เด็กหญิงไร้ชื่อ #2

1275 Words
นั่นคือคำถามที่พ่อและแม่ถามขึ้น หลังจากวันที่มีจดหมายมาถึงที่บ้านเรื่องการเลื่อนขั้นเงินเดือนของครูวัยกลางคนทั้งสองท่าน พระจันทร์จำได้ว่าตนตอบออกไปด้วยความหนักแน่นและมั่นอกมั่นใจ ว่าอยากจะเป็นเชฟอันดับหนึ่งของประเทศ เพื่อจะได้ทำอาหารอร่อย ๆ ให้พ่อศักดิ์และแม่เพ็ญทานทุกมื้อ รวมถึงมีความตั้งใจที่จะเปิดร้านอาหารโดยรายได้ทั้งหมดหลังหักต้นทุนแล้ว เธอมีความตั้งใจที่จะยกให้กับบุพการีบุญธรรมทั้งสองคนทุกบาททุกสตางค์ ‘ไหน ๆ เงินเดือนของเราสองคนก็เพิ่มแล้ว ส่งหนูจันทร์แกเรียนมหาวิทยาลัยเอกชนภาคอินเตอร์เลยดีไหมคะพี่ศักดิ์ ลูกสาวเราจะได้เป็นเชฟที่เก่งทั้งฝีมือการทำอาหาร แล้วก็ได้ภาษาเป็นความรู้ประดับตัวไปด้วย’ พระจันทร์จำได้ดีว่าตนในวัยสิบแปดปีบริบูรณ์ดีใจจนเนื้อเต้นมากแค่ไหนที่จะได้เรียนในมหาวิทยาลัยเอกชนภาคอินเตอร์ร่วมกับเพื่อน ๆ ทั้งสองคนที่สนิทสนมมาตั้งแต่ชั้นมัธยมต้นอย่างเฌอเอมและนิ่มนวล การใช้ชีวิตเป็นนักศึกษาเฟรชชี่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับช่วงเวลาปีสองเทอมแรกแสนสนุกที่เธอมีโอกาสได้ทำสิ่งใหม่ ๆ มากมายหลายอย่าง เหมือนกับคำที่มีคนเคยกล่าวไว้ ความสุขมักผ่านไปเร็วเสมอ.. วันหยุดสุดสัปดาห์ที่พระจันทร์ไม่ได้กลับบ้านเพราะมัวแต่อ่านหนังสือเตรียมสอบกลางภาค เป็นวันที่ท้องฟ้าขมุกขมัวไปด้วยเมฆฝน เพียงแต่ไม่มีฝนหยดลงมาแม้แต่เม็ดเดียว พระจันทร์รู้สึกสังหรณ์ใจว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น แต่เพราะรู้ดีว่าคุณพ่อกับคุณแม่อันเป็นที่รักยิ่งกำลังเดินทางไปอบรมเกี่ยวกับการใช้สื่อและเทคโนโลยีสำหรับครู เธอจึงไม่อยากโทรไปรบกวนเวลาที่ท่านทั้งสองต้องขับรถ แต่แล้วเสียงเรียกเข้าจากผู้เป็นแม่ก็ทำให้หัวใจของพระจันทร์กระตุกวูบ ปลายสายที่กดรับไม่ใช้น้ำเสียงอ่อนโยนของผู้เป็นแม่ที่ทักทายเธอด้วยคำพูดเดิม ๆ เหมือนสิบปีที่อยู่ร่วมกันมา แต่เป็นเสียงของคนแปลกหน้าที่พระจันทร์ไม่เคยได้ยินมาก่อน ‘…ทำใจดี ๆ ไว้นะครับ ตอนนี้เจ้าของโทรศัพท์ประสบอุบัติเหตุ ประสานงากับรถบรรทุกหกล้อ หน่วยกู้ชีพพยายามยื้อชีวิตทุกวิถีทางแล้ว แต่ไม่สามารถช่วยทั้งสองท่านเอาไว้ได้ครับ…’ พระจันทร์จดจำทุกความรู้สึกที่เกิดขึ้นในวันนั้นได้ดี เธอฟังคำพูดของกู้ภัยที่โทรศัพท์มาหาไม่ได้ทั้งหมด เพราะสมองของเธอเลือกที่จะไม่จดจำสิ่งที่ไม่อยากฟัง พระจันทร์ได้รู้จากคำบอกกล่าวของเฌอเอมและนิ่มนวลที่รีบมาหาทันทีที่ทราบเรื่องว่า ตนเองร้องไห้เหมือนจะขาดใจติดต่อกันสามวัน ความสูญเสียที่เกิดขึ้นมันหนักหนาเสียจนเธอไม่อาจรับมือได้ กว่าจะตั้งสติตั้งตัวได้ก็เกือบสองสัปดาห์ พระจันทร์รู้ดีว่าตนไม่สามารถทำใจยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้นได้ อีกทั้งยังมีเรื่องค่าใช้จ่ายเข้ามารุมเร้าอย่างหนัก ทั้งญาติพี่น้องของทั้งฝ่ายพ่อและแม่ที่ขูดรีดเอาเงินประกันไปจนหมด แถมยังเรียกร้องเอาเงินที่เคยเอามาใช้เลี้ยงดูเธออีก ซึ่งพระจันทร์ก็ทำได้เพียงเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์หนีและย้ายไปอยู่หอพักราคาถูกเป็นการชั่วคราว พระจันทร์กอดรูปของพ่อและแม่เอาไว้ในทุกค่ำคืน ไม่มีแม้แต่น้ำตาจะร้อง การจากไปอย่างกะทันหันครั้งนี้ทำให้เธอแทบจะกลายเป็นคนละคน เวลาไปเรียนก็นิ่งเงียบ เนื้อหาไม่เข้าหัว เอาแต่นึกถึงช่วงเวลาที่ดี ๆ ที่เคยได้ใช้ร่วมกับบุพการีบุญธรรมที่จากไปด้วยเหตุอันไม่ใช่การสิ้นอายุขัยตามธรรมชาติ เจ้าของรถบรรทุกสิบล้อที่เบรคแตกพุ่งมาชนไม่รับผิดชอบเรื่องเงินใด ๆ ทั้งสิ้น เขายอมรับโทษด้วยการเข้าคุก เป็นอันปิดคดีเรื่องนี้ลงอย่างถาวร พระจันทร์ไม่สามารถเรียกร้องสิ่งใดคืนมาได้ โดยเฉพาะพ่อและแม่ที่ต้องหลับใหลไปตลอดกาล ในบางค่ำคืนที่อารมณ์อ่อนไหวเกินกว่าจะรับมือได้ พระจันทร์เคยมีความคิดที่จบชีวิตของตนลงเพื่อตามไปอยู่กับพ่อและแม่ผู้ล่วงลับ เธอไม่สามารถแบกค่าใช้จ่ายที่ไล่ตามมาได้ ความฝันในการเป็นเชฟอันดับหนึ่งก็คงจบลงเพียงเท่านี้ ทว่าก่อนที่การตัดสินใจชั่ววูบนั่นจะเกิดผลสำเร็จ พระจันทร์ก็มองไปเห็นภาพของตนเมื่อครั้งได้เข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้ในปีแรก ๆ หากเธอจบชีวิตลงไปในวันนี้ ความฝันที่คุณพ่อและคุณแม่อุตส่าห์สนับสนุนมาตลอดสิบปีก็คงเป็นอันต้องสูญเปล่า พระจันทร์จึงตัดสินใจฮึดสู้อีกครั้งนับตั้งแต่ตอนนั้น หญิงสาวที่เหลือตัวคนเดียวโดยสมบูรณ์มองหาช่องทางทำเงินผ่านการทำงานพาร์ทไทม์ในอินเทอร์เน็ต ด้วยอายุที่เกินยี่สิบปีบริบูรณ์ สามารถทำงานในโรงงานหรือแหล่งประกอบการอื่น ๆ ได้ถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้พระจันทร์มีตัวเลือกมากมายในการหาเงินส่งตัวเองเรียน แม้ว่าจะมีญาติพี่น้องของทั้งพ่อและแม่บางคนคอยเป่าหูเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า ว่าให้ขายบ้านที่อยู่ ณ ปัจจุบันนี้แล้วเอาเงินมาแบ่งกัน แต่พระจันทร์ก็ยืนกรานปฏิเสธเสียงแข็ง เพราะเธอรู้ดีว่านี่คือสมบัติล้ำค่าที่พ่อศักดาและแม่วันเพ็ญร่วมใช้น้ำพักน้ำแรงแลกมาตลอดสิบปี จนกระทั่งผ่อนครบจำนวนเงินได้ในที่สุด เธอจะไม่มีวันนำมันไปขายเป็นอันขาด ต่อให้ต้องทำงานจนเลือดตาแทบกระเด็นมากแค่ไหนก็ตาม ทางด้านเฌอเอมกับนิ่มนวลก็คอยให้ความช่วยเหลือและรักษาสภาพจิตใจของเพื่อนสนิทอยู่เป็นระยะ พระจันทร์รู้ดีว่าเพื่อนทั้งสองก็คงมีปัญหาที่บ้านเป็นของตัวเองเช่นเดียวกัน จะมาคอยพึ่งพาอาศัยเป็นภาระตลอดไปก็ไม่ได้ จากการทำงานพาร์ทไทม์เพียงช่วงกลางวันจึงกลายเป็นการทำลากยาวไปถึงกลางคืนด้วย เพราะเธอไม่อยากรับความช่วยเหลือจากเพื่อนมากจนเกินไป หลังเรียนเสร็จ พระจันทร์ต้องไปทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟพ่วงด้วยงานมหาโหดอย่างการล้างจานที่ร้านขายสเต็กไม่ใกล้ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยนัก หลังจากทำจนถึงสองทุ่มก็ต้องไปทำงานแพ็คสินค้าที่สำนักงานซึ่งห่างออกไปอีก กว่าจะแล้วเสร็จในแต่ละวันก็เป็นเวลาเกือบจะตีสอง พระจันทร์ต้องแบกสังขารตัวเองกลับมานอนพักที่ห้องเช่าเล็ก ๆ ของตนเพื่อเก็บเกี่ยวเรี่ยวแรงให้มีมากพอสำหรับการไปเรียนในวันรุ่งขึ้น เมื่อผ่านเดือนแรกไปแล้ว พระจันทร์ก็คิดว่าตนจะได้รับค่าแรงเต็มเม็ดเต็มหน่วยจากการทำงานหามรุ่งหามค่ำไม่มีพักตลอดทั้งเดือน แต่แล้วเรื่องซวยซ้ำซ้อนก็เกิดขึ้นกับเธอ เพราะทั้งร้านสเต็กและสำนักงานนั้น ปิดตัวลงอย่างกะทันหันเพราะพิษเศรษฐกิจ ทั้งสองแห่งไม่จ่ายเงินค่าแรงให้กับเธอตามที่ตกลงไว้เลยแม้แต่บาทเดียว นั่นทำให้พระจันทร์ต้องเผชิญกับปัญหาที่ข้ามได้ยากอีกครั้ง…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD