บทที่ 12

2073 Words
“ข้าเข้าใจแล้ว ก็ว่า...ท่านแม่ไม่มีทางยอมขาดทุน” “ท่านแม่เจ้าขา ข้าอยากกินขนมร้านหยูอวี้” “เจ้าจดจ่อจะกินเค้กไม่ใช่รึ ยังอยากได้ขนมเพิ่มอีก ดูเจ้าตอนนี้สิ แก้มกลมยิ่งกว่าตุ๊กตาที่พี่สาวเจ้าเย็บให้เสียอีก” “ท่านแม่ ท่านอย่าล้อข้าสิเจ้าคะ” ตอนนี้เด็กๆ อ้วนท้วนมีเนื้อหนังกันมาก เจ้าใหญ่ตัวสูงเปล่งปลั่งล่วงเข้าสิบปี เช่นเดียวกับเจ้ารองเจ้าสามที่ยืดตัวสูงไล่ตามพี่สาว พวกเขาไม่ใช่เด็กน้อยผอมโซดูแคระแกร็นอีก เจ้าสี่ตัวกลมแก้มยุ้ยเหมือนตุ๊กตาที่น่ารัก สวมเสื้อผ้าสะอาดสะอ้าน เพียงพริบตาเดียวนางก็อยู่ที่นี่มาร่วมปีสองปี กลายเป็นมารดาที่เลี้ยงลูกลำพัง ชีวิตไม่ได้อวดร่ำรวยอยู่กันตามประสาสงบดี มีคนเหน็บแนมค่อนข้างปะทะวิวาทพอเป็นสีสัน อย่างไรชุนเหนียงก็เป็นประเภทไม่ยอมคน หัวหน้าหมู่บ้านแค่มาบ่นให้สองสามคำพอเป็นพิธี แต่ไม่ได้บ่นนางคนเดียวก็ตำหนิทั้งหมด เขายังมีความยุติธรรมให้เคารพนับถืออยู่ ข่าวคราวของพ่อเด็กเงียบราวกับหายสาบสูญ พวกเขาพี่น้องไม่เคยปริปากเอ่ยถึงเลย อาจเพราะคิดว่าพ่อได้ทิ้งพวกเขาไปแล้ว หวั่นเกรงหากพูดขึ้นมาจะทำให้นางไม่พอใจ และจากเขาไปอีกคน นางเองไม่ได้อยากรื้อฟื้นถามถึง เพราะนางไม่ใช่ชุนเหนียงเมียตัวจริง เขาจะมีเมียใหม่หรือตายก็ช่าง เดินแบกของใส่บ่าเข้าเมือง มองสองข้างทางที่ผู้คนจอแจ บางคนนั่งสูบยาจับกลุ่มพูดคุย บางคนก็ขายของหน้าบ้าน มีพ่อค้าแบกสาแหรก ในนั้นมีถั่วคั่วเม็ดแตงของกินเล่น เดินร้องตะโกนบอก มีบางคนเข็นรถใส่หม้อน้ำร้อนจนขึ้นควันขาว มันคือรถเข็นย้อมผ้า คนยุคนี้นิยมใส่สีทึบมันเปื้อนแล้วมองไม่เห็น พอซักไปมันจึงซีด การมีคนรับจ้างย้อมสีเข็นรถผ่านจึงสะดวกดี “สวัสดี มาสักทีนะเจ้า” “ทำเป็นบ่นไปได้ ก็มาแล้วนี่ไง” “เจ้านะชอบทำอะไรตามอารมณ์ ทำข้าเสียรายได้ไปตั้งเยอะแน่ะ” “แหม ของดีต้องหายากหน่อย” นางวางห่อผ้าที่มีทั้งสมุนไพรและยาลูกกลอนที่ทำสำเร็จ เถ้าแก่แทบจะกัดคอนางทุกครั้งที่มา “นี่เจ้าเอามามากกว่านี้ไม่ได้หรือ ฉั่งฉิกเป็นที่ต้องการสูงมากเลยนา” “หากมันโตทันข้าคงเอามามากกว่านี้ ของมีจำกัดมันหายาก” “ช่วงนี้คือช่วงกอบโกย พวกคณะบริหารมากดดันข้าบ่อยๆ เขาขู่จะสั่งปิดร้านข้าหากหามาได้น้อย” “ไม่ทันไรก็วางอำนาจขนาดนั้น ไหนเขาบอกว่าทำเพื่อประชาชนอย่างไร” “หากไม่อย่างนั้นจะมีกลุ่มคนที่เห็นต่างรึ ตอนนี้ในเมืองยังมีทหารแบกปืนเดินผ่านควรตราทุกชั่วโมง ขนาดเราอยู่บ้านนอกยังคุกรุ่น