ถึงเนื้อถึงตัว #1

1355 Words
“หมายถึง…ยังไงนะคะ..” พระจันทร์ชี้นิ้วเข้าหาตัวเองด้วยความสงสัย “หมายถึงให้ลูน่าดื่มเหรอคะ..” “ใช่ ฉันดื่ม เธอดื่ม ทุกครั้งที่เธอดื่มฉันจะทิปให้" เตชินทร์พูดเสียงเรียบนิ่งจนทำให้คนฟังเดาอารมณ์ไม่ถูก “ดื่มละเท่าไหร่ดีล่ะ สำหรับข้างแรมของเธอน่ะ" หญิงสาวขมวดคิ้ว กำลังจะเอ่ยปฏิเสธออกไปว่าเธอเป็นบาร์เทนเดอร์ ไม่สามารถนั่งดื่มกับลูกค้าได้เพราะอาจจะทำให้เมาจนทำงานส่วนที่เหลือตลอดทั้งคืนไม่ได้ แต่เมื่อนึกถึงเรื่องทิปแล้วพระจันทร์ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ เมื่อครู่เธอดันคืนทิปตั้งห้าพันให้กับลูกค้าไปด้วยสิ.. “หนึ่งพันบาทค่ะ" ริมฝีปากอิ่มเอ่ยบอกเสียงแผ่ว “ดื่มละหนึ่งพันบาท แยกเป็นของคุณเตหนึ่งดื่ม และของฉันหนึ่งดื่ม" “แปลว่าครั้งละสองพัน" เขาพูดแล้วหยิบธนบัตรสีเทาออกมาวางบนโต๊ะสิบใบ “ห้าดื่ม ชงมาเลย" “เชี่ย วันนี้วิญญาณอะไรเข้าสิงมึงวะเพื่อน ปกติไม่เห็นจะเคยเปย์ใคร มาวันนี้เรียกน้องลูน่าเขามาครั้งแรกก็เอาเลยเหรอวะ หนึ่งหมื่นมันธรรมดาไปหรือเปล่าเพื่อน" นรากรเอ่ยแซวเพื่อน โดยไม่รู้เลยว่านั่นทำให้พระจันทร์อยากจะถอนคำพูดตัวเองทิ้ง แค่ห้าดื่มนี้สติก็น่าจะไม่เหลือแล้ว.. “เริ่มที่ห้าดื่มก่อนก็ได้ค่ะ..” พระจันทร์พยายามข่มความหวาดหวั่นในอกแล้วเริ่มต้นทำข้างขึ้นเสิร์ฟให้กับนรากรก่อน ตามด้วยข้างแรมสิบแก้ววางเรียงรายเต็มโต๊ะ รอให้ตนเองและลูกค้าหน้านิ่งคนนั้นได้ยกดื่ม เตชินทร์หยิบธนบัตรสีเทาอีกสิบใบมาวางลงบนโต๊ะอีกครั้ง พระจันทร์ที่เห็นจำนวนเงินมากเท่ากับทิปเกือบทั้งเดือนของตนก็ตกใจจนพูดไม่ออก “เอ่อ…หมายความว่ายังไงคะ" “สิบช็อตไง.. เธอดื่มก่อนสิ ไหน ๆ ก็ชงมาแล้ว" เตชินทร์หยิบเอาช็อตหนึ่งมาถือไว้ “ฉันช่วยหนึ่งช็อต ที่เหลืออีกเก้า แลกกับทิปสองหมื่นบาท ทำได้หรือเปล่า" “เก้าช็อตมันมากเกินไปนะคะ.. ถ้าลูน่าเมา ลูน่าก็จะไปทำงานต่อคืนนี้ไม่ได้น่ะสิคะ” พระจันทร์เอ่ยบอกเสียงอ้อน เพราะความจำเป็นที่เป็นชนักติดอยู่บนหลังส่งผลให้เธอต้องทำถึงขนาดนี้ “ช่วยลดเหลือห้าช็อต…แต่ทิปสองหมื่นไม่ลดได้ไหมคะ" “หน้าเงินไม่เบาเลยนะ..” เตชินทร์พึมพำ หยิบเอาธนบัตรอีกสิบใบออกมาวาง “สามหมื่น แต่เก้าช็อต ฉันจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย" เงินสามหมื่นบาททำให้พระจันทร์หยุดการต่อรองทันที หญิงสาวเก็บเอาทิปทั้งหมดที่อยู่บนโต๊ะไปอย่างรวดเร็ว “ได้ค่ะ งั้นเริ่มเลยนะคะ" รัมช็อตข้างแรมแก้วแล้วแก้วเล่าค่อย ๆ ไหลผ่านลำคอของพระจันทร์ไป แก้วแรก ๆ เธอยังพอมีสติในการตอบโต้ แต่เมื่อเริ่มเข้าสู่แก้วที่ห้าดวงตาก็ชักจะพร่าเลือน หัวก็เริ่มจะมึน ๆ แล้ว รู้ตัวอีกทีเธอก็ย้ายที่จากการยืนซวนเซตรงหัวโต๊ะไปนั่งอยู่บนตักขอเตชินทร์ ริมฝีปากร้อนผ่าวของเขาขยับเข้ามากดอยู่บนลาดไหล่ของเธอ แตะลิ้มชิมรสความหอมหวานจนหนำใจ ในที่สุดก็ประกบลงบนริมฝีปากอิ่มที่เปรอะไปด้วยคราบเครื่องดื่ม แสงไฟมืดสลัวภายในเวก้าบาร์เป็นเหมือนตัวเร่งปฏิกิริยาชั้นดีของรสจูบในครั้งนี้ พระจันทร์ไม่อาจจดจำได้เลยว่าตนเผลอไผลเอามือไปคล้องคออีกฝ่ายตั้งแต่เมื่อไหร่ หรือสะโพกของตนเริ่มจะขยับถูหน้าตักของคนที่อยู่ใต้ร่างตอนไหน และเพียงแค่พระจันทร์ถอยใบหน้าออกครู่หนึ่งเพื่อกอบโกยอากาศหายใจ มือหนาก็จะยกขึ้นเพื่อดันศีรษะให้กลับไปรับจูบอีกตามเคย มิหนำซ้ำยังตรึงล็อคไว้แน่นเพื่อไม่ให้เธอขยับหนีได้อีกต่างหาก เว้นแต่…เขาอยากจะถอนจูบออกเพื่อเปลี่ยนเป้าหมายไปยังส่วนอื่น มือหนาที่ในคราวแรกทิ้งสัมผัสไว้บริเวณเอวบางเริ่มรุกล้ำลึกขึ้นเรื่อย ๆ จนมือหนาจมหายเข้าไปใต้เดรสเป็นที่เรียบร้อย “อ..อ๊ะ" “อะแฮ่ม” เป็นนรากรที่นั่งจิบวิสกี้อยู่นานที่พูดโพล่งขึ้นมา “คือกูก็ไม่ได้อยากขัดจังหวะมึงหรอกในไอ้เต แต่มึงช่วยเห็นหัวกูหน่อยเถอะว่ะ กูนั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้นะเว้ยเพื่อน แล้วกูก็จำได้ว่ามึงชวนกูออกมาแดกเหล้าด้วย แต่ตอนนี้กูรู้สึกเหมือนมึงชวนกูมาดูหนังสดเลยว่ะ" “ที่มึงพูดขึ้นมานี่แหละขัดกู ไอ้เวร" ดวงตาสีเทาหม่นจ้องเขม็งไปยังเพื่อนสนิทตัวแสบเป็นการคาดโทษ ทว่านรากรกลับลอยหน้าลอยตาพูดต่อ “คร้าบ คร้าบ มึงนี่ก็นะ ไม่ค่อยจะเท่าไหร่เลยเนาะ เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนมึงเพิ่งจะบอกกูว่าไม่อยากเข้าใจสวรรค์ในแบบของกู แหม ปากมึงปฏิเสธแต่มือนี่กดโอนยิก ๆ เลยนะ น้องคนสวยได้เงินไปเท่าไหร่แล้วจ๊ะ อยากได้ของพี่กรเพิ่มด้วยหรือเปล่า" หนุ่มขี้เล่นส่งจุ๊บทะเล้นเพื่อกวนส้นเพื่อนตัวดีไปหนึ่งที พระจันทร์ที่ได้โอกาสกอบโกยโอกาสหายใจเพราะเตชินทร์ถอนริมฝีปากออกไปคุยกับเพื่อนทำได้เพียงหันไปมองยิ้ม ๆ โดยไม่ได้ให้คำตอบ “พูดเหี้ยอะไรของมึง คนนี้กูไม่ให้ คนสวย ๆ ในร้านอีกมีอีกตั้งเท่าไหร่ อย่ามายั่วโมโหกูนะไอ้กร" เตชินทร์เสียงแข็งใส่เพื่อนเป็นการบ่งบอกว่าเขาเอาจริง นั่นทำให้นรากรยิ่งแคลงใจเข้าไปใหญ่ “อะไรของมึง กูพูดเล่นนิดพูดเล่นหน่อยไม่ได้เลย กับคนนี้มึงเป็นเอามากนะเนี่ยไอ้เต” หรี่ตาลงมองเพื่อนอย่างจับผิด “จะยังไงก็เหอะ ถ้ามึงอยากจะกอดจูบลูบคลำน้องเขามากกว่านี้เนี่ย กูขอจุดธูปอัญเชิญมึงไปเปิดห้องที่ชั้นสามเถอะครับ อย่ามาทำตรงนี้เลย กูก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูน เข้าใจ๊” “เอ่อ เดี๋ยวก่อนนะคะ ลูน่ายังไม่ได้บอกเลยนะคะว่าอนุญาตให้เปิดห้อง ตามข้อตกลงของการเป็นเด็กเสิร์ฟที่นี่…บริการของเราจบลงแค่ในโต๊ะเท่านั้นค่ะ" พระจันทร์ยกมือขึ้นปรามชายหนุ่มทั้งสองคนหย็อย ๆ เพื่อย้ำจุดยืนของตัวเอง แม้ตอนนี้จะรู้สึกมึนหัวด้วยฤทธิ์ของรัมช็อตมากแค่ไหนก็ตาม “อ้าว ๆ ไอ้เต งั้นมึงพอเลย ปล่อยน้องเขากลับไปได้แล้ว หรือมึงจะนัวเนียน้องเขาอยู่ที่โต๊ะนี้ไปยันเช้าเลย" “ต้องจ่ายเท่าไหร่..” เตชินทร์ไม่สนใจคำห้ามคำเตือนของเพื่อน เขาจ้องใบหน้านวลที่แดงซ่านด้วยรสจูบที่ตนมอบให้ ผสมกับฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ตนสั่งให้ดื่มแลกกับทิปไปเมื่อครู่ “คะ..” พระจันทร์ถามเสียงพร่า เพราะมือของชายหนุ่มที่คืนนี้ให้เงินเธอมาหลายหมื่นแล้วยังคงวนเวียนอยู่ที่บั้นเอวบางไม่ห่าง “ลูน่าบอกแล้วไงคะ..ว่าลูน่าบริการได้แค่ที่โต๊ะจนถึงเวลาร้านปิดเท่านั้น ถ้าเกิดว่าคุณคิดถึง..อยากจะให้ลูน่าบริการอีก ก็มาเจอกันพรุ่งนี้ได้ค่ะ..” “บริการพิเศษ นอกเหนือจากที่โต๊ะนี้ ฉันต้องจ่ายเงินเท่าไหร่" ลูกค้าหน้าตายของเธอยังไม่ยอมรามือไปโดยง่าย “ลูน่าไม่…” คำพูดในลำคอของพระจันทร์กลืนหายไปในลำคอเหมือนกลายเป็นคนใบ้ชั่วคราวเมื่อนึกถึงปัญหาอันหนักอึ้งที่ตนต้องแบกรับอยู่ในตอนนี้ จนแต่ไม่เจียม ไม่มีเงินก็ลาออกไปซะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD