กวินภพกำโทรศัพท์มือถือแน่น รู้สึกตัวเองกำลังจะคลั่งเพียงเพราะการไม่ยอมมาทำงานของพนักงานธรรมดาๆ คนหนึ่ง
เขาทำงานด้วยใจที่ร้อนรุ่ม และเฝ้ารอเวลาที่เธอจะทำตามคำสั่งของเขา แต่เวลาผ่านไปสองชั่วโมง ก็ไม่มีแม้แต่เงาของเธอ
ชายหนุ่มบอกตัวเองว่า จะไม่ยอมอยู่เฉยๆ แน่
ดังนั้นเอง ยังไม่ถึงเวลาพักเที่ยง เขาก็คว้ากุญแจรถแล้วก็ขับออกจากบริษัทไป
เมื่อมาถึงสะพานที่เชื่อมระหว่างฝั่งพระนครกับฝั่งธน จู่ๆ เขาก็ปวดหัวขึ้นมา จนขับภาพที่ไม่เคยเห็นมาก่อนผ่านเข้ามาในสมอง
เป็นภาพที่เขาถูกขังอยู่ในที่มืด แคบ ได้ยินเสียงเหมือนน้ำกระทบฝั่งดังอยู่ไม่ไกล!
กวินภพปวดหัว จนแทบไม่สามารถขับรถต่อไปได้ แต่เขาก็ยังประคองมันต่อไป จนเมื่อลงสะพานแล้วนั่นละ เขาถึงหาที่จอด แล้วระบายลมหายใจยาวๆ ออกมา ในหัวมีแต่ความสงสัยแปลกใจว่าตัวเองกำลังเป็นอะไร
ปรับอารมณ์ ปรับความรู้สึกตัวเองให้เป็นปกติแล้ว กวินภพก็ออกรถอีกครั้งไปตามแผนที่บ้านของนิสา
ชายหนุ่มจอดรถตรงปากซอยใหญ่ แล้วเดินเข้าไป นาทีนั้น เขาคุ้นกับมันอีกแล้ว
เขาเคยเดินบนถนนเส้นนี้ มีหญิงสาวคนหนึ่งเดินนำหน้า เธอคนนั้นอยู่ในชุดกระโปรงเหนือน่อง ผมยาวสยายถึงกลางหลัง
กวินภพสลัดศีรษะไปมา เรื่องนี้ไม่ธรรมดาเสียแล้ว และตอนนี้เขาก็ชักมั่นใจว่าเขาเคยรู้จักนิสามาก่อน ไม่ใช่รู้จักธรรมดา แต่น่าจะลึกซึ้งกันด้วย
ระหว่างนั้นเอง เสียงโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น
"พี่วินขา อยู่ไหนคะ มิ้นมาหาไม่เจอ" เสียงใสๆ ของคู่หมั้นดังมาตามสาย
"พี่...เอ่อ...พี่...ออกมาพบลูกค้าน่ะ วันนี้เราไม่ได้นัดกันไม่ใช่เหรอครับ"
"ไม่ได้นัดค่ะ แต่มิ้นมาคุยกับลูกค้าแถวนี้พอดี เลยแวะหา ว่าแต่พี่วินพบลูกค้าแถวไหนเหรอคะ อยู่ไกลหรือเปล่า มิ้นจะได้รอทานข้าว"
"เอ่อ...แถว...บางขุนเทียนน่ะ"
"บางขุนเทียน? อ๋อ ไปตรวจสาขาเหรอคะ...โห ไกลจังเลย ถ้าอย่างนั้นมิ้นไม่กวนและไม่รอดีกว่า เดี๋ยวหาอะไรทานแถวนี้ก็ได้ค่ะ" เสียงเธอจ๋อยลงอย่างน่าสงสาร และกวินภพก็รู้สึกผิดขึ้นมาทันที
"เดี๋ยวเย็นนี้พี่แก้ตัวให้ พาไปกินร้านโปรดของมิ้นก็แล้วกัน"
"โอเคค่ะ"
พลอยปภัสร์วางสายไปแล้ว กวินภพตั้งท่าจะเดินเข้าไปในซอยต่อ แต่สายตาเหลือบไปเห็นนิสากำลังลงจากรถสองแถว เขาทำท่าจะเข้าไปหา แต่ก็ต้องชะงักเสียก่อน เมื่อเห็นว่าเธอจูงเด็กชายคนหนึ่งมาด้วย
ลูกของเธอหรือ?
กวินภพรีบหลบเข้าข้างหลังต้นไม้ใกล้ๆ นั้น เพื่อจะแอบดู เผื่อบางที สามีของเธออาจจะมาด้วย
เธอกับเด็กชายเดินข้ามถนนกันสองคน แต่ไม่มีวี่แววของสามีเธอ
เมื่อทั้งคู่เดินเข้ามาใกล้ และเห็นหน้าเด็กชายชัด กวินภพก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึงพรึงเพริดอย่างที่สุด เนื้อตัวชาและแข็งทื่อ
เด็กคนนั้นหน้าเหมือนเขาตอนเด็กไม่ผิดเพี้ยน
นี่มันอะไรกัน?
เขามีลูกกับนิสาอย่างนั้นหรือ? แล้วทำไมเขาจำอะไรไม่ได้เลยล่ะ?
นี่มันบ้าอะไรกัน???
กวินภพค่อยๆ ก้าวออกจากที่ซ่อนแล้วไปเผชิญหน้าเธอ
ทางด้านนิสา เธอเองก็ตกตะลึงไปเหมือนกัน ไม่คิดว่าเขาจะทำอย่างที่พูดจริงๆ!
เท้าเธอไวเท่าความคิด รีบก้าวมายืนบังลูกเอาไว้เมื่อเห็นว่าเขาเอาแต่จ้องหน้าลูกอยู่อย่างนั้น
"คุณมาได้ยังไงคะ"
"ก็คุณไม่ไปทำงาน"
"ดิฉันลาออกแล้วค่ะ และจะไม่กลับไปที่นั่นอีก"
"เรามีเรื่องต้องคุยกันเยอะนะ นิสา" ตอนที่พูดเขามองไปยังด้านหลังเธอตลอดเวลา
"ไม่มีอะไรจะคุยค่ะ คุณวินกลับไปเถอะค่ะ ลูกดิฉันไม่ค่อยสบาย จะพาแกไปพัก"
"ผมคิดว่าผมจะยอมให้คุณพาเด็กที่หน้าตาเหมือนผมเดินจากไปง่ายๆ งั้นเหรอ...ไป ไปบ้านของคุณ พาลูกไปพัก แล้วเราต้องคุยกัน"
"กรุณาใช้คำว่าลูกของดิฉันค่ะ" นิสาเอ่ยเสียงเข้ม
"แม่ค้าบ...น้ำง่วงนอนแล้วค้าบ" เด็กชายธาราสะกิดแขนเธอ
"ค้าบ ลูก งั้นเราไปกันนะ คนเก่งของแม่เดินไหวมั้ยคับ"
"ไหวคับ" ตอบด้วยท่าทีแข็งขัน
"เอางี้วันนี้แม่อุ้มดีกว่า" พูดจบ เธอก็ช้อนร่างอวบอ้วนขึ้นอุ้ม ตอนนั้นเองที่เด็กชายมองเห็นกวินภพ ตาใสแป๋วมองเขาด้วยความแปลกใจ ขณะที่กวินภพน้ำตาซึม แววตาคู่นั้น แววตาของเขาชัดๆ พร้อมกันนั้น ความรู้สึกเต็มตื้นก็ไหลบ่าจนท่วมหัวใจของเขา
เขามีลูก! เขามีลูก!
ชายหนุ่มก้าวตามสองแม่ลูกไปเหมือนโดนมนต์สะกด ตายังไม่ละจากพ่อหนูน้อยที่ก็มองเขาตลอดเวลา
"ขอโทษนะคะ กรุณาอย่าตามมา" นิสาหันมาสั่งห้าม
กวินภพส่ายหน้า "คุณห้ามผมไม่ได้หรอกนิสา ไม่มีทาง!"
"แม่คับ ใครคับ" เด็กชายถามผู้เป็นแม่
"เจ้านายเก่าแม่เองจ้ะ" นิสาชิงตอบได้ก่อนเขา แล้วเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น ลูกวัยสามขวบแถมยังอวบอ้วน ก็ทำให้เธอหนักไม่น้อย
"สวัสดีหนุ่มน้อย ชื่ออะไรนะ" กวินภพยังเดินตามมา ส่งยิ้มให้เด็กชาย
นิสาหยุดกึก และหันขวับมาจ้องหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง "ถ้าคุณตามมา ดิฉันจะแจ้งความคุณข้อหาบุกรุกและคุกคาม"
กวินภพยักไหล่ "ก็เอาสิ แจ้งได้เลย ผมไม่กลัว...เอางี้ ท่าทางคุณเหมือนไม่ไหว ให้ผมอุ้มลูก...อุ้มแกดีกว่า" เขายื่นมือไปตรงหน้า
นิสาส่ายหน้า "ไม่ค่ะ ดิฉันไหว"
กวินภพไม่สนใจเธออีก เขาหันไปทางเด็กชาย "ไง หนู อยากมองเห็นอะไรไกลๆ มั้ย ขี่คอฉันมั้ย รับรองมองอะไรได้ไกลกว่าให้แม่หนูอุ้มเยอะเลย"
เด็กชายทำท่าคิดครู่หนึ่งก็พยักหน้าหงึกหงักอย่างนึกสนุก ลืมอาการป่วยของตัวเองไปชั่วขณะ
"คับ คับ อยากคับ"
"เราไม่มีเวลาเล่นนะคับลูก ลูกไม่สบายอยู่นะ" นิสาขัดขึ้น
"ยังไงก็ให้ผมช่วยเถอะ ลูก..."
"ลูกดิฉัน ดิฉันอุ้มเองได้ ไม่ต้องให้ใครมาช่วย" พูดจบ นิสาเดินเร็วๆ จากไป ตอนนี้เธอไม่สนแล้วว่าเขาจะตามมาหรือไม่ นาทีนี้เธอห่วงลูกมากกว่า