ในเมืองใหญ่เมืองคงเข้มงวดกว่า” “แต่ดีที่เจ้าได้เกริ่นไว้กับข้าถึงได้เตรียมรับมือกับความเปลี่ยนแปลง ไม่อย่างนั้นคงขายบ้านช่องกระโดดขึ้นเรือไปตั้งรกรากใหม่” อารยธรรมที่แตกต่างช่างมาเร็วเหลือเกิน คนหนุ่มสาวตื่นเต้นกับสิ่งเหล่านั้น แต่คนแก่อย่างเขากลับขมปร่าเพราะมันหมายถึงรากเหง้าที่จะถูกกลืนหายไปช้าๆ ไม่รู้ในอนาคตจะยังถูกทะนุบำรุงรักษาให้งดงามแค่ไหน “แบบนั้นใช่ว่าไม่ดี แต่อยู่บ้านตัวเองสบายใจกว่าไปอาศัยบ้านเมืองคนอื่น และข้าคิดว่าหากเราพร้อมรับสิ่งใหม่ เราจะสามารถปรับตัวเข้ากับบ้านเมืองที่ดำเนินตามยุคสมัยได้” ชุนเยว่รู้ว่าเขาคิดอะไร แต่มันก็เป็นเช่นนี้และเป็นมาตลอด ตอนนี้แผ่นดินเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ราชสำนักถูกบีบให้วางอำนาจ ส่งต่อแก่คลื่นอำนาจใหม่ที่จัดตั้งโดยกลุ่มคนที่มีอุดมการณ์รักชาติ “เด็กๆ รีบลงไปข้างล่างเร็วเข้า!” “แม่เสียงข้างนอกมันน่ากลัวมาก” “ชู่ว! เงียบไว้ พวกเขาจะมาตามเสียง และไม่ว่าจะได้ยินอะไรจงปิดปากตัวเองให้แน่น ไม่อย่างนั้นเขาจะหาเราพบ” “เราต้องอยู่ที่นี่อีกนานแค่ไหน มันผ่านมาหลายวันแล้ว” “อดทนอีกหน่อย อยู่ในนี้อาจไร้แสงเดือนแสงตะวัน แต่เรายังมีอาหารและไม่ถูกทำร้าย” “อยากให้มันจบลงเร็วๆ จัง บ้านเราจะพังรึเปล่านะ ยังมีแม่ไก่พวกนั้นจะถูกขโมยไปหมดแล้ว” นึกถึงช่วงที่ผ่านมา นางกับเด็กๆ ต่างหลับนอนหลบซ่อนอยู่ใต้ดิน ห้องที่ขุดเจาะกันเองเพื่อให้ลงไปอยู่ได้โดยไม่แออัด อาศัยเสบียงที่กักตุนรอคอยให้ทุกอย่างสงบลง นางใช้อาคมพรางตาจึงป้องกันกันถูกรื้อค้นพังทำลายจากผู้หิวโหย โจรคนร้ายนักโทษหลบหนี ขณะที่บ้านคนอื่นพังยับเยินไม่เหลือชิ้นดี พวกเขาในละแวกนั้นคิดว่าเป็นอาถรรพ์ผีร้าย ที่ทำไม่ให้คนกล้าเข้าไป แต่นั่นก็ทำให้ชุนเยว่ไม่ต้องเผชิญกับคำถามมากมาย มีหลายคนตายจากเหตุการณ์ปล้นชิง ทั้งคนเจ็บและถูกฉุดคร่าล่วงเกิน เสียงร้องไห้ดังระงมไปทั่ว ต้องใช้เวลาสักพักจึงสามารถซ่อมแซมบ้านที่พัง ทว่าหัวใจอันบอบช้ำไม่อาจเยียวยาในทันที หวังเพียงว่าวันหนึ่งจะข้ามผ่านไปได้ ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่โดยไม่เจ็บปวดอีก.. “อืม รอบนี้ได้ราคาดีกว่ารอบก่อน จะให้เอาเข้าบัญชีธนาคารหรือรับเป็นเงินสด” เพราะการเปลี่ยนแปลงของบ้านเมือง ทุกอย่างจึงต่างไปจากเดิมรวมถึงรูปแบบการใช้เงิน เริ่มมีการผลิตธนบัตรออกมาใหม่ ในส่วนของเหรียญก็เช่นกัน ผู้ชายเริ่มตัดผมสั้นเลียนแบบต่างชาติ มีการใส่เสื้อผ้าที่นำเข้าชุดสวยกระโปรงยาวดูดีมาก ทว่าจะมีแต่คนรวยที่ซื้อไหวเพื่ออวดบารมี พวกเขาชาวบ้านธรรมดายังคงใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย “เอาเป็นเงินสดเถอะ หากว่ามีการจลาจลมันจะเบิกถอนยาก เก็บไว้กับตัวมันอุ่นใจกว่า” “เจ้านี่นะ” “ไม่นาน คำเรียกขานคุณลักษณะการพูดของเรา จะถูกแทนที่ในอนาคต” “ก็จริง แต่ข้าคงตายก่อนจะได้ใช้คำว่าคุณฉันพวกนั้น มันกระดากปากชอบกล ฮะ ฮะ!” “หัดไว้หน่อยก็ดี ยังมีพวกชนชั้นสูงที่ชื่นชอบคำเรียกโก้หรู เช่นคุณผู้หญิง คุณผู้ชาย” “ช่างเขาสิ เท่านี้ขายไม่ทัน แล้วจะมาอีกทีวันไหน” “อาจเป็นเดือนหน้า ไม่อยากมาบ่อย เท่านี้คนก็ชะเง้อมองคอยาวยืด บ้านเมืองไม่ใคร่สงบ และข้าก็เลี้ยงลูกคนเดียว หากมีโจรย่องเข้าบ้านมันป้องกันได้ยาก” “ให้ข้าไปรับเองก็จบ เดี๋ยวนี้คนเขาไม่ได้เคร่งครัดเช่นเมื่อก่อน ธรรมเนียมตะวันตกกำลังหลั่งไหลเข้ามา” “แต่คนที่ยังยึดติดกับความเหมาะสมมีไม่น้อย หากข้ารู้แน่ชัดว่าสามีตายหรือยัง อยู่มันจะง่ายกว่านี้มาก” ถึงจะบอกว่าเป็นพ่อค้าไปซื้อของ แต่นางรู้จักนิสัยลมปากของคนแถวบ้านดี ยิ่งตอนนี้นางไม่ได้ลำบากมีเนื้อให้กินทุกวัน พวกเขายิ่งตาร้อนผ่าว ชอบจับผิดหาเรื่อง แค่นางเรียนรู้ภาษาต่างชาติ ยังถูกหาว่าเรียนเพราะหวังสบาย อยากใช้ร่างกายล่อลวงผู้ชายจากแดนไกล อยากเป็นคุณนายฝรั่งร่ำรวย ยังส่งเด็กๆ ไปเป็นสะพานเพื่อปูทางให้ตัวเอง นี่แหละสาเหตุที่ทำให้นางมีเรื่องวิวาทอยู่เนืองๆ จนไม่มองหน้ากัน ถึงนางจะไม่กลัวแต่รำคาญ เก็บเงินใส่กระเป๋าจึงเดินไปยังร้านขนม วันนี้ว่าจะซื้อหมูสามชั้นชิ้นใหญ่ไปไว้ทำอาหาร ของในครัวเหลือน้อยแล้ว เด็กๆ โตวันโตคืนเนื้อจึงขาดไม่ได้ นางยังต้องการเครื่องเทศไว้ปรุงอีกจำนวนหนึ่ง ส่วนผักหาซื้อจากแถวบ้าน มีคนปลูกขายไม่ต้องหอบถือเดินทางไกล “เถ้าแก่ เอาหมูชิ้นหนึ่ง” “ได้!” เจ้าของแผงหมูซึ่งพอคุ้นเคยกันดี ชุนเยว่คือลูกค้าประจำของเขา นางมาซื้อครั้งหนึ่งคือเยอะมาก “เอานี่ หมูสามชั้นคุณภาพแบบที่เจ้าชอบ จริงด้วยวันนี้มีเนื้อเค็มจะเอาด้วยไหม” “เอามาก็ดี เด็กๆ ชอบ” “เฮ้ย! เด็กบ้านนั้นมีวาสนาเป็นของตัวเอง ถึงได้มีแม่เลี้ยงอย่างเจ้า ส่วนพ่อเขากลับไม่ต้องรับผิดชอบอะไร” “ไม่รู้สิ ป่านนี้คงนอนกระดิกขานอนกอดขวดเหล้าอยู่ที่ไหนสักที่ ผ่านมาจะสามปียังไม่มีข่าวคราว” นางเลิกสนใจเขานานแล้ว ไม่โผล่มาก็ดี พ่อค้าส่งห่อเนื้อให้นางจึงเอาใส่ตะกร้า รู้สึกว่าไม่มีอะไรที่อยากได้อีก จึงเดินหันหน้าจะกลับบ้าน เห็นรถยนต์ทหารคันหนึ่งวิ่งสวนมา หญิงสาวเพียงปรายตามองแต่ไม่ได้สนใจ หากหันกลับไปอาจได้เห็นคนที่กำลังตกใจและมองนางอย่างเว้าวอน “มองอะไรของแก! อยากตายรึ อย่าคิดว่าจะมีใครมาช่วยแกออกไปได้” ทหารตะคอกเสียงดังมีท่าทางดุร้าย พวกเขาเกลียดชังคนที่คิดคดทรยศที่สุด “อื้อๆ!” ผู้ที่ถูกจับประท้วง เขาอยากบอกว่าตนเองบริสุทธิ์เพียงใด แต่ก็รู้ดีว่าไม่มีทางที่ทหารจะเชื่อ ทั้งหมดเป็นเขาที่โง่เอง หลงเชื่อคำพูดโน้มน้าวอันมีเงินทองก้อนเล็กๆ มาล่อใจ หากเทียบกับสิ่งที่เขาต้องเผชิญมาสามปีเต็ม คือการสอบสวนที่โหดร้ายหลากหลายวิธีการ ไม่เคยได้หลับตาลงโดยไม่หวาดกลัวเลยสักวัน ถ้ารู้ว่าจะต้องเจอกับอะไรแบบนี้ เขายินดีรับจ้างแบกหามแลกเศษเงิน แต่ไม่มียาแก้เสียใจ ไม่มีคำว่ารู้งี้! ต้องทำยังไงนะถึงจะหลุดพ้น ได้กลับไปหาครอบครัว ยังแอบได้ยินมาอีกว่าคนที่หลอกเขาไปทำงานเสี่ยงตาย ยังแกล้งปล่อยข่าวลือออกไปว่าเขาเป็นคนกินข้าวในชามมองของในหม้อ เป็นคนเลวนอกใจภรรยา เพื่อไม่ให้เกิดการจี้ถามยามที่เขาหายไปป่านนี้ชุนเหนียงคงหลงเชื่ออย่างแน่นอน เขาพยายามดิ้นรนเพื่อหาทางหนี แต่รถยังขับเคลื่อนไปข้างหน้า เขาไม่รู้เลยว่ากำลังถูกพาไปที่ไหน ดวงตาที่แทบปิดด้วยปูดบวม ยังหันมองเพื่อหาทางออกไปจากกล่องเหล็กที่แน่นหนา “ดูมันสิ คงกำลังคิดว่าจะหนีออกไปอย่างไร” พวกเขามองปราดเดียวก็อ่านทะลุปรุโปร่งถึงความต้องการของคนตรงหน้า “...!” ฟางต้าจูสั่นสะท้าน หวาดกลัวอย่างยิ่งยามได้ยินเสียงหักข้อนิ้วมือ แม้จะอยู่บนรถแต่ไม่เป็นอุปสรรคหากจะทำร้ายร่างเขา “อื้อ! อ้าก!” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดเมื่อรองเท้าที่หนักราวกับหินก้อนหนึ่งบดลงบนหลังมือ ถึงมันจะถูกมัดแต่ร่องรอยก่อนหน้ามีน้อยที่ไหน แต่เดิมมันก็แทบหักมาคราวนี้จึงได้ยินเสียงดังกร๊อบ! ลั่นเปราะ เขาเจ็บจนไม่รู้ว่านิ้วไหนกันแน่ที่หัก มันปวดไปหมด ทหารคนนั้นเห็นแล้วยังรู้สึกไม่พอใจ เขาคิดว่ามันควรต้องโดนหนักกว่านี้ เผื่อว่าจะยอมง้างปากสารภาพความจริง หากยอมคายความลับไม่เพียงเขาจะมีความชอบ แต่หากมีประโยชน์ยังได้เลื่อนขั้น ไม่ต้องมาเป็นพลทหารธรรมดา “เฮ้ย! นายกำลังทำให้รถสกปรก เพลามือลงหน่อยเธอ อย่าให้เปื้อนเลือดฉันขี้เกียจล้าง” เพราะการลงมือบนยานพาหนะมันเลี่ยงไม่ได้จะทำให้เกิดกลิ่นคาวและคราบสกปรก ทหารที่มาด้วยจึงกล่าวอย่างไม่พอใจนัก อยากวางตัวบ้าอำนาจก็แล้วไปเถิด แต่อย่าทำให้คนอื่นเดือดร้อน “ได้ เช่นนั้นรอให้ใกล้ถึงก่อนฉันจะรีดเค้นมันแบบไม่ปรานีอีก อยากรู้นักว่าจะปากแข็งไปสักกี่น้ำ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD