พลอยปภัสร์อยากร้องกรี๊ด เมื่อเข้าไปที่บริษัทของกวินภพแล้วพบว่าเขาไม่อยู่อีกแล้ว! เธอไม่อยากคิดเลยว่า เขาไปหานิสา เพราะเขาไม่รู้ว่านิสาอยู่ที่ไหน เว้นแต่ว่า นิสาจะบอก!
เธอโทรศัพท์หาเขา ก็ปรากฏว่าเขาไม่รับสาย เธอจึงโทร.หานิสา แล้วกรอกเสียงอ่อนหวานลงไป
“คุณนิคะ เป็นยังไงบ้าง ได้งานแล้วเหรอคะ โห ดีใจด้วยนะคะ คุณนิเก่งที่สุดเลย...แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหนคะ”
“นิอยู่บ้านค่ะ กำลังจะทานข้าว คุณมิ้นมีอะไรหรือเปล่าคะ”
“เอ่อ เปล่าหรอกค่ะ มิ้นก็แค่อยากถามข่าวคราวของคุณเท่านั้นเอง เอ่อ นี่มีใครรู้ว่าคุณนิอยู่ที่นั่นบ้างคะ หมายถึงพวกเพื่อนที่ทำงานเก่าหรือป้าข้างบ้านน่ะค่ะ”
“นิไม่ได้บอกใครค่ะ คุณมิ้นสบายใจได้”
“โอเคค่ะ งั้นแค่นี้นะคะ ว่างๆ มิ้นจะเข้าไปเยี่ยมตาหนูนะคะ”
นิสาบอกไม่ถูกว่าควรรู้สึกอย่างไรที่อยู่ๆ คนที่เธอคิดถึงตลอดสี่ปีก็มานั่งทานข้าวอยู่ต่อหน้า ถึงเขาจะนิสัยไม่เหมือนเรน แต่ก็หน้าเหมือนกัน
“ทำไมเราถึงรู้จักกัน” กวินภพถามขึ้น ตาก็จ้องเธอไม่กะพริบ
“เจอกันในผับค่ะ” เธอตอบส่งๆ
คิ้วเข้มของเขาเลิกขึ้น “ในผับ? ผับไหนอ่ะคุณ อย่างผมไม่เที่ยวผับราคาถูก ส่วนคุณก็ไม่น่าจะเข้าผับหรูนะ หรือยังไง”
นิสาวางช้อนด้วยความหมั่นไส้ เจอกันรอบนี้ แค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น เขาดูถูกเธอไม่รู้กี่ครั้งแล้ว
“เอ้า ว่าไง ตกลงเจอกันที่ผับแบบไหน นี่อย่าบอกนะว่าคุณโกหกอีกแล้วน่ะ แล้วผมจะให้ลูกผมอยู่กับแม่ขี้โกหกตลอดเวลาได้ยังไง”
“บางอย่างก็ต้องโกหกเพื่อ...เพื่ออะไรหลายๆ อย่าง” เสียงเธอเบาลงเล็กน้อย
“แต่ผมต้องการความจริง อยู่ๆ ผมก็ฝันถึงคุณ ผมได้เจอคุณ แล้วก็พบว่าคุณมีลูกกับผม โดยที่ผมจำอะไรไม่ได้สักอย่าง ผมอึดอัดจะแย่แล้วนะ”
“ดิฉันไม่มีความจริงอะไรจะให้คุณอีกแล้วค่ะ คุณมีอะไรก็ถามคุณมิ้นก็ได้”
“นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ผมสงสัย คุณกับมิ้นรู้จักกันได้ยังไง ตั้งแต่เมื่อไหร่”
นิสาชะงัก และก้มลงมองจานข้าว ขณะที่กวินภพเอ่ยต่อ
“ผมรู้จักมิ้นมาปีนี้ก็ปีที่หกแล้ว เราสนิทกันมาก และผมก็ไม่เคยเห็นคุณในชีวิตมิ้นเลย”
“คุณไปถามคุณมิ้นเอาเองก็แล้วกันค่ะ เขาตอบยังไงก็อย่างนั้นแหละ” เธอตัดบท ยกนาฬิกาขึ้นดูแล้วเอ่ย “ฉันจะไปรับลูก คุณกลับบ้านได้แล้วค่ะ”
“ผมจะไปรับลูกด้วย คุณไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ” เขารีบห้ามเมื่อเห็นเธออ้าปากจะค้าน
เด็กชายธาราชะงักไปเมื่อเห็น ‘คุณลุง’ ยืนอยู่ข้างแม่ เขายกมือไหว้โดยอัตโนมัติ แม้แต่ตอนเดินเข้าไปกอดแม่ ก็ยังมองคุณลุงไม่วางตา
“ไงคับ สุดหล่อ” กวินภพทรุดกายลงนั่งเพื่อสบตากับลูกชายตรงๆ เป็นครั้งแรก ดวงตาที่ถอดกันมาไม่ผิดเพี้ยนสบกันนิ่ง แล้วน้ำตาของกวินภพก็ไหล เมื่อนึกไปว่า สามปีกว่าที่ผ่านมา ลูกชายโตมาแบบไม่มีพ่อ คงจะเจ็บปวดเวลาที่เห็นครอบครัวอื่นมีพร้อมหน้าพ่อแม่ลูก นิสาอีกเล่า เลี้ยงลูกมาคนเดียว ต้องเข้มแข็งเบอร์ไหน ถึงเขาจะนึกไม่ออกว่าเขากับเธอเคยมีความสัมพันธ์กันตอนไหน แต่เดาว่าคงไม่ได้แต่งงาน ไม่มีรูปงานแต่งแม้แต่รูปเดียวในบ้าน และจากการสอบถามรายละเอียดป้าข้างบ้าน ก็รู้ว่าเขาอยู่ที่นั่นเพียงสามวันเท่านั้น
‘ตอนแรก ป้าก็ไม่อยากให้ไอ้นิมันให้คุณพักด้วยอยู่หรอก ผู้หญิงผู้ชายอยู่ด้วยกันมันก็ไม่งาม แต่ไอ้นิก็บอกว่าคุณไม่มีที่ไป ให้อยู่ด้วยกันไปก่อน’
‘แล้วหลังจากสามวันนั้น นิบอกป้าว่าผมหายไปไหน’
‘ก็บอกว่ามีคนมารับคุณไปแล้วน่ะสิ ป้าก็ไม่กล้าถามมันมาก เห็นตามันแดงๆ เหมือนร้องไห้’
‘อืม...แล้วหลังจากนั้นล่ะ นิเขามีคนอื่นอีกมั้ย’
‘ไม่มีหรอก ไม่นานหลังจากนั้นมันก็ท้อง แต่ไม่ยอมบอกว่าพ่อของเด็กเป็นใคร ป้าก็ไม่เซ้าซี้หรอก เด็กแถวนี้ก็งี้แหละคุณ ท้องไม่มีพ่อกันเยอะแยะ ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ตอนนี้ป้ารู้แล้วแหละว่าพ่อของเด็กเป็นใคร คุณหายไปไหนมาล่ะ ทำไมทิ้งมันให้เลี้ยงลูกคนเดียว’
‘ผมไม่รู้ว่านิท้อง คือ...ฟังดูอาจจะละครไปหน่อยนะ ป้า แต่ผมจำไม่ได้ว่าผมเคยมีนิน่ะ’
คราวนี้ป้าแกมองเขางงๆ ‘แปลว่าอะไรวะ จำไม่ได้ คนทั้งคนนะเว้ย’
เขาส่ายหน้า ‘ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ผมไม่เข้าใจ’
‘เออเว้ย เมียทั้งคน บอกว่าจำไม่ได้ ทำไมวะ เมียเยอะนักหรือไง จนจำไม่ได้เนี่ย ไอ้สารเลวเอ๊ย ถ้างั้นก็ไม่ต้องมายุ่งกับหลานสาวกูเลย หน็อย’ ไม่พูดเปล่า แกยังควานหาอะไรมาเพื่อจะเพ่นกบาลเขาด้วย
‘เดี๋ยวป้าใจเย็น ไม่ใช่อย่างนั้น…’ เขายกแขนขึ้นปกป้องตัวเองเป็นพัลวัน
‘ไม่ใช่แบบนั้นแล้วแบบไหนล่ะวะ มึงไปเลยนะ แล้วไม่ต้องมายุ่งกับหลานกับเหลนกูเลย ไป๊’
‘แต่ผมเป็นพ่อเด็กนะป้า’
‘ก็แล้วไงวะ พ่อเลวๆ ที่ไม่เคยเลี้ยงดูลูก จะเอามาทำมะเขืออะไรไม่ทราบ ไปเลย มึงไปเลยไอ้เรน’
“คุณแม่ค้าบ ไหนว่าคุณลุงไม่มาแล้วไงค้าบ” เสียงลูกชายดังขึ้น กวินภพกะพริบตาถี่ๆ แล้วส่งยิ้มให้แก
“ต่อไปนี้...เรา...จะมาหาหนูทุกวันเลย ดีมั้ยคับ”
เด็กชายธาราเบิกตากว้าง “จริงเหรอคับ แล้ววันนี้คุณลุงจะให้พี่น้ำขี่คอด้วยใช่มั้ยคับ”
“ครับผม เท่านั้นไม่พอนะ เรามีของเล่นมาฝากพี่น้ำด้วย อ้อ...ลืมแนะนำตัว เราชื่อวิน ยินดีที่ได้รู้จัก” เขาตอบพลางยื่นมือไปตรงหน้า เด็กชายก็ยื่นมาจับ นาทีนั้นความอบอุ่นก็บังเกิดในความรู้สึกของกวินภพ เขาดึงแกมากอดแน่นๆ ครั้งหนึ่ง ก่อนจะยกร่างแกขึ้นให้แกขี่คอเขา แล้วเดินไปที่รถ นิสาเดินตามหลัง มองภาพนั้นผ่านม่านน้ำตา