ตอนที่ 1 ล่อลวง

1871 Words
ภายในผับหรูย่านทองหล่อ ที่ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นอัครสถานบันเทิงใหญ่ใจกลางกรุง มีผู้คนมากมายทั้งบรรดาไฮโซนักธุรกิจเข้ามาใช้บริการกันอย่างคับคั่ง และมันเป็นที่นัดพบที่เสี่ยโจจะขอดูตัว ‘เด็ก’ คนใหม่ที่แพรวาจะพามาแนะนำ แดนดินนั่งไขว่ห้างอย่างถือตัวอยู่บนโซฟาสีแดงภายในห้องวีวีไอพี ใบหน้าหวานที่เคยเคลือบไปด้วยรอยยิ้มจนตาเป็นสระอิบัดนี้ดูเคร่งขรึม ไม่มีคำพูด ไม่มีคำถาม มีเพียงเสียงหัวใจที่เต้นแรงอยู่ในอกข้างซ้าย และคนที่รู้สึกได้ก็คือตัวของเขาเอง เด็กหนุ่มหวนนึกถึงบทสนทนาของตัวเองกับแม่เลี้ยงอย่างแพรวาเมื่อหลายวันก่อน บทสนทนาที่นำพาให้เขามาอยู่ที่นี่ในค่ำคืนนี้ “เสี่ยโจ เจ้าของร้านทองในเยาวราช แล้วยังเป็นหุ้นส่วนผับชื่อดังแถวทองหล่อด้วยนะ อย่างเธอน่ะ สเปกเสี่ยเลยละ ถ้าอยากหาเงินมาไถ่บ้านละก็ ฉันช่วยแนะนำให้ได้นะ” “ได้เท่าไร?” “ครั้งละสองแสน แต่ถ้าเธอทำให้เสี่ยถูกใจละก็ ฉันว่าเท่าไรเสี่ยก็จ่าย รายนั้นน่ะสายเปย์อยู่แล้ว เด็กคนก่อนตั้งตัวได้เลยนะ ซื้อบ้านหลังละยี่สิบกว่าล้าน แถมรถสปอร์ตอีกคัน ชาตินี้ทั้งชาติ พ่อเธอก็ให้ไม่ได้หรอก” หางเสียงเยาะหยันนั้นทำแดนดินต้องตวัดสายตาใส่อย่างไม่พอใจ “คุณผลาญเงินพ่อไปตั้งเท่าไรอย่าคิดว่าผมไม่รู้” “นั่นมันเป็นราคาที่พ่อของเธอต้องจ่าย” “เหอะ” แดนดินแค่นยิ้ม ภายในใจแสนเคียดแค้น นอกจากจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อหาเงินมาไถ่บ้านแล้วยังต้องหาทางกำจัดแพรวาออกไปจากชีวิตของบิดาด้วย อีปลิงปลวก! แพรวาในชุดเดรสเปลือยหลังสีดำปรายตามองเวลาบนหน้าปัดนาฬิกาเรือนหรูสลับกับเหลือบมองคนตรงหน้าด้วยสายตาดูแคลน หึ ทำเป็นเล่นตัว สุดท้ายก็ยอมขายตัวให้เสี่ยโจจนได้ เงินสามแสนกำลังจะลอยมาเข้ากระเป๋าฉันง่าย ๆ ไอ้เด็กโง่เอ๊ย! แพรวาซ่อนยิ้มร้ายไว้ภายใต้ใบหน้าสวยเฉี่ยว มือเรียวยกแก้วไวน์ขึ้นจิบอย่างกระหยิ่มในใจว่าสุดท้ายแดนดินคุณหนูไฮโซก็กำลังจะไม่ต่างอะไรกับเด็กที่นุ่งน้อยห่มน้อยเดินไปเดินมาอยู่ข้างนอกนั่น ระหว่างที่ทั้งสองกำลังตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเอง จู่ ๆ บานประตูก็ถูกผลักเข้ามาโดยไม่ถูกเคาะ พร้อมกับชายชุดดำคนหนึ่งที่ก้าวเข้ามา ชายคนนั้นมองปราดไปทั้งห้อง ก่อนจะเปิดประตูออกกว้างเปิดทางให้อีกคน ชายร่างท้วมที่ก้าวเข้ามาใหม่นั้น แดนดินเดาไม่ยากว่าคงเป็นเสี่ยโจ แม้จะดูกักขฬะกว่าคนในรูปที่เคยเห็น แต่ก็ดูเลวพอกัน “ฮ่า ฮ่า ฮ่า คนสวยของฉัน” เสียงหัวเราะก็น่าขยะแขยง แถมสายตาที่มองมาก็แสดงความหยาบโลนอย่างไม่ปิดบัง คำว่าคนสวยของฉัน เสี่ยโจไม่ได้หมายถึงแพรวา แต่เขายกมันให้กับแดนดินที่ยังคงนั่งหลังตรงราวกับหงส์แสนสง่า ใบหน้าเรียบเฉยไม่ยินดียินร้าย นั่นยิ่งทำให้เสี่ยโจอยากได้เหลือเกิน แพรวาเดินตามชายชุดดำออกมานอกห้อง มือเรียวยื่นออกมารับซองสีขาว ก่อนจะยกมันขึ้นจูบเบา ๆ อย่างพอใจ สายตาเรียวปรายตามองประตูห้องวีวีไอพี ริมฝีปากสีแดงเหยียดยิ้มอย่างเยาะหยัน ก่อนจะก้าวเดินห่างออกไปด้วยมาดของนางพญา… มาร! หลังแพรวาออกไปจากห้องพร้อมกับชายชุดดำ แล้วปล่อยแดนดินไว้กับเสี่ยโจตามลำพัง เสี่ยเจ้าของร้านทองก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง มันจู่โจมคนตัวเล็กกว่าด้วยแรงตัณหาราคะ หวังใช้ห้องวีวีไอพีในผับหรูเป็นรังรักบำบัดความใคร่ แดนดินถอยร่นจนร่างบางถึงทางตันตรงมุมห้อง ปากก็ร้องว่าอย่าทำ เด็กน้อยคิดเปลี่ยนใจในนาทีสุดท้าย ขอร้องอ้อนวอนว่าให้ปล่อยตัวเองไป “มึงคิดว่ากูเป็นเพื่อนเล่นมึงหรือไง อีแพรวามันเอาเงินกูไปแล้วตั้งสามแสน มึงคิดว่ากูจะปล่อยมึงไปง่าย ๆ อย่างนั้นเหรอ ฝันไปเถอะ” ร่างบางลอยหวือลงบนโซฟาสีแดง หมดเรี่ยวแรงต่อต้านเพราะโดนหมัดหนักเข้าที่ท้อง และโดนมืออวบอูมตบเข้าที่ใบหน้า เสี่ยโจกระโจนลงทาบทับ สองมือบีบขยำผิวเนื้อขาวจนขึ้นแดงจ้ำ ใบหน้าหื่นกาม การกระทำหยาบโลน ไม่สนแม้แดนดินจะขอร้องทั้งน้ำตา “อย่าทำผม” เสื้อยืดแบบโอเวอร์ไซซ์ถูกกระชากจนตะเข็บตรงคอฉีกขาด แดนดินใช้ทั้งมือทั้งเท้าปัดป้องด้วยแรงที่เหลือเพียงน้อยนิด ใบหน้าอวบอูมน่ารังเกียจจู่โจมเข้ามาอย่างหยาบคาย เด็กหนุ่มบ่ายหน้าหนีได้อย่างหวุดหวิด มันจึงเฉียดลงไปฝังอยู่ตรงซอกคอ เสี่ยโจออกแรงถูไถ สูดกลิ่นหอมของเด็กหนุ่มวัยใสอย่างหื่นกระหายไม่ปรานี ในวินาทีที่ร่างกายกำลังจะถูกรุกล้ำ เด็กน้อยได้แต่ร้องไห้น้อยใจในโชคชะตา ในวันที่เกิดมาเขามีพร้อมทุกอย่างมากมาย หลานชายคนแรกของตระกูลผู้ดีเก่าย่านราชวัตร ตายายรับขวัญหลานชายด้วยกำไลข้อเท้าฝังเพชร เติบโตมาในบ้านหลังใหญ่ ห้อมล้อมไปด้วย แม่นม พี่เลี้ยงและคนรับใช้ เคยได้ทุกอย่างแม้แต่สิ่งที่ไม่เคยคิดอยากได้ บิดามารดารักและตามใจด้วยเป็นบุตรชายเพียงคนเดียว แต่ในวันที่ยังเป็นเพียงเด็กชายแดนดิน การเปลี่ยนแปลงหลายอย่างก็เกิดขึ้นในชีวิตจนแทบจะตั้งรับไม่ไหว คุณตาคุณยายจากไปได้ไม่นาน มารดาก็มาจากไปเพราะโรคร้าย บิดาจมอยู่ในห้วงของความทุกข์โศกโดยลืมใส่ใจว่าลูกชายกำลังก้าวเข้าสู่วัยรุ่น วัยที่ต้องการการเอาใจใส่ วัยที่อยากคุยเรื่องที่ผู้ชายเขาคุยกัน ลืมแม้กระทั่งลูกชายของเขาก็เสียใจเช่นกันที่มารดาจากไป หลังจากนั้นไม่นานการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ก็เกิดขึ้น แพรวาก้าวเข้ามาในครอบครัวของเขา ความหวังรังรองที่ช่วยให้บิดามีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง ครอบครัวของเขากำลังจะมีความสุขอีกหน ทุกอย่างมันกำลังจะดีถ้าอีกไม่กี่ปีต่อมาธุรกิจของบิดาจะไม่ประสบปัญหา ครอบครัวเข้าสู่วังวนของหนี้สิน คุณหนูแดนดินกลายเป็นเพียงเด็กชายธรรมดา ๆ คนหนึ่ง ไม่มีของเล่นใหม่ ไม่ได้ไปซัมเมอร์ที่ต่างประเทศ ไม่มีแม้แต่ค่าเรียนพิเศษ ค่าติวเพื่อสอบเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย คุณหนูแดนดินผู้เข้มแข็ง เด็กน้อยที่โตเป็นผู้ใหญ่เกินตัวเพราะความจำเป็นบีบบังคับ เขาผ่านมันมาได้ทุกอย่าง แต่เขากำลังเพลี่ยงพล้ำเพียงเพราะความคิดชั่ววูบ ความคิดที่จะหาเงินให้ได้มาก ๆ เพื่อรักษาสมบัติชิ้นสุดท้ายของมารดา เขากำลังกลายเป็นนายแดนดินผู้ไร้ค่า ขายได้แม้กระทั่งศักดิ์ศรีของตัวเอง ในวินาทีสุดท้าย แดนดินไม่ยอมแพ้ให้กับโชคชะตา เขาควานหาทางรอด มือน้อยคว้าเอาที่เขี่ยบุหรี่คริสตัลข้างโซฟา ฟาดอย่างแรงลงบนศีรษะของเสี่ยโจ “โอ๊ย!” เลือดอาบเป็นทางลงข้างขมับ เพราะแดนดินฟาดแรงไม่นับ เด็กน้อยดิ้นรนออกจากร่างใหญ่ แล้ววิ่งหนีออกไปสุดชีวิต ชายชุดดำวิ่งสวนเข้าไปหาเจ้านาย แดนดินได้ยินเสียงเคียดแค้นดังมาจากด้านหลัง “จับมันมาให้ได้!” ไม่เพียงแต่ชายชุดดำคนนั้นที่วิ่งตามหาเขา แต่ยังรวมถึงการ์ดของผับอีกหลายคนด้วย “ทางนั้น” เด็กน้อยวิ่งหนีอย่างไร้ทิศทาง จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าแพรวาพาเขาเข้ามาทางไหน ยิ่งหนีเหมือนยิ่งถูกตีวงล้อม เสียงฝีเท้ารัวดังเข้ามาใกล้ ทันใดนั้นประตูห้องวีไอพีห้องหนึ่งก็ถูกเปิดออก พนักงานเสิร์ฟเดินออกมาแล้วเลี้ยวหายเข้าไปตรงมุมหนึ่ง แดนดินจึงรีบผลักประตูบานนั้นพาตัวเองเข้าไปยืนหอบหายใจแรงอยู่หลังบานประตู เสียงฝีเท้าด้านนอกกำลังดังรัวผ่านหน้าห้อง แดนดินหลับตากลั้นลมหายใจ หวังว่าจะไม่มีใครเห็นว่าเขาเข้ามาหลบอยู่ในนี้ หัวใจดวงน้อยเต้นระส่ำ มือบางสั่นระริก เปลือกตาเรียวที่ปิดสนิทมีรอยน้ำตาเปื้อนอยู่ตรงหางตา เสียงฝีเท้าด้านนอกดังห่างออกไปจนเงียบหายไปในที่สุด แดนดินจึงได้ผ่อนลมหายใจ แล้วค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา แต่ภาพที่เห็นตรงหน้าทำหนุ่มน้อยหัวใจกระตุก หากเสี่ยโจเป็นเสือ บุรุษตรงหน้าอาจเรียกได้ว่าเป็นจระเข้ เขาหนีสิ่งหนึ่งเพื่อมาปะกับอีกสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่า ชายหนุ่มผู้มีดวงตาสีประหลาดกำลังจ้องมองมาทางเขา เดาไม่ได้เลยว่าเจ้าของแววตาเศร้านั้นกำลังรู้สึกเช่นไร ไม่พอใจด้วยถูกรุกล้ำเข้ามาในที่ส่วนตัว หรือพึงพอใจในตัวเด็กชายร่างบอบบางภายใต้เสื้อผ้าหลุดลุ่ย ชายผู้นั้นไม่ได้ต่อว่าหรือถามไถ่ว่าเหตุใดแดนดินจึงเข้ามายืนอยู่ตรงนี้ เขาเพียงนั่งไขว่ห้าง เอนหลัง จิบไวน์ แล้วใช้ดวงตาสีเทอร์คอยส์สำรวจร่างบางตั้งแต่หัวจรดเท้า เสียงเอะอะด้านนอกดังขึ้นอีกครั้ง “มันต้องเข้าไปในห้องไหนสักห้อง” หัวใจหนุ่มน้อยเต้นแรง เมื่อเสียงเคาะประตูห้องข้าง ๆ ดังขึ้น เสียงพูดคุย เสียงขอโทษ และเสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามาใกล้ แผ่นหลังบอบบางสั่นตามแรงเคาะที่นอกประตู พลันน้ำตาก็ไหลลงมาบนซีกแก้มด้านหนึ่ง “ขออนุญาตครับคุณเมลวิน เรากำลังตามหาตัวคนร้าย มีเด็กผู้ชายใส่เสื้อสีขาวเข้ามาหลบอยู่ในนี้หรือเปล่าครับ” “จะลองค้นดูก็ได้ แต่ถ้าพวกนายทำให้เด็กของฉันตกใจแล้วละก็ คงไม่ต้องบอกนะ ว่าฉันจะจัดการพวกนายยังไง” ชายหนุ่มที่ถูกเรียกว่าคุณเมลวิน เอ่ยปากอนุญาตให้คนที่ยืนอยู่ข้างนอกเข้ามา ในขณะเดียวกัน เขาก็คว้าร่างของแดนดินมาวางคร่อมไว้บนตัก รูดเสื้อยืดหลุดลุ่ยสีขาวรวดเร็วจนพ้นร่าง แล้วเอามันยัดไว้ใต้สะโพก เขาตวัดสูทสีดำที่วางพาดไว้บนพนักโซฟามาคลุมร่างเปลือยเปล่า ก่อนจะกดศีรษะทุยให้รับจุมพิต ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วจนแดนดินไม่ทันได้ต่อต้าน หนุ่มน้อยทำได้เพียงหลับตาแล้วกลั้นหายใจ ปล่อยให้ผู้ชายที่มีดวงตาสีเทอร์คอยส์ใช้สองมือกอบกุมใบหน้า ใช้ริมฝีปากบดจูบ ใช้ไออุ่นปกป้องเขาจากพวกคนชั่วที่หมายเอาผิด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD