พิกุลทองแตะแผ่วฝ่ามือ “ช่วยหน่อยแล้วกันนะ พี่ต้องรีบส่งรายงาน”
อลินธาราเห็นสีหน้าอีกฝ่าย ยอมพยักหน้ารับคำ “ก็ได้ค่ะ”
คนมองกระตุกยิ้มมุมปาก ราวกับผู้ชนะ พิกุลทองจบธุระรีบเดินตัวลีบออกจากห้องไป เลขาสาวเหลือบมองเจ้านาย ความจริงคนที่อยู่ในห้องนี้ ควรเป็นพี่พิกุลมากกว่า ไม่ใช่เธอ ก็พอรู้เจตนาอีกฝ่าย แต่ทำอะไรไม่ได้ นอกจากอดทน
เวลาล่วงเลยห้าโมงเย็น คนสวยบิดกายขับไล่ความเมื่อย แล้วลุกยืนเดินออกจากโต๊ะทำงาน ตั้งใจไปหาของกินในห้องครัวของบริษัท สวัสดิการที่นี่มีพวกอาหารว่าง ขนมขบเขี้ยว แล้วก็ชากาแฟให้ ตอนเย็นจะมีคนนำอาหารมาส่ง
“จะไปไหนเหรอคุณเลขา ผมจำได้ว่าพิกุลทองเอางานมาให้ทำไม่ใช่เหรอ” เขาเอ่ยทักทันที
คนถูกทักหันมา “ฉันหิวค่ะท่านประธาน จะไปหาอะไรกินสักหน่อย ว่าแต่ท่านประธานไม่กลับบ้านเหรอคะ เวลาเลิกงานแล้ว”
คนถูกย้อนอึกอัก “ผมมีงานต้องเคลียร์”
แสร้งเอามือทาบอก ดวงตากลมโตวาววับ เหมือนต้องการล้อเลียนอีกฝ่าย
“ตกใจเลยนะคะเนี่ย ท่านประธานงานยุ่งแบบนี้!”
เขายิ้มเย็น “ล้อผมเล่นเหรอคุณเลขา”
“เปล่านี่คะ!” เธอขึ้นเสียงสูง ย่นจมูก ดูก็รู้ว่าเจตนาไม่ดี รวมทั้งเอกสารที่พี่พิกุลเอามาให้ก่อนหน้านี้ด้วย ก็น่าจะเป็นฝีมือท่านประธาน
ที่ยอมรับ เพราะไม่อยากให้คนอื่นต้องลำบากใจ เลยต้องเลื่อนนัดกับแฟนหนุ่มไป ไม่ได้เจอกันเกือบสามปี ได้แต่วีดีโอคอลหากัน ดันมีมารมาผจญอีก เธอต้องการพูดคุยธุระเรื่องงานแต่ง เพื่อให้ทุกอย่างกลับสู่ที่ทางที่มันควรเป็น ชายหนุ่มเลือกออกจากเก้าอี้ นั่นทำให้เลขาคนสวยต้องตระหนก มือเอื้อมหมายเปิดประตูออก ทว่าข้อมือกลับถูกคว้าไว้ ตวัดร่างงามกลับมาเผชิญหน้า อลินธาราบิดข้อมือทันที
“ท่านประธาน นี่ที่ทำงานนะคะ คุณเลิกฉวยโอกาสกับฉันสักที!”
“นี่ไม่เรียกฉวยโอกาสหรอกอลินธารา” เขาย้อนแล้วอมยิ้ม
“ต้องการอะไรคะ!”
โน้มใบหน้าเข้าหา เธอถอยหลังสีหน้าตระหนก มือยกดันแผงอกกว้างเอาไว้
“อย่านะคะ!”
“ไม่ไปได้ไหม”
“ทำไมคะ!”
“เพราะผมไม่อยากให้คุณไปยุ่งกับผู้ชายคนอื่น”
คิ้วบางขมวด “ฉันจะไปหาอะไรทาน คุณก็ห้ามเหรอ”
“เรื่องกินผมไม่ห้ามหรอก กินจนอ้วนเป็นหมูผมก็ไม่ว่าอะไร เรื่องไหนที่ผมขออยู่คุณน่าจะรู้ไม่ใช่เหรอ”
ริมฝีปากเม้มสนิท เบือนหน้าทางอื่น เพราะรับรู้ถึงลมหายใจอุ่นร้อน ยิ่งใกล้ยิ่งหวาดหวั่น ไม่อยากอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้เลย
“ไม่ได้หรอกค่ะ ฉันรู้จักเขาก่อนท่านประธาน เราคบหากันมาหลายปีแล้ว และเขาไม่เคยทำผิดอะไรกับฉันเลย”
“คุณมั่นใจได้ยังไง เรียนต่างประเทศสามปี คิดว่าเขาไม่มีใครเหรอ”
“ฉันมั่นใจ พรหมไม่ใช่คนแบบนั้น!”
“จริงเหรอ” เขาแสร้งทำเสียงยานคาง
“อย่ามากวนได้ไหมคะ ฉันหิวแล้ว จะไปหาอะไรทาน!”
เขายอมปล่อยร่างบางเป็นอิสระ “ผมไปด้วยสิ”
“ก็แล้วแต่ท่านประธานค่ะ นี่บริษัทคุณ” เธอตอบ แล้วเปิดประตูห้องออกมา
เธอออกจากห้อง ไปยังโต๊ะอาหาร เห็นมีข้าวกล่องกับพวกขนมมาตั้งเตรียมไว้ เมฆินทร์ทอดสายตามอง เธอกำลังหยิงแล้วนั่งลง ตักอาหารทาน มันดูเรียบง่าย แต่แฝงไว้ด้วยความรู้สึกปรารถนา ยิ่งนานวัน เขายิ่งรู้สึกอยากครอบครองในตัวอลินธารามากขึ้นทุกที
เขาหยิบกล่องข้าวมา แล้วหย่อนกายตรงข้าม พนักงานส่งเสียงพูดคุย พอเข้ามาในห้องกลับหยุดชะงัก สีหน้าตื่นตระหนก ไม่คาดดิดว่าท่านประธานจะเข้ามาร่วมทานอาหารในห้องนี้ด้วย พนักงานสองคนตั้งใจหันหลังกลับ
“ไม่ทานข้าวกันเหรอ” เขาเอ่ยปากก่อน สองคนเลยหันมาสีหน้ายินดี
“ทานค่ะ!” รีบตอบพร้อมกัน
“หยิบไปสิครับ ไม่ต้องเกรงใจ บริษัทเรามีสวัสดิการให้พนักงานอีกเยอะ”
“ขอบคุณค่ะท่านประธาน” พนักงานหยิบข้าวคนละกล่องกับขนม แล้วนั่งลงอีกโต๊ะ สายตาไม่วายมองประธานรูปหล่อบ่อยครั้ง
“วันนี้ถ้าดึก เดี๋ยวผมไปส่ง”
คำพูดนี้ทำเอาพนักงานสองคนดวงตาเบิกกว้าง แทบไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน ด้วยไม่เคยเห็นประธานสนใจผู้หญิงคนไหนเป็นพิเศษ กระนั้นก็พอคาดเดาได้ ตั้งแต่เลขาอลินธาราถูกย้ายไปอยู่ในห้องทำงาน รวมถึงการร่วมงานการกุศลที่ผ่านมาด้วย ข่าวแว่วว่าท่านประธานเข้าข้างเลขา จนทะเลาะกับเพื่อนเล่นวัยเด็กอย่างคุณอัญชนาอีกด้วย
“ไม่ต้องค่ะ ฉันกลับเองได้” เธอรีบบอก สีหน้ากังวล เมื่อไหร่จะเลิกทำแบบนี้ มันสร้างปัญหาให้ แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายไม่รู้ร้อนหนาว ราวกับต้องการให้เธอเกิดปัญหา
อลินธารายกกล่องอาหารที่กินหมดแล้ว ทิ้งลงถึงขยะ แล้วกลับเข้าห้องทำงานต่อ ท้องฟ้าดำสนิท หญิงสาวหยิบมือถือเห็นข้อความส่งมา เลยรีบตอบกลับไป ดูเหมือนพรหมยังคงคิดมาหาเหมือนเดิม ไม่แปลกหรอก ก็เราไม่ได้เจอกันนาน อย่างมากก็วีดีโอคอลหากันเท่านั้น อลินธาราปิดคอมพิวเตอร์รวบแฟ้มไว้ตรงหน้า แล้วปริ๊นซ์เอกสารออกมา ก่อนหยิบกระเป๋าสะพาย มองไปยังโต๊ะทำงานเจ้านาย ซึ่งตอนนี้เขาไม่อยู่แล้ว
เดินออกมาด้านนอกห้อง ค่อนข้างสลัว คนที่ยังคงทำงานอยู่ เหลือแต่แผนกบัญชีเพราะเงินเดือนใกล้ออกแล้ว กดลิฟท์ลงมาชั้นล่าง ตรงไปยันลานจอดรถ กวาดตามองหา เสียงฝีเท้าด้านหลังทำให้หญิงสาวรีบหันมามอง สีหน้ายินดี แต่กลับหยุดชะงัก
“กำลังจะกลับเหรอ ทำไมมาที่ลานจอดรถ คุณไม่มีรถไม่ใช่เหรอ” ประธานหนุ่มเอ่ยถาม
คิ้วบางขมวด เธอคิดว่าประธานกลับไปแล้ว ทำไมมาโผล่ตรงนี้ได้
“พอดีฉันมีคนมารับน่ะค่ะ”
“ใครมารับเหรอ หรือว่าแฟนคนนั้น”
เม้มริมฝีปากชั่งใจ ไม่อยากให้เขามายุ่งวุ่นวายด้วยเลย
“ค่ะ แฟนฉันจะมารับ” ยอมตอบตามตรง เธอไม่คิดปิดบังแต่แรกอยู่แล้ว ถ้าหากไม่กลัวพรหมเดือดร้อน
“ผมเคยบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอ” เขาออกปาก ก้าวเข้าหาท่าทีคุกคาม
มือบางยกขึ้นมา เพื่อไม่ให้ถูกรุกเข้าใกล้ สีหน้าตื่นตระหนก ทำไมเจ้านายต้องทำกับเธอแบบนี้
“อย่าเข้ามานะคะ! คุณเป็นถึงประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ ทำไมถึงได้ทำนิสัยหยาบคาย!”
“ทำไมคุณถึงได้อยากหนีผมไปนักอลินธารา เป็นคนรักของผมมันยากตรงไหน ผมมีพร้อมให้คุณทุกอย่าง!”
“ฉันไม่ได้รัก ไม่ได้ชอบคุณไงคะ ฉันถึงไม่ยอมรับ คุณไม่เข้าใจหรือไง เรื่องของความรู้สึกมันบังคับกันไม่ได้ นี่คือเรื่องพื้นฐาน คุณสูงส่งขนาดนี้ ทำงานเก่งขนาดนี้ ฐานะดีขนาดนี้ ทำไมไม่เข้าใจเรื่องง่าย ๆ แค่นี้ล่ะคะ!”
เขาระบายลมหายใจ “ถ้าผมดีขนาดนั้น ทำไมไม่ลองมองผมบ้างเล่า ผมก็คนเหมือนคุณ ไม่ได้สูงส่งอะไรเลย”
“ถ้าฉันไม่มีใคร ฉันก็ยินดีเปิดรับคนอื่นเข้ามา แต่ฉันมีคนรักอยู่แล้ว ท่านประธานเข้าใจไหมคะ!”
“ฉันไม่สน! อะไรที่ฉันต้องการได้ ก็ต้องได้ ใครหน้าไหนกล้าแย่งก็เข้ามา!” เมฆินทร์คำรามในลำคอ ก้าวเข้าหาหญิงสาวมากขึ้น อลินธาราตระหนก หันหลังวิ่งหมายคิดหนี
“ว้าย!” เอวบ้างถูกคว้า ร่างถูกกอดรัดไว้แนบกาย “ปล่อยนะ ปล่อย!”