ช่วงเวลานี่นี้...ขอเป็นแฟน

1496 Words
“นั่นใคร แฟนหรือ” เสียงทุ้มถูกลมพัดมาปะทะแก้วหูจังหวะเดินผ่าน เท้าสาวเจ้าชะงักเล็กน้อย ขณะนั้นในหัวพลันครุ่นคิด สมควรจะหยุดเดินแล้วหันไปหา หรือเดินผ่านไปทำเป็นไม่ได้ยินดี ทว่ากลับเลือกอย่างแรก ด้วยความใคร่รู้คนที่พูดต้องการอะไร เธอหมุนตัวกลับไปพร้อมเอียงคอ หลังเห็นเป็นลูกค้าคาปูชิโน่เพิ่มหวานคนนั้น แล้วเลิกคิ้ว “คะ?” “พักกลางวันเหรอ” แต่ด้วยประโยคนี้กระมังที่ทำให้ความฉุนเฉียวบวกความอยากรู้หายไป “ใช่ค่ะ ขอตัวนะคะ” เธอกำลังจะสายแล้ว มุ่งหน้าเดินต่อไปยังเป้าหมายเดิม ปล่อยให้คู่สนทนายืนอยู่กับความงุนงง ไม่รู้คำตอบรับนั้นหมายถึงเรื่องอะไร ระหว่างเรื่องที่คนนั้นคือแฟนเธอ หรือเธอที่กำลังอยู่ในช่วงเวลาพักกลางวัน เซ็นเซอร์ประตูทำงานก่อนร่างบางจะเดินผ่านบังคับเลื่อน นาทีนั้นสายตาทุกคู่มองมาที่เธอเป็นจุดเดียว สำหรับลูกค้าอาจเป็นเพราะเสียงประตูเปิด สัญชาตญาณแรกจึงทำหน้าที่คลายความสงสัย ตรงกันข้ามกับเพื่อนพนักงานอีกสามคน สามคู่สายตายังคงจ้องมาไม่กะพริบ กระทั่งเดินไปสุดห้องสโตร์ ทำการถอดเสื้อแขนยาวนอกออกเพื่อสวมผ้ากันเปื้อน ทั้งหมดนั้นก็ยังให้ความสนใจเธออยู่ ราวกับกำลังรอให้เจ้าตัวไขข้อสงสัยที่ได้จินตนาการไปแล้วก่อนหน้านี้ “อะไร?” ซีนีนเลิกคิ้วสูง เดินไปสมทบกับเพื่อนอีกคนที่เพิ่งจะเข้างาน พร้อมกันกับเธอสับเปลี่ยนอีกสองคนไปพักต่อ “ได้กันแล้วเหรอ?” “ฮะ?” เธอหันขวับไปยังเสียงไร้มารยาทนั่น สีหน้าแสดงออกถึงความไม่พอใจสูงสุด “ล้อเล่นน่า” ยิ่งทวีคูณไปกว่านั้นก็ตอนที่จิงหัวเราะชอบใจ ไม่รู้ตัวต่อการกระทำของตัวเอง หญิงสาวกลั้นหายใจไม่คิดตอบโต้ สะบัดมือแกมไล่ให้เข้าไปยังห้องข้างหลัง เผื่อการไม่เห็นหน้ากันสักชั่วโมงจะทำให้ความร้อนฉ่าในใจบรรเทาได้ “ไปกินข้าวกันมาเหรอ ร้านไหน” คำถามต่อไปคือของมล หล่อนคนนี้ก็ไร้มารยาทไม่ต่างกัน แต่ไม่เท่ากับจิง เพราะเห็นว่าคำถามนั้นของจิงค่อนข้างแรง ครั้งนี้หล่อนจึงไม่ได้เล่นด้วย ซีนีนปล่อยริมฝีปากที่เม้มอยู่หันไปตอบมลอย่างใจเย็น “อืม ร้านแถวนี้แหละ” เธอเงียบไปอึดใจหนึ่ง ก่อนจะตอบอีกประโยคด้วยน้ำเสียงที่เข้มข้นขึ้น “ยังไม่ได้กันหรอกนะ เวลาชั่วโมงนึงมันน้อยไป” ทันทีที่พูดจบ ความเงียบก็สุมไฟ ไม่มีการถามต่อ และแทบจะไม่ได้คุยด้วยกันอีก เธอรู้..ก่อนหน้านี้ที่เธอไม่อยู่ เรื่องดังกล่าวได้ถูกวิพากวิจารณ์ไปรอบนึงแล้ว ผ่านภาพจิตนาการแบบคิดไปเอง และเกินจริงไปไกลมาก จนกระทั่ง.. เลิกงานประจำ และต่อด้วยงานเสริมคืองานถ่ายรูปอีกที “วันนี้เหมือนเดิมเลยนะน้องนีร งานนี้แขกระดับไฮลดลงมาหน่อย ไม่ต้องตึงมาก” “ค่ะพี่เบียร์” เขาหมายถึงความเป็นการเอง คลายเครียดมากกว่าเมื่อเทียบกับงานรอบที่แล้ว ครั้งนี้คงไม่เจอลูกค้าคาปูคนนั้นแล้วสินะ “เริ่มได้เลยค่ะ” “โอเคค่ะ” เช้าวันต่อมา.. วรุตแวะซื้อกาแฟก่อนไปทำงานเหมือนเดิมทุกวัน แต่วันนี้แปลกไปกว่าเดิมก็ตอนที่เขารอเธอไม่ได้ วันนี้เป็นวันมีโปรโมชั่น ลูกค้าจะเยอะกว่าวันปกติหลายเท่า ซึ่งแน่นอนซีนีนไม่มีโอกาสได้คุยกับใครเลย ตรงหน้าของเธอมีเพียงบิลออเดอร์เท่านั้น หากจะตอบข้อความของเขาก็คงลากยาวไปถึงช่วงพักกลางวันที่แทบจะไม่มีเวลา เนื่องจากหลังกินข้าวเสร็จก็ต้องวุ่นอยู่กับการนับสต็อก ไม่ได้นั่งพักเติมพลังให้กับร่างกาย ติ๊ง! R: เลิกงานกี่โมงคะ N: วันนี้หกโมงครึ่งค่ะ R:ไปทำงานเสริม? N: เปล่าค่ะ เหมือนไม่ค่อยสบาย R: เป็นโควิด? N: ก็ไม่แน่.. R: ต้องตรวจใช่ไหมคะ? N:ใช่ค่ะ R: โอเค ผลเป็นยังไงบอกพี่ด้วยนะคะ กะว่าจะไปรับกินข้าว N: มื้อค่ำเหรอคะ? R: ค่ะ ไม่ได้เหรอ? N: ได้ค่ะ แต่รอก่อนนะ ATK ก่อน R: ได้ค่ะ กลับถึงห้องพักซีนีนรีบทำการตรวจโควิดทันที เพื่อส่งไปยังแชทกลุ่มของงานประจำ และแชทวรุตตามคำเรียกร้องของเขา เมื่อผลออกมาเป็นลบเธอถึงถอนลมหายใจออก “นึกว่าจะเกมซะแล้ว” หากเป็นขึ้นมาจริงๆ มันไม่สนุกเลยสำหรับเธอ แชะ! หญิงสาวถ่ายรูปชุดตรวจที่ขึ้นเพียงขีดเดียวส่งไปยังสองแชทที่ว่า N: ไม่ท้องค่ะ R: หืมมม 555 เธอหยอกล้อ ก่อนเขาจะส่งหัวเราะกลับมา R: งั้นไปกินข้าวกับพี่นะคะ N: เป็นพรุ่งนี้ได้ไหมคะ หนูเลิกงานบ่ายสาม จะลางานเสริมค่ะ วันนี้ไม่ไหวจริงๆ มันค่ำแล้ว และพรุ่งนี้หนูทำงานเช้า R: แต่พรุ่งนี้พี่ออกต่างจังหวัด อีกล่ะ! นั่นเป็นประโยคที่หลุดออกมาจากความคิดเธอ ซีนีนทำปากอมลมก่อนจะพิมพ์อีกประโยคกลับไป N: ไปกี่วันคะ R: 6 วันค่ะ N: หนูรอกลับมาก็ได้ ปลายทางเงียบไปหลายนาที เป็นการอ่านที่ยังไม่ตอบ เธอคิดว่าเขากำลังไม่พอใจ ซึ่งเหมือนจะจริง R: โอเคค่ะ แต่พรุ่งนี้พี่ไม่ได้แวะเข้าไปนะ เดินทางแต่เช้าค่ะ และไม่รู้เป็นเพราะสาเหตุอะไร หลังอ่านเธอถึงได้เม้มปากแน่น มีความลังเลปนหงุดหงิด คิดกลับไปกลับมาเกี่ยวกับการทานมื้อเย็นกับเขาในตอนนี้ ก่อนความเหนื่อยล้าจากงาน บวกกับความครั่นเนื้อครั้นตัว จึงทำให้เลือกปฏิเสธ N: ค่ะ เดินทางปลอดภัยนะคะ หกวันต่อมา กับการกลับมาของเขา วรุตทักแชทหาเธอก่อนเดินทาง ก่อนโทรหาตอนใกล้ถึง ในช่วงค่ำเวลาทุ่มเศษ ความสงสัยแฝงความประทับใจเกิดขึ้นในความรู้สึกส่วนลึก ทั้งที่ตั้งคำถามต่างๆนาๆ ในส่วนนี้ต่อความย้อนแย้งของความสัมพันธ์ที่ไม่ควรมีเรื่องดังกล่าว สิ่งที่เกิดพึงกระทำของคนที่กำลังคบหากันเท่านั้น ซึ่ง ณ ตอนนี้ เธอกับเขายังไม่ใช่ ทว่าหญิงสาวเลือกที่จะไม่ขัด หรือย้ำให้เขาตระหนักถึงข้อเท็จจริง แต่กลับปล่อยเลยตามเลยไป จนกระทั่ง.. วรุตมาหาอีกรอบ ในช่วงวันหยุดของเขา แต่เป็นการทำงานเช้าของเธอ พวกเขาพากันออกไปกินข้าวข้างนอกเป็นครั้งที่สอง และกลับมายังที่ทำงานภายในเวลาที่กำหนดอย่างชำนาญการ “พรุ่งนี้พี่ไปต่างจังหวัดค่ะ” เขาบอกเธอจังหวะชะลอและจอดรถ คนฟังหันขวับพลางขมวดคิ้ว “เพิ่งกลับมาไม่ใช่เหรอคะ” “ใช่ค่ะ พี่เองก็เซ็ง น้องที่โรงบาลลากะทันหัน” “หมายถึง..” “พี่ต้องไปแทนค่ะ” ซีนีนค้างชะงักไปพัก ราวกับกำลังทำความเข้าใจ ไม่นานพยักหน้าลงยิ้มอ่อน “ค่ะ” “ปกติ จะต้องลาล่วงหน้าอาทิตย์นึง เพื่อจะได้หาคนมาแทน แต่เห็นว่าคนนี้มีโรคประจำตัว หมอนัดไปถ่ายเลือดแบบฉุกละหุก” สาวเจ้าพยักหน้าอีกครั้ง “ไปกี่วันคะ” “สามวันค่ะ” “ขอโทษนะคะหนูขอถามหน่อย พี่จะต้องเดินทางอยู่อย่างนี้ บ่อยแค่ไหน” “ทุกครั้งที่มีคนลา” “ไหนว่าทำงานในโรงพยาบาล xxx ไงคะ” “จริงๆแล้ว พี่ประจำอยู่ที่นี่ค่ะ แต่ถ้าน้องคนอื่นหยุด พี่ก็ต้องไปเข้าเวรแทน พี่เป็นผู้จัดการประจำภาคใต้น่ะค่ะ” “อ๋าาา...โอเคค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ” ซีนีนยิ้มกว้าง พลางเงียบไปอีกระลอก เขาที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยประจำคนขับ ยกข้อมือขึ้นมาดูนาฬิกา เมื่อเห็นว่ายังพอมีเวลา เนื่องจากครั้งนี้กลับมาเร็วกว่าปกติ จึงใช้โอกาสที่ต่างฝ่ายต่างเงียบกันอยู่นั้นจับมือเธอ ร่างบางชะงัก จังหวะมือบางข้างขวาถูกหยิบไปถือไว้ด้วยมือใหญ่นุ่ม และทันทีที่ง่ามนิ้วมือถูกสอดแทรกเข้ามาด้วยนิ้วมือใหญ่ หัวใจของเธอก็เต้นระห่ำอย่างบ้าคลั่งทันที “กลับมาคราวนี้ พี่ไปเที่ยวห้องหนูได้ไหม” ดวงตาคู่สวยขึงกว้าง เธอจ้องเข้าไปในตาคู่ทรงเสน่ห์ แล้วเห็นตัวเองอยู่ในนั้น น่าขันที่มันเป็นสีหน้าตลก “หนูจะพาผู้ชายเข้าห้องก็ต่อเมื่อ ผู้ชายคนนั้นเป็นแฟนหนูค่ะ” และทันทีที่เขาเอ่ยประโยคชวนเคอะเขินด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า หน้าของเธอก้มงุดลง “งั้นก็ให้พี่เป็นแฟนหนูสิคะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD