bc

กลับมาครั้งนี้กลายเป็นนารีเลี้ยงเดี่ยว

book_age12+
323
FOLLOW
2.7K
READ
reincarnation/transmigration
family
HE
time-travel
second chance
stepfather
single mother
drama
tragedy
lighthearted
rebirth/reborn
poor to rich
like
intro-logo
Blurb

วิหกจากแดนไกลอยากโบยบิน ไฉนจึงมีรังแมงมุมเหนี่ยวรั้ง เสียใจเถอะ! ตัวข้าหาใช่วิหกตัวนั้น ถูกจองจำฝังทั้งเป็น ผ่านไปร้อยปีแล้วอย่างไรเล่า พวกเจ้าก็ต้องชดใช้เช่นกัน แต่ทำไมคนที่ข้าแก้แค้นถึงยังอยู่ หรือจะจำผิดคนกัน?

chap-preview
Free preview
บทแรก
“โอ๊ยร้อน แฮกๆ ทำไมร้อนแบบนี้” “ร้อนจน... หายใจไม่ออกเลย!” ท่ามกลางความมืดมิดจนมองไม่เห็นแม้มือตัวเอง จึงต้องดิ้นรนเพื่อหาอากาศหายใจ แต่กลับรู้สึกอึดอัดเหมือนถูกจำกัดพื้นที่ มันทั้งคับแคบและขยับตัวได้ยาก อยากพลิกตะแคงยังทำไม่ได้ “นี่เรากำลังจะตายหรือ! มันเกิดอะไรขึ้นกัน” ด้วยสัญชาตญาณเอาตัวรอด ต่อให้สิ้นไร้หนทางก็ยังอยากลองดู เค้นเอากำลังทั้งหมดมือเท้าถีบยันทุบอย่างแรง ไม่รู้สึกว่าเจ็บสักนิด ขอเพียงมีโอกาสรอดออกไปจากตรงนี้ได้ “ขอร้องล่ะ ใครก็ได้ช่วยด้วย!” แว่วเสียงอ้อนวอนย่อมมีคนได้ยิน ทว่ากลับยืนเหยียดยิ้มอย่างชอบใจ “ร้องอีก ร้องดังๆ จะได้หมดแรงตายไวๆ” “นั่นใคร มีคนอยู่ข้างนอกใช่มั้ย” “โอ้พี่สาว..! คราวนี้รู้จักกลัวแล้ว แต่ยังก่อนมันเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น” “ไม่นะ! ได้โปรดอย่าทำแบบนี้!” “งั้นหรือ? ฮะ ฮ่า ฮ่า!” “เช่นนั้นขอให้โชคดีเล่า ลาก่อน” “เดี๋ยว! อย่าเพิ่งไป กลับมานะ!” “กลับมาก่อน แครกๆ” “ได้โปรด! กลับมา..ช่วยกัน.. ก่อน” เสียงจากใต้ดินกำลังขาดหายไม่เป็นคำ เพราะออกแรงมากไปสติจึงพร่าเลือน “ไม่ ข้ายัง ไม่อยากตาย..” เปรี้ยงๆๆๆๆ!!!! เสียงฟ้าคำรามสนั่น กลบเสียงร้องจากลมหายใจเฮือกสุดท้าย ตามด้วยสายพิรุณที่หว่านลงมาราวกับกำลังเย้ยหยันว่า... ร้องตะโกนให้ตายก็ไม่มีผู้ใดเหลียวแลเจ้าหรอก จงรับผลกรรมที่ก่อไว้ซะ! กรรมหรือ? ข้าทำกรรมใดไว้กันล่ะ ใครช่วยบอกที... ผ่านไปเนิ่นนาน ราวปี ค. ศ. 1910 “พี่ใหญ่ วิ่งตามข้ามาเร็วๆ เข้า” “ไม่ต้องรีบหรอก ป่ามันไม่หายไปไหน” “ป่าอาจไม่หาย แต่ว่าของดีจะถูกคนอื่นเก็บไปหมดก่อน พวกเราต้องได้อะไรติดมือกลับไป ไม่อย่างนั้น...” เด็กหญิงขนลุกชันเมื่อนึกถึงไม้เรียวของแม่เลี้ยง บิดาออกไปทำงานครั้งหนึ่ง หลายเดือนถึงจะกลับมา ทำให้สี่พี่น้องต้องฝากชะตากรรมไว้กับการหาของป่าไปให้แม่เลี้ยงขาย หากหาได้จะไม่ถูกตี แต่หากกลับบ้านมือเปล่าจะถูกตีจนมือบวมและอดอาหารไปถึงอีกวัน พวกเขาไม่รู้ว่ามารดาที่ให้กำเนิดหายไปไหน รู้เพียงอยู่กับบิดากระทั่งวันหนึ่งท่านพ่อพาหญิงแปลกหน้ากลับมาด้วย บอกว่าต่อไปให้เชื่อฟังมารดาคนนี้ คราแรกสี่พี่น้องดีใจที่ไม่ต้องถูกล้อว่าไม่มีแม่ นั่นกลับเป็นจุดเริ่มต้นของความไม่สงบสุข ทุกคืนยังทำให้หลับตาอย่างหวาดกลัว แม่เลี้ยงที่ยิ้มหวานเอาใจเก่งและมีเมตตาจะปรากฏต่อเมื่อบิดาอยู่ด้วย แต่เมื่อใดก็ตามที่พ่อออกไปนอกบ้านจะเป็นฝันร้ายของพวกเขาพี่น้อง ทั้งยังขู่ว่าหากกล้าฟ้องจะขายออกไปเสีย ด้วยความเป็นเด็กจึงไม่กล้าไม่ทำตาม “เจ้าตัวเล็กช้าลงหน่อย ทางข้างหน้าอันตรายนัก” “ข้าไม่เป็นไรหรอกน่า! ท่านตามมาให้ทันเถอะ อร้าย!” “น้องเล็ก!!!” ยังไม่ทันขาดคำคนเก่งเหยียบหินพลาด กลิ้งหลุนๆ ลงไปตามเนินเขาเบื้องล่าง ตกอยู่ร่องน้ำเบื้องล่างนอนร้องโอดโอย ตามตัวมีบาดแผลและเลือดหลายแห่ง “แย่แล้ว! น้องเล็กเจ้าแข็งใจไว้ก่อน ข้าจะหาทางพาเจ้าขึ้นมา” ถึงจะบอกไปแบบนั้นแต่เด็กอย่างพวกตนไม่สามารถลงไปข้างล่างนั้นได้ มันทั้งลาดชันมีก้อนหินขรุขระ หากไม่ระวัง ไม่เพียงช่วยคนไม่ได้แต่จะเพิ่มคนเจ็บ “เอาอย่างไรดี เราลงไปไม่ได้เลย ข้าพยายามหาทางแล้วแต่พวกเราตัวเล็กเกินไป” “เจ้ารอง เจ้าวิ่งเร็วรีบกลับไปบ้านบอกท่านแม่ ขอให้นางมาช่วย” “แต่นางจะมาหรือ” “ถ้านางไม่มาเจ้าก็ร้องตะโกนไปให้ทั่ว พอชาวบ้านรู้ นางจะไม่อาจนิ่งเฉย” “อื้อ” เพราะน้องชายคนรองตัวเล็กแต่ขายาว จึงมีความคล่องแคล่วสูงอีกทั้งเขาไหวพริบดี หากให้น้องชายคนที่สามไปอาจไม่สามารถพาคนมาได้ เนื่องจากเขาพูดน้อยและถูกทำให้ตกใจบ่อยครั้งจึงตาขาวอยู่บ้าง ส่วนตนในฐานะพี่สาวคนโตจะต้องอยู่เพื่อเป็นกำลังใจ หาทางช่วยน้องสาวคนเล็ก เผื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน “พี่ใหญ่ น้องเล็กดูไม่ดีเลย เหมือนว่าจะหมดสติทุกเมื่อ” “เฮ้น้องเล็ก! เจ้าห้ามหลับนะ อีกเดี๋ยวจะมีคนมาช่วยแล้ว” “ข้าจะ พยายาม ไม่...หลับ” แม้จะบอกไปแบบนั้น แต่หนังตากลับหนักขึ้นเรื่อยๆ พร้อมจะปิดลงจนแทบฝืนไม่ไหว ฮา... ง่วงจัง “น้องเล็ก!!” เสียงของพี่สาวพี่ชาย ไม่อาจทำให้คนที่อยู่เบื้องล่างมีสติ เพราะบัดนี้นางได้นอนแน่นิ่งไปแล้ว “ไหน! คนอยู่ไหนแล้ว” เหมือนเสียงระฆังสวรรค์ที่นำมาซึ่งความหวัง คือเสียงผู้ชายของหมู่บ้านที่แบกเชือกกับเครื่องมือติดมาพร้อมสำหรับการช่วยคน มีแม่เลี้ยงที่เดินหน้าบึ้งตึงแลดูไม่สบอารมณ์อย่างยิ่ง กระทั่งยามหน้าสิ่วหน้าขวานนางยังไม่มีทีท่าของมารดาสักนิด นั่นทำให้เด็กๆ จุกอกจนพูดไม่ออก แต่ถึงจะเสียใจที่แม่ไม่ห่วงใยตน แต่การมีคนอื่นอยู่ด้วยคือหนทางจะพาน้องสาวขึ้นมา แม้ไม่รู้ว่ามารดาเลี้ยงจะยินดีพาไปหาหมอรึไม่ ก็ให้ว่ากันในภายหลังเถิด “ทางนี้เจ้าค่ะ น้องเล็กพลัดตกลงไปที่ร่องน้ำ พวกเราลงไปช่วยไม่ได้” “อ้า! งานยากกว่าที่คิดไว้” “อย่างไรหรือเจ้าคะ” “ข้างล่างไม่เพียงแต่ชัน ดินยังอ่อนมีก้อนหินเยอะ หากเหยียบพลาดไม่ระวังล่ะก็... หินพวกนั้นมันจะหล่นลงไปทับน้องเจ้า ทำให้ต้องบาดเจ็บเพิ่มหรืออาจ...” พูดถึงตรงนี้หัวใจพี่สาวคนโตหนาวสะท้าน จึงคุกเข่าลงขอร้องให้ช่วยพาน้องสาวตนขึ้นมา “เป็นความผิดข้าเอง! ที่ไม่ดูแลน้องๆ ให้ดี แต่ว่าท่านอา ท่านโปรดช่วยนางด้วย ตอนนี้นางหมดสติไปแล้ว” “รู้น่า ก็กำลังหาทางเอาคนขึ้นมา เจ้าลุกขึ้นมาเถิด เข่าของเจ้าไม่สามารถช่วยคนได้” “ได้ยินรึยัง หยุดฟูมฟายสร้างความลำบากให้คนอื่นเสียที” มารดาเลี้ยงกล่าวด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง นางกวาดตามองลูกติดสามีทีละคนอย่างคาดโทษ “....” เด็กๆ ก้มหน้าลงไม่กล้าเถียง หากทำแบบนั้นในตอนนี้เมื่อกลับไปจะต้องถูกลงโทษอีกแน่ ชาวบ้านที่มาเหลือบมองแวบหนึ่งอย่างเห็นใจ แต่เรื่องในบ้านผู้อื่นจะยุ่งมากก็ไม่ได้ สำคัญคือหาทางนำเด็กที่บาดเจ็บขึ้นมา “ได้การล่ะ หากมัดเชือกกับต้นไม้ต้นนี้ ไต่ตามรากของมันจะสามารถลงไปข้างล่างได้” “เช่นนั้นดียิ่ง” “แต่อย่างที่บอกไป ดินมันค่อนข้างอ่อน ผู้ชายตัวใหญ่อย่างพวกข้าลงไปไม่ได้หรอก ชุนเหนียงเจ้าเป็นแม่เด็ก ยังเป็นสตรีตัวเล็ก เจ้าเหมาะสมที่สุด” “อะไรนะ! ข้ารึ” “แน่นอนว่าต้องเป็นเจ้าสิ นั่นไม่ใช่ลูกสาวบ้านเจ้าหรือ ถึงอย่างไรแกก็แต่งงานกับพ่อเด็ก รึจะใจร้ายยืนมองให้ตายข้างล่าง?” “แบบนั้นจงหาคำตอบดีๆ ให้แก่สามีเจ้า!” เมื่อถูกกดดันต่อให้ไม่อยากลงก็ปฏิเสธไม่ได้ ถ้าเด็กเกิดตายทั้งที่ยังช่วยได้ สามีกลับมาจะต้องหย่ากับตนแน่ ชุนเหนียงไม่กลัวเลิกกับเขาแต่นางต้องการบ้านหลังนี้ ในใจจึงก่นด่าลูกเลี้ยงว่าทำไมยังรอดอีก หากตายเสียตอนนั้นตนจะไม่ลำบากขนาดนี้ “สมกับเป็นเจ้า! ยังเลวไม่เปลี่ยน” “ว่าอันใดนะ!” กำลังมัดเชือกจะไต่ลง กลับถูกคนด่าจึงตวัดสายตาใส่ลูกเลี้ยง “ท่านแม่พูดถึงเรื่องใดเจ้าคะ? ยัง.. ไม่มีใครพูดเลย” คำตอบนี้ทำให้มึนงงอยู่บ้าง เพราะทุกคนกำลังมองมาที่ตนเป็นตาเดียว พวกเขาต่างคิดว่านางหูแว่วไปเอง แต่ชุนเหนียงกลับมั่นใจว่าตนได้ยิน “ช่างเถอะ! ข้าจะลงไปแล้ว เจ้าจงจับเชือกไว้ให้แน่น หากกล้าตุกติกจะเป็นน้องเจ้าที่ตาย” เพราะรู้ดีว่าเด็กๆ อาจเจ็บแค้นตนเกิดคิดเอาคืนขึ้นมาเล่า จึงไม่ลืมเอาชีวิตลูกคนเล็กมาขู่ หากกล้าปล่อยเชือกแกล้งทำนางเจ็บได้เจอดีแน่ “เอาล่ะ จะถึงแล้ว ค่อยๆ หย่อนเชือกลงมา” อีกนิดเท้าจะแตะเบื้องล่าง กระทั่งลงมาได้สำเร็จ “เฮ้ยนี่มันอะไรกัน! ทำไมลมถึงแรงนัก” จู่ๆ ลมมาจากไหนก็ไม่รู้พัดกระพืออย่างรุนแรง ร่างที่ห้อยโหนถูกพัดไปกระแทกกับหินก้อนแล้วก้อนเล่าซ้ำๆ ชุนเหนียงหวีดร้องอย่างเจ็บปวด ขณะทุกคนต้องยกมือขึ้นบังใบหน้าหลับตา กลับไม่ค่อยได้ยินเสียง แม้จะร้องขอความช่วยเหลือจนแหบแห้ง อาจเพราะเสียงลมมันดังกลบ กระทั่งชุนเหนียงร้องกรี๊ดดด!!!!! เป็นเสียงร้องที่ดังที่สุดจากเบื้องล่าง คราวนี้เขาได้ยินแล้ว ยังทำให้ทุกคนตกใจ ทว่าสายลมที่พัดกระโชกมันยากจะลืมตาไปมอง แต่ว่าลมที่โหมพัดแรงกลับหยุดหายไปดื้อๆ พอลมสงบลง คนข้างบนจึงร้องตะโกนถาม “เกิดอะไรขึ้น! ชุนเหนียงเจ้ายังอยู่ดีมั้ย” “ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป” “ข้าไม่เป็นไร! วางใจได้เลยข้าจะพาน้องเล็กขึ้นไปแล้ว ดึงเชือกเถอะ” “ได้ ข้าจะดึงขึ้นมา” ไม่มีใครเอะใจสงสัย เพียงเร่งสาวเชือกดึงสองคนที่กอดอุ้มกันแน่น ชุนเหนียงอุ้มลูกเลี้ยงที่บาดเจ็บพาดบ่าไต่ขึ้นมาอย่างระมัดระวัง “ได้แล้ว! ช่วยกันเอาสองคนขึ้นมา อึบ!” ไม่นานชุนเหนียงก็สามารถหยัดยืนได้อย่างมั่นคง ใบหน้าของนางดูตื่นเต้นเล็กน้อยก่อนจะสงบลงอย่างรวดเร็ว “ขอบคุณมาก ลำบากพวกท่านแล้ว” “ไม่เป็นไร ล้วนเป็นคนบ้านเดียวกัน ไปเถอะ รีบพาเด็กไปหาหมอ” “อืม” เสียงตอบรับสั้นๆ ทำให้พี่น้องไม่สบายใจ พวกเขารู้ได้ทันทีว่าแม่จะไม่มีทางพาน้องเล็กไปหาหมออย่างที่รับปากชาวบ้านหรอก แต่ก็ไม่อาจพูดอะไรได้ นอกจากมองมารดาแบกน้องสาวกลับบ้าน เดินตามเงียบๆ และเมื่อออกพ่นป่าชาวบ้านจึงแยกตัวออกไป ด้วยไม่มีสิ่งที่ต้องช่วยเหลืออีก การที่รั้งอยู่จะเป็นการเสนอหน้า ชุนเหนียงไม่ใช่คนที่พูดง่ายนัก ไปเองดีกว่าโดนไล่กลับ “ไม่มีอะไรแล้ว ข้าขอตัวกลับก่อน” “ไว้ข้าจะขอบคุณในภายหลัง” “อืม” พวกเขาคิดว่านางพูดไปอย่างนั้น จึงไม่ได้ใส่ใจนัก เพียงรับคำส่งๆ และเดินจากไป ขณะที่พวกนางห้าคนยังคงยืนอยู่ที่เดิม “ทะ.ท่านแม่เจ้าคะ!” “เจ้าชื่ออะไร” “หา?” เด็กๆ ตกใจไม่คิดว่าจะถูกถามแบบนี้ ก่อนรีบก้มหน้าหลบสายตาที่มองมานิ่งๆ อย่างหวาดหวั่นเกรงว่าจะถูกโกรธ ไม่รู้ว่าครั้งนี้แม่เลี้ยงเขาจะทำอันใดอีก “คือว่า ข้า...ก็.จำไม่ได้แล้ว”

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

เชลยรักท่านอ๋องอำมหิต

read
16.9K
bc

คุณหนูสิบเจ็ดตระกูลเจียง

read
10.6K
bc

พันธะร้าย..ดวงใจรัก

read
2.1K
bc

แม่หมอแห่งซูโจว

read
7.4K
bc

วิญญาณตามรัก

read
1K
bc

รักต้นฉบับ(ไม่ลับ)แม่มดมนตรา

read
1K
bc

หยุดหัวใจไม่รักดี

read
4.3K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook