บ้านหลังใหม่

1273 Words
“มันย้ายบ้านไปแล้วนี่ มันไม่ได้บอกคุณเหรอ” กวินภพเข่าอ่อน ใจหายวาบ ทำไมตัดสินใจแบบนี้ นิสา! “ป้ารู้มั้ยครับว่าเขาย้ายไปอยู่ที่ไหน” “มันไม่ได้บอก มันไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว บอกให้ป้าช่วยดูแลบ้านให้...ว่าแต่เอ็งหายไปไหนมาตั้งสี่ปีวะ...” กวินภพไม่ตอบแกในทันที แต่มองแกอย่างมีความหวังบางอย่าง นิสายังไม่ได้นอนตั้งแต่เมื่อคืน พอกวินภพกลับไปไม่นาน เธอก็ได้รับโทรศัพท์จากพลอยปภัสร์ ‘อย่าหาว่ามิ้นใจร้ายเลยนะคะ แต่มิ้นยังทำใจไม่ได้ที่อยู่ๆ ว่าที่เจ้าบ่าวก็มีลูกโผล่มา...มิ้นขอร้อง มิ้นรักพี่วินมาก และไม่อาจเสียเขาไปให้ใครได้’ น้ำเสียงฝ่ายนั้นเจือสะอื้น ‘นิเข้าใจค่ะ นิไม่ได้อยากให้เรื่องเป็นแบบนี้ ไม่คิดว่าเขาจะตามมา...แต่คุณมิ้นไม่ต้องห่วงนะคะ นิลาออกจากงานแล้ว และจะไม่กลับไปที่นั่นอีกเป็นอันขาด’ ‘เท่านั้นไม่พอหรอกค่ะ พี่วินเขารู้แล้วว่าคุณอยู่ที่ไหน เดี๋ยวเขาก็ไปหาได้อยู่ดี’ ‘คุณมิ้นหมายความว่า…’ ‘ถ้าบริสุทธิ์ใจจริง ก็ออกจากที่นั่นเถอะค่ะ มิ้นมีบ้านเช่าว่างอยู่หลังหนึ่ง คุณพ่อคุณแม่ซื้อไว้ให้ลูกหลานที่อยู่ต่างจังหวัดมาพักเวลาเข้ากรุงเทพ ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ เพราะเรียนจบกันหมดแล้ว คุณนิไปอยู่ที่นั่นได้ มิ้นไม่คิดค่าเช่า’ ‘เอ่อ…’ ‘เก็บเสื้อผ้าเลยนะคะ เดี๋ยวมิ้นส่งโลเคชั่นให้ และจะไปรอที่นั่น อีกสองชั่วโมงเจอกันค่ะ’ กวินภพเปิดดูข้อมูลส่วนตัวของนิสาที่เขาบันทึกไว้ ดูตรงหมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อในกรณีฉุกเฉิน แล้วก็กดตามหมายเลขนั้น ปรากฏว่าหมายเลขนั้นปิดไปแล้ว ชายหนุ่มขบกรามแน่น ขณะออกรถจากที่นั่น แล้วตรงไปยังสาขาที่เธอทำงานก่อนหน้านี้ พนักงานในสาขาแตกตื่นกันยกใหญ่ที่จู่ๆ ท่านประธานก็ปรากฏตัวที่นี่ โดยที่ไม่มีการแจ้งล่วงหน้า จึงวิ่งกันจ้าละหวั่น “ไม่เป็นไร ไม่ต้องต้อนรับ ผมมีธุระนิดเดียว...คุณเป็นผู้จัดการสาขาใช่มั้ย” เขายกมือห้ามผู้จัดการสาวที่เพิ่งสั่งลูกน้องให้เปิดห้องประชุม “ใช่ค่ะ...” “ผมมาตามหานิสา” “นิสาหายไปเหรอคะ เกิดอะไรขึ้นกับน้องคะ” ถามหน้าตาตื่น “เรื่องมันยาวน่ะ สรุปสั้นๆ ตอนนี้คือนิสาลาออกจากงาน ย้ายออกจากบ้านหลังเก่า แล้วก็ติดต่อไม่ได้ ผมไม่รู้ว่าเขาไปอยู่ที่ไหน คุณพอจะรู้มั้ย” แม้สีหน้าจะเต็มไปด้วยความแปลกใจอะไรหลายๆ อย่าง แต่อีกฝ่ายก็ไม่ถามอะไร “นิสาไม่มีญาติที่ไหนเหลือแล้วค่ะ พ่อแม่เสียหมด อยู่ตัวคนเดียวมาตลอด ดิฉันก็นึกไม่ออกจริงๆ ว่าน้องจะไปอยู่ที่ไหน...” “เพื่อนสนิทเขาล่ะ” “เพื่อนสนิทย้ายไปอยู่อเมริกาหลายปีแล้วค่ะ...” “ผมถามอีกคำถาม อย่าหาว่าผมบ้าเลย สี่ปีก่อน คุณเคยเจอผมที่บ้านนิสาหรือผมเคยตามนิสามาที่นี่มั้ย” ผู้จัดการห้ามสายตาตัวเองให้มองเขางงๆ ไม่ไหว ก่อนตอบ “ไม่เคยนี่คะ” “โอเค แค่นี้แหละ...อ้อ...แล้วนิสาเขาบอกคุณว่าพ่อของเด็กหายไปไหน” พอได้ยินคำถามนั้น ผู้จัดการสาวก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจอย่างที่สุด “นิไม่เคยบอกค่ะ บอกแต่ว่าเลิกกันไปแล้ว แต่...ตอนนี้...ดิฉันคิดว่า...ดิฉัน...” กวินภพหมุนตัวเดินออกจากตรงนั้นทันที นิสาไม่เคยคิดอยากย้ายออกจากบ้านหลังเก่าแม้แต่น้อย เพราะรักและผูกพันกับที่นั่นมาก ไม่เพียงเรื่องของ ‘เรน’ แต่มีความทรงจำเกี่ยวกับพ่อและแม่ด้วย แต่เวลานี้เธอต้องย้าย และแม้ไม่อยากรับความช่วยเหลือจากพลอยปภัสร์ แต่ในเวลากะทันหันแบบนี้ เธอไม่มีสิทธิ์เลือก บ้านเช่าของพลอยปภัสร์ เป็นบ้านชั้นเดียว มีสามห้องนอน หนึ่งห้องน้ำ อยู่ติดซอยหลักของถนน ที่สำคัญ ห่างจากบ้านที่เธออยู่คนละมุมเมือง ซึ่งก็เป็นการดีแล้ว ที่จะได้อยู่ห่างจากกวินภพ เด็กชายธาราร้องไห้ด้วยความตกใจ เมื่อตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองไม่ได้อยู่ที่บ้านหลังเก่า “ที่นี่ที่ไหนคับแม่” “บ้านหลังใหม่ของเราครับลูก” “ทำไมคับ” “เอ่อ...พอดีแม่ได้งานใหม่นะคับลูก เราเลยต้องย้าย” “แล้วที่นี่อยู่ไกลโรงเรียนมากมั้ยคับแม่” หญิงสาวหอมแก้มเขาฟอดหนึ่ง ก่อนตอบ “ไกลมากจ้ะ เดี๋ยวแม่หาเพื่อนใหม่และครูคนใหม่ให้นะคับ” เท่านั้นเอง เด็กชายก็เบะปากร้องไห้อีกที “ไม่เอา พี่น้ำจะอยู่กับครูก้อย จะอยู่กับปีโป้ กับจีน่า” นิสาสวมกอดเขาเอาไว้ “ว่างๆ แม่จะพาไปหาครูก้อยและเพื่อนๆ นะคับ แต่ตอนนี้ กินข้าวก่อนนะคับ จะได้กินยา” เด็กชายยังคงร้องไห้ แต่ไม่อาละวาดเอาแต่ใจ เพราะเธอเลี้ยงเขามาด้วยเหตุผล เขาร้องไห้ต่ออีกครู่เดียว เมื่อเริ่มต้นทานข้าวก็เงียบ แต่ยังมีเสียงสะอื้นตามมาเป็นระยะๆ นิสามองด้วยความสงสารอย่างที่สุด เธอถือว่าตัวเองเป็นคนพลาด ที่ไม่เช็คให้ดีว่า ลูกชายเจ้าของท่านประธานใหญ่คือใคร หน้าตาอย่างไร “แม่ค้าบ” เด็กชายธาราเรียกอีก “ว่าไงคับลูก” “คุณลุงคนเมื่อวานจะมาอีกมั้ยคับ” นิสาชะงักเล็กน้อยก่อนตอบ “ไม่มาแล้วคับ” เด็กชายธาราหน้ามุ่ย “คุณลุงใจดีเนอะแม่เนอะ จะให้พี่่น้ำขี่คอด้วย” นิสายังไม่ทันตอบอะไร ก็มีเสียงรถมาจอดหน้าบ้าน ไม่ต้องออกไปดูก็รู้ว่าใคร “มิ้นซื้อของใช้ที่จำเป็นมาให้ค่ะ...” เจ้าตัวเอ่ยเสียงใส ก่อนก้มลงทักทายเด็กชาย ซึ่งเมื่อเห็นหน้าชัด เธอก็กัดริมฝีปากแน่น ก่อนพึมพำ “เหมือนเหลือเกิน” “ขอบคุณนะคะ คุณมิ้น ที่จริงคุณไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้” พลอยปภัสร์ยิ้มอ่อนหวาน “ไม่เป็นไรค่ะ ตัดเรื่องที่มิ้นกับพี่วินออก เราก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน...อ้อ มิ้นซื้อซิมใหม่มาให้นิสาด้วยนะ เอาไว้โทร.ติดต่อกันค่ะ” พูดพลางก็ยื่น ซิมการ์ดมาตรงหน้า นิสายื่นมือรับ “ขอบคุณค่ะ” “ส่วนเรื่องงาน อย่าปฏิเสธมิ้นเลยนะคะ มิ้นมีส่วนทำให้คุณกับลูกต้องลำบาก” “นิไม่รู้จะขอบคุณคุณยังไง” “ที่ทำอยู่ตอนนี้ก็พอแล้วค่ะ...ตกลงนะคะ มิ้นจะโทร.หาผู้จัดการสาขาใกล้ที่นี่ให้” นิสายังไม่ตกลง “ขอให้นิหางานด้วยตัวเองก่อนนะคะ ถ้าหาไม่ได้ นิจะรบกวนคุณค่ะ” พลอยปภัสร์ทำหน้าเซ็ง “ก็ได้ค่ะ เฮ้อ ทำไมดื้อจังเลยนะ เนอะ พี่น้ำเนอะ ทำไมแม่พี่น้ำดื้ออย่างนี้” ตอนท้ายหันไปพยักเพยิดกับเด็กน้อย “อ้าว เมื่อกี้แม่บอกว่าได้งานใหม่แล้วนี่คับ” สองสาวมองหน้ากันแล้วก็หัวเราะในความช่างสังเกตและจับผิดนั้น ก่อนนิสาจะเอ่ย “เอ่อ...แม่หมายความว่า แม่ได้งานแล้ว แต่ยังไม่ได้เริ่มงานน่ะคับลูก” เด็กชายทำหน้างงๆ ไม่แน่ใจ แต่ก็ไม่ถามอะไรอีก ก้มลงทานข้าวต่อ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD