จวนโหวตระกูลอวิ๋น
"ซื่อจื่อขอรับหัวข้าน้อยหลุดอีกแล้วขอรับ"
อวิ๋นหลัวซีแทบจะโยนหนังสือในมือทิ้งเมื่อได้ยินเสียงของวิญญาณที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา
"หลุดเจ้าก็ต่อใหม่ ถ้าเจ้าต่อไม่ได้ก็ไปตายรอบสองซะ"
"เจอแล้วขอรับซื่อจื่อฮิๆๆๆๆ"
"ไสหัวไป!!!!"
เสียงตะโกนของอวิ๋นหลัวซีทำให้เหล่าบรรดาพ่อบ้าน แม่นม สาวรับใช้ขนลุกกันไปทั่ว นี่ซื่อจื่อของพวกเขาอาการกำเริบอีกแล้วหรือ หลายวันมานี้คล้ายว่าจะกำเริบหนักกว่าเก่าเสียด้วย
อวิ๋นหลัวซียกมือขึ้นนวดที่หว่างคิ้วของตนอย่างหงุดหงิด สิบปีแล้วที่เขาต้องทรมาณกับการมองเห็นวิญญาณเร่ร่อนพวกนี้
ตอนนั้นเขาอายุเพียงสิบขวบปี กลับล้มป่วยกระทันหันอย่างไม่ทราบสาเหตุ ท่านแม่เชิญหมอเก่งจากหลายสำนักมาก็รักษาเขาไม่หาย จนกระทั่งท่านหมอเทวดาจากหุบเขาลึกเดินทางผ่านเมืองหลวง ท่านพ่อของเขาได้ขอร้องให้ท่านหมอเทวดาผู้นี้รักษาและรับเขาเป็นศิษย์ เขาก็หายป่วยแต่กลับพบว่าตนเองสามารถเห็นวิญญาณที่คนทั่วไปมองไม่เห็น
บางครั้งที่เขาไม่อยากพบเห็นวิญญาณพวกนี้ให้กวนใจ เขาก็จะดื่มเหล้าเพื่อทำให้ตนเองหลับ ทั้งที่เขาไม่ชอบดื่มมันแม้แต่น้อย
เรื่องราวของอวิ๋นหลัวซีเป็นที่ถกเถียงอย่างสนุกปากในตระกูลชั้นสูงว่าเขาเป็นซื่อจื่อเสเพล เมามาย ซ้ำยังมีอาการทางจิตชอบพูดคนเดียว จนบ่าวในเรือนต่างหวาดกลัวเขา เรื่องราวบานปลายจนสุดท้ายเขาก็กลายเป็นตัวตลกของผู้คน เขาถูกปฏิเสธการหมั้นหมายถึงสามครั้งสร้างความทุกข์ใจให้อวิ๋นเสวียนบิดาของเขายิ่งนัก
จวนโหวแห่งนี้มีเขาเป็นบุตรชายคนโต มีน้องสาวนามว่าอวิ๋นเฟยที่เกิดจากมารดาเดียวกันและ เขามีน้องชายหนึ่งคนนามว่า อวิ๋นหลงเยียน บุตรที่เกิดจากฮูหยินรอง อวิ๋นหลงเยียนเป็นบุรุษรูปงาม เขาเป็นบัณฑิตที่หญิงสาวต่างใฝ่ฝัน จนเกิดการเปรียบเทียบระหว่างเขากับน้องชายเกิดขึ้น ผู้คนต่างกล่าวกันว่า อวิ๋นหลงเยียนช่างเหมาะสมกับตำแหน่งซื่อจื่อมากกว่าเขา
อวิ๋นหลัวซีเดินออกจากห้องตำราท่ามกลางสายตาหวาดกลัวของสาวรับใช้ เขาเดินตรงไปที่ห้องนอนของตนเองก่อนจะถอนหายใจออกมาหนักๆ
หนีอีกตัวมาเจออีกตัว ให้ตายสิ!!!
"ซื่อจื่อท่านกลับมาแล้วหรือเจ้าค่ะ มาเจ้าค่ะข้าจะนวดให้ท่าน ท่านจะได้สบายตัว"
"ออกไปจากห้องข้า ก่อนที่ข้าจะหมดความอดทนกับเจ้า"
"ซื่อจื่อเจ้าขา อ๊าาา!!!ข้าไปแล้ว ข้าไปแล้ว"
อวิ๋นหลัวซีดึงมีดที่ท่านหมอเทวดาให้เขามาพกติดตัวไว้ก่อนจะโยนมันใส่ผีสาวนางนั้น มันคือมีดสกัดวิญญาณ ป้องกันวิญญาณร้ายมาก่อกวนเขา
แต่เพราะวันหนึ่งเขาลืมพกมันไปด้วยทำให้วิญญาณหญิงนางโลมตนนี้ตามเขากลับจวนมาด้วย นางบอกว่าหลงรักเขาตั้งแต่แรกพบจะยอมเป็นภรรยาผีของเขาไปชั่วชีวิต
ให้ตายสิ!!!นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน
อวิ๋นหลัวซีหันหลังกลับเดินออกจากเรือนตนเองตรงไปที่เรือนท่านแม่ของเขา
"ท่านแม่หลับหรือยัง?"
"ยังเจ้าค่ะ ฮูหยินกำลังดื่มยาอยู่เจ้าค่ะ"
"บอกท่านแม่ว่าข้ามาขอพบ"
"เจ้าค่ะ"
ไม่นานประตูเรือนก็เปิดออก อวิ๋นหลัวซีเดินเข้าไปด้านใน ก็พบกับท่านแม่ของเขากำลังเอนกายอยู่บนเตียงมองมาที่เขาด้วยสายตารักใคร่
"อาหลัวมานั่งข้างๆแม่นี่มา"
"ขอรับ"
ฮูหยินซื่อจื่อค่อยลุกขึ้นจากเตียง ก่อนจะยื่นมือเข้าไปจับมือของบุตรชายตนไว้
"ได้ข่าวคราวของอวิ๋นเฟยบ้างหรือไม่"
อวิ๋นหลัวซีส่ายศีรษะไปมาอย่างอับจนหนทาง แววตาของฮูหยินซื่อจื่อหม่นหมองลงอย่างเห็นได้ชัด
"ตราบใดที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ ข้าสัญญาว่าจะตามหาน้องหญิงให้เจอขอรับ"
ฮูหยินซื่อจื่อพยักหน้าก่อนเช็ดน้ำตาบนใบหน้าออกอย่างเศร้าหมอง สร้างความเจ็บปวดใจให้เขาไม่น้อย
อวิ๋นเฟยเป็นน้องสาวเพียงคนเดียวของอวิ๋นหลัวซี ครั้งนั้นท่านพ่อพาเขากับนางไปพบท่านหมอเทวดาที่หุบเขาลึกด้วยกัน อวิ๋นเฟยมีอายุเพียงห้าขวบปี ท่านพ่อเป็นห่วงนางจึงแต่งนางเป็นเด็กผู้ชายพาออกไปหุบเขาลึกด้วยกัน
แล้วก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เมื่อพวกเขาถูกลอบโจมตีจากโจรภูเขา พวกมันลักพาตัวอวิ๋นเฟยหายไปอย่างไร้ร่องรอย เกือบสิบปีแล้วที่ท่านแม่ล้มป่วยลงเพราะตรอมใจที่ตามหาน้องสาวไม่พบ
ในใจของอวิ๋นหลัวซีเขาไม่เชื่อว่ามันจะเป็นโจรป่า เขาสังเกตเห็นว่ามีโจรคนนึงมองเขาสลับกับน้องสาว เขากับอวิ๋นเฟยหน้าตาเหมือนกันมากพวกมันตั้งใจจะจับเขาแต่มันกลับจับผิดตัว
เมื่อเขาเดินทางกลับเมืองหลวง ก็พบว่าองค์หญิงหยางซูหนี่ว์ถูกโจรภูเขาลักพาตัวไปเช่นกันขณะที่ฮองเฮากำลังเดินทางไปไหว้ขอพรที่วัดบนเขา
เหตุการณ์ในวันนั้นทำให้เขาพยายามค้นหาอวิ๋นเฟยและองค์หญิงหยางซู่หนี่ว์มาโดยตลอดแต่ก็ไร้เบาะแสใดใด
สองวันแล้วที่แม่นมซูสอนมรรยาทหญิงงามสี่ข้อกับเสี่ยวหง แต่ทว่านางก็ยังคงใช้เวลาในการจำได้ไม่ดีเช่นเคย แม่นมที่เคยงดงามผิวพรรณผุดผ่อง ตอนนี้กลับหน้าตาหมองคล้ำ ดูแก่ลงไปสิบปี เพราะถูกอดข้าวอดน้ำกินไม่ตรงเวลาจนล้มป่วยลง
"ข้าน้อยไร้ความสามารถขอเสี่ยวกุ้ยเฟยได้โปรดลงโทษด้วย"
เสี่ยวกุ้ยเฟยมองแม่นมคนสนิทของตนอย่างไม่เชื่อสายตา แม่นมดูแก่ลงไปสิบปีไร้ความงดงามเช่นแต่ก่อน รวมไปถึงเรื่องราวที่แม่นมซูเล่าให้ฟังถึงความร้ายกาจของเสี่ยวหง
เป็นไปไม่ได้!เด็กคนนั้นเป็นตัวโง่งมมาโดยตลอด ไม่ได้การนางต้องทำสิ่งใดสักอย่างหนึ่ง
เรือนกุ้ยฮวา
เสี่ยวหงยืนมองดูหญิงสูงวัยคนหนึ่งที่กำลังยืนสวดมนต์พึมพำอยู่หน้าเรือนของนาง
"ออกไปจากร่างคุณหนูใหญ่เดี๋ยวนี้นังปีศาจชั่ว"
หึ!ใช้แม่นมซูมาก่อเรื่องไม่สำเร็จ ครั้งนี้กลับพาหมอผีจอมปลอมมาสร้างความวุ่นวายถึงเรือนของนางอีกหรือ
"เสี่ยวหง ตอนนี้ท่านย่าล้มป่วยลงอย่างไม่มีสาเหตุ ตั้งแต่เจ้าฟื้นขึ้นมาก็เปลี่ยนไปเป็นอีกคน เจ้ามันตัวหายนะ!!!"
เสี่ยวชิงชี้มือด่าเสี่ยวหงอย่างเย้ยหยัน
ท่านย่าป่วยเพราะถูกลมหนาวมาหลายวันแล้ว นางเองรู้ดี สองวันก่อนที่นางไปเยี่ยมท่านย่าแค่มองก็รู้ว่าป่วยเพราะลมหนาวธรรมดาทั่วไป แต่สองแม่ลูกผู้นี้ก็ช่างหาเรื่องปวดหัวให้นางเสียจริง
"ท่านย่าป่วยเพราะถูกลมหนาว กินยาไม่กี่เทียบก็ดีขึ้นแล้ว เหตุใดพวกท่านสองคนถึงเอาแต่โทษข้าเล่า"
"เจ้ามันตัวหายนะ ทำให้ตระกูลเสี่ยวพบภัยร้าย แม่หมอเจ้าค่ะจัดการมันเลยเจ้าค่ะ!!!"
เสี่ยวหงคร้านจะสนใจกับสองแม่ลูกผู้นี้ นางหันหลังเดินกลับเข้าไปในเรือนนอน แต่ทว่าเหมือนมีอะไรบางอย่างผลักจากด้านหลังจนทำให้เสี่ยวหงเซถลาจนหน้าทิ่มกระแทกพื้น
เจ็บชะมัด!!!
"ออกไปซะนังปีศาจ"
เสี่ยวหงยันกายลุกขึ้นยืนก่อนจะหันไปพบกับหญิงสูงวัยคนเดิมจ้องมองมาที่นาง ประตูถูกล็อคจากด้านนอกเป็นฝีมือของสองแม่ลูกนั่น
กล้าดีนัก!!!ลอบถีบนางจากทางด้านหลัง จนนางล้มลงไปกองกับพื้น ไม่สั่งสอนเสียบ้างคงไม่หลาบจำ
"เจ้ามาทางไหนก็กลับไปทางนั้นซะ วันนี้ข้าเหนื่อยไม่อยากทะเลาะกับเจ้า"
"นังปีศาจข้าพูดกับเจ้าดีดีเข้าไม่ยอมฟัง ข้าคงต้องสั่งสอนเจ้าให้หลาบจำ"
หญิงผู้นั่นหยิบแส้ที่เหน็บเอวออกมาฟาดตีไปทางเสี่ยวหง นางกระโดดหลบอย่างสบายๆก่อนจะมองไปที่หญิงผู้นั้นอย่างเบื่อหน่าย
รู้ไสยศาสตร์แค่ปลายนิ้วยังกล้าอวดดีมาไล่นาง
"ถ้าเจ้าเหนื่อยก็พอเถอะ เห็นแล้วข้าสมเพช"
หญิงสูงวัยผู้อ้างตัวว่าเป็นหมอผียืนหอบหน้าซีดเผือดก่อนจะสูดลมหายใจลึกๆรวมพลังฟาดแส้ไปที่เสี่ยวหงอีกครั้ง
ครั้งนี้เสี่ยวหงยื่นมือไปจับแส้ก่อนจะสะบัดมันจนหลุดจากมือหมอผีนางนั้น นางจับแส้สะบัดฟาดกลับคืนไปที่หมอผีอย่างสุดแรง
"อ๊าาาาาาา"
หมอผีนางนั้นร้องตะโกนจนสุดเสียงด้วยความเจ็บปวด แส้นี้นางแอบส่งสัญญาณให้มู่มู่ปล่อยพลังปราณเข้ามา เวลานี้นางฟาดตีใส่หมอผีจอมปลอมนางนี้มันจะเจ็บแสบเป็นร้อยเท่าพันทวี
"ท่านแม่เจ้าค่ะ นังตัวดีนั่นร้องเหมือนถูกเชือดเลยเจ้าค่ะ สาแก่ใจข้านัก ไม่เสียแรงที่เป็นคนของท่านอากุ้ยเฟย"
ฮูหยินหลิวกับเสี่ยวหงกระซิบกระซาบหัวเราะกันอย่างมีความสุข
"ปล่อยข้าไปเถิดแม่นางข้ากลัวแล้ว อ๊าาา"
"รู้คาถาเวทมนต์แค่เพียงน้อยนิดยังคิดจะมาเป็นหมอปราบผี ช่างน่าสมเพชนัก ข้าบอกให้เจ้ากลับไปแล้วเจ้าก็ยังไม่ไป ยังจะตามรังควานข้า วันนี้ข้าจะตีเจ้าให้ตาย!!!"
"อ๊าาาา ยอมแล้วข้ายอมแล้ว"
เสี่ยวหงดึงแส้กลับมา ก่อนจะปรายตามองหญิงสูงวัยที่นั่งตัวสั่นเทา บาดแผลเต็มร่างกาย มองมาที่นางด้วยสายตาหวาดกลัว
"เจ้ายอมข้าทุกอย่างเลยหรือ?"
"เจ้าค่ะ ข้ายอมทุกอย่าง ฮือออ"
"เช่นนั้นเจ้าต้องทำตามที่ข้าสั่ง"
หญิงนางนั้นมองเสี่ยวหงอย่างหวาดกลัว ท่าทางไม่ยินยอมของนางทำให้เสี่ยวหงสะบัดแส้ในมือฟาดใส่นางอีกครั้ง
"อ๊าาา ยอมแล้ว"
"ยอมแล้วเจ้าก็จงฟังข้า!!!!"