แคทนิส

1302 Words
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ เมืองออกซฟอร์ด “Mi dispiace!” หญิงสาวผู้มีใบสีหน้าเรียบนิ่งกล่าวคำขอโทษเป็นภาษาอิตาลีอย่างลืมตัว “คุณเป็นคนอิตาลีหรือคะ” คนที่ถูกชนเอ่ยถามเมื่อได้ยินภาษาบ้านเกิด “เอิ่ม ใช่ค่ะ” “ฉันก็เป็นคนอิตาลีค่ะ" “จริงหรือคะ” หญิงสาวผู้มีใบหน้านิ่งถามกลับโดยไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอย่างเช่นอีกคน “คุณเรียนอยู่ที่นี่ด้วยหรือเปล่าคะ” เธอพยักหน้าตอบก่อนจะมองสำรวจใบหน้าของอีกคนชัดๆ “ฉันก็เรียนที่นี่ค่ะ ฉันเวนิสนะคะ” เวนิสแนะนำตัวแล้วยื่นมือไปทักทาย “ฉันแคทนิสค่ะ” ยื่นมือไปจับทักทายตามมารยาท “ชื่อน่ารักจัง ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” “เช่นกันค่ะ” “เธอเพิ่งมาวันแรกหรอ” เวนิสเอ่ยถามราวกับต้องการจะสนิทกับอีกคน “อื้ม” “ว่าแต่เธออายุเท่าไหร่” “ยี่สิบสาม เธอล่ะ” “เท่ากันเลย งั้นมาเป็นเพื่อนกันมั้ย” เวนิสถามขึ้นด้วยความรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เจอเพื่อนจากประเทศเดียวกันและวันนี้ก็เป็นวันเปิดภาคเรียนวันแรก เธอเองก็ยังไม่มีเพื่อนเลยสักคน “เอาสิ” “เธอเรียนสาขาไหนหรอ” “ซอฟต์แวร์และโปรแกรมคอมพิวเตอร์น่ะ” “ว้าว!! เท่จัง” “เธอล่ะ” “แฟชั่น การออกแบบน่ะ” “ดีไซเนอร์หรอ” “อื้ม ประมาณนั้นแหละ” “งั้นฉันขอเบอร์โทรศัพท์ไว้หน่อยสิแคทนิส เผื่อนัดเจอกัน” เวนิสยื่นเครื่องมือสื่อสารให้กับแคทนิส ทั้งสองทำการแลกเปลี่ยนเบอร์โทรกันเสร็จก็แยกย้ายไปเรียนตามสาขาของตัวเอง ทุกวันหยุดสองสาวมักจะนัดกันออกไปเที่ยวไปดื่มด้วยกัน เพียงไม่นานพวกเธอก็สนิทสนมกัน ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดกระทั่งตัดสินใจย้ายมาเป็นรูมเมทกัน อีกคนมีนิสัยที่นิ่งเงียบ ส่วนอีกคนก็มีนิสัยร่าเริง ขี้เล่น พูดเก่ง แต่ก็ไม่เป็นปัญหาในการผูกมิตรภาพของทั้งคู่ ขณะเรียนอยู่ที่นี่แคทนิสก็ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย เธอทำงานพิเศษเป็นดีลเลอร์ (คนแจกไพ่) และบางครั้งก็มีรับงานเสริมเป็นบัตเลอร์บ้างบางครั้ง เวลาว่างก็มักจะเข้าสนามยิงปืนซึ่งเพื่อนสนิทอย่างเวนิสไม่เคยรับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของเธอเลยเพราะแคทนิสไม่เคยเอ่ยปากเล่าเรื่องส่วนตัวแม้แต่เรื่องเดียวให้กับอีกคนได้รู้ ยิ่งนานวันทั้งสองก็ยิ่งสนิทกันมากยิ่งขึ้นราวกับเป็นเพื่อนที่รู้จักกันมาแสนนาน พวกเธอคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกันขณะที่อาศัยอยู่ต่างบ้านต่างเมืองจนกระทั่งเรียนจบปริญญาโทในระยะเวลาสองปีที่ออกซฟอร์ดเวนิสตัดสินใจบินกลับไปยังถิ่นกำเนิดแต่แคทนิสขออยู่เที่ยวต่ออีกสองสามวันถึงจะบินตามกลับไป “ไอม ซอรี่!” หญิงสาวใส่เสื้อแจ็กเกตหนังสีดำ สวมแว่นตาแบรนด์ดังสีชาพร้อมกับหมวกแก๊ปสีดำ กล่าวคำขอโทษเป็นภาษาอังกฤษก่อนจะค้อมศีรษะให้กับชายหนุ่มที่เธอเดินชนก่อนจะเดินจากไป ชายกนุ่มร่างสูงยกมือขึ้นห้ามลูกน้องทันทีเมื่อเห็นว่ามือขวาจะเดินไปตามหญิงสาวที่กล่าวเพียงคำขอโทษอย่างไม่จริงใจ เธอไม่รอให้เขาได้พูดเอ่ยอะไรเลยสักคำ 1เดือนต่อมา คฤหาสน์ไกอันริโน “แกเริ่มเข้าใกล้มันได้หรือยัง” “กำลังพยายามทำอยู่ค่ะ” “อืม อย่าทำให้ฉันผิดหวังล่ะ” เจ้าของใบหน้ารูปไข่ไม่ตอบอะไรกลับเธอได้แต่นั่งดื่มกาแฟอยู่เงียบๆ จนชายหนุ่มวัย 33 ปีเดินเข้ามา “แกจะไปไหนแต่เช้าไคโร” คนเป็นพ่อเอ่ยถามลูกชาย “ไปไหนก็ได้ที่ไม่ต้องมาอยู่ร่วมหายใจกับเด็กข้างทางของแด๊ด” “นี่แก ระวังคำพูดหน่อย” “ปกป้องกันเข้าไปเถอะ มันลูกแด๊ดรึไง” “จะไปไหนก็ไป” สิ้นเสียงทุ้มของคนเป็นพ่อ ชายหนุ่มวัย 33 ปีก็หันมามองหญิงสาวผู้อาศัยอยู่ร่วมชายคาเดียวกันด้วยสายตาเขม่น ส่วนเธอก็นั่งจิบกาแฟทำเป็นไม่สนใจ รู้ว่าเขาไม่ชอบขี้หน้า เธอถึงพยายามอยู่ให้ห่างจากเขา “วันนี้แกไปไหนหรือเปล่าแคทนิส” “ว่าจะไปหาเพื่อนค่ะ คุณมีอะไรให้ฉันทำหรือเปล่า? ” “ว่าจะให้ไปเจอคู่ค้าแทนฉันหน่อย” “ฉันไม่อยากไปยุ่งกับธุรกิจนั่น” “แต่ธุรกิจนี้มันก็ช่วยแกให้เรียนจบปริญญาโทนะ อย่าลืมสิ” “…” “บ่ายสามไปตามสถานที่ที่ฉันบอก จากนั้นแกจะไปไหนก็ไป” นั่งฟังเงียบๆ โดยไม่ตอบก่อนจะลุกแล้วเดินขึ้นไปบนห้องนอน เมื่อถึงเวลานัดลูกค้าแคทนิสก็ไปตามคำสั่งของพ่อบุญธรรมก่อนจะไปตามนัดของเพื่อนสาวเพียงคนเดียวของเธอ Lamezia Club “ช่วงนี้แกทำอะไรอยู่เวนิส” “ยังไม่ได้ทำอะไรเลยว่าจะเปิดร้านแต่ก็ยังหาที่ไม่ได้เลย แกล่ะแคทนิส” “ฉันก็ยังไม่รู้เลยว่าจะทำอะไร แกพอมีกาสิโนที่ไหนที่พอจะรู้จักบ้างไหม” “ทำไมอ่ะ” “ฉันอยากทำงานดีลเลอร์ฆ่าเวลาน่ะ” “จะว่ามีมันก็มีนะ แต่ฉันไม่ถึงกับสนิทกับเขาอ่ะ” “แกลองคุยให้หน่อยสิ ฉันไม่อยากไปหามั่วเอาเอง” เวนิสรู้ว่าแคทนิสกำพร้าพ่อแม่แต่ไม่รู้ว่ามีพ่อบุญธรรมเป็นคนมีอิทธิพล เพราะเธอไม่เคยเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงให้กับเวนิสได้รู้ “ได้สิ เดี๋ยวฉันมีนัดดูตัวแกลองไปกับฉันดู” “ขอบใจแกมากนะเวนิส” ยกเครื่องดื่มสีอำพันขึ้นจิบก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบๆ ผับแห่งนี้ “นี่แก จำผู้ชายที่ฉันเล่าให้ฟังได้ป่ะ” เวนิสโน้มใบหน้ามากระซิบถาม “ที่แกถูกปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนรอบล่าสุดถึงกับต้องหนีไปทำใจที่ออกซฟอร์ดน่ะหรอ” เวนิสมีสีหน้าที่เศร้าลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเพื่อนสาวพูดจี้ใจดำก่อนจะพยักหน้า เบาๆ แล้วยกไวน์ขึ้นจิบ “เห้อ” “ทำไมเค้าปฏิเสธแกอีกหรอ” “เปล่าแก ฉันแค่อยากเจอเขา อยากเห็นว่าเขาสบายดีไหม” “ก็ไปหาสิ” “จะดีหรอ” แคทนิสไม่ตอบเธอยกวิสกี้ขึ้นกระดก ก่อนจะมีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินถือแก้วเหล้าเข้ามาเพื่อหวังจะชนแก้วด้วย แต่แคทนิสกลับไม่สนใจ “สวยแล้วหยิ่งหรอวะ” เสียงชายผู้นั้นเอ่ยขึ้น แคทนิสและเวนิสก็ยังคงไม่สนใจเพราะคิดว่าอีกคนคงเมา ถ้าทำเป็นไม่สนใจเดี๋ยวคงเดินออกไปเอง แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นแบบนั้น ชายคนที่เอ่ยแซะคว้าเข้าที่แขนของแคทนิสแล้วกระชากให้เธอหันมาสนใจเขา “ปล่อย” บอกด้วยน้ำเสียงกดต่ำ แต่อีกคนกลับไม่สนใจเพราะเห็นว่าเธอเป็นแค่ผู้หญิงซึ่งเขายังไม่รู้ฤทธิ์เดชของเธอดี “อย่าเล่นตัวหน่อยเลยน่า” “ปล่อย” เตือนครั้งที่สองพยายามสกัดกั้นอารมณ์ พร้อมกับบิดแขนตัวเองออกแต่อีกคนกลับยิ่งจับแน่นขึ้น โครม!! เพล้ง!! แคทนิสยกขาขึ้นมาถีบเข้ากลางอกของชายผู้นั้นเต็มแรงจนกระเด็นไปทับโต๊ะลูกค้าท่านอื่นด้านหลัง แก้วเหล้าและอาหารบนโต๊ะหล่นแตกกระจายบนพื้น แคทนิสคลำแขนตัวเองเล็กน้อยก่อนจะจูงมือเวนิสรีบเดินออกไปจากตรงนั้นเพราะถ้าอยู่แล้วฝั่งนั้นมีพวกเยอะขึ้นมาเธออาจจะสู้ไม่ไหว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD