บทนำ (เล่ม 1)
Demon's Love แอบรัก... นายรุ่นน้อง!
Writer : Aile'N
บทนำ (เล่ม 1)
"เห๋? มาสมัครงานหรอ?"
ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งเจ้าของใบหน้าหล่อคมฉายแววจิตใจดีอบอุ่นในวัน 30 ปีต้นๆ ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความแปลกใจ พร้อมมองสำรวจเด็กสาวตรงหน้าอย่างพิจารณา เพราะใบหน้าสวยขาวซีดเนียนละเอียด ดวงตากลมโตใต้แพขนตางอนยาวสลวย จมูกโด่งรั้น ปากบางเล็กอมชมพูระเรื่อน่ามอง รูปร่างสูงเพรียวทว่าบอบบาง ทั้งหมดทั้งมวลทำเอาคนเป็นผู้จัดการอย่าง' คิม' ต้องคิดหนัก ด้วยเหตุผลที่ว่าหญิงสาวไม่เหมาะที่จะมาทำงานในผับในบาร์กลางคืนอย่างนี้เลย มันอันตราย.. แต่ดวงตาคู่สวยกลับมองจ้องมาที่เขาอย่างคาดหวัง แล้วอย่างนี้จะปฏิเสธได้ยังไงกันล่ะ!
"ค่ะ.. หนูอยากทำจริงๆ" เสียงหวานเรียบๆ ติดจะฟังดูอ้อนวอนอยู่ในทีเอ่ยกดดันขึ้น ยิ่งทำให้คิมต้องขมวดคิ้วหนัก คิมเป็นผู้จัดการที่ 'คิงผับ' แห่งนี้มาหลายปีแล้ว ด้วยความที่ทำงานดีทำมานานและอายุมากกว่าคนอื่น 'เนตัน' ที่เป็นหนึ่งในบรรดาเจ้าของผับทั้ง 5 คนจึงมอบหมายตำแหน่งนี้มาให้เขา คิมสามารถตัดสินใจเองได้หลายอย่างตามที่เห็นสมควรโดยไม่ต้องผ่านเจ้านาย รวมทั้งการรับสมัครพนักงานด้วย
"งั้นเอาเอกสารมาดูก่อน.." คิมบอกเสียงเคร่ง 'น้ำขิง' จึงหยิบซองใส่เอกสารในกระเป๋าสะพายออกมาให้ร่างสูงดูอย่างคนมีหวัง ถึงแม้คิมจะทำท่าทางลำบากใจนิดๆ ก็เถอะ แต่เธอเลือกที่จะไม่ใส่ใจ เธอมีเหตุผลหลายๆ อย่างที่จะต้องเข้าทำงานที่นี่ให้ได้ แม้มันจะเสี่ยงอันตรายเพราะเธอเป็นผู้หญิง เพื่อนก็ห้ามแต่น้ำขิงไม่มีทางเลือกนัก! ไม่งั้น 'แม่มณี' กับพี่ๆ น้องๆ เธอต้องแย่แน่!
"ปวริษา วฐิรไพศาล.. วฐิรไพศาล?" เสียงทุ้มพึมพำชื่อของร่างบางตรงหน้าอย่างสงสัยและครุ่นคิดหนักพร้อมทวนนามสกุลของเธอไปมาซ้ำๆ หลายครั้ง คิ้วเรียวขมวดคิ้วชนกัน ก่อนเงยหน้าจากเอกสารในมือขึ้นมองใบหน้าสวยใสอีกครั้ง แล้วถึงหันไปหาเด็กหนุ่มที่กำลังยกแก้วมาวางลงตรงหลังเคาน์เตอร์บาร์ที่เขายืนอยู่
"เจ.. รู้จักนามสกุลนี้มั้ย? พี่คิดไม่ออกว่ะ แต่คุ้นๆ" มือหนายื่นเอกสารสีขาวสะอาดไปตรงหน้าลูกน้องตัวเอง เจก้มลงมองไล่สายตาไปบนตัวหนังสือในหน้าเอกสารนั้นอย่างสนใจ เมื่อเห็นเขาก็นึกออกทันที
"นามสกุลเจ้าสัวคงชัยไงพี่คิม" เจบอกอย่างไม่คิดอะไร ก่อนมองเลยไปที่หญิงสาวข้างหลังคิม เมื่อได้สบตากันหัวใจดวงน้อยๆ ของเด็กหนุ่มถึงกับพองโตคับอก เต้นถี่ไม่เป็นส่ำแม้ใบหน้าสวยนั้นจะเรียบนิ่งไม่แม้แต่จะยิ้มให้ใครเลยสักนิด คิมถึงกับเลิกคิ้วขึ้นสูงอย่างตกใจ ก่อนหันกลับมามองหน้าน้ำขิงอีกครั้ง
"เป็นลูกเจ้าสัวคงชัยงั้นหรอ? แต่ที่รู้มาเจ้าสัวกับภรรยาไม่มีทายาทไม่ใช่หรอ?" คิมถามอย่างสงสัย และในสมองเขาความคิดก็กำลังตีรวนกันอยู่ เจ้าสัวคงชัยเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 9 ของประเทศ! ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักกันมากในวงกว้างไม่ใช่แค่บรรดานักธุรกิจ คนหลายวัยรู้จักเขาดีเพราะเจ้าสัวกับภรรยาชอบทำบุญทำกุศล ทั้งบริจาค สร้างมูลนิธิเพื่อคนชราเด็กสตรีและอื่นๆ อีกมากมายนับไม่ถ้วน แม้แต่เด็กวัยรุ่นอย่างเจก็ยังรู้จัก
"เป็นแค่ลูกบุญธรรมค่ะ" หญิงสาวตอบกลับเรียบๆ คิมพยักหน้าเข้าใจแต่ที่ไม่เข้าใจคือเป็นถึงลูกสาวบุญธรรมคนรวยแท้ๆ ทำไมถึงอยากทำงานแล้วงานก็เป็นงานในผับในบาร์ด้วย
"ทำไมถึงอยากทำ?" คิมถามต่อด้วยท่าทางสนใจ เจก็สนใจแต่เด็กหนุ่มต้องทำงานเลยเดินไปเดินมาอยู่ไม่ไกล เป็นธรรมดาเมื่อผู้ชายเห็นผู้หญิงสวย ไม่ใช่แค่เจแต่พนักงานคนอื่นก็มองมาที่คนทั้งคู่เรื่อยๆ โดยที่ยังวิ่งวุ่นทำงานไปด้วย
"หนูมีเหตุผลจำเป็นค่ะ ช่วยรับด้วยเถอะนะคะ" น้ำขิงยกมือไหว้คิมแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำเอาร่างสูงเกือบรับไหว้เกือบไม่ทัน
"แน่ใจแล้วหรอที่จะทำ.. แล้วจะกลับยังไง เป็นผู้หญิงค่ำมืดดึกดื่นมันอันตรายนะ" คิมบอกด้วยความเป็นห่วงจากใจจริง ถึงในผับจะมีพนักงานผู้หญิงแต่พวกนั้นก็มีแฟนมารับมาส่งแถมยังมีแต่คนกร้านโลกทั้งนั้น พวกเธอดูแลตัวเองได้แต่กับผู้หญิงเรียบร้อยๆ อย่างน้ำขิงคิมไม่มั่นใจว่าเด็กสาวจะดูแลตัวเองได้ถ้าคิดจะมาทำงานอย่างนี้
"แน่ใจค่ะ.. หนูทำได้! เพื่อนจะมารับกลับ ไม่ต้องห่วง ให้หนูทำเถอะนะคะ หนูขอร้อง.." หญิงสาวยกมือไหว้อีกครั้งทำคิมต้องคิดหนัก เธอดูตั้งใจและอยากทำมากจนอดเห็นใจไม่ได้ แม้เด็กสาวคนนี้จะดูไม่เหมาะกับงานแบบนี้เลยก็ตาม
"เฮ้อ.. ก็ได้พี่จะรับเราเข้าทำงาน แต่ถ้ามีปัญหาหรือทำไม่ไหวก็บอกได้ตลอด ไม่ต้องเกรงใจ" ร่างสูงบอกยิ้มๆ ก่อนชะงักไปเมื่อเห็นรอยยิ้มของร่างบางตรงหน้าเป็นครั้งแรก เคยสงสัยชั่วไม่กี่วินาทีก่อนหน้าว่าทำไมคนตัวเล็กถึงไม่ยิ้มเลยสักครั้ง คิมคิดว่าเธอคงจะประหม่าเกร็ง เขาเลยพยายามยิ้มให้เพื่อให้บรรยากาศผ่อนคลาย แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าให้น้ำขิงทำหน้านิ่งๆ อย่างเดิมแหละดีที่สุด!
