เด็กคนนี้น่ารักมาก!
เป็นเสียงในความคิดตอนนี้ของเธอ ซีนีนที่ถือโทรศัพท์อยู่ในมือค้างหน้าจอนั้นเอาไว้ จนกระทั่งแสงจอดับไป และเปิดขึ้นมาใหม่ด้วยข้อความของเขาอีกครั้ง
R : หนูโอเคไหมคะ
N : น้องน่ารักมากเลย
พิมพ์ตอบไปแบบนั้น แต่ในใจรู้สึกถึงกำแพง ไม่ใช่เพราะเขามีลูก หรือทุกครั้งที่ไปหาจะต้องเจอกับภรรยาเก่าบ่อยๆ แต่เป็นเพราะเธอเองมีลูกเช่นกัน คำถามที่มีคือเธอจะบอกเขายังไง ให้ราบรื่นที่สุด
R : พี่จะต้องคุยกับภรรยาเก่าเรื่องลูก เพราะไม่อยากให้ลูกรู้สึกว่าขาด อาจมีการไปเจอบ้าง กินข้าวกับลูกบ้าง แบบที่มีเขาอยู่ด้วย หนูจะโอเคไหมคะ
เพราะไม่ได้เป็นอะไรกัน และไม่ได้รู้สึกอะไร สาวเจ้าจึงพิมพ์กลับไปว่า..
N : แล้วแต่พี่สิคะ
เข้าใจดีนั้นเป็นหน้าที่ของพ่อ ต่อให้ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาจะจบลง ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกก็จบลงไม่ได้
R : ขอบคุณนะคะ
N : คราวนี้ก็เป็นตาของพี่บ้าง มาฟังเรื่องดาร์กๆของหนูนะคะ
R : ??
N : รู้แล้วพี่อาจจะเปลี่ยนใจเลยก็ได้
R : เรื่องอะไรคะ
ซีนีนสูดลมหายใจเข้าปอดสุดลึก ทำหน้าบูดบึ้ง
เธอเกลียดสถานการณ์อึดอัดและกดดันแบบนี้ที่สุด
N : จริงๆ แล้วหนูมีลูก
ทันทีที่เขาอ่าน ถึงกับหายไปพักหนึ่ง ก่อนจะส่งคำถามกลับมาใหม่
R : กี่ขวบแล้วคะ ชายหรือหญิง
N : ผู้ชายค่ะ กำลังจะขึ้น ม.1
R : อ่าฮะ แล้ว..
N : ไม่เปลี่ยนใจเหรอคะ
R : เปลี่ยนใจเรื่อง?
N : ก็หนูมีลูกไง
R : พี่ไม่ซีค่ะ ภรรยาเก่าพี่ก็มีลูกติดเหมือนกัน ตอนนี้กำลังจะขึ้น ม.4
คราวนี้เป็นเธอที่เงียบบ้าง และยิ้มบางๆออกมา
N : อะเช ขอบคุณเช่นกันนะคะ
R : นี่คือเรื่องดาร์ก?
N : ช่ายยยย
R : 5555 โอเค เคลียร์ละนะ งั้นเรื่องที่พี่จะจีบล่ะ ว่าไง
คนจะจีบต้องบอกกันหรือ?
และถ้าถามความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาในอนาคต สมมุติมันพัฒนาขึ้นไปจริง แบบคบหาดูใจกัน อย่างไรก็ตามหน้าที่ของเธอจะต้องรับสิ่งนี้ให้ได้อยู่แล้ว เปรียบเสมือนกระสอบใหญ่ใบหนึ่งของเขา ที่สะพายมาตลอดตั้งแต่เกิด และก่อนจะกับเธอ ไม่ว่าในนั้นจะเต็มไปด้วย เรื่องราว ประสบการณ์ บทเรียน หรืออะไรก็ตามที่เป็นอดีตในชีวิต เธอก็ไม่มีสิทธิ์สั่งให้เขาทำลายมันทั้งนั้น แต่จะต้องยอมรับมันให้ได้
ถ้าให้ดีบางที เส้นทางที่เดินอาจจะต้องช่วยเขาสะพายด้วย
ใช่ เลยขึ้นอยู่ว่าตอนนี้จะรับมันได้ไหม
ซีนีนนั่งเงียบพยายามจินตนาการถึงอนาคต ผ่านความรู้สึกตัวเอง และคำตอบที่ได้ก็คือ ...เธอยินดีไม่ขัดข้องใดๆ
หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดสุดลึก ก่อนจะกราดนิ้วรัวแป้นแล้วกดส่ง
N : ก็ทำให้หนูรักสิ
ไม่นานอีกฝ่ายก็ตอบกลับมา
R : จริงไหมคะ อะ ด้ายยยยย
ซีนีนอมยิ้มให้กับคำสั้นๆนั้น
เมื่อกลับมาทำงานเสริมช่วงเวลาหลังเลิกงาน การคุยถี่ทางข้อความระหว่างเธอกับวรุตจึงน้อยลง หญิงสาวกลับไปบ้างานเหมือนเดิม แจ้งเตือนที่ดังขึ้นถูกเปิดอ่านแค่ที่จำเป็นเท่านั้น
R : นี่หนูถึงห้องหรือยังคะ
และนั่นอาจจะเป็นเรื่องผิดแปลกสำหรับวรุต เพราะการหายไปหลายชั่วโมงไม่ตอบกลับ คนปกติทั่วไปไม่ค่อยทำกัน
N : เพิ่งถึงค่ะ
R : หนูเลิกงานหกโมงไม่ใช่เหรอ
N : ไปทำงานต่อมาค่ะ
R : ฮะ ?
N : หนูไปรับจ้างรีดผ้ามา
เขาไม่ได้ถามอะไรต่อจากนั้น ได้แต่บอกว่าใกล้ถึงเวลาที่เขาต้องนอนแล้วบอกฝันดี เมื่อเธอเห็นเวลาบนนาฬิกาเริ่มดึก จึงเห็นด้วยกับเขาเช่นกัน เลยบอกคำเดียวกันกับที่เขาตอบ
เช้าวันต่อมา..
รถคันเดิมค่อยๆแล่นมาจอดหน้าร้านกาแฟ ซีนีนที่รออยู่ก่อนแล้วและทีแรกคิดว่าจะไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่เพราะเขามาบ่อย กลับตาลปัตร เสียอาการเหมือนทุกครั้งไป วันไหนถูกลูกค้ากำลังรุมก็ยิ่งแล้วใหญ่ ตักน้ำแข็งใส่แก้วยังไม่ลงก้น
วันนี้ก็เช่นกัน เขามาซื้อกาแฟ และนั่งรอจนถึงคิวเขา จึงจะลุกจากโต๊ะเดินมาเกาะบาร์โซนส่งเครื่องดื่ม
“พี่ไปต่างจังหวัดนะ”
“คะ?”
อยู่ๆเขาก็บอก เธอที่อยู่เวลางาน จึงไม่มีโอกาสได้ตั้งใจฟัง เพราะมัวแต่พะว้าพะวง
“ไปอาทิตย์นึง”
“ที่ไหนคะ?”
“โรงพยาบาล xxx ที่สุราษฎร์”
“วันนี้เหรอคะ?”
“ใช่ค่ะ”
หญิงสาวถึงกับเอียงคอ งุนงงว่าทำไมถึงไม่บอกเธอตั้งแต่เนิ่นๆ หรือว่ามีเคสด่วนเข้ามา แบบไม่ได้รู้ล่วงหน้าเช่นกัน ทว่าแค่นั้นก็ยังไม่มีเวลาจะถาม เนื่องจากต้องเรียกคิวถัดไปเพื่อส่งเครื่องดื่มด้วย จึงทำได้เพียงพยักหน้ารับรู้
“อ่า งั้นขับรถดีๆนะคะ”
“โอเคค่ะ ไปถึงพี่จะบอก”
13.03น.
R : ถึงแล้วค่ะ
ข้อความแจ้งเตือนเด้งขึ้นมาพร้อมรูปภาพของป้ายชื่อโรงพยาบาลเอกชน ทันทีที่หญิงสาวเปิดอ่านจึงเลิกคิ้วสูง
“มีรายงานด้วย?”
รู้สึกแปลกใจไม่น้อย กับสิ่งที่เขาทำโดยที่เธอไม่ได้ร้องขอ
N : ค่ะ พี่พักผ่อนเถอะ ขับรถเหนื่อยๆ
R : ได้ค่ะ ถึงหอแล้วบอกด้วย
และเอียงคออีกครั้งก็ตอนที่เขาร้องขอให้เธอรายงานบ้าง
มหัศจรรย์ไปมากกว่านั้นคือเธอทำอย่างที่เขาบอก
ฟึ่บ
ส่งรูปปากทางเข้าหอไปให้ พร้อมกับประโยคว่า
N : หอแล้วค่ะ
ตอน 19.18 นาที
เขาส่งสติ๊กเกอร์กลับมาและหายเงียบไป ส่วนเธอก็ตามกัน เพราะมีความเป็นอัตตาสูงในสายเลือดอยู่แล้ว สาวเจ้าจะไม่อยากรู้เรื่องของใคร ถ้าบุคคลนั้นไม่มีความสำคัญมากพอ
พวกเขาทั้งคู่ต่างเงียบ ก่อนจะเริ่มเคลื่อนไหวช่องแชทอีกครั้งก็ตอนสี่ทุ่ม โดยครั้งนี้เขาเป็นฝ่ายวิดีโอคอลมา
ซีนีนผู้ไม่คุ้นชินกับสิ่งนี้ถึงกับเลิกลัก เธอชะงักค้างอยู่พัก สายตาจดจ่อเพียงจุดเดียว ตรงปุ่มกดรับ
“เอางี้เลย?”
หล่อนพึมพำ พร้อมกับการใช้ความคิด แต่เสียงเรียกเข้าเจ้ากรรมก็ปั่นประสาทซะเหลือเกิน
เอาว่ะ!
สาวเจ้ากลืนน้ำลายลงคอดังเอือก ก่อนจะ..
ปิ้บ!
“ไงคะ..ทำอะไรอยู่”
เขาอยู่ในโทรศัพท์ด้วยสภาพเปลือยท่อนบน พร้อมกับหน้าตาที่ดูดี ผ่านการหลับนอนมาเต็มที่และเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จสังเกตจากเส้นผมเปียกหมาด ที่เสยขึ้นลวกๆ ตรงหน้าอกมีรอยสักภาษาจีน ที่เธออ่านไม่ออก และแน่นอนความประหม่าและเขินอาย ตกอยู่ที่เธอเต็มๆ
ร่างบางนั่งเกร็งอยู่อย่างนั้น ราวกับเขากำลังนั่งคุยกับรูปปั้นตรงหน้า
“เขียนนิยายค่ะ”
“นิยาย? นี่หนูเป็นนักเขียนด้วยเหรอคะ”
“ชะ ใช่ค่ะ แต่ก็ไม่ดังมาก”
“เรื่องอะไร ขอพี่อ่านหน่อยสิ”
“อย่าาา”
“ฮ่าๆๆ ทำไม?”
แต่ต่อให้เคอะเขินขนาดไหน ความปรับตัวเร็วของเธอก็พูดเก่งอยู่ดี สาวเจ้าเปรียบเสมือนมีพรสวรรค์ในเรื่องนี้ และนำมาปรับใช้ได้ดีทีเดียวเชียว
“มันไม่เหมาะกับหมอหรอก”
“บอกว่าไม่ใช่หมอออ”
“อยากให้เป็นหมอ”
“หรือหนูอยากโดนหมอฉีดยา?”
“แน่ะ”
ไม่ว่าคนตรงหน้าจะพูดอะไร ไปในทิศทางไหน เธอก็รับมันได้ทั้งนั้น เรียกว่าเอาอยู่แบบไม่ตายไมค์
จนกระทั่ง..
“กลับจากนี่ พี่ขอไปเที่ยวห้องหนูได้ไหมคะ”
ขอบคุณที่อ่านค่ะ ❤️??