เวลาล่วงเลยจนมาถึงวันเสาร์ นายแพทย์หนุ่มเดินทางมาพร้อมกับท่านประชา ทว่าสีหน้าเหมือนคนถ่ายไม่ออกมาเป็นชาติ ไหนจะพกยาดมเอาไว้ในมือ ทำตัวไม่ต่างจากคนป่วย
เมื่อมาถึงห้องอาหารที่ทั้งสองครอบครัวได้นัดหมายกันเอาไว้ ชายหนุ่มก็ถูกแนะนำให้รู้จักกับหญิงสาวที่มีชื่อว่า มุกดา หรือหลายคนเรียกว่าน้องมุก
เธอสวยและดูแพงไปหมดทั้งตัว หากแต่คุณหมอกลับไม่สนใจ ไม่รู้ทำไมหัวใจของเขาเอาแต่คิดถึงมินตรา ถึงผู้หญิงคนนั้นจะไม่ได้สวยหยาดฟ้ามาดิน แต่มีความน่ามองมากกว่าคุณหนูมุก
“พี่หมอวาเป็นอะไรไปคะ หรือว่าอาหารไม่อร่อย”
น้ำเสียงที่เปล่งออกมาฟังดูยังไงก็ดัดจริต ทำให้คุณหมอหนุ่มรู้สึกหงุดหงิดไม่น้อย แต่ยังเก็บอาการเอาไว้เพราะไม่อยากโดนคุณปู่ดุต่อหน้าคนหมู่มาก
“อ้อ เปล่าครับ พอดีคิดเรื่องงานอยู่”
ว่าไปโน่นทั้งที่จริงเขาคิดถึงมินตราต่างหาก ยิ่งโหยหายิ่งอยากเจอ
“ตอนแรกมุกก็อยากเรียนหมอเหมือนกัน แต่เห็นเลือดแล้วจะเป็นลมก็เลยไปเรียนอย่างอื่น”
มุกดาชวนคุยถึงแม้จะรับรู้ได้ว่าผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างกายดูเหมือนไม่ค่อยอยากจะคุย แต่เธอคิดเอาเองว่าคนเป็นหมอก็ต้องมีบุคลิกแบบนี้แหละ
บอกตามตรงเธอถูกใจนายแพทย์วศิน หากครอบครัวอยากให้ลงหลักปักฐานกับผู้ชายคนนี้เธอก็ยินดีมาก เพราะเขาเหมาะสมกับตนเองทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นหน้าตา ชาติตระกูล หรือเรื่องเงินทอง
“ครับ แล้วคุณมุกเรียนจบอะไร”
ชายหนุ่มเอ่ยถามตามมารยาทไม่ได้อยากรู้เรื่องของเธอเลยสักนิด หากเป็นไปได้เขาอยากหนีกลับไปนอนที่คอนโด ถ้าไม่เป็นการรบกวนจนเกินไปเขาอยากไปหามินตรา ทว่าตอนนี้เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันแล้วจะทำแบบนั้นไม่ได้อีก
คำถามของคุณหมอสร้างความดีใจให้มุกดาไม่น้อย เธอเริ่มเข้าข้างตัวเองคิดว่าเขากำลังอยากรู้เพื่อสานสัมพันธ์ ผู้ชายคนไหนจะต้านทานความสวยของคุณหนูมุกดาได้ลง แต่ไหนแต่ไรก็มีผู้ชายคอยตามตลอด แม้แต่คุณหมอวศินก็ต้องแบบนั้น
“แฟชั่นดีไซน์จากลอนดอนค่ะ ว่าจะกลับมาเปิดแบรนด์เป็นของตัวเอง แต่ยังไม่มีแรงบันดาลใจก็เลยยังไม่ได้เริ่ม”
พูดง่ายๆ ตอนนี้เธอว่างงาน ถึงไม่ทำงานก็มีเงินใช้ไปทั้งชาติ เธอจึงไม่ซีเรียส
“ครับ ผมขอตัวไปห้องน้ำสักครู่นะครับ”
“เชิญตามสบายค่ะ” หญิงสาวส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ก่อนจะผายมือไปทางประตู นายแพทย์วศินจึงรีบก้าวเท้าเดินออกไปเพราะทนกลิ่นน้ำหอมของเธอไม่ไหว
เมื่อเข้ามาอยู่ในห้องน้ำเขาก็อาเจียนอย่างหนัก จนอดสงสัยไม่ได้ว่าตนเองกำลังป่วยหรือเปล่า ทำไมถึงได้หน้าซีดเป็นไก่ต้ม แถมยังวิงเวียน ได้กลิ่นอะไรก็เหม็นไปหมด โดยเฉพาะกลิ่นน้ำหอมจากตัวมุกดา
หลังจากที่เขาล้างหน้าล้างตาเรียบร้อยก็ค่อยๆ เดินออกมาจากห้องน้ำ บังเอิญมากที่หางตาเหลือบไปเห็นมินตราจึงก้าวเท้ายาวๆ ไปหาเธอราวกับมีคนออกคำสั่ง
“มิน” เสียงเรียกอันแสนคุ้นหูทำให้มินตราที่กำลังยืนรอใครบางคนต้องหันมามอง สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าจะได้เจอพ่อของลูกที่นี่
“คุณวา” เธอเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงเบาหวิว ก่อนจะดึงกระเป๋าสะพายมาบังบริเวณท้องเพื่อป้องกันไม่ให้เขาเห็น วันนี้หาญกล้าชวนออกมาเปิดหูเปิดตา เธออยู่บ้านเบื่อๆ จึงยอมมาด้วยไม่คิดว่าจะได้เจอคนที่ไม่ได้ติดต่อกันมาหลายเดือน
“มินมาทำอะไรที่นี่” ทั้งน้ำเสียงและแววตาของคุณหมอบ่งบอกถึงความดีใจอย่างไม่ปิดบัง ใบหน้าไร้การเติมแต่งของมินตราทำให้เลือดในกายของเขาสูบฉีดไปทั่วตัว ภาพที่เกิดขึ้นในอดีตวนเข้ามาในหัวอย่างห้ามไม่อยู่ เขาอยากจูบเธอ
“คือมิน” / “น้องมินครับ” หญิงสาวยังไม่ทันจะให้คำตอบเพราะถูกหาญกล้าเรียกชื่อ ชายหนุ่มที่มีใบหน้าหล่อเหลาไม่น้อยกว่านายแพทย์วศินเดินมาหยุดข้างกายหญิงสาว ก่อนจะยื่นกระเป๋าสตางค์ให้เธอ
“หนูลืมกระเป๋าตังค์” เขาเอ่ยเสียงหวาน ก่อนจะเหลือบไปมองทางผู้ชายอีกคนที่กำลังจ้องมอง
“เอ้า ลืมตอนไหน ขอบคุณมากนะคะพี่กล้า” คิ้วเรียวที่พาดอยู่เหนือดวงตายกขึ้นมาด้วยความตกใจ กระเป๋าใบนี้เป็นของป้าที่มอบให้เธอเป็นของขวัญวันเรียนจบ หากทำหายเธอต้องร้องไห้เป็นเผ่าเต่าแน่เพราะมันมีคุณค่าทางใจ
“ครับ เอ่อ แล้วคุณคนนี้คือ” หาญกล้าชี้ไปยังชายหนุ่มอีกคนพร้อมกับตั้งคำถามด้วยความอยากรู้ เหมือนมีบางอย่างมากระซิบตรงข้างหูบอกว่าสองคนนี้น่าจะไม่ใช่คนรู้จักธรรมดา
“อ้อ คุณหมอวาเป็นหลานของเจ้านายเก่าค่ะ” เธอเหลือบไปมองเขาก่อนจะบอกหาญกล้า แนะนำแบบนี้ก็ไม่ผิด เพราะหมอวศินคือหลานของผู้มีพระคุณจริงๆ
“หลานของเจ้านายเก่า?” หาญกล้าถามซ้ำอย่างไม่อยากเชื่อ มองจากนอกโลกก็ดูออกว่าสองคนนี้มีซัมทิงกัน ดีไม่ดีผู้ชายที่ดูหล่อเหลาราวกับเทพบุตรตรงหน้าอาจจะเป็นอดีตคนรักของมินตรา
“ค่ะ เรากลับกันเลยดีกว่า”
เธอยังยืนยันคำเดิม แววตาลำบากใจของมินตราทำให้หาญกล้าไม่อยากเซ้าซี้ จึงพยักหน้าตกลง กลับก่อนก็ได้ส่วนเรื่องนี้เขาค่อยถามเธอให้แน่ชัด
“ครับ” แต่หญิงสาวยังไม่ทันจะหมุนตัวเดินหนีไป กลับถูกนายแพทย์วศินเข้ามาขวางทางเอาไว้ ก่อนจะเดินเข้ามาหาเธอ
“เดี๋ยวสิมิน”
เขาเรียกชื่อเธออย่างสนิทสนม นัยน์ตาเต็มไปด้วยความคิดถึง แม้แต่หาญกล้าที่กำลังมองอย่างประเมินก็ยังรับรู้ได้
“หลีกไปค่ะคุณวา” น้ำเสียงของหญิงสาวเย็นชาอย่างที่ไม่เคยพูดออกมา ทำให้คุณหมอวศินรู้สึกกลัว ใจหล่นไปอยู่ตรงตาตุ่มเมื่อเห็นแววตาไร้ความรู้สึกของเธอที่กำลังแสดงออกมา
“ผมยังไม่ได้คุยกับมินเลย” สุ้มเสียงของชายหนุ่มเว้าวอน แต่สู้ดวงตาไม่ได้ เขาอยากคุยกับเธอเหลือเกิน ยิ่งไปกว่านั้นเขาอยากดึงเธอเข้ามากอด
“เราไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้ว” ในเมื่อตัดสินใจจะตัดขาดก็ต้องทำให้ได้ หญิงสาวบอกตัวเอง เธอต้องเข้มแข็ง
“มิน ผมก็แค่” / “ขอตัวนะคะ หวังว่าเราจะไม่ต้องเจอกันอีก”
“โธ่มิน” คุณหมอครางชื่อออกมาราวกับคนหมดหนทาง
“ไปค่ะพี่กล้า มินอยากกลับแล้ว” เพราะกลัวตัวเองจะร้องไห้ตรงนี้ เธอจึงไม่อยากคุยกับพ่อของลูกที่ตอนนี้ยังไม่รู้เรื่องลูก
มือบางยกขึ้นมาวางไว้บนท่อนแขนของหาญกล้าอย่างสนิทสนม ทำให้คุณหมอวศินรู้สึกร้อนในอก
เขาโคตรอยากกระชากมือเธอออกแล้วยกมาวางไว้บนมือของตนเองแทน แต่ทำแบบนั้นไม่ได้ ทว่าหญิงสาวยังไม่ทันจะเดินจากไปไกล กลับได้ยินเสียงหวานของผู้หญิงคนหนึ่งร้องเรียกนายแพทย์วศินว่า พี่หมอวาขา
เรียวขาทั้งสองข้างของว่าที่คุณแม่หยุดก้าวอย่างอัตโนมัติ ก่อนจะหันไปมองทางคนทั้งสอง
ขอบตาของเธอร้อนผ่าวเมื่อเห็นความเหมาะสมของพวกเขา ผู้หญิงคนนี้คือว่าที่เจ้าสาวของคุณหมอวศินใช่ไหม
ถ้าใช่ก็ดีแล้ว เพราะทั้งคู่ดูเข้ากันเหลือเกิน
“น้องมินเป็นอะไรรึเปล่า ทำไมหน้าซีดจัง”
“อากาศคงร้อนมั้งคะ เรากลับกันเถอะ มินอยากนอน”
“ได้ครับ ว่าแต่ผู้ชายคนเมื่อกี้คือใคร ใช่หลานของเจ้านายเก่าจริงเหรอ เอ่อ พี่ขอถามได้ไหม”
“มินยังไม่พร้อมให้คำตอบ พี่กล้าเข้าใจใช่ไหมคะ”
“เข้าใจครับ ไปเถอะ พี่ไม่บังคับให้มินพูดหรอก”
หญิงสาวส่งยิ้มจริงใจ ก่อนจะค่อยๆ พาร่างกายและหัวใจอันบอบช้ำเดินไปตามทาง โดยไม่รู้ว่ามีสายตาของนายแพทย์วศินกำลังมองอยู่ราวกับจงอางหวงไข่ หาได้สนใจผู้หญิงสวยตรงหน้าแม้แต่น้อย
มุกดามองตามสายตาของคุณหมอ เห็นสองหนุ่มสาวที่ตนเองไม่รู้จักกำลังเดินเคียงคู่กัน ไม่ต่างจากคู่รักจึงรู้สึกสงสัยไม่น้อย พี่หมอวาของเธอมองสองคนนั้นทำไม
“พี่หมอวามองอะไรอยู่เหรอคะ”
“เปล่าครับ ไม่มีอะไร”
“พี่หมอวาหน้าซีดมาก เป็นอะไรรึเปล่าคะ”
“ผมไม่ได้เป็นอะไร”
“แน่ใจใช่ไหมคะ”
“ครับ เอ่อ คุณมุกเข้าไปในห้องก่อนนะครับ ผมอยากเข้าห้องน้ำอีกรอบ” ไม่อยากเข้าห้องน้ำอีกรอบได้ยังไง ในเมื่อเขาเหม็นกลิ่นน้ำหอมของเธอจนอยากจะอาเจียน
นายแพทย์วศินพาตัวเองเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง ก่อนจะคว้ายาดมมาสูดให้เต็มปอด อาการอยากอาเจียนหายไปในพริบตาเมื่อคิดถึงมินตรากับผู้ชายที่ไม่รู้จัก
ไม่รู้ทำไมมือหนาถึงได้ตัดสินใจยกโทรศัพท์ออกมาแล้วกดเบอร์ของเธอ แต่กลับติดต่อไม่ได้เขาจึงส่งข้อความไปแทน หากแต่ส่งไม่ได้เหมือนกัน
“บล็อกเหรอ มินตราบล็อกแชตกูเหรอวะ” เขางงเป็นไก่ตาแตก ไม่คิดว่าตนเองจะโดนเธอบล็อกช่องทางการติดต่อ
“ลองดูทางอื่น” ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก ไอจี หรือไลน์ เขาก็ส่งข้อความไปหาเธอไม่ได้ ตอนนี้จึงมั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ เขาโดนเธอบล็อกหมดทุกช่องทาง เขาติดต่อเธอไม่ได้อีกแล้ว
ชายหนุ่มเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยอารมณ์หงุดหงิดงุ่นง่าน แต่ได้ยินพนักงานของร้านกำลังพูดถึงสองหนุ่มสาวที่เพิ่งออกไปได้ไม่นาน ประมาณว่าผู้หญิงทำซองยาหล่นเอาไว้
ซองยา? ยาอะไร?
มินตราป่วยเหรอ?
ด้วยความอยากรู้ เขาจึงเข้าไปถามพนักงานพร้อมกับบอกว่าตนเองรู้จักกับหญิงสาว คราแรกพนักงานเหมือนไม่ค่อยเต็มใจจะเชื่อ เขาจึงเปิดรูปคู่ที่เคยถ่ายอย่างสนิทสนมให้ดู
ทางพนักงานเห็นว่าลูกค้าคนนี้รู้จักกับลูกค้าที่ลืมของเอาไว้จริงๆ สุดท้ายจึงยอมส่งมอบซองยาให้คุณหมอ ชายหนุ่มมุ่นคิ้วด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นข้อมูลบนซองยา
“ยาบำรุงครรภ์ นางสาวมินตรา มีโชค มินท้องเหรอ!”