ชั้นสอง #2

1352 Words
พระจันทร์ไม่ตอบในทันที เธอก้มตัวลงหยิบเชคเกอร์ขึ้นมา รังสรรค์เครื่องดื่มรสเร่าร้อนซึ่งเป็นเมนูที่เธอคิดขึ้นมาด้วยตัว ไม่ได้อยู่ในป้ายเมนูของร้าน มือบางเขย่าขวดเชคเกอร์อย่างทะมัดทะแมง ท่วงท่าน่าชมนั้นทำให้เหล่าลูกค้าโดยรอบหยุดมองกันเป็นตาเดียว อึดใจต่อมาเครื่องดื่มสีอำพันก็ถูกเทเสิร์ฟลงแก้ว พระจันทร์ดันเมนูประจำตัวออกมาต่อหน้าพร้อมกับอธิบาย “ฮาล์ฟออฟมูนค่ะ ในนี้จะมีเหล้ารัมเป็นแอลกอฮอล์หลัก หวานด้วยน้ำตาลอ้อย เติมความหอมและเผ็ดร้อนด้วยน้ำข่า เป็นเมนูที่ทานง่าย แอลกอฮอล์ไม่หนักจนเกินไปด้วย หวังว่าจะถูกปากคุณลูกค้านะคะ" เขาคว้าเอาแก้วเครื่องดื่มนั้นไปชิมดูแล้วก็ต้องร้องว้าวออกมาเมื่อรสชาติของมันนั้นถูกใจเป็นอย่างมาก “โอ้โห ฟังเมื่อกี้นึกว่าจะหวานจนหน้าเหย ที่ไหนได้ออกมาดีเลยนี่ ฝีมือไม่ธรรมดาเหมือนเคยเลยนะจ๊ะน้องลูน่า อันนี้ทิปนะคะคนสวย" พระจันทร์เหลือบตามองธนบัตรสีเทาสองใบที่วางลงหน้าเคานเตอร์ก่อนจะระบายรอยยิ้มบาง ๆ ให้เหมือนเช่นทุกครั้ง “ขอบคุณค่ะ" “ไม่มีอะไรพิเศษให้พี่หน่อยเหรอคะ" ลูกค้าจอมตอแยถามย้ำ สีหน้าดูไม่ค่อยพอใจนักที่พระจันทร์เอ่ยเพียงแค่คำว่าขอบคุณ “เซอร์วิสเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ลูกค้าประจำเนี่ยมันไม่มีเลยหรือไง" บาร์เทนเดอร์สาวถอนหายใจ “ฉันเป็นบาร์เทนเดอร์ค่ะ หน้าที่สิ้นสุดลงเพียงแค่นี้ ต้องขอโทษด้วยนะคะถ้าหากแสดงอาการอะไรออกไปแล้วทำให้ไม่พอใจ” “อ้อ.. ก็นึกว่าจะต้องจ่ายเพิ่ม ถ้าเกิดว่าจ่ายให้มากกว่านี้แล้วทำอย่างอื่นได้ก็บอกพี่นะจ๊ะน้องลูน่า รู้ตัวหรือเปล่าว่าเราน่ะสวยที่สุดในร้านแล้ว ถ้าเลิกยืนชงเหล้ารอรับทิปแค่ไม่เท่าไหร่ เปลี่ยนไปเป็นเด็กนั่งดริงค์ตามโต๊ะ พี่รับรองเลยว่าหนูได้เงินเยอะกว่านี้แน่ ๆ พี่จะเป็นลูกค้าอย่างว่าของหนูคนแรกเลยนะจ๊ะ" พระจันทร์ฉุนกึกเมื่อรู้สึกว่าตนกำลังถูกลดทอนคุณค่าและศักดิ์ศรี เธอไม่โต้ตอบแต่เลือกที่จะหันหลังหนีไปเช็กสต็อคเครื่องดื่มแทน ลูกค้าจอมตื๊อไม่หยุดอยู่เพียงเท่านั้น เขาตะโกนเรียกด้วยเสียงที่ดังขึ้น “ลูน่าจ๋า สนใจพี่หน่อยสิจ๊ะ พี่ขอสั่งเมนูนี้อีกแก้วนึง ได้ไหมเอ่ย" “ถ้าดื่มมากไปจะทำให้เมาเกินนะคะ..” พระจันทร์พยายามตอบอย่างใจเย็น เธอมองหารุ่นพี่อย่างใบเตยแต่ก็พบว่าหล่อนลงไปช่วยงานพี่นทีที่ชั้นหนึ่งพอดี ทำให้บริเวณบาร์เครื่องดื่มนี้มีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้น “พี่สั่ง หนูก็แค่ชงค่ะลูน่า.. พี่อยากดูท่วงท่าเวลาชงเครื่องดื่มของหนู ตอนที่หน้าอกหนูมันสั่นเวลาเขย่าเชคเกอร์น่ะ ทำพี่มีอารมณ์สุด ๆ ไปเลย" ลูกค้าคนเดิมยังคงพูดดูถูกเธอไม่หยุดพร้อมกับยกแก้วฮาล์ฟออฟมูนขึ้นดื่มจนหมดในคราวเดียว “พี่บอกว่าให้ชงไง.. ทำไมถึงพูดไม่รู้เรื่องจ๊ะคนสวย หรือว่าอยากได้เงินก่อน" “…ค่ะ รอสักครู่ค่ะ" เพราะเงินเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับพระจันทร์มากที่สุดในตอนนี้ เธอเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัยเอกชนอินเตอร์แห่งหนึ่งที่ค่าเทอมแพงลิบ การมาหารายได้เสริมที่นี่ ค่าแรงรายชั่วโมงไม่เพียงพอที่จะอำนวยความสะดวกให้เธอได้ทั้งหมด พระจันทร์จึงต้องอาศัยการเก็บหอมรอมริบจากทิปของลูกค้าแทน เวก้าบาร์ไม่มีการเก็บทิปรวม คนไหนบริการลูกค้าดีก็จะได้รับเงินไปอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย เมื่อไม่มีทางเลือกในการปฏิเสธ พระจันทร์ก็รีบทำเมนูซิกเนเจอร์ของตนต่ออีกครั้ง ลูกค้าที่เข้ามามุงดูก็มากขึ้น นอกจากใบหน้าที่สวยจนหนุ่ม ๆ ต้องเหลียวมองแล้ว เธอยังมีรูปร่างที่อวบอัดเย้ายวนใจ ยิ่งอยู่ในชุดซุดเซ็กซี่แบบนี้ก็ยิ่งทำให้ลูกค้าประเภทหื่นไม่เลือกยิ่งเข้ามาดูมากยิ่งขึ้น “ได้แล้วค่ะ ฮาล์ฟออฟมูน" พระจันทร์วางแก้วเครื่องดื่มสีนวลลงต่อหน้าของลูกค้าที่สั่ง เขาล้วงมือลงไปหยิบธนบัตรสีเทาขึ้นมาอีกสามใบแล้ววางลงไปเป็นทิป “คืนนี้พี่ทิปให้หนูห้าพันแล้วนะคะน้องลูน่า พี่ขอบริการพิเศษจากหนูบ้างได้ไหมคะคนสวย" มือบางเก็บเอาเงินไว้ก่อนแล้วตอบเสียงเรียบ ๆ “ไม่มีบริการพิเศษหรอกค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ" “เฮ้ย ให้ไปตั้งห้าพันแล้วยังไม่ให้ทำอะไรอีกเหรอวะ งั้นถ้าจ่ายเพิ่มอีกห้าพันแล้วขอจับนมจะได้มั้ย" แอลกอฮอล์ที่ไหลเวียนในร่างมากขึ้นส่งผลให้ความยับยั้งชั่งใจลดลง ลูกค้าจอมตื๊อไม่ว่าเปล่าแต่ขยับเข้าไปชิดกับเคาน์เตอร์ก่อนจะโน้มตัวไปกระชากข้อมือพระจันทร์อย่างแรง “ว่าไงจ๊ะน้องลูน่าคนสวย สูงส่งกว่าคนอื่นในร้านนักหรือไง มีดีก็แค่สวยนั่นแหละ ไหน พี่ขอจับหน่อยได้ไหมนมน่ะ จะให้จ่ายเพิ่มอีกเท่าไหร่ก็เรียกมาเลย" “ปล่อยนะคะ กฎของร้านไม่อนุญาตให้คุณลูกค้าทำแบบนี้นะ" พระจันทร์พยายามบิดข้อมือออกจากการเกาะกุม พอดีกับที่รุ่นพี่สาวขึ้นมาช่วยพอดี “คุณลูกค้าปล่อยมือเดี๋ยวนี้นะคะ" ใบเตยช่วยพระจันทร์แกะมือของลูกค้าที่กำแน่นยิ่งกว่าคีมเหล็กออก “ถ้ายังพูดไม่รู้เรื่อง ฉันจะเรียกให้การ์ดของทางร้านมาจัดการนะคะ ปล่อยเดี๋ยวนี้ค่ะ" “ไม่ปล่อยเว้ย! เสียไปตั้งห้าพันแล้วก็ขอให้กูได้จับหน่อยเหอะว่ะ..” คนเมาเริ่มแสดงความต่ำตมออกมามากขึ้นเรื่อย ๆ “น้องลูน่าคนสวยจ๋า มาให้พี่กอดซะดี ๆ อยากได้เงินไม่ใช่เหรอจ๊ะ ไม่งั้นก็คงไม่มาทำงานอยู่ในที่แบบนี้หรอก มาเร้ว อย่าให้พี่อารมณ์เสียดีกว่า" พระจันทร์เริ่มจะอดทนไม่ไหวกับคำพูดของลูกค้าคนนี้แล้ว หญิงสาวใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มือดึงมือออกมาจนสำเร็จแล้วรีบเอาธนบัตรที่ได้รับมาทั้งหมดห้าใบวางคืนไป “นี่ค่ะ เงินห้าพันบาทของคุณลูกค้า ฉันขอไม่รับทิปแล้ว.. อย่าบังคับฉันนะคะ" “ห้าพันมันน้อยไปหรือไงวะ หรือต้องการเท่าไหร่ถึงจะได้จับน่ะ ถุ้ย ทำเป็นโลกสวยบอกว่ามาทำงานตรงนี้เป็นแค่บาร์เทนเดอร์ ดูการแต่งตัวของตัวเองก่อนเถอะ แต่งมายั่วขนาดนี้จะปฏิเสธทำไม เป็นแค่สินค้าในร้านแท้ ๆ เรื่องมากฉิบหาย" คำพูดของคนปากพล่อยทำให้บาร์เทนเดอร์สาวเริ่มควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้ ความโกรธรวบรวมอยู่ที่ปลายมือข้างหนึ่ง พระจันทร์เงื้อมือขึ้นแล้วฟาดลงไปเต็มแรงเพื่อหวังจะให้คนพูดรู้สำนึกว่าสิ่งที่พูดนั้นมันทุเรศสิ้นดี เพียะ! แต่แทนที่ฝ่ามือของเธอจะฟาดลงบนเป้าหมายอย่างลูกค้าปากเสียนั่น มันกลับยืนเซจนหลบพ้น ส่งผลให้มือของพระจันทร์ประทับเข้าบนหน้าของลูกค้าคนอื่นที่เพิ่งเดินมาข้างหลังด้วยท่าทีเหมือนจะสั่งเครื่องดื่มแทน “…” ซวยแล้วไง! ดวงตาสีเทาของลูกค้าที่รับเคราะห์แทนจ้องมาที่พระจันทร์อย่างไร้ความรู้สึก เธอไม่รู้เลยว่าภายใต้ใบหน้าหล่อเหลาราวกับไม่อยู่จริงนั่นกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ที่แน่ ๆ… ไปตบหน้าลูกค้าแบบนั้น โดนไล่ออกแน่ยัยพระจันทร์เอ๊ย!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD