กอดปลอบ

1501 Words
หญิงสาวหยิบโทรศัพท์เพื่อโทร.หาเพื่อนที่ดูแลลูกให้ “พี่น้ำหลับหรือยัง...พี่ขอคุยกับพี่น้ำหน่อยจ้ะ...พี่น้ำค้าบ...งานยังไม่เสร็จเลยคับลูก พี่น้ำนอนไปก่อนได้มั้ยคับไม่ต้องรอแม่...แม่สัญญาจ้ะ ว่าพอพี่น้ำตื่นมาจะได้เจอหน้าแม่เป็นคนแรก นะคับ คนดีของแม่...น่ารักที่สุดเลย แม่รักลูกนะคับ กู๊ดไนท์คับ” วางสายแล้ว เธอก็หันมาทางคนขับ เมื่อรู้สึกว่ารถกำลังเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ “คุณวิน เร็วไปนะคะ ลดความเร็วลงหน่อยนะคะ” เตือนด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน ไม่ใช่สั่ง ไม่ใช่ตำหนิ และมันก็ได้ผล ความเร็วของรถลดลง สักพัก รถคันงามก็วิ่งขึ้นทางด่วนที่จะไปทางฝั่งธน นิสาเดาออกทันทีว่าเขาจะไปที่ไหน ซึ่งเธอก็ไม่ห้าม นาทีนี้ เธอจะตามใจเขาทุกอย่าง ขอเพียงให้เขารู้สึกดี เธอสงสารเขาใจจะขาดอยู่แล้ว พร้อมกันนั้นก็นึกเคืองการันต์กับพลอยปภัสร์ยิ่งนักที่ช่างทำอะไรประเจิดประเจ้อขนาดนั้น เมื่อมาถึงหน้าปากซอย กวินภพก็จัดการล็อกรถให้เรียบร้อย แล้วเดินเคียงเธอไปตามถนนแคบๆ ที่ตอนนี้เงียบ เพราะไม่มีคนเดินไปเดินมา มีแต่เสียงจากทีวี จากมือถือดังจากบ้านหลังที่อยู่สองข้างถนนเท่านั้น ไม่นานทั้งคู่ก็มาถึงบ้านหลังน้อยริมน้ำ ซึ่งคุณป้าข้างบ้านได้มาเปิดไฟหน้าบ้านไว้ให้แล้ว “คุณวินนั่งรอที่ท่าน้ำก่อนนะคะ เดี๋ยวนิเอาน้ำมาให้” “ผมไม่หิวน้ำ” เขาตอบสั้นๆ แล้วเดินไปนั่งยังจุดที่เธอบอก และเหม่อมองไปที่ผืนน้ำสีดำนิ่งสนิท นิสาทำเหมือนไม่ได้ยินคำพูดของเขา เธอเดินไปเปิดประตูบ้าน เพื่อหยิบน้ำเปล่าออกมา แล้วก็ไม่ลืมหยิบโลชั่นกันยุงติดมือมาด้วย ดึกๆ อย่างนี้ยุงชุมทีเดียว เธอทรุดกายลงนั่งข้างเขา คืนนี้ท้องฟ้าเต็มไปด้วยหมู่ดาวทอแสงระยับตา อากาศก็เย็นสบาย สายลมพัดอ่อน แต่นาทีนี้ความงามตรงหน้าคงไม่ต้องตาเขา เพราะในใจคงมีแต่ความเจ็บปวด “น้ำค่ะ” เธอยื่นให้เขา ชายหนุ่มไม่รับ เธอจึงวางไว้บนม้านั่ง จากนั้นจึงหยิบแขนของเขาขึ้นมาแล้วทาโลชั่นกันยุงให้ “เดี๋ยวโดนยุงหามไปทิ้งน้ำอีก” “ตอนนั้นผมลอยมากับน้ำเหรอ” นิสาชะงักมือที่กำลังลูบเนื้อโลชั่นลงกับผิวของเขา และไม่ตอบคำถาม แต่ขยับตัวเล็กน้อย เพื่อจะทาอีกแขน แต่กวินภพขืนตัวเอาไว้ หญิงสาวก็ไม่ดื้อดึง เธอวางขวดโลชั่นไว้ข้างๆ ขวดน้ำ แล้วนั่งตัวตรง มองผืนน้ำเบื้องหน้าที่มืดสนิท ครู่ต่อมาก็สัมผัสได้ว่าวงแขนแข็งแรงของเขาได้โอบรอบลำตัวเธอคล้ายต้องการปลอบขวัญบางอย่าง เธอเองก็สวมกอดเขาตอบเพื่อปลอบใจ เพื่อแบ่งเบาความเจ็บปวดในใจเขาเช่นกัน เธอก็ทำได้เพียงเท่านี้แหละ ครู่ต่อมา เธอกับเขาก็ผละออกจากกัน “เจ็บมากหรือเปล่า” เขาถามเสียงอ่อนโยน “คะ?” “ก็นายรันต์ไง” คราวนี้นิสาเพิ่งนึกได้ว่า เขาคิดว่าเธอกับการันต์เป็นแฟนกันจริงๆ และเธอก็คงเจ็บปวดกับภาพที่การันต์อยู่กับพลอยปภัสร์ “ก็...คุณรันต์เขาเจ้าชู้อยู่แล้วนี่คะ” เธออ้อมแอ้มตอบ “รู้อยู่แล้วแต่ก็ยังเป็นแมงเม่าบินเข้ากองไฟงั้นเหรอ” เขาดุ “ไม่ต้องห่วงนิหรอกค่ะ นิดูแลตัวเองได้” “มันคงจะดีกว่านี้ถ้าคุณไม่เอาตัวเข้าไปยุ่งกับเขาตั้งแต่แรก” เขายังคงดุอีก “นิกับคุณรันต์เพิ่งเจอกันไม่นาน ทุกอย่างเพิ่งเริ่ม ความผูกพันยังไม่มี ไม่เหมือนคู่ของคุณ...” เธอวางมือน้อยลงตรงตำแหน่งหัวใจเขา กวินภพก้มลงมอง แล้วก็จับมือเธอขึ้นมากุมไว้ “เหมือนโดนมีดร้อยเล่ม” เขาตอบแล้วก็เงียบไป นิสาถึงกับน้ำตาร่วง โธ่เอ๊ย ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องมาเกิดกับเขาด้วยนะ มันโหดร้ายเกินไปแล้ว “คุณอยากร้องไห้ก็ได้นะคะ หรืออยากจะทำอะไรที่ช่วยให้เจ็บน้อยลงมั้ยคะ” “ถือว่าคุณให้สิทธิ์ผมแล้วนะ” “คะ” “ก็ทำอะไรที่จะช่วยให้เจ็บน้อยลงไง” เขายิ้มเศร้าๆ แล้วก็กอดเธออีกครั้ง วางคางลงบนไหล่ จากนั้นหลับตานิ่งๆ นิสาลูบแผ่นหลังเขาขึ้นลงหลายรอบเพื่อปลอบใจ “เข้มแข็งนะคะ” “อืม...” เขาทำเสียงรับรู้ ก่อนค่อยๆ ผละออก “ขอบใจมากนะ” “รู้สึกดีขึ้นบ้างหรือยังคะ” “ยังหรอก ต้องใช้เวลาอีกนานเลย แต่ผมขอร้องคุณอย่างหนึ่งนะนิ อย่าเพิ่งบอกเรื่องนี้กับใครทั้งสิ้น” “ได้ค่ะ ถึงคุณจะไม่ขอ ฉันก็ไม่คิดจะบอกใครอยู่แล้ว...อืม...คืนนี้ ถ้าขับรถไม่ไหว คุณจะนอนค้างที่นี่ก็ได้นะ เดี๋ยวนิจัดที่นอนให้” “จะค้างกับผมหรือเปล่าล่ะ” เขาส่งยิ้มยั่วล้อมาให้ หญิงสาวส่ายหน้า “ฉันต้องกลับไปหาลูก” “เดี๋ยวผมไปส่ง” เขาว่าพลางลุกขึ้น ดึงร่างเธอให้ลุกขึ้นด้วย “ขอบคุณคุณมากอีกครั้งนะนิสา มีคุณอยู่ด้วยในเวลานี้มันช่วยผมได้มากจริงๆ” ส่งเธอถึงบ้านแล้ว กวินภพงอแงไม่อยากกลับ “ขับรถไม่ไหว อีกอย่าง นอกจากคุณแล้ว พี่น้ำนี่แหละจะเยียวยาผมได้” นิสาทำท่าคิดครู่หนึ่งก็พยักหน้า “ก็ได้ค่ะ แต่แค่คืนนี้คืนเดียวนะ” “อย่าใจร้ายกับคุณกำลังอกหักนักเลยน่ะ” เขาแยกเขี้ยวใส่เธอ แล้วเดินเข้าบ้านด้วยความดีใจ จากนั้นจึงอาบน้ำ ส่วนนิสาเดินเข้าไปในห้องของเธอกับลูก ซึ่งเพื่อนเธอหลับฟุบอยู่กับเตียง จึงปลุกแล้วบอกให้ไปนอนที่ห้องรับรองแขก ซึ่งเธอจัดที่นอนไว้ให้แล้ว ส่วนเธอรีบถอดชุดราตรีออก แล้วเปลี่ยนเป็นชุดนอนอย่างรวดเร็ว แต่พอหันหลังกลับมาเธอก็ต้องสะดุ้งโหยง เมื่อเห็นว่ากวินภพยืนมองเธอตาค้างอยู่ “ว้าย! นี่คุณเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วเห็นอะไรบ้าง” “ก็...” ชายหนุ่มหน้าแดงเกิดอาการอึกอัก เพราะเขาเห็นตั้งแต่ตอนที่เธอเริ่มถอดชุด เห็นด้านหลังที่เนียนเรียบ เอวที่คอดเว้า สะโพกที่ผายภายใต้อันเดอร์แวร์สีชมพูอ่อนหวาน เรียวขาสวยแน่นตึงนั่น “คนบ้า! ทำไมเข้ามาไม่ให้สุ้มให้เสียง” หญิงสาวแหวเสียงเบา “ก็ใครจะคิดว่าคุณจะโป๊ล่ะ” เขาเถียงกลับ แล้วก้าวขึ้นเตียง “เดี๋ยว คุณจะนอนบนนี้ไม่ได้นะ เดี๋ยวแกตื่นมาเห็นคุณแล้วจะตกใจไปซะก่อน” “แต่ผมกำลังอกหักอยู่นะคุณ ขอกอดลูกเพิ่มพลังหน่อยไม่ได้หรือไง” เขางอแงอีก “แต่ฉันยังไม่ได้บอกแกเรื่องคุณเลยนะ ถ้าตื่นมาเจอคุณนอนอยู่บนเตียงเดียวกัน ซึ่งมีฉันด้วยเนี่ย มันจะเป็นเรื่องใหญ่” “ถ้างั้นขอกอดแป๊บหนึ่ง แล้วจะไปนอนที่อื่นก็ได้” พูดจบก็ล้มตัวลงนอนข้างลูกชาย และกอดร่างอวบอ้วนนั้นเอาไว้ ซุกหน้าลงกับแก้มอูมๆ สูดเอากลิ่นหอมชื่นใจ กลิ่นอันแสนบริสุทธิ์นั้นเข้าเต็มปอด แล้วก็หลับตาลง ส่วนนิสาเดินออกไปเอาที่นอนของเขาไปจัดในห้องนอนที่ว่าง แล้วกลับมาที่ห้องของเธอ ล้มตัวลงนอนอีกข้างของลูก ก้มลงหอมแก้มเขาฟอดหนึ่งแล้วก็หลับตา ทั้งที่รู้ว่าไม่อาจหลับได้หรอก มีคนตัวโตนอนอยู่ใกล้ๆ แค่นี้นี่นา “ตอนท้อง คุณแพ้หนักหรือเปล่า” เสียงอ่อนโยนของเขาดังขึ้นในความมืด “ก็หนักเหมือนกัน แต่แพ้ไม่นานค่ะวันสองวันก็หายแล้ว” “แล้วตอนคลอดล่ะ เจ็บมากมั้ย” “เจ็บแต่ไม่มาก” นิสายิ้มแม้จะรู้ว่าเขาไม่เห็น “ลูกคลอดง่ายค่ะ ไม่ดื้อ ไม่หัวแข็ง เหมือนแกรู้ว่าแม่...อยู่คนเดียว” กวินภพเงียบไปครู่หนึ่ง ก็เอ่ยถามอีก เสียงเขาสั่นไปเล็กน้อย “น้ำหนักแกล่ะ” “สามพันห้าค่ะ” “เท่าผมเลย...แล้วเขาเลี้ยงยากมั้ย คุณคงเหนื่อยน่าดู” “เหนื่อยมากค่ะ แต่เป็นเหนื่อยที่มีความสุขมากเหมือนกัน” “ทำไมตั้งชื่อแกว่าน้ำ...” หญิงสาวเงียบไปครู่หนึ่งถึงยอมตอบ “พ่อแกชื่อเรนค่ะ แล้วแกก็เป็นน้ำทิพย์สำหรับชีวิตฉัน”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD