บทที่ 6

2326 Words
พระอาทิตย์ส่องแสงสว่างลอยอยู่กลางท้องฟ้า เสี่ยวหงเดินเข้าออกซื้อชุดใหม่หลายชุด เครื่องประดับอีกหลายชิ้นอย่างเพลิดเพลิน "อิ๋งเอ๋อร์ข้าหิวแล้ว เจ้าพาข้าไปหาของกินหน่อยสิ" "ข้างหน้ามีโรงเตี๊ยมเจ้าค่ะคุณหนู" เสี่ยวหงกรอกตาไปมา นางเคยอ่านเจอในนิยายจีนโบราณมาไม่น้อย นางเอกเกิดหิวจึงไปที่โรงเตี๊ยมแล้วพบรักกับพระเอก นางไม่ต้องการพบชายใดทั้งนั่นนอกจากเขา อวิ๋นหลัวซี "เจ้ามีที่อื่นหรือไม่ ข้าไม่อยากไปโรงเตี๊ยม" "เอ๋?" เสี่ยวหงหันซ้ายหันขวาก่อนจะพบกับร้านหมั่นโถวร้านหนึ่งไม่ไกลออกไปเท่าใดนัก นางยิ้มตาหยีก่อนจะจูงมืออิ๋งเอ๋อร์ให้ตามไป "เฒ่าแก่ หมั่นโถวลูกใหญ่สองลูก" เฒ่าแก่พยักหน้ารับก่อนจะยื่นหมั่นโถวส่งให้เสี่ยวหง นางกัดชิมไปคำนึงด้วยแววตาเป็นประกาย อร่อยยิ่งนัก!!! "คุณหนูเจ้าค่ะ ท่านอยากเดินเที่ยวต่อหรือไม่" เสี่ยวหงส่ายหน้าไปมา นางเหนื่อยแล้วอยากกลับไปพักผ่อนที่จวนเหลือเกิน เสี่ยวหงเดินตามทางมาเรื่อยๆจนผู้คนเริ่มน้อยลง ระหว่างนั้นกลับมีบุรุษผู้หนึ่งเดินเข้ามาขวางทางนางไว้ เสี่ยวหงขมวดคิ้วแน่น นางพิจารณามองบุรุษตรงหน้า เขาดูสง่างามอย่างผู้สูงศักดิ์ รูปร่างสูงสง่า ใบหน้างดงามดั่งภาพวาด หยางเส้าเฉินมองพิจารณาเสี่ยวหงอย่างไม่ละสายตาจนนางเริ่มรู้สึกประหม่า "เจ้าคือแม่นางน้อยที่ชนะการประกวดว่าวสวยงามเมื่อครู่" เสี่ยวหงพยักหน้าอย่างมึนงง เขาเป็นใครกัน รู้จักนางเช่นนั้นหรือ? "คุณชายรู้จักข้าหรือ หากว่าไม่เช่นนั้นขออภัยด้วยข้าไม่รู้จักท่านมาก่อน ต้องขอตัว" เสี่ยวหงพยายามคิดในหัวว่าเจ้าของร่างเดิมเคยรู้จักชายตรงหน้าหรือไม่ แต่ก็ไม่ปรากฏภาพของเขาในความทรงจำของนางเลยแม้แต่น้อย หยางเส้าเฉินขยับกายมาขวางทางเสี่ยวหงเอาไว้ ดวงตาล้ำลึกของเขาจ้องมองนางอย่างลึกซึ้ง "เช่นนั้นก็มาทำความรู้จักกันเสียหน่อย" เสี่ยวหงสบถในใจอย่างหงุดหงิด ไม่คิดมาก่อนเลยว่าการออกมาเที่ยวนอกจวนวันนี้จะเจอผู้ชายขี้ตื้อน่ารำคานเช่นนี้ "ข้าไม่มีเวลาว่างขนาดนั่น อิ๋งเอ๋อร์กลับจวน!!!" "คุณหนู!!!" เสี่ยวหงหันไปมองพบว่าอิ๋งเอ๋อร์ถูกชายชุดดำจับตัวเอาไว้ "ท่านคิดจะทำอะไร?ข้ากับท่านไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เหตุใดจึงจับตัวสาวใช้ของข้าไว้!!!!" หยางเส้าเฉินยกยิ้มมุมปากก่อนจะก้าวเดินเข้าไปใกล้นางเรื่อยๆ เสี่ยวหงขยับถอยหนีตามสัญชาตญาณทันที "ข้าชอบเจ้า อยากรู้จักกับเจ้า" "แต่ข้าไม่อยากรู้จักท่าน" หยางเส้าเฉินยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะยกมือเป็นสัญญาณให้ชายชุดดำปล่อยตัวอิ๋งเอ๋อร์ "พอใจเจ้าแล้วหรือยัง?" เสี่ยวหงคว้าข้อมือของอิ๋งเอ๋อร์ก่อนจะดึงนางกึ่งเดินกึ่งวิ่งกลับจวน หยางเส้าเฉินมองนางเดินหายไปจนลับสายตา ก่อนจะปรายตามองหญิงสาวนางหนึ่งที่แอบอยู่หลังต้นไม้ไม่ไกลเท่าใดนัก "จะออกมาเองหรือให้คนของข้าไปลากเจ้าออกมา" หญิงสาวสวมชุดนางกำนัลของวังหลวงเดินออกมาจากที่ซ่อนด้วยใบหน้าซีดขาว นางทิ้งตัวคุกเข่าลงกับพื้นไม่กล้าสบตาหยางเส้าเฉิน "ขออภัยองค์รัชทายาท โปรดไว้ชีวิตหม่อมฉันด้วยเพคะ" "พระชายาเอกส่งเจ้ามาตามข้า" นางกำนัลน้อยนางนั้นแทบจะร้องไห้ออกมาอยู่แล้ว นางมีท่าทางลุกลี้ลุกลนหันซ้ายมองขวาอย่างร้อนใจ "พระชายาเอกหลิวเย่ว์หลีเจ้าออกมาเถิด หรือจะให้เราสังหารนางกำนัลของเจ้าทิ้งเสีย" "อย่าเพคะองค์รัชทายาท" หลิวเย่ว์หลีบุตรสาวคนโตตระกูลหลิว บิดาดำรงค์ตำแหน่งเจ้ากรมอาญา นางเป็นชายาเอกของหยางเส้าเฉินที่เพิ่งอภิเษกเข้ามาวังหลวง หลิวเย่ว์หลีก้าวเดินออกมาจากหลังต้นดอกเหมยด้วยสีหน้าเรียบเฉย เดิมทีวันนี้นางเพียงอยากออกจากวังมาเที่ยวเล่นชมเทศกาลละเล่นว่าวเท่านั้น ไม่คิดเลยว่าจะพบกับสวามีของตนกำลังเกี้ยวพาสตรีน้อยนางหนึ่งเข้า "เจ้าตามเรามาหรือ?" "หาไม่ได้เพคะ หม่อมฉันเพียงออกมาเที่ยวเล่นกับนางกำนัล" หยางเส้าเฉินส่งเสียเฮอะในลำคอ ก่อนจะปรายตาหลิวเย่ว์หลีด้วยสายตาเย็นชา "เจ้าเป็นถึงชายาเอกของเรา แต่กลับมีใจอยากออกมาเที่ยวเล่นข้างนอกเหมือนสตรีที่ยังมิออกเรือน?" "ไม่ใช่นะเพคะ" "กลับตำหนักไปเสียอย่าให้เราต้องนำเรื่องนี้ทูลต่อเสด็จแม่" หลิวเย่ว์หลีมีสีหน้าซีดเผือดไม่น้อย มีผู้ใดบ้างที่ไม่รู้ถึงความโหดร้ายของฮองเฮาพระองค์นี้ เหมยฮองเฮา นามว่าเหมยอิ๋ง เป็นธิดาคนโตของตระกูล ท่านปู่ของพระนางเป็นถึงพระราชครูของฮ่องเต้พระองค์ก่อน บิดาของนางก็เป็นอาจารย์ผู้มีชื่อเสียง สั่งสอนบัณฑิตที่เก่งกาจลูกศิษย์มากมายนับไม่ถ้วน ฐานอำนาจของตระกูลนางนั้นแข็งแกร่งไม่น้อย หยางเส้าเฉินยกยิ้มมุมปาก ทุกครั้งที่อ้างเสด็จแม่ หลิวเย่ว์หลีก็แพ้เขาทุกครั้ง อย่างครั้งก่อนที่เขาต้องการรับสนมเพิ่มเสด็จแม่ก็จัดการจนหลิวเย่ว์หลีไม่สามารถทำอะไรได้ เขาเคยชอบหลิวเย่ว์หลีก่อนที่จะแต่งนางเข้ามาเป็นชายาเอก แต่ก่อนนางงดงามดั่งดอกไม้แรกแย้มชวนให้เขาเชยชม แต่นานวันเข้านางก็ยิ่งทำตัวน่าเบื่อทุกวัน เขาแต่งนางเข้าวังสองปีแล้วยังคงไร้วี่แว่วกำเนิดทายาทเสียที "เช่นนั้นหม่อมฉันทูลลาเพคะ" "เชิญ" หยางเส้าเฉินไม่แม้แต่จะหันกลับมามองหลิวเย่ว์หลีด้วยซ้ำ นางถอนหายใจออกมาหนักๆครั้งหนึ่ง แต่ก่อนหยางเส้าเฉินเป็นบุรุษที่นางใฝ่ฝัน นางชื่นชอบเขายิ่งนัก เขาเองก็มีใจแก่นาง ทั้งสองเหมือนจะรักกันอย่างสุดซึ้ง จนกระทั่งวันที่นางสนมมากหน้าหลายตาเข้ามาในตำหนักคนแล้วคนเล่า นางเองไม่สามารถทำสิ่งใดได้นอกจากกล้ำกลืนความอัปยศนี้ลงท้อง "พระชายาเพคะ ส่งคนไปจัดการหญิงแพศยานางนั้นดีหรือไม่เจ้าค่ะ" หลิวเย่ว์หลีส่ายหน้าไปมาอย่างช้าๆให้นางกำนัลข้างกายของตน "ปล่อยนางไปเถิด จากที่ข้าเห็นเมื่อครู่ นางเองก็ไม่ได้มีใจชื่นชอบองค์รัชทายาทเท่าใดนัก" "แต่ว่า" "กลับวังหลวงเถิด" เสี่ยวหงที่เที่ยวเล่นจนเหน็ดเหนื่อย เมื่อมองดูท้องฟ้าที่ใกล้จะมืดค่ำแล้วนางก็พาอิ๋งเอ๋อร์กลับเรือน เมื่อกลับมาถึงเรือนหลังจากที่อาบน้ำชำระร่างกายเสร็จแล้ว เสี่ยวหงที่กำลังทิ้งร่างกายเอนลงบนเตียงกลับได้ยินเสียงจากด้านนอก ก่อนจะพบว่าอิ๋งเอ๋อร์กำลังเดินเข้ามาหานางด้วยใบหน้าซีดเผือด "มีอะไร?" "คุณหนูเจ้าค่ะ เกิดเรื่องแล้วเจ้าค่ะ เสี่ยวกุ้ยเฟยส่งแม่นมจากในวังหลวงมาอบรมคุณหนูเจ้าค่ะ" "เสี่ยวกุ้ยเฟย?". เสี่ยวหงหลับตาลงนึกคิดถึงสตรีผู้นี้ ก่อนจะปรากฏภาพหญิงสาวที่ผิวขาวราวหิมะใบหน้างดงามสูงศักดิ์ เสี่ยวหลิง น้องสาวร่วมมารดาของเสนาบดีเสี่ยวเฉียนนี่เอง เสี่ยวหลิงเป็นบุตรสาวคนเล็กของท่านย่า ที่ถูกพระทัยฮ่องเต้จนได้รับแต่งตั้งเป็นกุ้ยเฟยในวังหลวง นางไม่ชอบเสี่ยวหงแต่แรก และที่โหดร้ายไปกว่านั้นนางเป็นคนยุยงเสี่ยวชิงให้แย่งชิงชินอ๋องหยางเทียนฉีจากเสี่ยวหง หน้าไม่อายทั้งอาทั้งหลานจริงๆ เสี่ยวหงลุกขึ้นก่อนจะเดินออกไปด้านหน้าเรือนกุ้ยฮวา นางพบกับสตรีสูงวัยนางหนึ่ง ท่าทางหยิ่งยโส จ้องมองมาที่นางด้วยสายตาดูแคลนไม่น้อย "คาราวะแม่นม" "คุณหนูเกรงใจเกินไปแล้วเจ้าค่ะ ข้าน้อยนามว่าแม่นมซูเป็นแม่นมคนสนิทของเสี่ยวกุ้ยเฟยเจ้าค่ะ" "ท่านมาหาข้ามีเรื่องใดหรือ?" "ข้าได้รับมอบหมายจากกุ้ยเฟย ให้มาดูแลอบรมเรื่องกิริยามรรยาทของสตรีให้คุณหนูเจ้าค่ะ กุ้ยเฟยทรงเป็นห่วงคุณหนูเกรงว่าออกเรือนไปแล้วจะไม่เป็นที่พอใจของแม่สามี" เสี่ยวหงส่งเสียงเฮอะในลำคอแต่ยังคงมีรอยยิ้มบนใบหน้า "ลำบากกุ้ยเฟยแล้ว ข้าเองก็ไม่ได้รีบแต่งงานมีสามีเรื่องมรรยาทพวกนี้คงไม่จำเป็นเท่าไหร่" แม่นมชักสีหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด แม่นางน้อยผู้นี้เดิมทีก็เป็นเพียงผู้อาศัย กล้ามาไล่นางด้วยคำพูดไร้มรรยาทเช่นนี้หรือ "เป็นความประสงค์ของกุ้ยเฟยข้าไม่อาจขัดได้เจ้าค่ะ" "อ้อออ" เสี่ยวหงส่งเสียงอ้อในลำคอก่อนจะหันไปส่งยิ้มที่ชวนขนลุกให้แม่นมนางนั้น "เช่นนั้นแม่นมก็พักที่เรือนรับรองนี่เถิด อิ๋งเอ๋อร์พาแม่นมไปเรือนพักดูแลอย่าให้ขาดเหลือสิ่งใดเป็นอันขาด" "เจ้าค่ะคุณหนู" เสี่ยวหงเดินกลับเข้ามาในห้องนอนก่อนจะนั่งลงและแสยะยิ้มที่มุมปาก อยากสั่งสอนคนอย่างข้าหรือ? พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าเสี่ยวหงกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะตัวหนึ่งเตรียมที่จะรับสำรับมื้อค่ำ "คุณหนูใหญ่ ท่านจะต้องเรียนสี่คำสอนของสตรีก่อนมื้ออาหารทุกวัน หากท่านท่องจำไม่ได้ ข้าคงไม่อาจให้ท่านรับสำรับมื้อเย็นได้เจ้าค่ะ" เสี่ยวหงเงยหน้าไปมองแม่นมนางนั้นก่อนจะยิ้มออกมา แม่นมซูมองอาหารตรงหน้าเสี่ยวหง ก่อนจะถือวิสาสะเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะ หยิบตะเกียบอย่างถือดี "แม่นมซูท่านจะทำอะไร?" "ข้าต้องรับสำรับเย็นก่อนที่จะสอนคุณหนูใหญ่ อาหารของเรือนท่านน่าตาน่ากินยิ่งนักข้าคงต้องฝากท้องไว้ที่เรือนท่านแล้ว ท่านเองก็นั่งอ่านท่องตำราเหล่านี้รอข้าเถิด รอข้ารับสำรับเย็นเรียบร้อยแล้วข้าจะทดสอบท่าน" แม่นมซูมองเสี่ยวหงพร้อมรอยยิ้มเย้ยหยัน เสี่ยวหงยกยิ้มอย่างเย็นชา ก่อนจะยื่นมือไปดึงตะเกียบออกจากมือของแม่นมซู "คุณหนูท่านจะทำสิ่งใด!!!" แม่นมซูมองเสี่ยวหงด้วยสายตาเย็นชา เสี่ยวหงวางตะเกียบลงก่อนจะสั่งให้อิ๋งเอ๋อร์ยกอาหารไปเก็บ "ที่เรือนของข้ามีกฏระเบียบข้อหนึ่งที่แม่นมซูคงยังไม่รู้" "กฏอะไรเจ้าค่ะ" เสี่ยวหงยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย "ใครก็ตามที่ก้าวเข้ามาในเรือนของข้า หากข้ายังไม่ได้กินข้าว ใครก็ห้ามกินทั้งนั้น" "คุณหนูใหญ่ข่มขู่ข้าหรือเจ้าค่ะ?" แม่นมซูมองหน้าเสี่ยวหงอย่างเอาเรื่อง กฏบ้าบออะไรกัน มีเช่นนี้ที่ไหนนางไม่เคยได้ยินมาก่อน!!! "ข้าไม่ได้ข่มขู่เสียหน่อย แม่นมซูเองก็เรียนมรรยาทมาไม่น้อย เหตุใดจึงเสียมรรยาทต่อเจ้าบ้านเช่นนี้เล่า" "คุณหนูใหญ่!ท่าน!ช่างไม่รู้จักเด็กไม่รู้จักผู้ใหญ่ยิ่งนัก" "สอนมรรยาทข้าเถิด ข้าพร้อมแล้ว" แม่นมซูกัดฟันอย่างโกธรแค้น มือกำผ้าเช็ดหน้าแน่นอยากจะฉีกร่างเสี่ยวหงเป็นชิ้นๆ ผ่านไปนานเกือบสองก้านธูป เสี่ยวหงก็ยังคงจำสิ่งที่แม่นมซูพร่ำสอนไม่ได้แม้แต่น้อย ไม่ใช่ว่านางจำมันไม่ได้ แต่นางไม่อยากจะจำมันมากกว่า ความจริงแล้วนางเป็นอัจฉริยะด้านความจำด้วยซ้ำ แต่เพื่อเล่นกับแม่นมซูผู้นี้นางแกล้งโง่เสียหน่อยคงจะสนุกไม่น้อย เสี่ยวหงยกยิ้มมุมปาก มองแม่นมที่หน้าซีดเผือดเหงื่อไหลย้อย กุมท้องอย่างน่าเวทนา หึ!จะให้ข้าอดข้าวแย่งอาหารข้ากิน เจ้าฝันไปเถิด!!! "วันนี้พอแค่นี้ก่อนข้าขอตัวเจ้าคะ คุณหนูเองก็ท่องจำให้ได้ ตอนเช้าข้าจะมาทดสอบท่านอีกครั้ง" แม่นมซูเร่งรีบเดินออกไปจากเรือนของเสี่ยวหงด้วยความเจ็บใจ เดิมทีนางคิดว่าจะมาถ่วงเวลาการสอนให้กับเสี่ยวหง ให้นางอับจนหนทางจนน่าสมเพช แต่เหตุใดจึงกลายเป็นนางที่มีสภาพน่าสมเพชแทนเล่า!!!" อิ๋งเอ๋อร์มองแม่นมซูที่เดินจากไป ก่อนจะหันมามองเสี่ยวหงที่มีท่าทางสบายใจอยู่บนเตียง "คุณหนู แม่นมซูต้องโกธรท่านแน่ๆเจ้าค่ะ" เสี่ยวหงปรายตามองอิ๋งเอ๋อร์ ก่อนจะยิ้มตาหยี "ช่างนางสิ!!นางอยากมาก่อกวนข้าก่อนทำไม" "แต่นางเป็นแม่นมที่เสี่ยวกุ้ยเฟยส่งมานะเจ้าค่ะ" "ข้าไม่สน ที่นี่คือเรือนของข้า ใครที่เข้ามาสร้างความลำบากใจแก่ข้า ข้าไม่มีทางละเว้น" อิ๋งเอ๋อร์ถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่ได้ คุณหนูของนางตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาบางครั้งก็ดูแปลกพิกลยิ่งนัก "คุณหนูท่านยังไม่ได้รับสำรับเย็นเลยเจ้าค่ะบ่าวจะไปเตรียมให้ท่านใหม่นะเจ้าค่ะ" "ไม่ต้องข้าอิ่มแล้ว" "แต่บ่าวเห็นคุณหนูยังไม่ได้รับสำรับเย็นเลยนะเจ้าค่ะ" "ใครว่าข้ายังไม่ได้รับสำรับเย็น ข้ากินขนมจุกจิกพวกนี้จนอิ่มแล้วต่างหากเล่า!!!" เสี่ยวหงหยิบขนมกุ้ยฮวากับเกาลัดออกมาจากแขนเสื้อของนางก่อนจะยัดมันเข้าไปในปากพลางยิ้มตาหยี คุณหนูของนางช่างเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก มิน่าเล่าถึงได้นั่งอ่านตำราหน้าตาเฉย ส่วนแม่นมซูผู้โชคร้ายนั่นก็หิวจนตาลาย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD