“ฮือๆๆๆ ฮืออออ ฮึกๆ” เป็นสิ่งเดียวที่เด็กสาวทำได้ในเวลานี้ ทำอย่างไรได้เล่าเมื่อเธอไม่มีหนทางไปจากตรงนี้
เสื้อผ้าสวยๆที่แม่ซื้อให้ หนังสือดีๆที่มีให้อ่าน ทุกสิ่งอย่างที่เธอมีมากกว่าคนอื่นเขา เป็นเงินจากการที่แม่ของเธอต้องทนให้เขาดูถูกดูแคลน เป็นการจำยอมให้เขาดูถูกด้วยความเต็มใจ แต่เด็กสาวอย่างเธอไม่ต้องการ
ก๊อกๆๆๆๆ
เสียงเคาะประตูห้องนอนดังขึ้น แต่มันไม่ได้ทำให้เด็กสาวอยากที่จะไปเปิดประตูนั่น ด้วยรู้ว่าต้องเป็นแม่ของตนเองอย่างแน่นอน
“กอหญ้า กินข้าวลูก..แม่ทำกับข้าวเสร็จแล้ว”
“ฮือๆๆ หนูไม่อยากกิน....” เด็กสาวตอบเสียงสะอื้น เธอไม่อยากที่จะกินอะไรทั้งนั้น แม้รู้ว่าการประท้วงด้วยอารมณ์ไม่ใช่สิ่งดี แต่เธออย่างทำอะไรบ้างให้แม่รับรู้ว่าเธอไม่ต้องการ
“แม่บอกให้ออกมากินข้าว อย่าเอาแต่ใจนะ.. แม่มีกุญแจทุกห้อง.. ถ้าไม่ออกมาดีๆอย่าหาว่าแม่ใจร้าย” น้ำเสียงของแม่บ่งบอกความไม่พอใจ
หากเธอไม่ออกไปต้องโดนแม่ตีอย่างหนักแน่ คนที่นอนร้องไห้อยู่บนเตียงจึงต้องเช็ดน้ำตาแล้วเปิดประตูออกไปจากห้อง ใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาทำให้แม่รู้ว่าลูกสาวกำลังคิดอะไร แต่เมื่อความรักที่หัวใจตนเองหักห้ามไม่ได้จึงยอมที่จะให้ทุกคนดูถูกเพื่อได้อยู่ใกล้คนที่รัก
“ไปกินข้าวนะ แม่ทำกับข้าวที่หนูชอบกินไว้ให้”
“ฮึกๆ.......” กอหญ้าสะอึกสะอื้นเดินไปตามทางเดินของบ้าน เธอทำอะไรไม่ได้ไปมากกว่านี้เลย
ไม่ว่าอาหารจะดีแค่ไหน เป็นสิ่งที่ชอบกินมากเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ทำให้เธอเจริญอาหารเลยสักนิด เมื่อความคิดและหัวใจมันเต็มไปด้วยสายตาของคนดูถูก เธอยังรับไม่ได้
ทุกสิ่งทุกอย่างในบ้านหลังนี้เต็มไปด้วยความสะดวกสบายที่เธอไม่ได้รับตั้งแต่เด็ก แต่มันเป็นความลำบากกายที่เธอมีความสุขมากกว่านี้ ชีวิตตอนนี้ของเธอไม่มีความสุขเลย หากหวนเวลาย้อนกลับไปได้ เธอจะเลือกเป็นเด็กบ้านนอกอยู่กับยายเสียดีกว่า
อาหารที่ตกลงท้องได้เพียงไม่กี่คำก็ทำให้เธอเบื่อหน่าย ออกเดินไปข้างบ้านที่เริ่มเย็นย่ำค่ำแล้ว มองไกลไปที่บ้านหลังใหญ่ที่เปิดไฟไปทั้งบ้าน หากตัวเธอเป็นเด็กที่เกิดในบ้านหลังนั้นคงเต็มไปด้วยความสุข แต่มันเป็นความสุขที่แม่ของเธอเข้าไปแทรกแซง
“เราขอโทษนะเมย์ ที่ทำให้ครอบครัวของเธอต้องไม่มีความสุข” เสียงพูดปนสะอื้นที่ไม่กล้าบอกให้เพื่อนรับรู้ ยิ่งเห็นเขาดีกับตนมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้สึกละอายใจมากไปเท่านั้น
กอหญ้าหันกลับไปมองบ้านที่ตัวเองพักอาศัย บ้านที่ตนเองไม่คิดเป็นเจ้าของ บ้านที่หลงคิดว่าแม่ของตนได้มาด้วยน้ำพักน้ำแรงและความดี
‘อยู่บ้านหลังใหญ่แต่ไม่ได้สบายใจเอาเสียเลย’ ทำได้เพียงแค่คิดในใจ เมื่อมันเป็นสิ่งเดียวที่เธอทำได้ในเวลานี้
“คงกำลังคิดว่าจะทำยังไงให้ได้มีบ้านที่หลังใหญ่กว่านี้สินะ คงจะทะเยอทะยานน่าดู” มาร์คเอ่ยพูดเมื่อยืนมองหญิงสาวอยู่นานแล้ว
หญิงสาวที่ทำใบหน้าเศร้าสร้อยน่าสงสาร แต่หว่านล้อมจนพ่อของตนยอมที่จะยกบ้านหลังเล็กนี้ให้ บ้านหลังเล็กที่ตนเองตั้งใจจะกลับมาเปลี่ยนแปลงเป็นที่พักผ่อน แต่กลับมาพบว่าพ่อของตนได้ยกให้กับเมียน้อยที่เป็นหัวหน้าแม่บ้านไปเสียแล้ว
“กอหญ้าไม่ได้คิดแบบนั้นนะคะ...” เด็กสาวร้องตอบเมื่อถูกกล่าวหาโดยไม่ใช่ความจริง
“เหอะ!! กอหญ้าไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นนะคะ” มาร์คทำเสียงล้อเลียน ท่าทางอ่อนแอไร้เดียงสา แต่ทั้งเธอและแม่ก็พร้อมที่จะมาปอกลอกเงินทองของครอบครัวตน “ไม่ได้คิดแค่นั้นสิไม่ว่า”
“.......” กอหญ้าก้มหน้าเงียบ เธอไม่ได้คิดที่จะต้องการอะไรทั้งนั้น หนำซ้ำเธอยังอยากที่จะไปจากที่นี่ใจจะขาด เปล่าประโยชน์ที่เธอจะอธิบายให้ใครเข้าใจ ในเมื่อเธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าสิ่งที่แม่เป็นอยู่มันผิด
เมื่อคิดว่าเปล่าประโยชน์จะตอบโต้ เด็กสาวจึงหมายจะเดินหนี หากแต่ก็ยังไม่วายที่ชายหนุ่มจะตะคอกเสียงออกคำสั่ง
“ฉันยังไม่ได้สั่งให้เธอไป เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะเดินหนีฉัน” มาร์คส่งเสียงตะคอกพร้อมกับกระชากข้อมือของเด็กสาวไว้
“คุณ....มีอะไรที่จะใช้กอหญ้าคะ”
“หึ! รู้ตัวก็ดีว่าตัวเองเป็นได้แค่คนใช้ อย่าริสูงทำตัวเป็นลูกเจ้าของบ้าน”
“กอหญ้าไม่เคยคิดแบบนั้น และถ้ากอหญ้าเลือกได้ กอหญ้าคงไม่มาที่นี่ตั้งแต่แรก..ฮึก ๆฮืออ” คิดแล้วน้ำตาเด็กสาวก็รินไหล เพราะเธอหลงคิดว่าแม่ของเธอได้ทุกอย่างมาด้วยความชอบธรรม หลงเชื่อว่าแม่ของตนทำงานดีจนเจ้าของบ้านมีเมตตา ไม่คิดว่าเรื่องทุกอย่างจะเป็นแบบนี้
“ไม่ต้องมาสำออย นี่ก็คงสำออยจนคุณพ่อยอมที่จะยกทุกอย่างให้ ฉันจะเป็นคนเอาทุกอย่างที่ควรเป็นของฉันมาจากเธอให้ได้”
ชายอกสามศอกผลักร่างเล็กออกจากตัว ความเกลียดชังนำพาให้เขาไม่คิดใยดีต่อเด็กสาว น้ำตาของคนเป็นแม่ที่ต้องเสียใจเพราะชายคนรักผู้พ่อ ส่งผลให้เขาคิดแคนและอยากทำร้ายให้เธอเจ็บปวดสาสม
"โอ้ยยย...." ร่างกายเล็กเซถลาไปกับพื้นตามแรงผลัก ชายหนุ่มไม่คิดปราณีต่อเธอแม้แต่น้อย ทั้งที่เด็กสาวก็หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูด้วยวัยสาว อีกทั้งยังเรียนดีจนน้องสาวออกปาก “ฮือๆ ฮึกๆๆ”
“กอหญ้าเป็นอะไรลูก...” กานดาวิ่งเข้ามาหาลูกสาวเมื่อได้ยินเสียงร้องไห้ ก่อนจะพบสาเหตุที่มาจากลูกชายของเจ้าของบ้าน ลูกชายของคนที่เธอรัก
“คุณหนูมีอะไรให้ป้ารับใช้หรือเปล่าคะ”
“อย่ามาแทนตัวนับญาติกับฉัน แค่การที่ได้เป็นเมียน้อยของพ่อ ไม่ได้ทำให้เธอกับลูกมาเป็นญาติฉันได้” เสียงต่อว่าของชายหนุ่มทำให้ดวงใจของกานดาร้าวราน
เธอเข้ามาทำงานที่บ้านหลังนี้ตั้งแต่ชายหนุ่มอายุได้สิบขวบ ดูแลเอาใจใส่จนโตเป็นหนุ่ม ก่อนที่เขาจะไปเรียนเมืองนอก แต่ก็รู้ดีว่าชายหนุ่มจะต้องเกลียดตนมากเมื่อรู้เรื่องราวทั้งหมด
“....คุณมาร์คมีอะไรให้ฉันรับใช้คะ อยากทานอะไรหรือเปล่าฉันจะทำให้ ฮึกๆ” เสียงพูดปนสะอื้นทำให้กอหญ้ารับรู้ว่าแม่เจ็บปวด แต่เธอไม่เข้าใจว่าทำไมแม่ของเธอจึงต้องทน เหตุผลอะไรที่ต้องทนเจ็บอยู่ในบ้านหลังนี้ทั้งที่เขามีครอบครัวแล้ว
“ถ้าฉันใช้ให้ไปให้พ้นๆหน้าเธอจะไปไหม ทั้งแม่ทั้งลูกเลย จะเข้ามาทำลายครอบครัวคนอื่นทำไม ห๊ะ!!”
“.......” กานดานิ่งเงียบแต่น้ำตารินไหล วงแขนยังคงโอบกอดร่างกายของลูกสาวที่สะอึกสะอื้นไห้ เธอรู้ดีว่าวันนี้ต้องมาถึง แต่ด้วยหัวใจที่คงมั่นในชายที่รัก จึงไม่อาจยอมที่จะจากไป
“เงียบทำไมล่ะ ทำไมไม่ไปล่ะ! ห๊ะ!” มาร์คตะคอก ลึกๆในหัวใจของเขาก็เจ็บปวด กานดาเป็นผู้หญิงที่เขาใกล้ชิดมาตั้งแต่เด็กมากกว่าคนเป็นแม่ แต่การกลับมาพบว่าพ่อของตนเองมีเมียน้อยเป็นคนรับใช้ในบ้าน มันทำให้เขาทำใจยอมรับไม่ได้ “บอกให้ไปไกลๆไง ไม่เข้าใจเหรอ”
“ฮือๆๆ แม่ เรากลับบ้านไปหายายเถอะ ฮือๆ” เด็กสาวกอดรั้งแขนผู้เป็นแม่
((มาร์ค นายไม่มีสิทธิ์ไล่ใครออกจากบ้านฉันทั้งนั้น))
โยธิน ชายผู้เป็นพ่อส่งเสียงห้าม เมื่อเขากลับจากทำงานแล้วได้ยินเสียงโวยวายจากบ้านหลังเล็ก ความห่วงใยในตัวกานดาทำให้เขารีบเดินเข้ามาหา จนพบว่าลูกชายของตนเองกำลังรังแกเธอและลูก ความผิดที่เกิดขึ้นโทษใครก็ไม่ได้นอกจากความมักง่ายของตนเอง เงินทองข้าวของที่เขายกให้กับกานดาก็เป็นสิ่งเล็กน้อย เมื่อเทียบกับลูกเมียของตนเอง
กานดาไม่เคยเรียกร้องอะไรตลอดหลายปีที่เขาแอบสมสู่กับเธอ แต่เมื่อถึงเวลาที่เธออยากจะกลับไปดูแลลูกสาวที่ต่างจังหวัด เขากลับทำใจที่จะเสียเธอไปไม่ได้ จึงทำทุกอย่างให้ลูกสาวของเธอได้เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ ด้วยกานดาเป็นหญิงสาวที่เขาจะมาหาทุกครั้งที่มีเรื่องกลุ้มใจ