มรสุมมืด

3503 Words
"พระพาย เป็นไรวะ พวกกูหามึงแทบแย่" เสียงของเพื่อนทั้งสามเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วง ก็เพราะจู่ๆพระพายก็วิ่งออกมาจากห้องเรียนไม่บอกไม่กล่าวอะไรเลยสักอย่าง "ไม่เป็นไร" แม้จะตอบแบบไม่เต็มใจ แต่ก็ไม่อยากให้เพื่อนทั้งสามต้องเป็นห่วง เธอไปมากกว่านี้ ก่อนที่ทั้งสามจะนั่งลงข้างๆเธอ "เห้ย คนแสบสุดในคณะวันนี้เป็นไรวะ ทำไมหงอยเหมือนหมาแบบนี้วะ ผัวทิ้ง หรือไม่ได้แย่งอาหารหมา" ต้นพยายามที่จะปลอบหญิงสาว และมันก็ได้ผล เมื่อพระพายยิ้มออกมาเล็กน้อย "เลิกดราม่าได้แล้วค่ะ นี่มันไม่ใช่เวลาที่จะเศร้า ไปหาอะไรทำสนุกๆกันดีกว่าไป" ต้นเอ่ยจบก็ลากหญิงสาวไปเดินห้าง ทั้งสามเพื่อนสนิทของพระพายลากเธอเข้าไปโซนเล่นเกม ซึ่งเป็นโซนที่ทั้งสี่มาด้วยกันบ่อยยิ่งกว่าโรงหนังอีก โดยเฉพาะห้องคาราโอเกะ ที่มาที่ไรก็ต้องเข้าทุกครั้ง "เอาเพลงอะไรเลือกมาเลยค่ะเพื่อนๆ" เสียงของซูซี่เอ่ยบอกเพื่อนๆที่อยู่ในห้องคาราโอเกะ ซึ่งตอนนี้ทั้งสี่คนกำลังเลือกเพลงที่จะร้องกันอยู่ "ใครจะร้องก่อนวะ" แล้วมินนี่ก็เอ่ยถามอีกคน ทำให้พระพายเป็นคนยกมือคนแรก เธอแค่อยากจะร้องเพลงเป็นคนแรก เผื่อจะได้ลืมเรื่องต่างๆได้บ้าง อาจจะไม่มาก แต่ก็ต้องเบาลงบ้าง "มา เพลงมา" ทันทีที่ได้จับไมค์หญิงสาวก็รู้สึกครึกครื้นขึ้นมาทันทีทันใด ก่อนจะหยอดเหรีญลงไปในช่องแล้วเลือกเพลงที่จะร้องในวันนี้ 'เลี้ยงส่งให้ความปวดร้าว ความเศร้าทำเอาเจ็บ เลี้ยงส่งให้เธอกับเขาได้รักกันนานๆ ขอให้เธอโชคดีพ้นจากคนคนนี้ที่เธอไม่ต้องการ เช็คบิลที่ฉันซื้อความเสียใจฉันจะจ่ายเอง....' "อกหักหรอวะ ร้องเหมือนผัวทิ้งไม่มีผิด" ซูซี่ทักขึ้นเมื่อเห็นท่าทางของเพื่อนสนิทอย่างพระพายร้องเพลงเหมือนคนอกหักไม่มีผิด นี่ถ้าเกิดว่าตอนนี้พระพายกำลังคบกับใครอยู่มันก็คงจะเดาได้ไม่ยาก แต่ตอนนี้พระพายไม่ได้มีใคร แล้วมันก็เป็นเรื่องยากที่พระพายจะอกหักเอาได้ง่ายๆ "ฮ่าๆ มึงก้คิดได้เนอะ คนอย่างกูเนี่ยนะจะอกหัก" พระพายเค้นหัวเราะออกมา เพราะเธอไม่เคยมีแฟน ตั้งแต่คนคนนั้นหายไปเรื่องมีแฟนก็ไม่เคยเข้ามาในหัวอีกเลย แม้ว่าจะมีคนมาจีบเธอไม่เว้นแต่ละวันก็ตาม ตื้ด ตื้ด ตื้ด เสียงมือถือเครื่องหรูของพระพายดังขึ้น ทำให้ในห้องเกิดควาเมงียบทันี ก่อนที่พระพายจะล้วงกระเป๋าเพื่อหามือถือ แล้วกดรับสาย "ฮัลโหลคะ พระพายค่ะ" ไม่รู้ว่าเป็นเบอร์ใครเธอก็เลยรีบกดรับสายในทันที เพราะเธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า "คุณพระพายพี่ของคุณพริบพราวใช่ไหมคะ" เสียงนั่นถามด้วยความร้อนรน ทำให้พระพายเลือกที่จะออกมาคุยมือถือด้านนอกแทน "ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ พราวเป็นอะไรหรอคะ" พระพายเอ่ยถามออกไปอย่างสงสัย กับน้ำเสียงที่ไม่ค่อยสู้ดีของคนปลายสาย มันยิ่งทำให้เธอร้อนรนขึ้นเมื่อได้นชยินชื่อของน้องสาวนั่นคือพริบพราว "คือตอนนี้คุณพริบพราวอาการไม่ค่อยดีเลยค่ะ ขอให้ญาติมาที่โรงพยาบาลด่วนเลยได้ไหมคะ คุณพระพายสะดวกมาหรือเปล่าคะ" หญิงสาวแทบล้มทั้งยืนเมื่อได้ยินว่าน้องสาวคคนเดียวของเธอมีอาการที่ไม่ค่อยสู้ดีนักเท่าไหร่  "สะดวก ได้ค่ะ เดียวฉันจะรีบไป" เมื่อพูดจบพระพายก็ตัดสาย ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องคาราโอเกะอีกครั้ง ส่งผลให้เพื่อนๆนั่งมองตามตาละห้อย "พวกมึงกูไปก่อนนะ พอดีมีธุระด่วนขอโทษด้วยนะ" แล้วพระพายก็สะพายกระเป๋า ก่อนจะเดินไปยังลานจอดรถแล้วรีบมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลเอกชนที่ใช้เป็นที่รักษาตัวของพริบพราวน้องสาวคนเดียวของเธอ พริบพราวคือน้องสาวคนเดียวของพระพาย หรือถ้าจะให้เรียกง่ายๆเลยคือครอบครัวคนเดียวที่เธอเหลืออยู่ ส่วนพ่อกับแม่ข องเธอนั้นประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตเพราะท่าได้ขับรถตกหน้าผา แต่ยังไก็แล้วแต่พ่อกับแม่ของเธอนั้นทิ้งสมบัติมากมายไว้น้องของเธอและตัวเธอได้เรียนจนจบ และที่สำคัญเงินพวกนั้นยังช่วยรักษาชีวิตของพริบพราว เงินที่ช่วยต่อชีวิตให้พริบพราว เพราะพริบพราวนั้นเป็นโรคมะเร็งในสมองนับตั้งแต่วันที่พ่อกับแม่ของเธอเสียชีวิต น้องของเธอก็มีโรคมะเร็งแทรกซ้อนขึ้นมาทันที ระยะสองไม่ค่อยเป็นอะไรมาก แต่พอเป็นระยะสามเท่านั้นแหละพริบพราวก็ทรุดลงทันที ทำให้เธอเครียดกับอาการของพริบพราวบ่อยมาก โรงพยาบาล "น้องฉันเป็นไงบ้างคะ" เมื่อมาถึงหน้าห้องผ่าตัดพระพายก็รีบเอ่ยถามพยาบาลด้วยความร้อนรนทันที ตอนนี้เธอไม่รู้ว่าน้องสาวของเธอมีอาการเป็นตายร้ายดียังไงบ้าง ตอนที่ขับรถมาจากห้างเธอเป็นกังวลเป็นอย่างมากกับอาการของพริบพราว "ตอนนี้คุณพริบพราวอาการค่อยดีนักค่ะ เราต้องทำการผ่าตัดด่วนที่สุด ไม่งั้นตัวของคุณพริบพราวจะมีอาการแทรกซ้อนได้ค่ะ" พยาบาลคนนั้นเอ่ยออกมา ตอนนี้ไ่ว่าจะทำด้วยวิธีไหนเธอชอบที่จะทำทั้งนั้น ก็เพราะเธอจะไม่ยอมเสียพริบพราวไปเหมือนตอนเสียพ่อแม่ไป "แต่....." "แต่อะไรคะ ถ้าเกิดเรื่องค่ารักษาไม่ต้องห่วงนะคะ ต่อให้แพงแค่ไหนฉันก็จะจ่าย แต่ต้องทำให้น้องสาวของฉันรอดให้ได้ ฉันขอแค่นั้น" หญิงสาวเอ่ยออกมาอย่างอ้อนวอน เธอเสียงพริบพราวไปไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด ต่อให้ต้องเสียเงินทั้งหมดเธอก็ยอม ต่อให้รวมกับค่าอาหารหรือค่าเทอมหรือค่าอะไรก็ตามเธอยอมแลก เพื่อให้น้องสาวได้อยู่ข้างกายของเธอต่อไป "ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ แต่เมื่อคุณพริบพราวได้รับการผ่าตัดแล้ว คนไข้อาจจจะกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราเพื่อฟื้นตัว" ความคิดทั้งหมดของพระพายมันแทบจะหยุดนิ่งหลังจากได้ยินคำนั้นของพยาบาลสาว ร่างกายของพระพายมันอ่อนแรงเสียดื้อๆ การที่พริบพราวเป็นเจ้าหญิงนิทรานั้นมันก็ไม่ต่างจากการจากไป มันเป็นเพียงการยื้อเวลาของความสุขก็เท่านั้น  "ทำยังไงก็ได้ค่ะ ให้น้องสาวของฉันปลอดภัยให้น้องสาวของฉันรอด"พระพายพูดออกไปทั้งน้ำตา เธอคิดว่าถ้าเกิดมีพริบพราวอยู่ข้างกายมันยังดีกว่าการไม่มีอีกเลย เพราะยังไงมันก็น่าจะดีกว่า แม้โอกาสที่พริบพราวจะฟื้นตัวมันจะน้อย แต่เธอต้องเสี่ยง "โอเคค่ะ งั้นคุณพระพายเชิญไปกรอกข้อมูลที่เคาเตอร์ได้เลยนะคะ เดี๋ยวอีกสักแป๊บหมอจะมาแล้วคะ" เมื่อพยาบาลเอ่ยจบพระพายก็รีบเดินไปกรอกข้อมูล เพียงแปบเดียวเท่านั้นเธอก็เดินมายังหน้าห้องฉุกเฉินอีกครั้ง  "หมอคะ ตอนนี้คนไข้อยู่ในห้องค่ะ" เสียงของพยาบาลทำให้หญิงสาวหันไปมองหมอคนที่จะผ่าตัดน้องสาวของเธอในตอนนี้  "คนไข้เป็นยังไงบ้าง อาการคงที่หรือเปล่า" เสียงนั่นยิ่งทำให้เธอรีบหันไปมองด้วยความแปลกใจ ดวงตากลมโตของเธอเบิกกว้างด้วยความตกใจ เมื่อเขาคือสหรัฐคนที่ฆ่ารุ่นพี่ของเธอเมื่อไม่กี่วันมานี่ แล้วเขายังขู่เธออีกด้วย แล้ววันนี้เขาจะมาผ่าตัดพริบพราวน้องสาวของเธองั้นหรอ ขนาดในโรงพยาบาลเขายังพาลูกน้องของเขามาเลย "คุณพยาบาลคะ เราเปลี่ยนหมอได้ไหมคะ ฉันอยากเปลี่ยนเป็นหมอคนอื่นที่ไม่ใช่คนนี้" พระพายเอ่ยท้วงทันทีที่ได้ยินว่าสหรัฐจะเป็นคนผ่าตัดน้องสาวของเธอ เธอไม่ยอมให้คนที่ฆ่าคนได้อย่างเลือดเย็นแบบเขารักษาพริบพราวแน่นอน "หมอรัฐเป็นหมอที่เก่งที่สุดแล้วคะ ไม่ต้องห่วงนะคะ คุณหมอจะทำเต็มที่เพื่อร่างกายของคนไข้" พยาบาลคนนั้นพยายามที่จะโน้มน้าวให้พระพายเลือกสหรัฐเป็นคนรักษาคนไข้ที่เป็นน้องสาวของเธอ "เก่งหรอคะ เก่งแค่ไหนแต่ถ้าเคยฆ่าคนมา ฉันก็ไม่ไว้ใจให้เขารักษาคนที่ฉันรักหรอกค่ะ" พระพายพูดขึ้นตามใจคิดทันี สายตาของเธอมองไปยังสหรัฐแล้วเมื่อได้ยินคำพูดนั่นของเธอทให้เขามองเธอด้วยแววตาที่เรียบนิ่ง เหมือนตอนนั้นไม่มีผิด ตอนที่เขาบีบคอเธอ เธอพูดออกมาโดยไม่คำนึงผลที่จะต้องตามมาเลยสักนิด แค่ให้ได้พูดแต่ไม่ได้รับมือ "ใจเย็นๆนะคะคุณพระพาย คุณหมอท่านไม่เคยฆ่าใครมาก่อนนะคะ คุณคงเข้าใจอะไรผิด แต่ยังไงคุณหมอสหรัฐคือหมอที่เก่งที่สุด แล้วตอนนี้ก็ไม่มีหมอคนอื่นว่างเลยค่ะ" พยาบาลคนนั้นพยายามบอกให้พระพายยอมรับในสิ่งที่มันควรจะเป็น และแล้วเธอก็ทำอะไรไม่ได้  แล้วเขามองที่เธอแใบเดียว แต่มันแวบเดียวที่เธอรู้สึกได้ถึงความเย็นชาที่เขามอบให้เธอ มันน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูกเลยละ จนในที่สุดเธอไม่สามารถที่จะหยุดให้สหรัฐรักษาน้องสาวของเธอได้ แม้จะไม่เต็มใจแต่มันก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว เพราะเหตุผลมันหลายอย่างมากจนเธอไม่สามารถที่จะเลี่ยงได้ แล้วเวลาก็ล่วงเลยไปหลายนาที เกือบชั่วโมงที่เธอต้องนั่งรอหน้าห้องผ่าตัดด้วยจิตใจที่ร้อนรน แต่ไม่นานพยาบาลก็ออกมาพร้อมกับหมอคนนั้น  "น้องสาวของฉันเป็นยังไงบ้างคะ คุณพยาบาล" ในขณะที่พยาบาลและหมอสหรัฐเดินออกมาพร้อมกัน แต่พระพายเลือกที่จะเดินไปถามพยาบาลแทนคนเป็นหมออย่างสหรัฐ "การผ่าตัดเป็นไปได้ดีคะ เพียงแต่ตอนนี้คนไข้ยังอยู่ในอาการโคม่า เราคงต้องให้คนไข้นอนอยู่โรงพยาบาลจนกว่าคนไข้จะฟื้น แต่ดิฉันก็บอกไปก่อนหน้านี้แล้วนะคะว่าบางทีคุณพริบพราวอาจจะเป็นเจ้าหญิงนิทรา" พยาบาลคนนั้นเหลือบมองไปที่สหรัฐก่อนจะพูดขึ้น หัวใจดวงน้อยของพระพายแทบอยุดนิ่ง เมื่อรู้ว่าอาการของน้องสาวไม่ได้ดีขึ้นอย่างที่ควรจะเป็นเลยสักนิด หนำซ้ำอาจจะเสี่ยงเป็นเจ้าหญิงนิทราอีก พระพายเดินออกมาจากห้องของน้องสาวอย่างเศร้าสร้อย เธอไม่สามารถนอนเฝ้าพริบพราวได้เนื่องจากพริบพราวยังคงอยู่ในห้องไอซียู มีอาการโคม่า พระพายเดินเหม่อลอยจนไปถึงที่ลานจอดรถ ก่อนที่เธอจะเดินไปยังรถคู่ใจของตัวเอง เธอมองเงาสะท้อนมองเข้าไปในดวงตาของตัวเอง มันมีแต่ความกังวล ความเศร้ามันเริ่มกลืนกินใจของเธอไปทีละเล็กทีน้อย แต่ยังไงก็แล้วแต่พระพายเธอเองต้องเข้มแข็งเพื่อน้องสาวเพียงคนเดียว เพื่อครอบครัวเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ "พระพาย" เสียงเรียกจากด้านหลังทำให้ร่างบางสั่นสดุ้งด้ววยความตกใจ ทำให้เธอหันไปมองด้วยความหวาดระแวง "หมอต้องการพบคุณ คุณพระพาย"สิ้นเสียงนั่น ชายหนุ่มตรงหน้าสองคนก็ล็อคตัวของพระพายทันที ก่อนจะลากเธอไปขึ้นรถฟอจูนเนอร์ทันที  "ปล่อย ปล่อยฉันดิวะ ไอ้พวกเลว จะพาไปไหน ปล่อย!" พระพายดิ้นหวังให้หลุดจากการกอบกุมของใครไม่รู้ แต่มันกลับไร้ประโยชน์เมื่อร่างของเธอมันเล็กแค่นิดเดียว ไม่สามารถเทียบคนร่างโตสองสามคนได้เลยสักนิด คฤหาสน์สหรัฐ "จะพาฉันไปไหนวะ ปล่อยดิวะ เห้ย" พระพายพยายามดีดดิ้นให้หลุดจากการจับกุม แต่มันกลับไร้ประโยน์ชเป็นอย่างมาก ตลอดทางงเดินที่เดินเข้ามาพระพายดิ้นไม่หยุด แม้ว่าพวกเขาจะขู่ว่าจะยิง ขู่ว่าฆ่ายังไง เธอก็ไม่กลัว เพราะเธอไม่ได้มีความกลัวขนาดนั้น "ไง พระพาย" เสียงเรียบนิ่งเอ่ยขึ้นอย่างเยือกเย็นทำให้ร่างบางหันไปมองด้วยความสงสัย ก่อนที่สหรัฐจะหันมาสบสายตากับร่างบางที่กำลังยืนมองเขาอยู่  เพียงแค่สายตาคมกริบของเท่านั้น มันก็ทำให้พระพายหายใจไม่ทั่วท้อง เพราะมันเย็นชาจนเธอรู้สึกกลัว แค่สายตาเย็นชาของเขามันก็ทำให้ร่างบางที่ไม่เคยกลัวอะไรอย่างเธอกลัวขึ้นมาง่ายดาย เขามันน่ากลัวเกินกว่าที่เธอจะอยู่ใกล้ในระยะประชิดแบบนี้ เธอไม่ควรที่จะอยู่ตรงนี้ "ไม่ต้องคิดหาวิธีหนีหรอก เพราะถ้าเกิดว่าฉันไม่อนุญาตก็ไม่มีใครหน้าไหนออกไปจากที่นี่ได้ทั้งนั้น" เขาเอ่ยออกมาอย่างรู้ทันความคิดของหญิงสาว ราวกับอ่านความคิดในใจของเธอได้ยังไงยังงั้น และแน่นอนว่าถ้าเกิดใครได้มายืนจุดนี้จุดเดียวกับเธอก็ต้องเกิดความกลัวเช่นเดียวกับเธอ เพียงแต่ตอนนี้เธอต้องเก็บซ่อนอาการความกลัวเอาไว้ ไม่แสดงออกมาให้เขาเห็น  "ฉันลืมไปเลย ว่าฉันตากผ้าทิ้งไว้น่ะ ขอตัวก่อนนะ ไปละ"  พระพายรีบบอกออกไป แม้ว่ามันจะเป็นคำโกหกห่วยๆก็ตาม แต่เธอคิดอะไรไม่ออกแล้วจริงๆ ร่างบางเดินเพื่อที่จะออกไป แต่ก็ต้องชะงักนิ่งเมื่อคนของเขาดักขวางเธอเอาไว้ ไม่ให้เธอเดินออกไป "หึ เธอไปเห็นอะไรมา เล่ามันมาให้หมด" สหรัฐเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้เขาไม่ได้เอ่ยเปล่า เพราะเขาหยิบปืนขึ้นมาตั้งไว้บนโต๊ะ เพื่อข่มขวัญของอีกฝ่าย และแน่นอนว่ามันได้ผล เพราะหญิงสาวกลัวหนักมาก "ฉันไม่เห็นอะไรเลยสักอย่าง ไม่เห็นอะไรเลย ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น" แม้ว่าเธอจะพยายามจะซ่อนความกลัวแค่ไหน แต่มันก็ออกมาอยู่ดี  เพราะตอนนี้เธอเริ่มกลัวหนักมาก "หรอ งั้นถ้าเกิดว่ากระสุนนัดนี้มันยิงแทรกกลางหัวของเธอ เธอพอจะจำได้บ้างไหม" เขาไม่พูดเปล่าเพียงแต่เขาหยิบปืนขึ้นมาเล็งที่หัวของเธอ ซึ่งถ้าเกิดเขาลั่นไกขึ้นมา เธอตายแน่นอน "ดะ ดะ เดี๋ยวสิ ฉันขอร้องปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันสาบานว่าจะไม่บอกใคร ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันยังไม่มีแฟนเลย ให้ฉันได้แต่งงานใส่ชุดเจ้าสาวก่อนได้ไหม ขอร้องล่ะ" หญิงสาวพูดขึ้นอย่างตะกุตะกะตอนนี้ความกลัวที่เธอเก็บไว้ก่อนหน้านี้ไว้ไม่ไหว  "รู้อะไรไหม คนที่มันรู้ความลับของฉันมันได้รับโทษเหมือนกันหมด ตายแล้วกลายเป็นศพ" คำพูดของชายหนุ่มทำให้หัวใจดวงน้อยของพระพายร่วงหล่นไปอยู่ตรงตาตุ่มทันที เธอตายตอนนี้ไม่ได้ เธอมีน้องสาวที่ต้องดูแล ถ้าเกิดว่าเธอตายแล้วใครจะอยู่ดูแลพริบพราว ไม่มีเธอแล้วพริบพราวจะอยู่ยังไง "ขอร้องละนะ ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันไม่บอกเรื่องนี้กับใครหรอก ฉันมีน้องที่ต้องดูแล ถ้าฉันตายน้องของฉันอยู่ไม่ได้แน่ๆ" ตอนนี้พระพายลดศักดิ์ศรีของตัวเอง เพราะรู้ว่าสู้ยังไงเธอก็สู้ไม่ไหวแน่นอน เธอยอมอ้อนวอนเพราะชีวิตของเธอมันสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด "คนที่ฉันปล่อยออกไป ส่วนมากจะเป็นคนตาย" ตอนนี้เธอรู้สึกว่าในห้องนี้มันเย็นเฉียบเหมือนอยู่ขั้วโลกเหนือ ทั้งที่จริงๆแล้ในห้องนี้มีอุณหภูมิที่ปกติมากๆ "โอ้ย ปะ...ปล่อย ขอร้อง" ตุบ ตุบ ตุบ มือเล็กทำหน้ที่ทุบตีอกแกร่ง เพราะตอนนี้เธอเริ่มหายใจไม่ออก เพราะสหรัฐบีบลำคอของเธอแน่นจนเธอหายใจไม่ออกอยู่แล้ว น้ำตาที่เคยกลั้นเอาไว้ก่อนหน้านี้มันก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ความกลัวของเธอในตอนนี้มันถาโถมเข้ามาในจิตใจ ดวงตากลมโตเริ่มอ่อนล้าเพราะขาดอากาศหายใจ ดวงตาของเธอค่อยๆมองไปที่ใบหน้าของคมของสหรัฐเขายังคงไร้หัวใจเหมือนเดิม ไม่ได้แสดงสีหน้าผิดชอบชั่วดีเลยสักนิด เขายังมีใบหน้าที่เย็นชาเหมือนเดิม แม้ว่าในขณะนี้เธอจะขาดอากาศหายใจตายเพราะเขาแล้วก็ตาม "เอ่อ...นายครับ เธอกลังจะขาดอากาศหายใจตายแล้วนะครับ" แล้วลูกน้องคนหนึ่งก็เอ่ยบอกสหรัฐ ทำให้มือใหญ่ผละออกจากลำคอของหญิงสาว ก่อนที่เขาจะหันไปต่อยลูกน้องของเขาอย่างแรง ในตอนที่เธอเป็นอิสระ เธอก็รีบโกยอากาศเข้าปอดโดยทันที "อึก ฮื่อ ฮึก" เสียงหอบหายใจของหญิงสาวดังต่อเนื่อง ก็เพราะเธอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะตาย แล้วมีคนมาช่วยไว้ไม่มีผิด แล้วสายตากลมของพระพายมองไปที่ร่างหนาอย่างเคียดแค้น เธออยสกจะฆ่าเขาให้ตายๆไป  "อย่าทำตัวอ่อนแอให้ฉันเห็นอีก" เขาชี้หน้าด่าลูกน้องของตัวเองด้วยความโกรธ หากใจอ่อนให้กับผู้หญิงมันก็จะเป็นจุดอ่อนสำหรับมาเฟียอย่างเขา  "ส่วนเธอมานี่" เขาพูดพับลูกน้องของเขาจบก็หันมาลากหญิงสาวออกมาจากชั้นใต้ดิน "ปล่อย!" เธอพยายามใช้แรงทั้งหมดที่มีดิ้นออกจากมือของมาเฟียหนุ่ม จนในที่สุดมันก็หลุด สมองของเธอรีบสั่งการให้วิ่งออกไปให้เร็วที่สดชุดเท่าที่จะทำได้ ต้องขอบคุณความแก่นความแสบของตัวเองที่ทำให้เธอวิ่งเร็ว ก็เพราะว่าเมื่อก่อนนั้นเธอหาเรื่องคนอื่นเป็นว่าเล่น ทำให้เธอเกือบจะได้กินเท่าเป็นอาหารเกือบทุกมื้อเลยก็ว่าได้  ปัง! เสียงลั่นไกดังขึ้นหนึ่งนัด ก่อนที่ร่างกายของหญิงสาวจะรู้สึกชาที่ต้นแขน ก่อนที่สายตาของพระพายจะหันไปมองต้นแขนของตัวเอง ก็พบว่าตอนนี้แขนของเธอมีเลือดไหลนองออกเต็มเลย เธอโดนยิง เธอไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตนี้เธอจะโดนยิง สายตาของพระพายหันไปมองเจ้าของการกระทำที่ไร้จิตใจ แน่นอนว่าคนที่ยิงเธอนั้นก็คือสหรัฐ เขาเป็นคนลั่นไกยิงเธอ ตอนนี้เธอกลัวมาก ใครไม่กลัวก็บ้าแล้ว ปืนยิงเข้ามาขนาดนี้ ใครไม่กลัวเธอนับถือเลย "ฉันบอกแล้วไง ว่าคนที่ออกไปจากที่นี่ต้องเป็นคนตายเท่านั้น และถ้าฉันไม่อนุญาตก็ไม่มีใครออกไปไหนได้" สีหน้าของเขามันเรียบนิ่งเกินกว่าที่คนอย่างเขาจะมีหัวใจ ใบหน้าของเขาฉันคงจะจำไปจนตาย เพราะเธอเกลียดเขามาก เกลียดจนไม่รู้ว่าจะเกลียดยังไงแล้ว เขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับการกระทำที่ไร้จิตสำนึก เขามองว่ามันเป็นเรื่องที่ปกติ มองว่าความเจ็บปวดของคนอื่นคือสิ่งที่สวยงาม ใช่เขามันไม่มีหัวใจ ไม่มีความรู้สึกอะไรทั้งนั้น "แกมันเลว ไอ้เลว ไอ้ ไอ้" เธอด่าออกมาอย่างเคียดแค้นใจ สักวันเธอจะต้องฆ่าผู้ชายคนนี้ให้ได้ เธอเกลียดเขามาก ชีวิตนี้ไม่เคยเกลียดใครได้เท่านี้มาก่อนเลย ตอนนี้เธอเจ็บแผลมาก มันเจ็บชา เหมือนคนกำลังจะตายไม่มีผิด หรือว่าจริงๆแล้วเธอกำลังจะตาย นั้นสิ มันน่าจะเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว แล้วในที่สุดร่างกายมันก็ไม่ไหว สติของพระพายก็ดับวูบไปโดยที่เธอไม่รู้ตัว ภาพทุกอย่างมันตัดไปเหมือนฉากในหนังไม่มีผิด 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD