บทที่ 2.1 - เจ้าชีวิต (ก็ฉันอยากได้เธอ)

1086 Words
หลังจากปริญกลับไปเอื้องฟ้าก็ถอนหายใจโล่งอกแล้วรีบเข้าห้องน้ำถอดผ้าอนามัยที่เธอตั้งใจใส่เพื่อหลอกเขาว่ามีรอบเดือนออกทันที สายตาคอยมองบานประตูห้องน้ำเพราะกลัวเขาจะย้อนกลับมา ร่างบางเดินไปที่อ่างล้างหน้ายืนมองตัวเองผ่านกระจกเงาบานใส ใบหน้าสวยหวานซ่อนความเจ็บปวดไว้ภายใต้รอยยิ้มสดใส ชีวิตของเอื้องฟ้าเหมือนตกนรกทั้งเป็นตั้งแต่วันที่ปริญโกหกเธอเรื่องคืนนั้น เขาบอกว่าเธอตกเป็นของเขาและใช้ความได้เปรียบที่มีบังคับให้เธอยอมอยู่ภายใต้โอวาท จนกระทั่งวันที่เธอรู้ความจริง ร่างกายที่คิดว่าแปดเปื้อนมลทินยังคงบริสุทธิ์ เธอจำสายตาเย้ยหยันของเขาได้ไม่เคยลืม เขาดูไม่ทุกข์ร้อนต่อสิ่งที่กระทำลงไป ซ้ำร้ายยังรังแกเธอด้วยพละกำลังที่มากกว่า ทำให้เธอตกเป็นของเขาอย่างแท้จริง! เอื้องฟ้าหลับตานึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ในวันนั้น… “เข้าไม่ได้นะครับคุณ คุณครับ!” หญิงสาวหน้าหวานปานน้ำผึ้งไม่สนคนห้ามแล้วผลักประตูบานใหญ่เผชิญหน้ากับเจ้าของห้องทำงานหรูหราทันที ปริญที่กำลังเซ็นเอกสารสำคัญอยู่ต้องหยุดชะงัก เงยหน้ามองผู้บุกรุก มุมปากกระตุกยิ้ม เขาโบกมือไล่เลขาฯ ส่วนตัวออกจากห้องแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง “คิดถึงกันมากจนต้องมาหาถึงนี่เลยเหรอ” เผียะ! เอื้องฟ้าไม่พูดพร่ำทำเพลง ตวัดฝ่ามือลงบนซีกแก้มของชายหนุ่มสุดแรง ความโกรธส่งให้เธอกล้าลงมือทำร้ายเขาทั้งๆ ที่ชีวิตนี้ไม่เคยคิดจะตบตีใครเป็นนิสัย เอื้องฟ้าเม้มริมฝีปากแน่น คิดในใจว่ามันช่างสาสมแล้วกับสิ่งที่เขาทำต่อเธอ ทว่าพออีกฝ่ายหันหน้ากลับมามอง สายตาของเขาน่าสะพรึงกลัวจนสาวเจ้าต้องร่นเท้าถอยหนี ปริญดันลิ้นดุนกระพุ้งแก้มพลางยิ้มเยาะ บ้าจริง! เขาโดนหล่อนตบซ้ำสอง ที่เคยลงโทษไปยังไม่เข็ดหลาบใช่ไหมถึงได้กล้าทำร้ายเขา ผู้หญิงที่เคยมองว่าเรียบร้อยราวกับผ้าพับไว้เห็นทีต้องคิดใหม่เสียแล้ว “แรงดีนี่” ปริญเอ่ยปากชม แต่แววตาของเขาไม่ได้รู้สึกอย่างที่พูด เรียวขาแกร่งสืบเท้าไล่ต้อนกวางน้อยแสนพยศที่หลงเข้าถ้ำเสืออย่างไร้เดียงสา จะรู้หรือไม่ว่าถ้ำแห่งนี้เข้าแล้วออกยาก หากเจ้าของอย่างเขาไม่คิดปล่อย “แต่แรงเท่านี้ยังไม่พอนะ ถ้าอยากให้ฉันเจ็บมันต้องหนักกว่านี้” เขาพูดแล้วเบ้ปากนิดๆ เอื้องฟ้าลนลานเดินหนีจนแผ่นหลังชิดกำแพง หญิงสาวทำท่าจะวิ่งไปที่ประตูแต่ก็ช้าไปกว่ามือหนาที่รีบกักร่างของเธอเอาไว้ ปริญแนบกายสูงใหญ่เบียดชิดจนเธอแทบหายใจไม่ออก แถมใบหน้าของเขายังอยู่ใกล้จนรับรู้ถึงลมหายใจร้อนระอุ “ตบฉันทำไม?” “คุณหลอกฉัน!” เอื้องฟ้าจ้องตากลับไม่เกรงกลัว “คืนนั้นคุณกับฉันเราไม่ได้มีอะไรกัน คุณหลอกฉัน!” เธอย้ำคำว่าหลอกราวกับจะตอกย้ำความโง่ของตัวเอง “ว้า… ไม่หนุกเลย กระบือน้อยฉลาดไวกว่าที่คิดนะ” น้ำเสียงเซ็งๆ ฟังแล้วน่าหมันไส้ยิ่งนัก เอื้องฟ้าอ้าปากค้าง ไม่คิดว่าผู้บริหารระดับสูงอย่างเขาจะกล้าทำเรื่องน่ารังเกียจพรรณนี้ “แล้วรู้ได้ยังไง” “ฉันไปตรวจร่างกายมา ทุกอย่างยังปกติ ฉันยังบริสุทธิ์” ฟังผลตรวจครั้งแรกเอื้องฟ้าดีใจจนแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่ แต่พอสักพักก็เริ่มโกรธและอยากมาต่อว่าเขาให้เจ็บแสบ ไม่คิดเลยว่าปริญจะเป็นผู้ชายหน้าด้านและไม่แยแสต่อความผิดที่ตัวเองกระทำ เกิดในชาติตระกูลที่ดีก็ไม่ได้แปลว่าบุคคลผู้นั้นจะเป็นผู้มีวุฒิภาวะสูงส่งเสมอไป เขาพิสูจน์ให้เธอเห็นแล้วว่าผู้ชายที่ดูดีแต่ภายนอกมันเป็นอย่างไร “คุณทำแบบนี้ทำไม คุณหลอกฉันทำไม!” หล่อนไม่ใช่คนชอบขึ้นเสียงใส่ใคร แต่ผู้ชายคนนี้ทำให้ความอดทนที่คิดว่ามีมากพอต่ำลงจนแทบเหลือเพียงศูนย์ แทนที่จะสำนึกแต่เขากลับอมยิ้มพึงพอใจในน้ำเสียงเกรี้ยวกราดของเธอ ผู้หญิงอะไร… น่าหลงใหลแม้กระทั่งเสียงตะคอก “ก็ฉันอยากได้เธอ” คำตอบตรงกว่านี้เห็นทีจะไม่มีอีกแล้ว ปริญยอมปล่อยร่างบางเป็นอิสระ เขาถอยห่างออกมายืนพิงโต๊ะทำงานพลางสอดมือล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วยืนไขว้ขาสบายๆ “อะไรนะ?” “ฉันอยากได้เธอ” สายตาจริงจังเป็นเครื่องยืนยันว่าเขาไม่ได้พูดเล่น “เธอเองก็น่าจะรู้ว่าฉันคิดยังไงกับเธอ เวลาที่เราเจอกัน เธอมักหลบสายตาฉัน” เอื้องฟ้าไม่เถียงเพราะตนทำเช่นนั้นจริงๆ เธออึดอัดทุกครั้งยามต้องพบหน้าเขาที่บริษัทของภูเบศ หลายครั้งที่ชายหนุ่มจ้องมองด้วยสายตาโลมเลีย และยังพยายามเข้าหาเธอโดยการดักรอหน้าห้องน้ำบ้างล่ะ ดักรอหน้าบริษัทหลังเลิกงานบ้างล่ะ สารพัดรูปแบบที่เขาใช้ต้อนแต่ไม่เป็นผล ปริญยอมรับว่าคราแรกแค่อยากได้ตามประสาผู้ชายเจ้าสำราญ ตั้งใจกินเงียบๆ แล้วสลัดทิ้งพร้อมยัดเงินให้ก้อนหนึ่งเหมือนผู้หญิงทั่วๆ ไป แต่เอื้องฟ้านั้นยาก หล่อนทำให้เขารู้สึกสนุกและท้าทายไปในตัว ทั้งชีวิตไม่เคยต้องวิ่งตามใคร สตรีรายไหนรายนั้นไม่เคยพลาด แต่หล่อนกลับไม่แยแสผู้ชายเพียบพร้อมอย่างเขา แม้แต่หางตายังไม่มอง แบบนี้มันยิ่งเพิ่มมูลค่าให้อยากลิ้มลองเข้าไปใหญ่ “จีบดีๆ ไม่ชอบก็ต้องใช้วิธีนี้แหละ” เขาไหวไหล่ไม่แคร์ “คุณเป็นผู้ชายที่บ้าและเห็นแก่ตัวที่สุด พอกันที! ต่อไปนี้อย่าได้พบเจอกันอีกเลย” เอื้องฟ้าส่ายหน้าเอือมระอากับความคิดและทัศนคติยอดแย่ของเขา หญิงสาวตั้งท่าจะเดินออกจากห้องแต่ร่างบางยังก้าวไม่ถึงหน้าประตูปริญก็คว้าข้อมือเล็กยึดเอาไว้กับตัว “ปล่อยนะคุณปริญ คุณไม่มีสิทธิ์แตะเนื้อต้องตัวฉันนะ!” “แหม… พูดแบบนี้สามีก็เสียใจแย่สิ” “คุณไม่ใช่สามีฉัน ปล่อย!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD