หญิงสาวส่งวงค้อนให้เขา “อย่ามาทำปากหวานนักเลย เราก็แค่สนุกๆ กันทั้งสองฝ่าย ไม่ผูกพัน ไม่ผูกมัด และห้ามรักกัน...ที่มิ้นอยากให้คุณทำก็คือ ช่วยพูดให้เขามาขอมิ้นแต่งหน่อยสิ”
“ไอ้วินไม่ใช่เด็กนะ ถึงมันจะดูป้ำเป๋อเพราะไอ้อาการความจำเสื่อมก่อนนี้บ้าง แต่ก็ไม่ใช่คนหัวอ่อน ผมจะพูดอะไรได้”
พลอยปภัสร์ถอนหายใจด้วยความหงุดหงิด “แล้วจะทำยังไงล่ะ อ๋อ หรือว่าคุณจะแต่งงานดีล่ะ เผื่อเขาจะอยากแต่งบ้าง”
การันต์โบกมือว่อน
“โอ๊ย อย่าใช้วิธีนี้ เลือกวิธีอื่นโดยด่วนเลยครับ”
หญิงสาวหัวเราะคิก “ทำไมเหรอ กลัวแม่จับแต่งงานเหรอ”
“บอกเลยว่ากลัวมาก คุณต้องเห็นยายนั่นน่ะ มิ้น ดำก็ดำ หน้าตาก็ดูไม่ได้ กิริยามารยาทก็ไม่ได้เรื่อง เออ ถ้าสวยๆ อย่างคุณ ผมอาจเปลี่ยนใจ”
“ความสวยตกแต่งเปลี่ยนแปลงกันได้นะคะทุกวันนี้น่ะ...แต่ก็ช่างเถอะ เรื่องของคุณ ไม่ใช่เรื่องของมิ้น ตอนนี้มิ้นโฟกัสอย่างเดียว คือการแต่งงานกับพี่วินให้ได้”
“มีอะไรหรือเปล่า ดูคุณร้อนรนแปลกๆ ก่อนหน้านี้ไม่เห็นรีบนี่” การันต์ทักด้วยสะดุดใจในความร้อนรุ่มของคนในอ้อมแขน
“มีสิ...”
กวินภพตรงกลับบ้านทันที ไม่ได้แวะเข้าบริษัทอีก เพราะเขาร้อนใจเหลือเกินกับเรื่องลูกและนิสา
“เดี๋ยววิน ใจเย็นๆ นี่ลูกพูดอะไร” พิสมัยที่หน้าซีดรีบให้สติเขา ทั้งที่ตัวเองก็แทบตั้งสติไม่ได้เหมือนกัน กวินภพเป็นคนจริงจังกับชีวิต เขาไม่มีทางเอาเรื่องนี้มาล้อเล่นแน่
“ผมเจอลูกของผมกับผู้หญิงคนหนึ่ง...เด็กหน้าเหมือนผมมาก มากจนไม่ต้องตรวจอะไรแล้ว ใครก็ได้บอกผมทีว่าผมไปมีลูกตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วทำไมไม่มีใครบอกผม”
“พ่อกับแม่ก็รู้จากลูกนี่แหละ เรื่องมันเป็นยังไง ไหนเล่ามาซิ”
กวินภพจึงเล่าเรื่องนิสาให้ผู้ให้กำเนิดฟัง ซึ่งฟังแล้ว ทั้งสองก็ยิ่งแปลกใจมากยิ่งขึ้นไปอีก
“เป็นไปไม่ได้ พ่อกับแม่ไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนเลย ผู้หญิงคนนั้นโกหกลูกแล้วละ”
“ผมบอกแล้วไงครับว่าเด็กเหมือนผมมาก และเธอก็ไม่เคยบอกผมว่าเธอมีลูกกับผมด้วยซ้ำ เป็นผมที่ตามไปเจอด้วยตัวเอง”
“เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เราต้องค่อยๆ คิด ลูกอย่าลืมว่าลูกมีหนูมิ้นอยู่แล้ว การจะเอาเด็กที่ไม่ใช่ลูกของเขามาเลี้ยง เป็นเรื่องใหญ่” พงษ์ศักดิ์เตือนสติ
“มิ้นต้องเข้าใจ เขารักผม เขาต้องยอมรับสิ่งที่ผมเป็นได้” กวินภพเอ่ยอย่างมั่นใจ
“แต่วินกับเด็กคนนั้นคนละคนกันนะ และถ้าหนูมิ้นจะไม่รักเด็ก ก็ไม่ผิด แม่จะไม่ว่าหนูมิ้นด้วย...เอางี้ก็แล้วกัน พรุ่งนี้ พาผู้หญิงคนนั้นกับเด็กมาพบพ่อกับแม่”
กวินภพรับคำ สีหน้าเปี่ยมด้วยความหวัง เขามั่นใจว่าทุกอย่างจะต้องเป็นไปด้วยดี
กลับมาที่ห้องของตัวเอง เขาก็เปิดโทรศัพท์มือถือ เข้าเวบไซต์เกี่ยวกับสินค้าแม่และเด็ก แล้วกดสั่งเสื้อผ้า ของเล่นของใช้ให้ลูกชายไม่ยั้งรวมถึงสำหรับนิสาด้วย โดยให้เอามาส่งที่บ้านของเขา
เรียบร้อยแล้ว เขาก็โทร.หาพลอยปภัสร์ เพื่อนัดเธอออกไปทานข้าว เขาจะแจ้งเรื่องนี้แก่เธอและมีเรื่องจะถามเธอด้วย
“พี่จำได้นะ มิ้นเคยเล่าว่า เป็นคนไปรับพี่กลับบ้าน ตอนที่อยู่ๆ พี่ก็หายตัวไป...มิ้นไปรับจากใครนะจ๊ะ”
“ก็...ชาวบ้านแถบนั้นแหล่ะค่ะ มิ้นไม่แน่ใจชื่อแกเหมือนกัน มีอะไรเหรอคะ”
“อืม...มิ้นจำที่พี่บอกว่าพี่รู้สึกคุ้นผู้หญิงคนหนึ่ง ด้วยความสงสัย พี่เลยตามเขามา แล้วพี่เจออะไรบางอย่างที่เซอร์ไพร้ส์มาก...”
พลอยปภัสร์เม้มปากแน่น พยายามข่มความน้อยใจเอาไว้ แล้วฟังเขาต่อ
“พี่เจอว่าเขา...มีลูก...”
“แล้วแปลกตรงไหนคะ” หลุดปากไปแล้ว หญิงสาวก็ชะงัก ถ้าเป็นลูกของคนอื่น กวินภพจะตื่นเต้นทำไม! “อย่าบอกนะคะว่า...”
“เด็กคนนั้นหน้าเหมือนพี่ยังกับโขกออกมา”
พลอยปภัสร์อึ้ง ช็อก! ไปไม่เป็น พูดอะไรไม่ถูก นี่เธอควรรู้สึกอย่างไรที่อยู่ๆ ผู้ชายที่กำลังจะแต่งงานด้วย ก็มาบอกว่ามีเด็กหน้าเหมือนเขา ซึ่งเกิดจากผู้หญิงคนอื่น
นังผู้หญิงแรดเงียบคนนั้น! หึ มาแผนสูงเชียวนะ ล่อให้เขาไปหา เพื่อให้เขาได้เจอลูก!
กวินภพยื่นมือมาจับมือหญิงสาวบีบเบาๆ “อย่าว่าแต่มิ้นเลย พี่ก็ช็อกเหมือนกัน และพี่คิดว่าพี่ต้องรับผิดชอบลูก พี่ปล่อยให้นิสาเขาเลี้ยงลูกคนเดียวมานานแล้ว”
พลอยปภัสร์ส่ายหน้าไปมา ไม่เอ่ยอะไร เธอดึงมือจากการเกาะกุมของเขา แล้วลุกขึ้น
“ขอเวลามิ้นหน่อยค่ะ มิ้นคิดอะไรไม่ออก มิ้นไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกยังไง ”
“มิ้น...”
“อย่าตามมานะคะ มิ้นขออยู่คนเดียว คิดอะไรคนเดียวก่อน” จากนั้นเธอก็ผละจากมา เพื่อร้องไห้อย่างเหลือกลั้น นี่มันวันโลกาวินาศอะไรของเธอ
แต่ครู่ต่อมา เธอก็กรีดน้ำตาทิ้ง แล้วโทร.หานิสาทันที
เช้าวันรุ่งขึ้น กวินภพไปบ้านของนิสาแต่เช้า พร้อมหัวใจที่บรรจุความหวังเอาไว้เต็มเปี่ยม
ประตูบ้านปิดสนิท เป็นไปได้ว่าเธอกับลูกอาจยังไม่ตื่น ถึงกระนั้นด้วยความใจร้อน เขาก็เสียมารยาทเคาะ
“นิสา เปิดประตูให้ผมหน่อย ผมรู้นะคุณอยู่ข้างใน”
เงียบ ไม่มีเสียงตอบรับจากเธอ ไม่มีเสียงเคลื่อนไหวใด “นิสา ได้ยินผมหรือเปล่า นิสา...”
“มาหาไอ้นิเหรอคุณ” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น กวินภพสะดุ้งเล็กน้อย หันไปมองก็พบว่าเป็นหญิงกลางคนร่างท้วมท่าทางใจดี พอเห็นเขา แกก็เบิกตากว้างด้วยความแปลกใจปนไม่แน่ใจ
“เดี๋ยวนะ นี่คุณเรนเองหรอกเหรอ ไม่ได้เจอกันนาน จำแทบไม่ได้แน่ะ หล่อขึ้นเยอะเลย”
กวินภพรีบสวมบทต่อทันที “ครับ ครับ แล้วนี่นิไปไหนครับ”