ข้อยกเว้นของสหรัฐ NC+++

3693 Words
"อื้อ" พระพายนขึ้นอย่างงัวเงีย แต่เมื่อตื่นขึ้นมาเธอกลับรู้สึกเจ็บปวดตรงแขนเป็นอย่างมาก ก่อนที่ร่างบางจะค่อยๆพยุงร่างกายของตัวเองให้ลุกขึ้นนั่ง  แม้ว่ามันจะเจ็บก็ตาม แต่มันกลับไม่เป็นอย่างที่คิดเพราะร่างกายของเธอมันเจ็บมาก เกินกว่าจะนั่งได้ "ตื่นแล้วงั้นหรอ" เสียงทุ้มของสหรัฐดังขึ้นข้างๆทำให้หญิงสาวเลือกที่จะเหลือบมองเพียงเล็กน้อยก็พบกับร่างของสหรัฐที่ยิ้มออกมาอย่างเย้ยยัน เขายิงเธอแต่ยังมานั่งแล้วยังยิ้มหน้าตาเฉยแบบนี้ เขามันไม่ใช่คน  "แก ยิงฉัน ไอ้เลว โอ้ย" พระพายร้องขึ้น เมื่อพยายามหยัดกายเพื่อลุกขึ้นนั่ง แต่ก็ต้องนอนกลับไปอีกครั้ง เพราะเธอปวดระบมที่แขนเป็นอย่างมาก เธอได้แต่สาบแช่งและสาบานเลยว่าชีวิตนี้เธอจะเกลียดผู้ชายคนนี้ตลอดไปจนกว่าเธอจะตายนั่นแหละ "หึ ฉันไม่ใช่คนใจดีอะไร เพราะฉะนั้น อย่าปากดี อย่าปากเสีย ถ้าเกิดยังอยากใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้" เขาพูดขึ้นอย่างเย้ยยัน ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นแล้วเดินไปทางพระพาย "งั้นหรอ ไอ้หมอเลว สารเลวไม่มีที่ติเลยล่ะ" แม้ว่าเขาจะเป็นคนยิงตัวของเธอ แต่เธอก็ไม่ได้เกรงกลัวอะไรในตัวของเขาอยู่แล้วเพราะเธอนั้นถือว่าเป็คนที่แข็งแกร่งและไม่ยอมคนเลยล่ะ เพราะฉะนั้นทำให้เธอเลือกที่จะพูดออกไปโดยไร้ความกลัว แต่ถึงมองเธอแบบนี้ก็ใช่ว่าเธอจะไม่กลัว หากแต่เธอไม่อยากที่จะแสดงอะไรออกไปก็เท่านั้นเอง แม้ว่าเธอจะมีความกลัวบ้าง แต่ความปากเสียที่มันมาคู่กับเธอมันห้ามกันไม่ได้เลย และเธอก็ขอยอมรับว่าเธอเป็นคนที่ปากหมาเอามากๆ "หึ ปากดีจริงๆนะ" สหรัฐเค้นหัวเราะออกมา แต่ใบหน้าของเขามันยังคงนิ่งเรียบ แม้ว่าปากของเขามันจะยิ้ม แต่สายตาและใบหน้าของเขามันกลับไม่ยิ้มออกมาอย่างที่ควรจะเป็น "ปล่อยฉันออกไปเดี๋ยวนี้นะ" พระพายยังคงใจดีสู้เสือ ทั้งๆที่เธอสู้เขาไม่ได้เลยสักอย่าง แต่เขาว่ากันว่า ต่อให้กลัวแค่ไหนก็ไม่ควรยอมแพ้ ไม่ควรยอมเสียศักดิ์ของตัวเองให้กับใครทั้งนั้น และเพราะเหตุนี้แหละที่เธอไม่ยอมแสดงความกลัวที่มันอยู่ลึกๆในใจของเธอออกมาให้เขาได้เห็น "ไม่มีทาง เธอรู้ไหมคนที่รู้ความลับของฉันมันเป็นยังไงกันบ้าง" เขาพูดเสียงเรียบใบหน้ายังคงนิ่งเฉยเหมือนกับโรคจิตไม่มีผิด เขาเหมือนคนบ้าที่หลุดออกมาจากศรีธัญญาอย่างงั้นแหละ "ฉันจะบอกให้นะว่าคนพวกนั้นมันโดนอะไรบ้าง โดนยิง โดนเฉือด โดนปาดคอ โดนแขวนคอ และอันสุดท้าย ถ่วงน้ำทั้งเป็น" พระพายลอบกลืนน้ำลายเล็กน้อย เพราะสิ่งที่เขาพูดมา ทำไมเธอจะไม่รู้ว่ามันคือเรื่องจริงหรือเรื่องหลอก เพราะเธอได้เห็นกับตาของตัวเองแล้วว่าเขานั้นเป็นคนฆ่าคนอื่นได้อย่างเลือดเย็น และเธอเองก็ไม่น่าต่างจากคนพวกนั้นหรอก "แต่รู้อะไรไหมสำหรับเธอแล้ว.....ฉันยกเว้นให้คนหนึ่ง" พระพายเงยหน้ามองเขาไร้ความกลัวใดๆ เธอมองเขาด้วยสายตาที่แข็งกระด้าง มันเป็นสายตาที่อยากจะฆ่าเขาให้ตายๆไป เขาจะได้ไม่ไปทำชั่วกับใครอีก "........" หญิงสาวเงียบไปหลังจากที่ได้ยินสิ่งที่สหรัฐเอ่ยเมื่อสักครู่เธอไม่รู้ว่าตอนนี้เขาหมายถึงอะไร เธอคือข้อยกเว้นงั้นหรอ แล้วยกเว้นยังไง เขาจะไม่ฆ่าเธอเหมือนที่ฆ่าคนอื่นนะหรอ หรือจะเอาเธอไปให้จระเข้กิน เพราะเขาไม่น่าจะเคยทำ เลยเลือกวิธีอื่น "เพราะฉะนั้น ในเมื่อเธอได้ข้อยกเว้น และได้สิทธิกว่าคนอื่นๆแล้ว ก็ควรมีข้อแลกเปลี่ยนสักหน่อยจริงไหม" ใบหน้าสีหน้าแววตาของเขามันยังคงนิ่งเรียบเหมือนเดิม เขามองเห็นเธอเป็นอะไรกันตอนนี้ อยากที่จะทดสอบอะไรในตัวของเธอกันแน่ "ปล่อยฉันไปเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันจะแจ้งความจับคุณ ข้อหาลักพาตัว ข่มขู่และพยายามฆ่า" ในเมื่อความกลัวของเธอเริ่มถาโถมเข้ามาเรื่อยๆ เขาเหมือนโรคจิต จนเธอเดาทางของเขาไม่ได้เลย ทำให้เธอตัดสินใจขู่เขาไปแบบนั้น ทั้งๆที่ส่วนลึกในใจของเธอมันรู้ทั้งรู้ว่าเขาไม่มีทางที่จะกลัวตำรวจแน่ๆ  ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ได้ผลอยู่แล้ว เพราะสิ่งที่เธอพูดออกมามันไม่ได้ทำให้คนที่ยืนอยู่ตรงนี้สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย เขายังคงนิ่งเฉย ใช่สิ เพราะถ้าเกิดเขาฆ่าคนได้แบบนั้น เขาก็คงจะมีวิธีจัดการที่ตำรวจไม่รู้แน่ๆเขาถึงอยู่ได้ถึงจุดนี้ สายตาของเขามันพร้อมที่จะฆ่าเธอมากเลยตอนนี้ ซึ่งแน่นอนว่ามันทำให้เธอกลัวไม่น้อยเลยล่ะ "ฉันให้โอกาสเธอมากกว่าคนอื่น เพราะอย่างนั้น ก็ใช่ร่างกายของเธอแลกโอกาสกับโอกาสที่ฉันให้ไปเดี๋ยวนี้!" หญิงสาวตกใจกับสิ่งที่เขาเอ่ยขึ้นอยู่ไม่น้อย และเมื่อเอ่ยหมอหนุ่มก้าวขึ้นเตียงนอนที่มีหญิงสาวนอนอยู่ สัญชาตญาณของคนที่กำลังตกใจอย่างพระพายมันผุดเข้ามาในสมองของเธอทันที ทำให้ขาเรียวของพระพายก้าวลงจากเตียงจนลืมไปว่าตัวเองนั้นเจ็บอยู่ หมับ! แต่มันก็เท่านั้นเพราะยังไงเธอก็ไม่ได้มีแรงมากพอที่จะวิ่งหรือเดินเร็วๆ ทำให้หมอหนุ่มเดินเข้ามาประชิดร่างของเธอ ก่อนจะคว้าร่างบาง จนร่างของหญิงสาวชนกับอกแกร่งของเขา และแน่นอนว่ามันกระทบแขนของเธอด้วยเหมือนกัน "ขอร้องล่ะ ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันไม่อยากเอาอะไรเข้าแลกทั้งนั้น ปล่อยฉันไปเหอะนะ ฮึก" และสุดท้ายแล้วเธอก็กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ เพราะเธอเห็นแววตาของเขามันจริงจังกับเรื่องที่เขาพูดเมื่อครู่เป็นอย่างมาก ความกลัวมันทำให้เธอเลือกที่จะร้องไห้ออกมาอย่างที่เธอไม่เคยเป็นมาก่อน  "เธอก็มองแววตาของฉันนิ ไม่งั้นเธอก็คงไม่กลัวจนร้องไห้ออกมาแบบนี้ไม่ใช่หรอ มองตาฉันเธอก็รู้ว่าขอร้องอ้อนวอนแค่ไหนฉันก็ไม่ให้ ต่อให้น้ำตาของเธอมันไหลออกมาเป็นเลือดก็ตาม" หมอหนุ่มพูดขึ้น พลางจับร่างกายของพระพาย เหวี่ยงที่เตียงอย่างแรงโดยที่เขาไม่ได้สนใจแผลของเธอเลยสักนิด พระพายนอนขดตัวด้วยความเจ็บที่เริ่มถาโถมเข้ามาที่ท้องและที่แขน "ฮึก ฉันขอร้องล่ะนะ ปล่อยฉันไปเถอะ คุณต้องการอะไรเดี๋ยวฉันจะหามาให้ แต่ขอล่ะอย่าทำแบบนี้เลย" พระพายยอมที่จะพนมมือยกขึ้นไหว้หมอหนุ่มด้วยน้ำเสียงที่ขอร้องอ้อนวอน ความเจ็บปวดของหญิงสาวและน้ำตาของเธอมันไม่ได้ทำให้ซาตานร้ายอย่างสหรัฐสงสารเลยแม้แต่น้อย กลับกัน เขายิ่งชอบ "หึ พระพาย พระพาย ฉันชอบกลิ่นเลือดนะ และเธอก็มีเลือดให้ฉันได้ดมได้ชิมอีกด้วย" เขาเอ่ยขึ้นเหมือนโรคจิตคนหนึ่ง ที่เห็นคนเจ็บปวดแล้วเขากลับมีความสุข ไม่ว่าจะเป็นแววตา ท่าทาง คำพูดแม้กระทั่งการกระทำของเขา มันไม่ต่างจากโรคจิตเลยสักนิด "ไม่ ไม่ ไม่ ขอร้องละ ไม่" พระพายร้องท้วงขึ้นทันทีเมื่อหมอหนุ่มเอื้อมมือจะถอดเสื้อของเธอให้หลุดออกจากร่าง และแน่นอนว่าเขาไม่ได้สนใจเสียงอ้อนวอนของคนใต้ร่างเลยสักนิด แคว่กกกกกก "พอดีฉันถอดดีๆไม่เป็น" เสื้อผ้าของหญิงสาวมันขาดไม่เหลือชิ้นดี เขาฉีกมันออกไม่ปราณีเลยสักนิด อีกทั้งร่างกายของเธอในตอนนี้มันเป็นรอยแดงเพราะโดนผ้าของตัวเองบาดจนเป็นรอยช้ำ มันเจ็บมาก เขามันป่าเถื่อน ใบหน้าของเขามันไม่ได้ทำให้เธอยากที่จะตกเป็นของเขาเลยสักนิด กลับกันเธอเกลียดเขา เกลีดยจนอธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ด้วยซ้ำ หลังจากนั้นหมอหนุ่มก็ทำสิ่งที่พระพายเกลียดที่สุด และมันเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยต้องการเลยสักนิด ร่างกายของเธอแม้ว่ามันจะเจ็บ แต่เธอก็พยายามดิ้นเพื่อให้มันหลุดออกจากวงจรแบบนี้ วงจรที่เธอรังเกียจที่สุดเท่าที่เคยเจอมา สวบบบ! "กรี๊ดดดดดด" พระพายร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดที่แล่นเข้ามาสู้ร่างกายของเธอ กลางใจสาวของเธอ มันไม่ได้มีอะไรที่เป็นตัวบ่งบอกว่าบรรเทาความทุกข์เลยแม้แต่น้อย เธอเจ็บเจียนตาย แต่คนที่อยู่บนร่างของเธอเขากลับยิ้มออกมา เขาไม่รู้สึกอะไรนั่นเธอรู้ แต่ทำไมต้องทำท่าทีที่เย้ยยันเธอด้วย  "ฮึก...เจ็บ ฉันเจ็บ ขอร้องเอามันออกไปที ฮึก ฉันจะตายแล้ว"  หญิงสาวเอ่ยขอร้องออกไป แม้ว่าภายในหัวใจของเธอมันจะรู้อยู่แล้วว่าเธอคงไม่ได้รับความปราณีแน่นอน แต่เธอก็เลือกที่จะขอร้อง และตอนนี้ขาของหญิงสาวมันเต็มไปด้วยเลือดบริสุทธิ์ที่เธอพยายามที่จะรักษามาทั้งชีวิต แต่มันถูกพรากไปได้อย่างง่ายดาย  "นอกจากฉันจะชอบเลือดแล้ว ฉันยังชอบ....น้ำตาของเธออีกนะ ร้องไห้ออกมาเลย ร้องไห้ออกมาเยอะๆ" เขาก้มลงกระซิบข้างหูของหญิงสาว ก่อนจะขบเม้มแสดงความเป็นเจ้าของที่ลำคอของหญิงสาว น้ำตาของเธอไหลออกมาไม่หยุด เพราะตอนนี้เธอไม่สามารถที่จะช่วยเหลือตัวเองได้เลยสักนิด เชื่อหรือไม่ คนที่ทุกคนเห็นว่าเป็นคนร่าเริงอย่างตัวเธอ แสบอย่างเธอ บางทีเธอก็แอบร้องไห้ออกมาคนเดียวโดยที่ไม่ให้ใครรู้ เพราะมันคือการแสดงความอ่อนแอออกมา เธอไม่ได้เก่งเหมือนที่ปากบอกไว้เลยสักนิด จริงๆแล้วเธอก็แค่คนอ่อนแอคนนึงเท่านั้น ไม่แข็งแกร่งไปกว่าใคร ชีวิตของเธออาจจะดูเหมือนเธอมีความสุขตลอดเวลา ไม่ได้มีความทุกข์เลย แต่จริงๆแล้วชีวิตของเธอมันตลกไม่ออก เธอเคยคิดว่าระหว่างสะพานกับเชือก อันไหนมันดีที่สุดในการฆ่าตัวตาย แต่เพราะเธอมีอีกคนที่รออยู่ นั่นก็คือพริบพราวคนที่ฉุดเธอออกมาจากความคิดพวกนั้น  เธอเคยมีพ่อแแม่ครบทุกคน เคยอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา เที่ยวด้วยกัน ทานข้าวด้วยกัน แต่ภายในพริบตาเดียวเท่านั้นที่พวกเขาจากเธอไปแบบไม่หวนคืนมา ตอนนั้นมันเหมือนโลกทั้งใบเหลือแค่เธอแค่คนเดียว มันเคว้งไปหมด ไม่รู้จะมองไปทางไหน พริบพราวก็มาป่วย มาตอนนี้ชีวิตของเธอโดนใครที่ไหนไม่รู้ย่ำยีจนไม่เหลือชิ้นดี ชีวิตที่แสนรันทนแบบนี้ เธอไม่อยากได้ เธอแค่อยากได้ชีวิตแบบเดิมกลับคืนมา แต่มันกลับมาไม่ได้ "อื้อ ไม่ไหวแล้ว อ้ะ อ้ะ อ้ะ พอได้แล้ว" เสียงแผ่วเบาเอ่ยดังขึ้นจากปากของหญิงสาว เธอไม่ไหวแล้วกับความป่าเถื่อนของหมอหนุ่ม คนได้ชื่อว่าเป็นหมอ แต่เขากลับทำร้ายร่างกายของเธอ  พั่บ พั่บ พั่บ พั่บ พั่บ พั่บ "อ้ะ อ้ะ อ้ะ อื้อ" เธอร้องครางออกมาไม่เป็นภาษา และที่เธอร้องออกมา เธอไม่ได้ร้องเพราะความเสียวซ่านเลยแม้แต่น้อย แต่เธอร้องออกมาเพราะความเจ็บปวด เมื่อเขากระแทกเข้าร่องรักของเธอหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ "อ่าส์" หมอหนุ่มครางดงัขึ้นเมื่อเสร็จสมกิจกามที่เขาต้องการในครั้งนี้ ก่อนที่สายตาคมของสหรัฐจะเหลือมองใบหน้าของหญิงสาวที่มีเหงื่อผุดมากมาย อีกทั้งยังมีคราบน้ำตาอีก แล้วหมอหนุ่มก็ผละตัวออกมาจากร่างของพระพาย แล้วเหลือบมองเธออีกครั้ง แต่ก็พบว่าเธอยังคงร้องไห้อยู่ แต่เขาก็เลือกที่จะเมินเฉยไม่ได้สนใจอะไรหนัก "ออกไปได้แล้วไป" หลังจากที่เขาได้เสพสมร่างกายจนตัวเองมีความสุข เขาก็เอ่ยไล่หญิงสาวทันที ตอนนี้ร่างกายของเธอมันไม่ได้บริสุทธิ์อีกต่อไป ร่างกายของเธอมันมลทินที่มันติดตัวเธอตลอดไป ร่างกายของเธอมันสกปรกเกินไป เธอไม่มีทางลืมเหตุการณ์นี้เด็ดขาด และก็จะไม่ลืมว่าผู้ชายคนนี้เคยทำอะไรให้เธอเจ็บช้ำบ้าง เธอจะไม่มีวันลืมสิ่งที่เขาทำกับเธอในวันนี้แน่นอน "ถ้ายังไม่ไปฉันจะเอาเธออีกรอบ เพราะฉะนั้นไสหัวออกไป" น้ำเสียงของเขามันไม่ใช่น้้ำเสียงล้อเล่นเลยแม้แต่น้อย และเธอก็ยังกลัวกับคำขู่ของเขาเพราะเมื่อกี้เขารุนแรงกับเธอมาก ทำให้ตอนนี้เธอระบมไปทั้งตัว อีกทั้งยังต้องลากสังขารตัวเองเพื่อไปเปลี่ยนผ้า และออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด   ณ โรงพยาบาล หญิงสาวเดินเข้ามาในโรงพยาบาลด้วยอาการที่เหม่อลอย เธอไม่รู้ว่าจะต้องจัดการยังไงกับชีวิตของตัวเองดี ชีวิตของเธออยู่ไปก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรดีขึ้นมาเลยสักนิด มันกลับแย่ลงเรื่อยๆ  "น้องฉันยังไม่ฟื้นอีกหรอคะ" พระพายเดินเข้ามาหน้าห้องไอซียู เธอต้องลากสังขารตัวเองออกมาจากขุมนรกนั้นด้วยความเจ็บปวด เธอมองไปที่ห้องไอซียูด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ใช่เขาช่วยชีวิตของพริบพราวน้องสาวของเธอ แต่เขาก็สามารถฆ่าน้องสาวเธอได้เหมือนกัน "ยังเลยคะ" " เอ้ เอ้ เกร็ดเลือดของคุณพริบพราวต่ำ รีบตามหมอมาหน่อย" แล้วเสียงของพยาบาลคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องพริบพราวด้วยอาการร้อนรน และเมื่อได้ยินแบบนั้นไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น อย่าลืมว่าเธอนั้นกำลังเรียนแพทย์ เธอรู้ว่าตอนนี้อาการของพริบพราวไม่ได้ดีอย่างที่ควรเป็นเลยสักนิด เกล็ดเลือดของพริบพราวมันคงต่ำมากจนพยาบาลต้องเรียกหมอเข้าไปแบบนี้ "หมอคะ เดี๋ยวขอเชิญญาตรอด้านนอกก่อนนะคะ" พยาบาลคนนั้นบอกก่อนจะมีหมอเดินเข้าไปในห้องของพริบพราวด้วยท่าทางที่เร่งรีบจนผิดสังเกต ด้านในเธอสามารถเห็นได้ ทุกคนต่างวิ่งวุ่นกัน น้ำตาหยดใสๆไหลลงมาเพราะความเป็นห่วง  พระพายยืนร้อนรนด้วยความเป็นห่วงน้องสาวคนเดียวที่เธอรัก ได้แต่หวังและภาวนาว่าให้น้องเธอไม่เป็นอะไร เพราะเธอกลัวว่าตัวเองจะเสียน้องสาวคนเดียวไป คนเดียวที่เป็นญาต เป็นคนเดียวที่อยู่กับเธอ แลหากพริบพราวจากเธอไป เธอก็จะำม่เหลืออะไรสักอย่าง ไม่เหลือใครเลยสักคน แล้วถ้าเป็นแบบนั้นเธอจะอยู่ยังไง ในเมื่อชีวิตของเธอในตอนนี้ที่เธออยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ก็เพราะพริบพราวเพราะน้องสาวของเธอคนเดียวที่ทำให้เธอมีชีวิตอยู่ต่อได้จนถึงขนาดนี้ 1 ชั่วโมงผ่านไป พระพายใจจดใจจ่อรอหมอออกมาจากห้องของพริบพราว ภายในใจได้แต่คิดว่าพริบพราวยังคงอยู่กับเธอ พริบพราวไม่มีทางไปไหนแน่นอน น้องของเธอจะไม่ไปไหน เพราะพริบพราวรักและห่วงเธอมาก แต่แล้วมันกลับไม่ได้เป็นไปเหมือนที่เธอคิดและหวังเลยสักนิด เมื่อ... "หมอคะ น้องของฉั....." หญิงสาวถึงกับพูดไม่ค่อยออกเมื่อหมอคนนั้นส่ายหน้าให้กับเธอ น้ำตาใสๆที่มันแห้งเหือดไปก่อนหน้านี้เริ่มไหลออกมาอีกครั้ง แม้ว่าเธอจะไม่ได้คำตอบจากหมอ แต่เมื่อดูสีหน้าและแววตาแล้วมันก็เป็นคนตอบให้หมดแล้วทุกอย่าง เพียงแต่เธอไม่อยากที่จะยอมรับมันในตอนนี้ "หมอเสียใจกับการจากไปครั้งนี้ด้วยนะครับ หมอไม่สามารถที่จะยื้อชีวิตของคนไข้ได้" สายตาของเธอมองไปที่หมอด้วยแววตาที่อ้อนวอน เธอไม่อยากจะเชื่อว่าน้องของเธอจะจากไปโดยไม่ลาเธอสักคำ เหมือนตอนที่พ่อแม่ของเธอจากเธอและพริบพราวไป "ไม่จริง ไม่ น้องของฉันยังมีชีวิตอยู่ คุณหมอคะ คุณหมอ ฮึก...ช่วยเข้ารักษาพริบพราวอีกครั้งได้ไหมคะ คุณหมอ ฮึก...ฮื่อ นะคะ ขอร้อง ฉันขอร้องล่ะ"พระพายร้องไห้ออกมาอย่างหนักหน่วง เธอทำได้เพียงขอให้หมอกลับไปรักษาพริบพราวอีกครั้ง ก่อนที่ร่างกายของเธอจะทรุดตัวลงอย่างอ่อนแรง มันจบแล้วจริงๆชีวิตของเธอมันจบลงแล้ว มันมืดไปหมด เธอจะอยู่ต่อไปเพื่อใครกัน ปลายทางของเธอมันไม่มีแสงสว่างอีกแล้ว มันมืดมนจริงๆไม่เหลือใครอีกต่อไป "หมอขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ" หมอเอ่ยออกมาอย่างเห็นใจ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเห็นญาตของคนไข้ห้องไห้ เพียงแต่ว่าดูเหมือนว่าหญิงสาวตอนนี้ร้องไห้เหมือนกำลังจะขาดใจตายให้ได้  "พราว ฮึก พี่ขอโทษนะ พี่ขอโทษที่ช่วยอะไรพราวไม่ได้เลย พี่มันโง่ พราวกลับมาหาพี่ได้ไหม ฮึก แล้วพี่จะตามใจพราวทุกอย่าง พี่รักพราวนะ" หญิงสาวเข้ามาในห้องที่มีแต่ความว่างเปล่า มีแค่ร่างของน้องสาวของเธอเท่านั้น ที่นอนหน้านิ่งหน้าซีดเซียว น้ำตาหลายหยดหยดลงบนพื้นแต่มันกลับไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักอย่าง  "ฮึก...ฮือ...อ...กลับมาหาพี่ได้ไหม...พี่ขอร้อง..ฮึก" เธอทำได้เพียงกอดร่างไร้ลมหายใจไร้จิตวิญญาณ การกอดครั้งนี้มันเป็นการกอดครั้งสุดท้ายมันเป็นกอดที่ไม่มีความอบอุ่นอะไรอีกเลย เป็นการกอดที่ไม่มีการติบกลับเลบ ไม่มีเสียงหายใจ ไม่มีรอยยิ้มเสียงหัวเราะและคำพูด มันไม่มีอีกแล้ว "ไอ้พาย" เสียงของหนุ่มสาวทำให้หญิงสาวหันหลังกลับไปมองก็พบกับเพื่อนของเธอทั้งสามคน ทันทีที่ทั้งสามได้รับข่าวร้ายพวกเธอก็รีบมาหาเพื่อนสนิทของตัวเองทันที และทั้งสามมองร่างของน้องสาวเธอด้วยความอาลัย เพราะทั้งสามรักพริบพราวเหมือนน้องสาวแท้ๆ รักไม่ต่างจากเธอเลย  "ไม่เอาไม่ร้องแบบนี้ แกถ้าแกร้องไห้หนักแบบนี้แล้วพราวจะไปสบายยังไง" ซูซี่เอ่ยบอกหญิงสาว แม้ว่ามันจะห้ามไม่ได้ แต่ก็พยายามที่จะปลอบเพื่อให้พระพายเศร้าน้อยลงที่สุด "ทำไม...ฮึก...ฮือ...อ..ทำไมชีวิตมันพังไม่เหลือชิ้นดีแบบนี้" สิ่งที่ลำบากที่สุดสำหรับเธอในตอนนี้คือการอยู่คนเดียวกับมนฑินที่อยู่ในร่างกายของเธอมันไม่วันเลือนหายมันมีแต่จะซ้ำเติมชีวิตของเธอ ว่าชีวิตของเธอมันพังแล้ว มันไม่เหลืออะไรอีกแล้ว หลายวันผ่านไป วันนี้เป็นวันเผาศพของพรริบพราว ซึ่งแน่นอนว่ายิ่งตอนที่ส่งนอนสาวขึ้นสวรรค์ตอนที่ควันมันออกมามันยิ่งตอกย้ำจิตใจของเธอว่าต่อไปนี้เธอต้องอยู่ตังคนเดียว เธอไม่เหลือใครที่เป็นรอยยิ้ม ที่จะทำให้เธออึดสู้อีกแล้ว ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเธอเอาแต่นั่งจมกับกองทุกข์ของตัวเอง และวันนี้เธอได้เห็นว่าหมอที่คอยดูแลน้องสาวของเธอและสหรัฐคนที่คอยตามหลอกหลอนเธอ เขาก็มางานนี้ด้วย "ฮึก...อื่อ..." มันเป็นสิ่งที่เจ็บปวดที่สุดเมื่อได้รับรู้ว่าเธอเสียคนเธอรักไปอีกคน สายตาของเธอเเลือนลอยมองกลุ่มควันที่ค่อยๆจางหายไปเรื่อยๆ มันยากเหลือเกินที่จะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้มันไหลออกมา "พระพาย น้องของแกก็ไปสบายแล้ว ไม่ต้องห่วงอะไรน้องแล้ว แกไม่่ได้ตัวคนเดียวนะอย่าลืม แกยังมีสามีคนนี้ของแกอยู่ข้างๆแกเอง" ต้นพูดติดตลกเพราะหวังว่ามันจะคลายเศร้าให้เธอลงบ้าง ก่อนที่ต้นจะดึงร่างของหญิงสาวเข้าไปกอดด้วยความเป็นห่วง "....." สายตาของหญิงสาวทอดมองไปเรื่อยๆจน "พระพาย แกจะไปไหน" ทันทีที่ได้เห็นร่างของใครบางคนมันก็ทำให้พระพายเลือกที่จะวิ่งออกจากศาลาแล้วตรงไปยังใครคนหนึ่งที่เธอเหลือบไปเห็น และเพราะเธอจำร่างนั้นได้มันเลยทำให้เธอเลือกที่จะวิ่งออกมาเพื่อตามร่างนั้น ไร้ความกลัวใดๆ "พี่จะหลบไปอีกนานแค่ไหน...ฮึก...พายไม่เหลือใครแล้ว...." พระพายเอ่ยขึ้นท่ามกลางความว่างเปล่าแต่เธอเชื่อว่าใครคนนั้นเขากำลังฟังเธออยู่  "ฮึก....พายไม่เหลือใครแล้วจริงๆ....ฮึก....อื่อ....อ"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD