่วประเทศ ต่างจากเธอที่เป็นเด็กกำพร้า ฐานะไม่มีอะไรจะไปสู้เขาได้ สถานะของเขาและเธอในตอนนี้เหมือนจะห่างออกจากกันไปเรื่อย ๆ
"ดารักศรันย์นะ" หญิงสาวพูดกับตัวเองเบา ๆ เธอยอมรับว่าเธอรักเขามาก ถึงแม้รู้ว่าไม่มีอะไรคู่ควรกับเขาแต่อย่างน้อยความรักของเธอที่มีให้ก็ไม่น้อยไปกว่าใครเลย
ด้านศรันย์หลังจากที่ออกมาจากห้องเขาก็ขับรถคันหรูไปที่บ้านทันที วันนี้มีนัดทานข้าวกับพ่อแม่ และแถมยังมีใครอีกคนที่เขาแอบสนใจมาทานด้วย ถึงไม่ว่างแค่ไหนก็จะต้องไปให้ได้
"แม่ว่าลูกเลิกคบกับแม่นั่นได้แล้วนะ ศรันย์! แม่ปล่อยให้ลูกคบกับแม่นั่นนานไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว ไปไหนต่อไหนคนเขาก็ถามกัน แม่บอกตรง ๆ แม่อายมาก ลูกจะเอาใครเป็นแฟนก็ได้แม่ไม่เคยห้าม แต่คนไม่มีหัวนอนปลายเท้าแบบนั้น ลูกไม่ควรเอามาเป็นคู่ขานะ" คุณหญิงวิยะภาพูดขึ้นกลางโต๊ะอาหารท่ามกลางความเงียบงันของคนร่วมโต๊ะด้วย ศรันย์เป็นลูกชายคนเดียวของเธอ เธอก็อยากให้เขาได้รับแต่สิ่งที่ดีงาม ไม่ใช่ไปคว้าเอากรวดที่ไหนมา แล้วอีกอย่างวันนี้ก็จะมีเพื่อนของเธอพร้อมลูกสาวมาทานข้าวที่บ้านด้วย ลูกสาวของเพื่อนคนนี้เธอหมายปองไว้อยากจะได้มาเป็นลูกสะใภ้เหลือเกิน
"แม่ครับ ผมรู้แล้วครับ"
"ลูกก็พูดอย่างนี้ตลอด รู้แล้ว รู้แล้ว แต่แม่ก็ไม่เห็นลูกจะทำได้สักทีหนึ่ง แม่เหนื่อยที่จะบอกแล้วนะตาศรันย์ อนาคตของลูกยังอีกยาวไกล ทำไมต้องเอาอนาคตไปทิ้งไว้ที่มันด้วย " วิยะภาพูดอย่างหัวเสีย
"ตอนนี้ผมก็หาจังหวะบอกเลิกเธออยู่ครับแม่ แม่ก็รู้ผมคบกับเธอมาเกือบสองปี จะให้บอกเลิกภายในวันเดียว เป็นไปไม่ได้หรอกครับแม่"
"ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ ลูกก็บอกมันไปเลยสิว่าลูกมีคนที่เหมาะสมกับลูกแล้ว ดูสภาพตัวมันสิ ใส่เสื้อผ้าเก่า ๆ อะไรก็ดูโหลไปหมด ไม่มีอะไรคู่ควรกับลูกของแม่เลย เรียนจบชั้น ม.หก จะเอาอะไรมาสู้คนอื่นเขา" วิยะภากระหน่ำพูดถึงดาหลัน ทุกอย่างที่เธอพูดนั้นเป็นเรื่องจริงทั้งหมด ดาหลันเป็นแค่ผู้หญิงบ้าน ๆ คนหนึ่ง จะเอาอะไรมาเทียบเท่ากับลูกชายของเธอ
"เอาอย่างนี้นะครับแม่ ผมจะพยายามบอกเลิกเธอให้เร็วที่สุด แม่จะได้สบายใจ ตัวผมเองก็อยากเลิกเร็ว ๆ เหมือนกันครับ แต่แค่รอจังหวะเฉย ๆ " เขาบอกกับมารดา ด้านคุณวิชาญพ่อของศรันย์ก็ได้แต่นั่งฟังอย่างไร้ความคิดเห็น นึกสงสารผู้หญิงที่ศรันย์กำลังคบด้วยตอนนี้ หากมาได้ยินสิ่งศรันย์พูด คงเจ็บเจียนตาย เพราะขนาดเขานั่งฟังเองยังรู้สึกจุกแทนไม่น้อย ดู ๆ แล้วผู้หญิงคนดังกล่าวก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ถึงจะคบกับศรันย์แต่ก็ไม่เคยทำเรื่องเสื่อมเสียให้กับครอบครัวของเขาเลยสักครั้ง ฐานะหรือหน้าตาหรือก็ไม่เห็นเกี่ยว
"คุณเงียบทำไมคะ" วิยะภาหันไปถามสามีที่นั่งกินข้าวอยู่ วิชาญส่ายหน้าไม่รับรู้อะไร เขาเบื่อภรรยาอย่างวิยะภาเหมือนกัน
"คุณหญิงคะ คุณหญิงรฐากับคุณนิสา มาแล้วค่ะ"
"เชิญเขามาที่ห้องครัว" วิยะภาบอกสาวใช้ ศรันย์ยิ้มหน้าบานทันทีเมื่อได้ยินชื่อนิสา ผู้หญิงที่เขาแอบสนใจมาแล้ว เขาดีใจที่จะได้เห็นหน้าเธอ ตั้งแต่ที่กลับจากเที่ยวครั้งนั้นเขาไม่ได้เห็นหน้าเธอเลย มาวันนี้เธอจะเปลี่ยนไปแค่ไหนนะ และไม่นานร่างของสองแม่ลูกก็เดินเข้ามาภายในห้องครัวขนาดใหญ่
"สวัสดีเพื่อน สวัสดีค่ะคุณวิชาญ" รฐาเอ่ยคำทักทายเพื่อนรักของหล่อนและหันไปทักทายสามีของเพื่อนรัก
"สวัสดีค่ะคุณลุงคุณป้า สวัสดีค่ะพี่ศรันย์" นิสากล่าวคำทักทายเช่นกัน เธอหันไปสบตาศรันย์ที่นั่งมองเธออยู่ แค่มองตาก็รู้ไปถึงขั้วหัวใจ เธอรู้ว่าศรันย์คิดอะไรกับเธออยู่ นิสาเองก็สนใจในตัวศรันย์เหมือนกัน ไม่แคร์ด้วยว่าเขาจะมีใครอยู่หรือเปล่า
"ไปนั่งข้าง ๆ พี่เขาสิลูก ไปเร็ว" วิยะภาบอกกับนิสาออกหน้าออกตา นิสาเองก็ไม่รอช้ารีบเข้าไปนั่งข้างศรันย์ทันที ความใกล้ชิดของทั้งสองเริ่มต้นขึ้นท่ามกลางความยินดีปรีดาของครอบครัวทั้งสองฝ่าย