"ขอบคุณค่ะ! ขอบคุณมากๆ" เธอบอกพร้อมยกมือไหว้ขอบคุณคิมซ้ำๆ
"พอแล้วๆ ไม่ต้องไหว้อะไรขนาดนั้น.. ว่าแต่ชื่ออะไร พี่ชื่อคิมเป็นผู้จัดการที่นี่ มีไรก็บอกพี่ได้ตลอดเลยนะ"
"น้ำขิงค่ะ.. ขอบคุณอีกครั้งนะคะ"
"แก่ก็ยอมรับว่าแก่สิครับคุณผู้จัดการ มาแทนตัวเองว่าพี่ไม่รู้สึกขัดๆ บ้างหรอฮะ" เด็กหนุ่มที่ยืนทำงานอยู่ไม่ไกลแซวขึ้นอย่างทะเล้นทั้งที่ตัวเองก็เรียกคิมว่าพี่มาตั้งแต่ทำงานที่นี่วันแรก ภายนอกนั้นคิมก็ไม่ได้แก่อะไรมากมายตรงกันข้ามกลับดูอ่อนกว่าวัยนัก บอกอายุจริงไปไม่มีใครเชื่อแน่นอน เพียงแต่เจรู้สึกหมั่นไส้เล็กน้อยถึงปานกลางก็เลยแซวเล่นตามประสาคนชอบกวน คิมเหล่ตามองเด็กหนุ่มนิ่งๆ แต่เจกับยักไหล่กวนๆ กลับอย่างอวดดี
"พร้อมเริ่มงานวันไหนล่ะ?" คิมเลิกสนใจเด็กกวน หันมาคุยกับน้ำขิงอีกครั้ง
"ได้ตลอดค่ะ" ร่างบางตอบเรียบๆ กลับมาอยู่ในโหมดเดิมคือนิ่ง! --
"อืมๆ งั้นเริ่มงานพรุ่งนี้เลยแล้วกัน.. เดี๋ยวรอตรงนี้ก่อนนะ พี่จะไปเอาชุดพนักงานมาให้ ระหว่างรอก็ฟังรายละเอียดการทำงานคร่าวๆ กับเจไปก่อนแล้วกัน เดี๋ยวพี่มา... เจ! แนะนำเพื่อนใหม่ด้วย" คิมบอกน้ำขิงเสียงนุ่ม ก่อนหันไปพูดเสียงเข้มกับเจทำเอาเด็กหนุ่มสะดุ้งเล็กๆ สงสัยโกรธเรื่องที่เจแซวไม่หาย คนแก่ขี้ใจน้อย.. หรือจะจริง?
"หวัดดีครับ ผมชื่อเจเจ เรียกเจเฉยๆ ก็ได้ เห็นในใบสมัครเมื่อกี้ดูเหมือนจะอายุมากกว่าผมคงต้องเรียกพี่ แต่ยินดีที่สุดเลยที่ได้เพื่อนร่วมงานใหม่น่ารักๆ แบบนี้นะครับ^^" เจเดินเข้ามาทักน้ำขิงใกล้ๆ ด้วยสีหน้าแววตาแพรวพราวอย่างเห็นได้ชัด การจู่โจมแบบกะทันหันทำเอาร่างบางถอยห่างออกมาเล็กน้อยด้วยความตกใจ
"เอ่อ พี่ชื่อน้ำขิง.. ยินดีที่ได้รู้จัก" เสียงหวานตอบกลับอย่างเกร็งๆ โดยใช้แทนตัวเองว่าพี่โดยอัตโนมัติ แต่ใบหน้าสวยกลับเรียบนิ่งจนเจเริ่มใจแป้วคิดว่าร่างบางคงไม่ชอบขี้หน้าเขาแน่ๆ
"เอ่อ.. พี่เป็นคนเงียบๆ แบบนี้แหละ ไม่ค่อยยิ้ม พี่ไม่ได้ไม่พอใจอะไรเจหรอกนะ" น้ำขิงพูดต่อด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งเช่นเดิม แต่มุมปากบางยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยเพื่อไม่ให้เจทำหน้าเหมือนกำลังลำบากใจไปมากกว่านี้ คำบอกกล่าวทำร่างสูงชะงักไปนิดเพราะเธออ่านความคิดเขาได้ถูกเป๊ะอย่างน่าตกใจ
"แหะๆๆ รู้ทันด้วย^^" เป็นคนที่แปลกจัง เอาเถอะจะพยายามชิน.. ผมว่าเรามาคุยเรื่องงานกันดีกว่า ขืนพี่คิมกลับมายังไม่ได้อะไรคืบหน้าผมโดนด่าแน่ๆ" เจพูดติดตลก น้ำขิงเพียงพยักหน้ารับนิ่งๆ เจจึงเริ่มบอกรายละเอียดของงานทั้งหมดรวมถึงสิ่งควรทำและสิ่งไม่ควรที่เป็นกฎของที่นี่ให้เธอฟังก่อนคร่าวๆ ในระหว่างที่ยืนคุยกันอยู่ตรงเคาน์เตอร์บาร์โดยที่เจก็ทำงานไปด้วยคุยให้น้ำขิงฟังไปด้วย เธอไม่มีคำถามอะไรที่สงสัยเลยแถมยังนิ่งเงียบฟังอย่างตั้งใจ แม้แต่รอบข้างกำลังมีอะไรบางอย่างที่เปลี่ยนไปร่างบางก็ยังไม่มีท่าทีจะสนใจ จนร่างสูงของบุคคลที่กำลังตกเป็นเป้าสายตาเดินมานั่งลงตรงเคาน์เตอร์บาร์ที่เจทำงานอยู่แล้วนั่งท้าวคางมองเจสลับกับน้ำขิงอย่างสนใจ
"อะไรเฮีย? งานการไม่มีทำหรือไงถึงได้มานั่งมองคนอื่นเขาคุยกันเนี่ย มารยาทน่ะรู้จักมั้ยครับ" เมื่อรู้ตัวว่ามีมือที่สามเข้ามาร่วมแจม เจก็หันมามองหน้าใครคนนั้นกวนๆ ทั้งสีหน้าแววตาและคำพูดคำจา คนถูกว่าชักสีหน้าฉุน มองเหวี่ยงกลับอย่างไม่พอใจ แต่เด็กหนุ่มก็ยังยืนกอดอกมองเขาด้วยรอยยิ้มทะเล้นตามนิสัย
"สาบานว่ากูยังเป็นเจ้านายมึงอยู่? =_=*" เสียงทุ้มเข้มขรึมตอบกลับหน้านิ่ง การปรากฏตัวของ 'เวย์อิ้ง' ทำให้น้ำขิงหันมาสนใจเป็นครั้งแรก ดวงตากลมโตหันไปมองสบตากับดวงตาคมกริบของเขาอย่างจัง แต่หญิงสาวกลับยืนนิ่งเฉยไม่แสดงอาการใดๆ เลยเมื่อเห็นเขา ทำเอาคนหล่อเป๋ไปนิดก่อนหันไปถามเจ
"ใครวะ เมียมึงหรอ? สวยขนาดนี้เลย?" เวย์อิ้งถามอ้อมแอ้มอย่างไม่อยากจะเชื่อ เจส่ายหน้าระรัวก่อนหลุดขำออกมาพร้อมคิดว่าถ้าแฟนเขาสวยขนาดนี้ก็ดีน่ะสิ จะไม่ยอมให้ออกจากบ้านไปไหนเลย!
"เปล่าๆ พี่เขามาสมัครงานเฉยๆ เลยได้คุยกันฮะ" คำบอกกล่าวทำคิ้วเรียวของเวย์อิ้งเลิกขึ้นสูงอย่างแปลกใจขณะมองกลับมาที่ดวงหน้าสวยของร่างบางอีกครั้ง
"จะไหวหรอ?" ถามต่อทั้งที่ยังไม่ละสายตาคมไปไหน คนตัวเล็กพยักหน้ารับนิ่งๆ ไม่ใช่ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่จะให้ทำไงได้ ในใจดีใจแทบตายที่ได้เจอคนดัง แค่จะให้ไปกระโดดโลดเต้นมันนิสัยเธอซะเมื่อไร!
"เอากลับบ้านเลยมั้ยเฮียถ้าจะจ้องขนาดนี้!" เจแซวพร้อมใช้ดิ้นดุนกระพุ้งแก้มกวนๆ เมื่อเห็นร่างสูงจ้องน้ำขิงตาไม่กระพริบ น้ำขิงเองก็บ้าจี้มองเขากลับนิ่งๆ เหมือนกัน ทั้งที่ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนจ้องตาเขากลับได้นานขนาดนี้เลยสักคน
"ไปมั้ยล่ะ งานสบายกว่าที่นี่เยอะ" เสียงทุ้มตอบกลับนิ่งๆ ตาคมยังมองใบหน้าสวยไม่ละไปไหน คำบอกกล่าวทำเจเบะปาก ว่าแล้วว่าจะต้องได้รับคำตอบแบบนี้
"เหอะ.. เพลาๆ บ้างเถอะเฮีย พนักงานก็ไม่เว้น" เจว่าพร้อมส่ายหน้าไปมา เพราะรู้ว่างานที่เจ้านายว่าหมายถึงอะไร เวย์อิ้งไหวไหล่กวนๆ กำลังจะพูดอะไรสักอย่างต่อแขนแกร่งของใครบางคนก็เกี่ยวมาที่ต้นคอเขาอย่างแรงจนเกือบหงายตกเก้าอี้
"เฮ้ยเจ คิมล่ะ?" ผู้มาใหม่คล้องคอเวย์อิ้งไว้แต่หันไปถามเจอย่างรีบเร่ง ไม่สนใจมองใครคนอื่น คนที่ถูกรบกวนเงยหน้าขึ้นมองเสี้ยวหน้าของเพื่อนอย่างเซ็งๆ
"อยู่ในห้องเก็บของครับเฮียแอล" เจตอบกลับทันที ร่างสูงของ 'แอล' พยักหน้ารับก่อนผละจากคอเพื่อนเดินไปหาคิมโดยไม่มีการทักทายใดๆ ไม่ทันได้มองด้วยว่ามีอีกสายตาคู่หนึ่งจ้องมองเขาอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่ที่เห็นเดินเข้ามา!
"เฮียแกดูรีบๆ เน๊าะเฮียเวย์" เจพูดขึ้นในขณะที่มองตามหลังร่างสูงของแอลเข้าไปในห้องเก็บของที่อยู่หลังบาร์
"พี่สาวไอ้ซีเพิ่งกลับจากฝรั่งเศษไง วันนี้นัดกันมาดริ๊งค์ มันเลยดิ้นพล่านหาเหล้าฝรั่งอย่างดีที่พ่อมันซื้อมาฝากจากมอสโคขวดละ 5 แสนเอามาเลี้ยงต้อนรับเขา ทีกูขอแดกเสือกไม่ให้ บอกจ่ายมา 5 แสน ทีผู้หญิงเสือกให้กินฟรี มึงดูเอาเหอะ!" เวย์อิ้งเริ่มขึ้นเสียงอย่างเดือดดาล ทำเอาเจหลุดขำออกมาไม่ได้ ของฟรีนี่มันไม่เข้าใครออกใครจริงๆ สินะ ขนาดคนรวยยังอยากได้ของฟรีเลย
บทสนทนาของทั้งคู่ดังก้องอยู่ในโสตประสาทของคนที่สามตลอดเวลา ใบหน้าสวยเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินพวกเขาพูดถึงร่างสูงที่หายเข้าไปในห้องเก็บของ เธอรู้จักเขาดี.. เพราะเขาอยู่ในใจเธอมาตลอด 8 ปีเต็มๆ ไม่ผิดหรอก.. เธอแอบรักเขา แต่ที่มาทำงานที่นี่ไม่ได้ตั้งใจจะมาเพื่อเจอเขา นั่นมันผลพลอยได้เพราะจริงๆ แล้วน้ำขิงต้องการเงินไปให้แม่กับพี่ๆ น้องๆ ที่บ้านเด็กกำพร้า สถานที่ที่น้ำขิงเติบโตมหลายปี คนที่นั่นกำลังลำบากเพราะเศรษฐกิจไม่ดีคนจึงไม่ค่อยไปบริจาค ถึงนามสกุลที่น้ำขิงใช้จะเป็นนามสกุลดังของครอบครัวบุญธรรมที่รับเธอมาเลี้ยงตอนอายุได้ 12 ปี แต่เธอก็ไม่คิดจะรบกวนพวกเขา เธอถูกชุบเลี้ยงใหม่อย่างดีจนไม่กล้าเรียกร้องอะไรอีกแล้ว จึงขอออกจากบ้านมาอยู่หอกับเพื่อนเพื่อหางานทำและส่งเงินไปให้ 'แม่มณี' ผู้ดูแลสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่เปรียบเสมือนแม่ของเด็กๆ ทุกคนที่นั่นรวมทั้งน้ำขิงด้วยเพื่อแบ่งเบาภาระ
ถึงน้ำขิงจะออกมาอยู่กับเศรษฐีหมื่นล้านตามที่ทุกคนรู้จักกันในนามเจ้าสัวคงชัยแต่น้ำขิงก็ไม่เคยทะนงตัวลืมรากเหง้าของตัวเอง เธอยังกลับไปเยี่ยมแม่มณีกับพี่ๆ น้องๆ ที่นั่นเสมอ ทำงานและส่งเงินให้เพื่อทดแทนบุญคุณที่แม่มณีชุบเลี้ยงเธอมาตั้งแต่เด็ก ตอนแรกน้ำขิงทำงานเสิร์ฟอยู่ที่ร้านกาแฟหน้ามหาวิทยาลัยที่เรียนอยู่เป็นพาร์ทไทม์ แต่เงินเดือนมันน้อยนิดไม่พอจ่าย เธอถึงต้องมาสมัครทำงานกลางคืนที่นี่ด้วย เรื่องนี้จะให้เจ้าสัวรู้ไม่ได้อย่างเด็ดขาดเพราะท่านต้องห้ามแน่ แต่เธอไม่มีทางเลือกขนาดนั้น เธอรบกวนพวกเขามากแล้ว..
"เหี้ยเวย์มึงจะขึ้นพร้อมกูมั้ยเนี่ย!" เสียงเข้มตะโกนแข่งกับเสียงเพลงทำร่างบางหลุดออกจากภวังค์ความคิดของตัวเอง หลังจากที่หายเข้าไปในห้องเก็บของไม่นานแอลก็ออกมาพร้อมเหล้าหนึ่งขวดในมือ เธอขยับตัวเล็กน้อยเพื่อให้ร่างสูงของเจบังตัวเธอไม่ให้แอลได้เห็นเพราะเขาอาจจะจำเธอได้ น้ำขิงเคยเรียนที่เดียวกันกับแอลสมัย ม.ปลาย เธอเคยเนียนไปแอบมองเขาบ่อยๆ โดยที่ทำเป็นเหมือนไม่ได้สนใจ แต่จริงๆ แอบมองเขา ทั้งที่คิดไว้แต่แรกแล้วว่ายังไงมาที่นี่ต้องเจอเขาแน่ แต่ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้.. เธอทำใจไม่ทันและยังไม่พร้อมให้เขาเจอเธอในตอนนี้ โชคดีที่ตอนเข้ามาเขารีบร้อนจนไม่ทันสังเกต แต่บางทีถ้าแอลเห็นเธอจริงๆ เขาก็อาจจะจำเธอไม่ได้ก็ได้.. เธอไม่ได้เจอเขามาสามปีแล้วนี่นา
"เออ ขึ้นๆ” เวย์อิ้งตอบกลับ ก่อนลุกขึ้นเดินไปหาคนเรียก แล้วทั้งคู่ก็เดินขึ้นบันไดไปชั้น 2 ที่เป็นห้องวีไอพีส่วนตัว น้ำขิงถอนหายใจอย่างโล่งอก รู้ตัวอีกทีก็เห็นสายตาเจมองมาอย่างสงสัย
"เป็นอะไรหรือเปล่าพี่น้ำขิง.. หรือว่าเห็นความหล่อของเฮียๆ เจแล้วใจละลาย ฮ่าๆๆ เอาน่าๆ เห็นบ่อยๆ เดี๋ยวก็ชิน" เจพูดขำๆ ผู้หญิงทุกคนได้เห็นพวกเจ้านายเขาทั้ง 5 คนในระยะใกล้ชิดขนาดนี้ก็ต้องเขินเป็นธรรมดา ขนาดน้ำขิงที่ดูนิ่งๆ ไม่สนใจใครเจก็ยังรู้สึกได้เลยว่าเธอแปลกไป ตั้งแต่เห็นคนทั้งสอง
"มาแล้วๆ กว่าจะหาเจอ ขอโทษที่ให้รอนานนะ อ่ะนี่ ชุดของเรา" คิมที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องเก็บของพูดแทรกขึ้น เจถึงต้องรีบกุลีกุจอกลับไปทำงานอย่างรวดเร็ว ไม่วายถูกสายตาคิมปราดมองอย่างดุๆ ที่แอบอู้งาน
"ขอบคุณค่ะ.. เอ่อ หนูมีอะไรจะขอ" ร่างบางรับชุดพนักงานมาจากคิมพร้อมขอบคุณก่อนเริ่มเกริ่นเข้าเรื่องที่เธอกำลังเป็นกังวล คิมเลิกคิ้วก่อนพยักหน้าเล็กน้อย
"พูดมาสิ.."
"หนูอยากให้ปิดเรื่องที่หนูเป็นลูกบุญธรรมของเจ้าสัวไว้เป็นความลับ นะคะ?" น้ำขิงบอกเสียงอ่อน คิมมองเธออย่างแปลกใจก่อนพยักหน้ารับ เพราะถ้าคนอื่นรู้ว่าน้ำขิงเป็นลูกสาวบุญธรรมของเศรษฐีทุกคนต้องปฏิบัติดีและให้เกียรติเธอแน่ ทำไมถึงต้องปิด.. หรือเพื่อป้องกันผู้คนนินทาว่าทำไมเป็นลูกคนรวยถึงต้องมาทำงานในที่แบบนี้ นั่นสิ.. คิมก็สงสัย แต่คนเราต่างมีเหตุผลส่วนตัวที่ไม่อยากให้ใครรับรู้ ถึงจะเป็นหัวหน้าแต่คิมก็ไม่ควรซักไซ้เรื่องส่วนตัวของลูกน้องเกินความจำเป็นจึงไม่คิดจะถามอะไรมากไปกว่านี้
"ได้สิ.. ได้ยินมั้ยเจ!?" คิมรับปากก่อนตะเบงเสียงบอกเจอีกคนเพราะเจก็รู้ว่าน้ำขิงเป็นใคร
"ค้าบๆ รู้แล้วครับ"
"รู้อะไร? แสดงว่าแอบฟัง?"
"ชะอุ้ย! แหะๆ^^" เจฉีกยิ้มแห้งๆ พร้อมลูบท้ายทอยแก้เขินเมื่อถูกจับได้ ก่อนรีบชิ่งเอาเหล้าไปเสิร์ฟลูกค้าที่โต๊ะอย่างรวดเร็ว คิมส่ายหน้าอย่างเหนื่อยหน่ายใจ เห็นทีคงต้องกำชับบ่อยๆ เด็กนั่นถึงจะไม่หลุดปากได้ง่ายๆ แบบนี้!
"ขอบคุณค่ะ" น้ำขิงคลี่ยิ้มบางๆ อีกครั้งก่อนยกมือไหว้ขอบคุณร่างสูง คิมกระพริบตาถี่ๆ อีกครั้งก่อนเสมองไปทางอื่นทั้งที่พยักหน้ารับไหว้ไปด้วย
"ม..ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ 2 ทุ่มเจอกัน.. แล้วนี้กลับยังไง"
"เพื่อนรออยู่ข้างนอกค่ะ"
"อืม.. ไม่มีไรแล้วล่ะ กลับได้"
"ค่ะ สวัสดีค่ะพี่คิม" น้ำขิงฉีกยิ้มกว้างก่อนยกมือไหว้ลาคิมอีกครั้ง มือหนายกขึ้นนวดหน้าอกตัวเองทันทีเมื่อหญิงสาวเดินออกไป สงสัยคงต้องไปเช็คหัวใจสักหน่อยแล้วล่ะ มันคงจะทำงานหนักเกินไป -////-
..
..
"มาแล้วๆ" เสียงใสแจ๋วแหลมปรี๊ดเป็นเอกลักษณ์ของ 'มายด์' ตะโกนขึ้นอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นน้ำขิงเดินออกมาจากผับ มือเล็กดึงแขน 'มะนาว' เพื่อนสนิทอีกคนแล้วพาวิ่งเข้าไปหาเพื่อนอย่างรีบเร่ง
"เป็นไงบ้างไอ้ขิง?" มายด์ถามอย่างคาดหวัง
"เขารับใช่ป้ะแก?" มะนาวถามบ้างอย่างอยากรู้ไม่ต่างกับมายด์ คนถูกถามจึงยกถุงชุดพนักงานในมือขึ้นให้เพื่อนดู สองสาวถึงกับกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจแทนเพื่อน แม้ตอนแรกจะไม่เห็นด้วยที่น้ำขิงจะมาสมัครงานที่นี่อีก เพราะต้องเหนื่อยเป็นสองเท่า! กลางวันทำร้านกาแฟ พอตกกลางคืนมาทำในผับ ไม่รู้จะเอาเวลาไหนพัก แต่ก็เห็นใจเพราะครอบครัวที่บ้านเด็กกำพร้าของน้ำขิงกำลังเดือดร้อนหนัก แล้วเพื่อนก็ไม่อยากรบกวนครอบครัวบุญธรรมที่รวยแสนรวยเสียด้วย มีแค่วิธีนี้วิธีเดียวเท่านั้นแหละที่น้ำขิงเลือกแล้วว่าจะทำ!
"แกจะเหนื่อยเกินไปหรือเปล่าน้ำขิง.. ถ้าเจ้าสัวรู้จะทำยังไง.. งี้แกก็กลับไปนอนบ้านไม่ได้น่ะสิ ผับมันไม่มีวันหยุดหรอกนะ" มะนาวหุบยิ้มลงทันทีเมื่อนึกถึงเรื่องนี้อีกครั้ง
แน่นอนว่าถ้าเจ้าสัวคงชัยกับคุณหญิงพิมอรพ่อแม่บุญธรรมของน้ำขิงรู้ พวกท่านคงจะไม่ยอมแน่ ถึงไม่ใช่ผู้ให้กำเนิดโดยตรงแต่คนทั้งคู่ก็รับน้ำขิงมาเลี้ยงได้เกือบสิบปีแล้ว พวกเขาก็ทั้งรักและหวงน้ำขิงมากเหมือนลูกแท้ๆ ในไส้ ตอนที่น้ำขิงบอกจะออกมาอยู่หอกับพวกเธอกว่าที่พวกเขาจะยอมก็เล่นเอาเหนื่อยต้องงัดคำพูดโน้มน้าวใจจนพวกเขายอม แต่ต้องกลับไปนอนบ้านอาทิตย์ล่ะวัน ตอนแรกที่ทำงานแค่ร้านกาแฟน้ำขิงกลับไปนอนบ้านได้เพราะทำแค่กลางวัน แต่ตอนนี้กลางคืนก็ทำพวกเขาต้องสงสัยแน่!!
"ไม่เป็นไร.. พวกเขาบอกว่าพนักงานจะมีวันหยุดคนล่ะวันสับเปลี่ยนกัน ไป เราบอกผู้จัดการแล้วว่าไม่ให้บอกคนอื่นว่าเราเป็นใคร เรื่องคงไม่ถึงหูคุณพ่อหรอก" น้ำขิงปลอบใจเพื่อนรวมทั้งตัวเองด้วย ยืนยันว่ายังไงก็จะทำให้ได้เพื่อแม่มณีกับพี่น้องของเธอ
"ทำไมแกไม่ขอเจ้าสัววะ เงินแค่นี้ขนหน้าแข้งเจ้าสัวไม่ร่วงหรอก แกก็จะไม่ต้องมาทำงานหามรุ่งหามค่ำแบบนี้" มายด์ออกความคิดเห็นแบบเดิมตั้งแต่ที่รู้ว่าน้ำขิงจะทำงานจนถึงตอนนี้ก็ยังพูดประโยคนี้อยู่
"อย่าพูดแบบนี้อีกเลยมายด์.. พวกท่านมีบุญคุณกับเรามากมายจนตอบแทนไม่หมดแล้ว อีกอย่างมันเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องทำงานหาเงินมาให้แม่ณีเลี้ยงพี่เลี้ยงน้อง เพราะถ้าไม่มีแม่ณีก็คงไม่มีเรามาจนถึงทุกวันนี้.. อย่าห้ามเราเลยนะ" น้ำขิงบอกจริงจัง ยังไงก็ไม่มีทางรบกวนครอบครัวบุญธรรมของตัวเองแน่ๆ มายด์ถอนหายใจอย่างอ่อนใจกับความเป็นคนดีเกินไปของเพื่อน มะนาวจึงเอื้อมมือไปตบไหล่มายด์เบาๆ พร้อมสายหน้าไปมาเป็นเชิงบอกว่าห้ามพูดอะไรแบบนี้อีกเพราะน้ำขิงไม่ใช่คนแบบนั้น ดีไม่ดีจะโดนโกรธเอาได้
"ไม่พูดแล้วก็ได้.. แล้ว.. ได้เจอน้องแอลป้ะ!" มายด์ถามเข้าอีกเรื่องด้วยความตื่นเต้นดีใจอีกครั้ง เพราะเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่ ม. ต้น เลยรู้ว่าน้ำขิงแอบรักแอลมาเนิ่นนานแค่ไหนแต่มันเป็นรักข้างเดียวที่เป็นไปไม่ได้ก็เลยได้แค่แอบรักเรื่อยไป ไม่คาดหวังหรือเรียกร้องให้เขามาสนใจ
"อะ อื้ม.. เจอ _///_" ใบหน้าสวยที่เคยเรียบนิ่งเปลี่ยนไปทันทีเมื่อพูดถึงผู้ชายคนที่มายด์ถามถึง ตากลมหลบลงต่ำมองมือตัวเองทั้งใบหน้าขาวซีดเริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อจางๆ
"จริงหรอ!? อ๊ายยย! น้องเค้าจำแกได้ป้ะ??" มายด์เต้นเร่าบิดตัวเขินอย่างตื่นเต้นแทนเพื่อน ร่างบางมองสบตาเพื่อนก่อนส่ายหน้าไปมาน้อยๆ
"น้องเค้าไม่เห็นเราหรอก ดูรีบๆ" น้ำขิงบอกเสียงเบา มายด์ถึงกับเซ็ง
"แก.. น้องแอลคือใครวะ?" มะนาวที่ไม่รู้เรื่องอะไรสะกิดถามมายด์อย่างสงสัย เพราะเพิ่งรู้จักมายด์กับน้ำขิงตอนเข้ามหาวิทยาลัยเลยไม่รู้เรื่องนี้
"แอลไง เดมอนส์อ่ะ! รุ่นน้องที่โรงเรียนเก่าพวกฉัน เป็นเจ้าของผับนี้ด้วย ไอ้ขิงมันชอบน้องเค้ามา 7-8 ปีได้แล้วมั้ง" คำบอกทำคนฟังอดรู้สึกแปลกใจไม่ได้ เพราะมีคนที่ชอบอยู่ในใจแล้วนี่เอง ตลอดเวลาที่มีรุ่นพี่รุ่นน้องมาจีบน้ำขิงถึงปฏิเสธพวกนั้นไปหมดไม่ว่าจะหล่อรวยแค่ไหนก็ตาม
"โห.. นานขนาดนั้นยังไม่ลืมอีกหรอ?"
"ถ้าไม่เจอกันอีกก็คงจะลืมได้มั้ง แต่ถ้าได้ทำงานที่นี่คงยากที่จะลืมอ่ะ ยังไงก็ต้องเจอ.." มายด์ตอบคำถามมะนาวแทนน้ำขิงที่เอาแต่ยืนก้มหน้า สองมือกำแน่น พลันในหัวก็นึกถึงคำพูดของใครบางคนขึ้นมา
"พี่สาวไอ้ซีเพิ่งกลับจากฝรั่งเศษไง วันนี้นัดกันมาดริ๊งค์ มันเลยดิ้นพล่านหาเหล้าฝรั่งอย่างดีที่พ่อมันซื้อมาฝากจากมอสโคขวดละ 5 แสนเอามาเลี้ยงต้อนรับเขา ทีกูขอแดกเสือกไม่ให้ บอกจ่ายมา 5 แสน ทีผู้หญิงเสือกให้กินฟรี มึงดูเอาเหอะ!"
ถ้าเวย์อิ้งพูดแบบนั้น.. ก็แสดงว่าผู้หญิงคนนั้นต้องมีความสำคัญกับแอลมากแน่ๆ ถึงจะเตรียมใจไว้แล้วแต่มันก็ไม่ใช่ง่ายๆ เลยนะที่จะห้ามใจตัวเองไม่ให้คิด.. แต่ถึงอย่างนั้นน้ำขิงก็ไม่ได้หวังอะไรมากไปกว่านี้หรอก.. เธอไม่มีสิทธิ์คาดหวังอะไรทั้งนั้น แค่ได้เจอเขาอีกครั้งมันก็เหลือเชื่อแค่ไหนแล้ว..
..
..
..
..