ฟางหรงมัวแต่เดินซื้อของที่ตลาดจนมืดค่ำ กว่านางจะกลับมาที่จวนฟ้าก็เริ่มมืด ที่ด้านหน้าจวน อิงอิงสาวใช้ร่างท้วมยังคงยืนรอเธออยู่
"นายท่านมาถามถึงคุณหนูรองหลายคราแล้วเจ้าคะ เหตุใดถึงได้ไปช้านักเล่า"
เธอส่งขนมน้ำตาลเคลือบให้สาวใช้ด้วยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม
"ข้าไปรอซื้อลูกพลับตากแห้งมา หนึ่งปีเถ้าแก่เนี้ยจะนำมาขายสักหน นี่คือลูกพลับที่แห้งคาต้นรสชาติจะหวานหอมนุ่มลิ้น พี่หญิงชอบทานมากเลยนะ"
ไม่รู้ว่าเธอคิดไปเองรึเปล่า แต่ทว่าช่วงนี้รอยยิ้มบนใบหน้าของพี่สาวเธอนั้นจางหายไป ราวกับคนที่อมทุกข์อยู่ตลอดเวลา
พี่ฟางเซียนมิใช่คนที่จะเปิดเผยความในใจเสียด้วย นั่นทำให้ทุกคนในจวนต่างก็ได้แต่คอยมองห่างๆอย่างห่วงๆเมื่อพี่หญิงของเธอดูแปลกไป
"เช่นนั้นเราไปหาคุณหนูใหญ่กันเถอะค่ะ หวังว่าลูกพลับของท่านคงจะทำให้คุณหนูใหญ่อารมณ์ดีขึ้น"
พี่หญิงนั้นโดนกดดันอย่างหนัก เรื่องนั้นเป็นความหนักอึ้งในใจของฟางหรงเรื่อยมา เธอเฝ้าโทษตัวเองอยู่เงียบๆว่าที่พี่หญิงจะต้องสมบูรณ์แบบนั่นเป็นเพราะว่าตัวเธอนั้นมันไม่เอาไหน
เธอก็เลยพยายามหาทางตอบแทนพี่สาวในรูปแบบต่างๆ หนึ่งในนั้นก็คือการซื้อขนมที่พี่ชอบมาฝาก อันที่จริงก่อนหน้านี้เธอได้ชวนพี่หญิงหนีไปเที่ยวด้วยกันแล้วแต่ทว่าพี่หญิงก็ได้แต่บอกปฏิเสธ
"....พึ่งกลับมาป่านนี้งั้นหรือฟางหรง แม่ควรจะสั่งโบยเจ้าซะบ้าง เจ้าจะได้รู้ถึงการปฏิบัติให้สมกับเป็นสตรีที่ยังไม่ออกเรือน"
ฟางหรงรีบวิ่งไปหามารดา เธอยกมือขึ้นมากอดมารดาโดนไม่สนการโดนดุด่า
"นี่คือลูกพลับแห้งเจ้าค่ะท่านแม่ นอกจากจะซื้อมาฝากพี่หญิงแล้ว ข้ายังซื้อมาฝากท่านด้วย ท่านแม่ก็รู้ใช่ไหม ว่าตามตำรายาของจี้กงได้มีการบันทึกเอาไว้ถึงสรรพคุณของลูกพลับตากแห้ง ใบหน้าขาวนวลเปล่งปลั่งดั่งวัยเยาว์ ข้าเห็นลูกพลับนี้แล้วไม่อาจนึกถึงใครได้นอกจากนึกถึงท่านแม่เลยเจ้าค่ะ"
"เจ้านี่นะ!!"
เพราะเธอรู้ ฟางหรงรู้ดีว่ามารดานั้นรักเธอ ถึงจะดุด่าแต่ทว่ามารดาก็ตามใจเธอเสมอ
"อยู่กับพร้อมหน้าพร้อมตาพอดีเลย ข้ามีเรื่องที่ต้องหารือภายในครอบครัว ไปตามฟางเซียนมาด้วยอีกคนสิ"
ฟางหรงมองท่านพ่อด้วยสายตาที่อดจะหวั่นใจไม่ได้ จะมีเรื่องใดให้เรียกคุยกันพร้อมหน้าพร้อมตาเช่นนี้อีก...
มีเพียงเรื่องงานแต่งของพี่ฟางเซียนเท่านั้น
"ท่านอ๋องไป๋ส่งของหมั้นมาแล้ว งานจะจัดข้นในอีกสามอาทิตย์ข้างหน้า หวังว่าพวกเจ้าทุกคนจะเตรียมการให้เรียบร้อย"
"ล้อเล่นกันหรืออย่างไรเจ้าคะท่านพ่อ ข่าวลือเรื่องท่านอ๋องล้วนดังไปทั่วทั้งเมืองหลวง ชายผู้นั้นเป็นบุรุษที่สามารถฆ่าคนได้โดยไม่กะพริบตา โหดเหี้ยมเช่นนั้นข้าไม่มีทางรับเขาเข้ามาเป็นพี่เขยอย่างแน่นอน"
ฟางหรงรีบลุกขึ้นมากล่าวทักท้วงพร้อมกับเดินเข้าไปหาพี่สาวที่ยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย
"เจ้ายังเด็กฟางหรง เรื่องที่ผู้ใหญ่คุยกันเจ้าไม่มีทางเข้าใจหรอกน่า..."
"แต่ว่า.."
ฟางเซียงยกมือขึ้นมาดึงแขนน้องสาวให้นั่งลง
"รับทราบเจ้าค่ะท่านพ่อ ลูกยินดีที่จะแต่งงานเข้าจวนท่านอ๋องไป๋"
"พี่ฟางเซียน..."
ฟางหรงนั้นได้แต่มองหน้าพี่สาวด้วยสายตาเห็นใจ เธอกำมือแน่นพร้อมกับก้มหน้าลงเพื่อเก็บซ่อนความไม่พอใจเอาไว้
เหตุใดเธอถึงจะไม่เข้าใจล่ะ เหตุใดเธอถึงจะไม่รู้ว่าเพราะอะไรพี่ฟางเซียนจะต้องแต่งงานกับบุรุษโหดเหี้ยมผู้นั้น
เพราะเธอเอง เพราะว่าเธอจะแต่งงานเข้าจวนแม่ทัพ เพราะว่าอำนาจของจวนเสนาบดีมันจะมากเกินไป จึงจำเป็นต้องแต่งงานกับท่านอ๋องไป๋ พระอนุชาคนสนิทของฝ่าบาท...
"เจ้าซื้อลูกพลับมาให้พี่มิใช่หรือ ไหนล่ะฟางหรง ส่งมันมาให้พี่สิ"
ท่านพ่อและท่านแม่ต่างก็เดินออกไปแล้ว ตอนนี้จึงเหลือเพียงแต่เธอกับพี่สาวเพียงสองคน
"...ข้าต้องหาทาง ขัดขวางให้ได้เลย จะให้พี่อยู่กับบุรุษเช่นนั้นได้อย่างไรกัน"
"ฟางหรง ตั้งแต่วันที่เกิดมาพี่ก็รู้และเตรียมใจเอาไว้แล้วว่าวันนี้จะต้องเดินทางมาถึง วันที่พี่จะต้องแต่งงานกับใครสักคนเพื่อถ่วงดุลอำนาจของท่านพ่อ...ของตระกูลฝู เจ้าบ่าวเป็นใครสำคัญตรงไหนกันเล่า เพราะว่าพี่ไม่สามารถแต่งงานกับคนที่รักได้อยู่แล้ว"
คำกล่าวของพี่สาวพลันเสียดแทงเข้าไปในหัวใจ เกิดเป็นความเจ็บปวดสายหนึ่งขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้
"เจ้าเอง...ก็จงมีความสุขเสียฟางหรง เจ้าจงมีความสุขมากๆนะ"
จงมีความสุขในวันที่สามารถมีความสุขได้ หัวเราะในวันที่เจ้าสามารถหัวเราะออกมาได้ ยิ้มแย้มด้วยใบหน้าที่ไร้เดียงสานั่นออกมาเสียให้พอ
ก่อนที่ความสุข มันจะจางหายไปจากชีวิตของเจ้า
.......
"ฟางหรงของข้าไม่ไปบ่อนงั้นเหรอ ให้ตายเถอะ นี่ฟ้าคงจะใกล้ถล่มลงมาแล้วเป็นแน่"
ซูมี่ยกไหเหล้าขึ้นมาดื่มพร้อมกับวางไหเหล้าหนึ่งไหที่ด้านหน้าของสหาย
"วันพรุ่งนี้พี่สาวข้าจะแต่งงานกับคนที่ถูกกร่นด่าว่าเขาคือคนที่โหดเหี้ยมที่สุดในเมืองหลวง เจ้าคิดว่าข้าจะยังสามารถมีใจกินเหล้าเข้าบ่อนอีกงั้นหรือ"
"อ่า เรื่องในครอบครัวเจ้าข้าไม่ขอยุ่ง เป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่รึไง สตรีที่งดงามย่อมต้องแต่งงานกับบุรุษสักคนเพื่อสร้างฐานอำนาจให้ตระกลู เหตุใดข้าถึงไม่เกิดเป็นบุรุษบ้างนะ จะได้เลือกสตรีและอนุเข้าจวนได้ตามใจ"
ฟางหรงถอนหายใจเบาๆ
"เจ้ายังจะมีหน้ามาพูดเล่นอีกนะซูมี่!!"
ซูมี่หัวเราะ นางยกมือขึ้นมาบีบแก้มสหายอย่างมันเขี้ยว
"วางใจเถอะน่า ท่านอ๋องมิกล้าทำอันใดพี่สาวเจ้าหรอก พี่ฟางเซียนเป็นบุตรีของเสนาบดีเชียวนะ จะทำการอันใดอย่างน้อยก็จะต้องเกรงใจตระกูลฝูอยู่บ้างล่ะ"
นั่นสินะ อย่างน้อยพี่สาวของเธอก็เป็นคนตระกูลฝูที่เป็นตระกูลมหาอำนาจ
"คอยดูเถอะ หลังแต่งงานข้าจะไปเยี่ยมพี่ฟางเซียนบ่อยๆ"
"ไปสิ ข้าเองก็จะไปด้วย มีคำกล่าวถึงองครักษ์ชุดเกราะดำของจวนท่านอ๋องไป๋ว่ารูปหล่อแถมยังหนุ่มยังแน่น ข้ายินดีที่จะไปเป็นเพื่อนเจ้า!!"