เดี๋ยวไล่เดี๋ยวกอด

1443 Words
ไม่รู้ว่าฉันควรเจ็บหรือโล่งอกมากกว่ากันที่ไม่ต้องไปนอนในห้องกับเขา...เจ็บแต่ก็โล่งอะไรแบบนั้น “อืม งั้นฉันเข้าไปเอาเสื้อผ้า จะอาบน้ำ” “เข้าไปอาบในห้องนั่นแหละ ไม่ต้องหอบไปหอบมา แค่อาบน้ำนะ อย่าคิดจะหาเรื่อง...ฉันไม่หลงกลเธอหรอกนะแมงมุม” ฉันไม่เถียง...เดี๋ยวนี้ขี้เกียจเถียงเขามาก เขาชอบเมินนักก็จะเมินให้มากกว่า เดินหลบเข้าไปในห้องนอนเขา เลือกเสื้อผ้าเข้าไปอาบน้ำให้เร็วที่สุด พอฉันออกมาจากห้องเขาก็รีบสวนเข้าห้องนอนทันที...ราวกับว่าไม่อยากเห็นหน้า ไม่อยากใช้อากาศหายใจร่วมกันแม้สักวินาที ฉันทิ้งตัวนอนโซฟา ที่มันก็พอนอนได้ แต่สิ่งที่น่าจะลำบากเลยก็คงเป็นอากาศที่ค่อนข้างเย็น...ห้องเขาก็คงไม่มีผ้าห่มเผื่อไว้ด้วยสิ แต่พอคิดแบบนั้นจู่ๆ ผ้าห่มก็โยนโครมลงมา “ถ้ามานอนหนาวตายในห้องเธอจะต้องเป็นผีมาหลอกฉันแน่ๆ แมงมุม” ทิ้งข้อความไว้แค่นั้นเจ้าตัวก็สะบัดตูดกลับห้องนอน...ไม่เสียเวลาจะพูดคุยอะไรกันให้มากความ ฉันส่ายหน้า หยิบผ้าห่มมาคลุม...มันอุ่นขึ้นเยอะ และรู้สึกว่ากลิ่นของผ้าห่มก็อุ่น มันมีผืนเดียวที่เขาใช้นั่นแหละ แล้วเบสจะไม่กลายเป็นฝ่ายที่หนาวตายแล้วเป็นผีมาหลอกฉันใช่ไหม ฉันตื่นตั้งแต่ตีห้า แต่ก็ทำได้แค่นอนเล่นมือถือรอเวลาที่เบสจะตื่น ลืมคิดถึงเรื่องนี้ไปเลย ว่าควรเอาเสื้อผ้าออกมาไว้สำหรับตอนเช้า หกโมงครึ่งแล้วเบสยังไม่ออกจากห้องก็เลยลองไปเปิดประตูห้องนอนเขาดู...แปลกที่เขาไม่ได้ล็อก เปิดประตูเข้าไปพยายามที่จะไม่มองว่าเจ้าตัวนอนอยู่ในสภาพไหน เดินผ่านเข้าไปในห้องน้ำเพื่อหยิบอุปกรณ์สำหรับอาบน้ำ แล้วค่อยมาเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบชุดนักศึกษา ชุดชั้นใน ทำแบบรีบๆ แต่ก็พยายามให้เบา เลยไม่รู้ตัวว่าเบสมายืนอยู่ด้านหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ “อุ๊ย” พอฉันหันกลับไปก็แทบจะหน้าทิ่มหัวนมเขาแล้ว...บ้าจริง ขนาดไม่มีผ้าห่มยังนอนถอดเสื้อ “มาทำอะไรมืดๆ ในห้อง จะลักหลับฉันเหรอ ฝันไปเถอะ” คำพูดกวนๆ นั้นทำให้ฉันเงยหน้ามองเขาได้เป็นครั้งแรก ในบรรยากาศมืดๆ มัวๆ ก็เห็นว่าเขาคงเพิ่งตื่น ผมยุ่งๆ ...แต่กลับโคตรหล่อเลย “หลบ” ฉันทำสายตาเบื่อๆ จะเลี่ยงออกไปแต่เบสกลับยกแขนกั้นไว้ เลยต้องเงยหน้าสู้กับเขาอีกตั้ง เขาเลิกคิ้วกวนๆ ใส่ทีหนึ่ง “จะรีบไปไหน แล้วหอบอะไรพะรุงพะรัง” ไม่ว่าเปล่า เขาหยิบยกทรงฉันชูขึ้นตรงหน้า อยากจะกรี๊ดใส่หน้าตรงนั้นให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย “โทษที มันมืดมองไม่ชัด” แล้วก็วางลงบนแขนฉันตามเดิม “จะไปอาบน้ำก็ไปอาบ หอบกลับไปกลับมาทำไม ห้องน้ำข้างนอกมันไม่มีห้องอาบน้ำ” นี่ฉันแปลความว่าเขาหวังดีได้ใช่ไหม “สายแล้ว แกไม่อาบน้ำไปเรียนหรือไง” “ถ้าเธอเถียงฉันอีกคำมันสายแน่ๆ แมงมุม รีบไปอาบให้เสร็จ ฉันไม่ชอบให้ใครหอบของพะรุงพะรังเข้าออกห้อง” นี่เป็นเหตุผลได้ใช่ไหม ฉันถอนหายใจอย่างหงุดหงิด ไม่เถียงอะไรเขาต่อให้มากความ สะบัดตัวกลับไปอีกทาง เข้าห้องน้ำรีบอาบน้ำแต่งตัวให้เสร็จ...ค่อยเอาครีมกับเครื่องสำอางมาแต่งหน้าข้างนอก ฉันทำธุระส่วนตัวเสร็จตั้งแต่ยังไม่ถึงเจ็ดโมง ถ้าอยู่ห้องตัวเองก็อาจจะรออีกสักหน่อยค่อยออกไปมหาวิทยาลัย วันนี้มีเรียนเก้าโมงเช้า เดินทางสักครึ่งชั่วโมงก็ถึง แต่ตอนแปดโมงตรงก็เข้าห้องเบสอีกรอบเพราะสังหรณ์ใจแปลกๆ เพราะตอนที่ออกจากห้องน้ำเห็นเขากลับขึ้นเตียงไปนอนต่อ...แล้วก็ตามที่คิด เขายังนอนอยู่บนเตียงจนถึงตอนนี้ เลยต้องเปิดไฟในห้องให้สว่าง หวังว่าเขาจะตื่น แต่เจ้าตัวก็พลิกตัวหนีไปอีกทาง คว้าหมอนอีกใบมากอดหนึบ “เบส...เบส ตื่นได้แล้ว” ถึงจะไม่อยากยุ่งกับเขาเท่าไรในช่วงนี้ แต่ขอเว้นเรื่องนี้สักเรื่อง ปลุกให้เขาไปเรียนก่อนแล้วกัน “เบส” พอเขาเฉยก็ตีเปรี๊ยะที่ไหล่สักที แต่หนังหนาเหลือเกิน จะตีแรงขึ้นก็กลัวเขาจะเจ็บ...เลยลองเขย่าดู “เบส ว้าย” ไม่รู้ว่าไปเขย่าเขาท่าไหนเบสถึงรวบตัวฉันลงมากอดหนึบทั้งมือทั้งขาแบบนี้...ในสภาพที่เขาสวมบ็อกซ์เซอร์ตัวเดียว ใจฉันเต้นแรงมากขณะที่ตาสบตากัน แม้หน้าตาเขายังดูงัวเงียอยู่ “ปล่อย” ตั้งสติได้ก็พยายามขืนตัวออกจากเขา แต่อีกฝ่ายก็ไม่ปล่อย เขาทำหน้าเหนื่อยหน่ายแบบคนเพิ่งตื่นแล้วไม่อยากทำอะไรแม้แต่จะหาเรื่องทะเลาะ “ขอสงบศึกแป๊บหนึ่ง” เขาคลายกอด แต่ก็ไม่ได้ปล่อยเสียทีเดียว แต่พอฉันจะขยับตัวก็ออกแรงที่แขนให้รู้ว่าไม่ยอม “แล้วแกจะมาทำศึกอะไรกับฉันหนักหนาล่ะเบส ต่างคนต่างอยู่ไม่ได้หรือไง” “มันจะต่างคนต่างอยู่ได้ยังไง เธอหอบผ้าหอบผ่อนมานอนห้องฉันแล้วเนี่ย” เขาไปรู้จักคำโบราณแบบนี้มาจากไหนกัน “กล้าหอบผ้าหอบผ่อนมานอนห้องฉันเองกอดแค่นี้ทำมาดิ้น คิดว่าฉันจะเป็นสุภาพบุรุษนอนหันหลังให้หรือไง” “แกบอกเองว่าให้ฉันนอนโซฟา จะมาอยากกอดอะไรตอนนี้ล่ะเบส” “เหอะ ฉันแค่ประชดไปอย่างนั้น หรือเธอคิดเป็นจริงเป็นจัง ฝันเอาเถอะ ฉันไม่ยอมให้เธอได้ฉันง่ายๆ หรอกแมงมุม แค่ขาอ่อนก็อย่าหวัง นอนนอกห้องไปเลย” เขาสะบัดเสียง...แต่แขนยังกอดฉันอยู่ เบสสมองกลับหรือยังไงกันพูดอย่างทำอย่าง ฉันก็เลยเงียบ เพราะรู้ว่าเขาจะหาเหตุผลมาเถียงข้างๆ คูๆ ไปจนได้ “ถามจริงเถอะแมงมุม เธอคิดยังไงถึงอยากมาเป็นคู่หมั้นฉัน คิดยังไงถึงอยากมาอยู่ด้วย ทั้งๆ ที่เธอก็รู้ว่าฉันไม่มีวันยอมรับเรื่องแบบนี้ได้” มันเป็นคำถามที่เจ็บจนชา อึดอัดเกินจะหาคำตอบ จะให้ตอบตรงๆ ได้เหรอว่าเพราะฉันชอบเขา...ถึงไม่ได้ตั้งใจที่จะแย้งความต้องการของน้าบัวให้จริงจังกว่านี้ ฉันเสมองไปทางอื่น ไม่สบตาเขา พยายามทำตัวให้เหมือนว่าตัวเองเบื่อที่จะโต้เถียง...ไม่ใช่เพราะไม่อยากมองความรู้สึกในดวงตาคู่นั้นให้ตัวเองแสดงความอ่อนแอให้เขาเห็นไปมากกว่านี้ “ก็น้าบัว...” “โวะ เธอเชื่อแม่ขนาดนั้น ถ้าแม่บอกให้เธอไปตายเธอก็จะไปเหรอแมงมุม” ทำไมรู้สึกเจ็บจี๊ดในอกจนจะหายใจไม่ออกในเสี้ยววินาทีหนึ่ง เบสจะรู้ไหมว่าถ้ามีใครสักคนไล่ให้ฉันไปตายได้จริงๆ ไม่ใช่แม่ของเขาหรอก “อาจจะไปก็ได้มั้ง คนที่ฉันรู้จักบนโลกนี้ก็น่าจะเหลือแค่น้าบัวคนเดียว” “ไม่ต้องมาดรามานะแมงมุม ฉันไม่อิน” “ก็ไม่ได้พูดให้แกอิน” “เถียงเก่ง มาอยู่ห้องคนอื่นแท้ๆ” “แล้วจะยังไง จะโยนฉันออกจากห้องเลยไหมล่ะ” “ถ้าทำได้คิดเหรอว่าฉันจะไม่ทำ” ฉันไม่ตอบคำถามนั้น ไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำหรอก แต่ก้อนความรู้สึกบ้าๆ นั่นมันจุกล้นอกไปหมดแล้ว ไม่สามารถพูดได้อีกแม้แค่ประโยคเดียว แค่หายใจยังลำบาก “เหอะ คิดว่าอยู่ได้ก็อยู่ไป” แล้วเขาก็ลุกออกไป เดินดุ่มๆ ไปห้องน้ำด้วยท่าทีฉุนเฉียว ฉันปาดน้ำตาหนึ่งหยดที่ไหลอาบแก้ม...และลุกจากเตียงออกไปข้างนอก จะไม่ให้มันมีหยดที่สองอีกเด็ดขาด หยิบกระเป๋าแล้วออกไปข้างนอกเลย เบสจะไปเรียนหรือเปล่าก็ช่างหัวเขาเถอะ มาต่ออีกตอนค่ะทุกคน เบสนี่มีแวโบ้มาแต่ไกลเลยเนอะ ถถถ ปากบอกไม่ชอบเขา แต่หาเรื่องกอดอยู่ได้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD