“เมบี! เรามีเรื่องต้องคุยกัน!”
ฉันถอนหายใจเซ็ง ๆ เมื่อความพยายามที่จะหลบหน้าจีเดย์เป็นอันล้มเหลว ร่างสูงในชุดกาวน์สีขาวเดินเข้ามาคว้าแขนฉันด้วยสีหน้านิ่งขรึมผิดจากวิสัยเดิมโดยสิ้นเชิง ข้าวหอมที่เดินตามฉันออกมาหลังจากขึ้นวอร์ดด้วยกันชะงักเท้าตามไปด้วย มันมองหน้าฉันสลับกับจีเดย์สักพักแล้วก็เดินออกไป ฉันเห็นมันทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ด้วยล่ะ…รู้สึกแย่ชะมัดเลย!
“หมอจีมีอะไรคะ?” ฉันเรียกเขาด้วยสรรพนามที่เปลี่ยนไปจนคนฟังถึงกับเบ้หน้าหน่อย ๆ ท่าทางแสดงความห่างเหินและเว้นระยะอย่างชัดเจนของฉันคงบ่งบอกให้จีเดย์รู้บ้างล่ะว่าฉันไม่พิสมัยที่จะพูดคุยกับเขาสักเท่าไหร่
“ต้องทำขนาดนี้เลยเหรอเม? ความรู้สึกของพี่มันทำให้เมรังเกียจจนต้องห่างเหินกันขนาดนี้เลยเหรอ…”
หัวใจฉันกระตุกหน่อย ๆ เมื่อได้ฟังน้ำเสียงเจ็บปวดของจีเดย์ มันไม่ใช่แค่เขาหรอกนะที่รู้สึกเจ็บน่ะ… ฉันเองก็เจ็บไม่แพ้กัน… จีเดย์เปรียบเสมือนพี่ชายที่ฉันเคารพรัก ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาฉันรักและเชื่อใจเขามาก เราสนิทกันมาก ฉันคิดมาตลอดว่าเขาคือพี่ชายและฉันคือน้องสาว แต่พอมาถึงจุดนี้… จุดที่ความสัมพันธ์ของฉันกับเขาต้องเปลี่ยน… จะให้ฉันทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นและมองข้ามความรู้สึกของเขามันก็ไม่ได้ หรือจะให้ตอบรับความรู้สึกของเขาฉันก็ทำไม่ลงอยู่ดี
และเพื่อทำให้เขาตัดใจจากฉัน ทำให้เขาเลิกคาดหวังกับฉัน ฉันควรห่างเขาออกมา จีเดย์ควรจะตาสว่างได้แล้ว เขาจะได้มองรอบข้างให้ชัดมากกว่านี้ แล้วเขาจะได้เห็นว่ามีใครอีกคนหนึ่งที่รักเขาเพียงคนเดียวมาโดยตลอด…
“ถ้าไม่ใช่ธุระสำคัญฉันคงต้องขอตัวก่อนนะคะ พอดีมีนัดกับแฟน” ฉันเน้นคำหลังเสียงดังพลางจ้องตาเขาตรง ๆ จีเดย์เม้มปากนิด ๆ ก่อนจะสูดลมหายใจแรง ๆ
“เมอย่ามาหลอกพี่เลย พี่รู้นะว่าหมอนั่นไม่ใช่แฟนเม”
“ทำไมหมอจีถึงคิดแบบนั้นละคะ? คิดว่าตัวเองรู้จักฉันดีแค่ไหนกัน? อีกอย่างนะ…ถ้าฉันจะคบกับใคร ฉันจำเป็นต้องรายงานด้วยเหรอคะ?”
รู้สึกเกลียดตัวเองนิด ๆ แล้วล่ะ ทำไมฉันถึงเป็นคนแบบนี้ไปได้นะ! จีบปากจีบคอพูดด้วยน้ำเสียงน่าตบมาก! ต้องเล่นเยอะขนาดนี้เลยเหรอเนี่ยเมบี…เธอน่ะ!
“ก็ได้… ถ้าหมอนั่นเป็นแฟนเมจริง ๆ อีกสามวันจะมีปาร์ตี้วันเกิดของพี่”
“…”
ไม่นะ… ฉันรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ กับน้ำเสียงเย็นเหยียบของจีเดย์ยังไงไม่รู้
“พี่อยากให้เมพาเขามางานด้วย”
“แล้วถ้าฉันไม่ไปละคะ?”
ฉันไม่ไปแน่ ๆ ล่ะ ถ้าต้องพาไอ้ขอนไม้นั่นไปด้วยจริง ๆ ฉันคงต้องกัดลิ้นตายซะก่อน ขนาดเจอกันไม่ถึงห้านาทีฉันยังโดนเขาแซะซะจนจะกระอักเลือดตาย ถ้าต้องลากหมอนั่นไปงานวันเกิดจีเดย์ด้วยล่ะก็…อึ๋ยย! ไม่อยากจะคิด!
“ถ้าเมกับหมอนั่นไม่มา… พี่จะถือซะว่าเมกับเขาไม่ใช่แฟนกัน!”
.
.
.
EROTIX PUB
เสียงดนตรีหนัก ๆ ดังกึกก้องไปทั่วผับหรูที่คับคั่งไปด้วยเหล่านักท่องราตรีทั้งไฮโซและเซเลประดับแถวหน้า เนื่องจากสถานบันเทิงแห่งนี้มีชื่อเสียงติดอันดับต้น ๆ แถมยังตั้งอยู่ใจกลางเมือง แต่วันนี้ฉันไม่ได้มาที่นี่เพียงเพราะมาเที่ยวเหมือนที่ผ่านมาหรอกนะ ฉันมาเพราะต้องการมาหาใครบางคนที่ฉันไปตามสืบทราบมาว่าผับนี้คือแหล่งประจำที่เขาคนนั้นชอบมาบ่อย ๆ
“สวัสดีครับ มาคนเดียวเหรอครับ?”
ฉันชะงักเท้าที่กำลังเดินแทรกผู้คนเข้าไปด้านในผับเพราะถูกใครบางคนขวางทางเดินด้านหน้าเอาไว้ พอเงยหน้าขึ้นมองก็พบกับสายตาเจ้าชู้แบบไม่ปิดบังที่กำลังลามเลียร่างกายฉันอย่างโจ่งแจ้ง ให้ตายสิ! วันนี้ฉันไม่ได้แต่งตัวโป๊เลยนะ! ก็แค่เดรสเกาะอกรัดรูปสีดำที่ผ่าข้างเผยขาอ่อนนิดหน่อยเท่านั้นเอง…
“ขอทางด้วยค่ะ! ฉันนัดแฟนไว้แล้ว!”
“โอ๊ะ! มีแฟนแล้วด้วยสิ…เสียดายจังเลยครับ”
ปากก็บอกเสียดายแต่สายตานี่ไม่ยอมละไปจากหน้าอกฉันเลยนะยะ! ฉันยกกระเป๋าถือขึ้นมาบังหน้าอกตัวเองพลางเบี่ยงตัวหลบเพื่อจะเดินหนีแต่ผู้ชายคนนั้นไม่ยอมง่าย ๆ นี่น่ะสิ! เขาเบี่ยงตัวมาขวางแถมยังถือวิสาสะโอบเอวแล้วดึงฉันเข้าไปประชิดตัวอีกต่างหาก
“นี่คุณ! มันจะมากไปแล้วนะ!!” ฉันใช้กระเป๋าถือดันแผงอกของผู้ชายแปลกหน้าสุดแรง ผู้คนรอบตัวไม่มีใครคิดจะให้ความช่วยเหลือฉันเลยเหรอ! เอาแต่หลับหูหลับตาเต้นไม่มองใครเลยนะ! แล้วฉันจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย!
หมับ!
“อ๊ะ!” ฉันร้องด้วยความตกใจเมื่อจู่ ๆ ก็ถูกกระชากออกจากการเกาะกุมนั่น ร่างฉันเสียหลักไปตามแรงกระชากเล็กน้อยจนปะทะเข้ากับแผ่นอกของใครอีกคน พอเงยหน้าขึ้นมองสิ่งแรกที่เห็นเด่นชัดท่ามกลางแสงสลัวก็คือ…แว่นตา
“มึงยุ่งอะไรด้วยวะไอ้ซัน?”
“ยัยนี่เป็นผู้หญิงของไอ้กาฬ… มึงคงไม่อยากจะหักกับมันหรอกนะไอ้ชิณ?”
ฉันสะดุ้งนิดหน่อยเมื่อได้ยินเสียงเข้มเย็นยะเยือกดังขึ้นใกล้หู คือฉันพยายามทรงตัวขึ้นยืนอยู่ไง แล้วเจ้าของมือหนาก็ยังไม่ยอมปล่อยมือออกจากแขนฉันด้วย แต่เมื่อกี้เขาพูดว่าอะไรนะ? ผู้หญิงของกาฬ? เขาหมายถึงใครกัน? ฉันเหรอ?
“เออ ๆ โทษ ๆ ไม่รู้นี่หว่าว่าไอ้เวรนั่นมันแอบซุกหญิงกับเขาเหมือนกัน”
“เออ… งั้นกูไปละ”
ฉันที่กำลังมึนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้าจู่ ๆ ก็ถูกแรงดึงของผู้ชายที่เข้ามาช่วยเอาไว้เลยต้องเดินตามเขามาด้วยความงุนงงจนกระทั่งมาถึงบันไดทางขึ้นที่เชื่อมขึ้นไปโซนวีไอพีชั้นบน เขาคนนั้นจึงปล่อยมือออกจากแขนฉันแล้วหันกลับมามองหน้ากันอีกครั้ง ฉันจ้องหน้าเขานิ่งขณะพยายามคิดทบทวนว่าเคยเจอเขาคนนี้ที่ไหนมาก่อนหรือเปล่า…
ผู้ชายใส่แว่นท่าทางขรึม ๆ แบบนี้เคยเห็นที่ไหนมาก่อนนะ…