“ถ้าฉันหยุด… เธอก็ต้องหยุดตามฉัน จะเอาอย่างนั้นไหมล่ะ?” กาฬวาตชะงักริมฝีปากลงตรงข้างแก้มฉัน เสียงทุ้มแหบพร่ากระซิบคำขู่ ฉันเม้มริมฝีปากแน่นเพราะไม่รู้จะทำยังไงดี ตอนแรกคิดแค่ว่าเสียจูบเพื่อแลกกับละครฉากใหญ่ แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะต้องเสียตัวเพื่อแลกกับมันอย่างนั้นเหรอ? บ้าไปแล้วเมบี เธอจะยอมเสียมันไปง่าย ๆ แบบนี้น่ะเหรอ!
“ฉะ…ฉัน…”
เพล้ง!!
เสียงแก้วแตกกระทบพื้นดังก้องไปทั่วห้องส่งผลให้ฉันหลับตาปี๋ด้วยความตกใจ พอได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอจากคนเหนือร่างฉันก็รีบลืมตาขึ้นแล้วหันมองตามทิศทางของเสียงแก้วแตกนั้น เศษแก้วระยิบระยับกระจายเต็มพื้นอยู่ปลายเท้าของซันเซทที่กำลังยืนพิงราวระเบียง เขาจ้องมาทางฉันด้วยสายตาดุดันจนรู้สึกหวาดหวั่นแปลก ๆ
“ขัดอารมณ์กูจริงนะ…” กาฬวาตผละออกไปจากร่างกายฉันช้า ๆ แล้วทิ้งตัวนั่งลงด้านข้าง เขาดึงฉันให้ลุกขึ้นก่อนจะออกแรงกระชากเล็กน้อยจนตัวฉันเสียหลักนั่งลงบนตักของเขาอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้เขากลับจับให้ฉันนั่งหันหน้าไปทางซันเซทแทน ฉันไม่กล้าสบตาซันเซทเลยให้ตาย! แล้วทำไมอยู่ ๆ เรี่ยวแรงที่จะขัดขืนมันถึงได้หายไปแบบนี้นะ!
“ปล่อย… ก่อนสิ”
“ถ้าห้ามอีกคำเดียว… ทุกอย่างคือจบ” ฉันย่นคอหนีเสียงกระซิบข้างหู ไม่รู้ว่ากาฬวาตต้องการอะไรกันแน่ แต่ฉันเปลืองตัวกับเขามาเยอะแล้วนะ! มันเยอะเกินไปซะด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นฉันไม่มีทางยอมให้ทุกอย่างมันสูญเปล่าเด็ดขาด
“แค่นั่งเฉย ๆ ใช่ไหม?”
“ไม่… แค่นั่งยังไม่พอ” กาฬวาตเป่าลมหายใจร้อน ๆ รดหลังคอฉันก่อนจะกดริมฝีปากอ่อนนุ่มลงบนลาดไหล่แผ่วเบา เขาจูบเน้น ๆ ซ้ำ ๆ จนฉันต้องห่อไหล่หนีด้วยความรู้สึกวูบวาบแปลก ๆ เป็นจังหวะที่ทำให้ฉันเผลอสบตากับซันเซทโดยไม่ได้ตั้งใจ และสายตาของเขาที่มองมานั้นมันคล้ายกับใครบางคนที่ฉันเคยพบเจอเมื่อนานมาแล้ว…
‘ฉันชื่อเมบีนะ นายชื่ออะไรเหรอ?’
‘ซันเซท…’
‘ซันเซท… พระอาทิตย์ตกน่ะเหรอ? ว้าว! ชื่อเพราะชะมัดเลย…ไม่เหมือนชื่อฉันเลย เมบี… ความหมายก็ไม่มี TT น่าน้อยใจพ่อแม่ชะมัด’
‘ฮ่า ๆ เอาน่า… ว่าแต่เธอจะกลับบ้านเลยไหม? เดี๋ยวฉันเดินไปส่ง’
‘อื้อ! ขอบใจมากเลยนะ! ถ้าไม่ได้นายช่วยเอาไว้เมื่อกี้ ฉันคงถูกผู้ชายพวกนั้นฉุดไปแล้วแน่ ๆ ขอบใจมาก ๆ นะซันเซท… นายน่ารักจังเลย’
‘อืม…ไม่เป็นไร’
“ซันเซท…” ฉันเผลอครางชื่อของผู้ชายตรงหน้าเสียงเบาหลังจากเหตุการณ์เมื่อหกปีก่อนแล่นเข้ามาราวกับกรอเทปกลับ ภาพของผู้ชายร่างสูงหน้าตาหล่อเหลาที่เข้าช่วยฉันไว้จากกลุ่มวัยรุ่นซึ่งหวังจะฉุดฉันให้ขึ้นรถไปกับพวกมัน ตอนนั้นฉันเพิ่งเป็นเฟรชชี่จึงมีกิจกรรมต้องกลับบ้านดึกบ่อย ๆ แล้วบังเอิญวันนั้นฉันนั่งแท็กซี่กลับบ้านคนเดียวและเพราะจะซื้อของในร้านสะดวกซื้อจึงลงหน้าหมู่บ้านเพราะเห็นว่าบ้านตัวเองอยู่แค่กลางซอยเอง เดินกลับชิล ๆ คงจะไม่เป็นอะไร แต่ที่ไหนได้ละ! ผลสุดท้ายเกือบจะโดนฉุดขึ้นรถ! โชคดีนะที่ซันเซทเข้ามาช่วยเอาไว้ได้ทัน
“หึ… ดีนี่ นั่งอยู่บนตักฉันแต่ดันครางชื่อเพื่อนฉัน เธอเป็นผู้หญิงประเภทไหนกันแน่วะ? ตกลงจะจับฉันหรือจับเพื่อนฉันกันแน่? หรือคิดจะ ‘มั่ว’ กับทุกคนเลย?” เสียงกระซิบเย็น ๆ ดังขึ้นจากข้างหู หากทว่ามันกลับไม่ได้เย็นเหมือนน้ำเสียงของเขา เพราะคำพูดถากถางนั่นมันเปรียบเสมือนน้ำร้อนสาดรดร่างกายฉันจนชาไปหมดทุกส่วน
เขาดูถูกฉันอีกแล้วนะ หมอนี่น่ะ… ดูถูกฉันอีกแล้วนะ!!
เย็นไว้เมบี… อย่าโวยวาย อย่ามีอาการ เกมนี้ฉันจะแพ้ไม่ได้! ยอมเปลืองเนื้อเปลืองตัวให้เขามากขนาดนี้อย่าปล่อยให้มันเสียฟรี! อย่างน้อย ๆ เขาก็ทำให้ฉันได้รู้อย่างหนึ่งแล้วล่ะว่าผู้ชายอย่างกาฬวาต…ไม่ชอบใช้ผู้หญิงร่วมกับเพื่อน!
หึ… อยากคลั่งนักใช่ไหม? อยากให้ฉัน ‘มั่ว’ นักใช่ไหม? ได้… เมบีจัดให้!
พรึ่บ!
ฉันดึงท่อนแขนแกร่งออกจากร่างกายตัวเองก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง สายตายังคงจับจ้องไปทางซันเซทขณะก้าวเท้าเข้าไปหาเขาช้า ๆ สายตาคมเข้มของซันเซทมองฉันนิ่งราวกับกำลังคาดเดาว่าฉันคิดจะทำอะไร ฉันจึงส่งยิ้มหวานให้เขาเพื่อเป็นการเปิดทาง วัดใจกันหน่อยเป็นไง!
ฉัน…กาฬวาต…ซันเซท… มาวัดกันซิว่าใครจะคลั่งก่อนใคร!
“นี่ซันเซท…” ฉันเรียกชื่อผู้ชายตรงหน้าด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานพลางเบี่ยงตัวเล็กน้อยเพื่อหลบเศษแก้วบนพื้นก่อนปรายตามองผู้ชายด้านหลังที่ยังนั่งอยู่ที่เดิมและท่าเดิม เขายังใช้สายตาเหยียบเย็นมองมาทางฉันไม่วางตา
ดี… ยิ่งเขาแสดงออกว่าสนใจในสิ่งที่ฉันทำขนาดนี้ มันก็ยิ่งน่าสนุก…
“อะไร…”
ฉันละสายตากลับมามองดวงตาคมผ่านเลนส์กระจกของแว่นสายตา จึงค่อย ๆ เอื้อมมือขึ้นถอดแว่นของซันเซทออกช้า ๆ จนกระทั่งเผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหมือนในคืนวันนั้นเมื่อหกปีก่อนไม่มีผิด เพราะเขาใส่แว่นสินะฉันถึงจำเขาไม่ได้… ถึงว่าทำไมคุ้นชื่อเขาแปลก ๆ
“นายว่างไปออกงานกับฉันไหม?” ฉันถามพลางปรายตามองกาฬวาตที่ยังนั่งนิ่งเป็นขอนไม้เหมือนเดิม แต่เมื่อกี้ฉันเห็นนะ… หมอนั่นหัวคิ้วกระตุกนิด ๆ ราวกับกำลังเก็บอารมณ์
“เธอเป็นแฟนไอ้กาฬหรือเปล่า...” ซันเซทไม่ตอบคำถามแต่กลับถามฉันกลับแทน และที่สำคัญคือถามตรงจุดเลยด้วยไง
แหม…งานนี้ก็สนุกล่ะสิ!
“ไม่รู้สิ… เพื่อนนายไม่สนใจฉันเลย เพราะฉะนั้นตอนนี้ฉัน ‘โสด’ ”