3.รับผิดชอบ

1261 Words
งานมงคลของจวนตระกูลฝูและจวนอ๋องไป๋ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ บรรดาผู้มีอำนาจและราชวงศ์ต่างมาแสดงความยินดีที่จวนเสนาบดีกันอย่างคับคั่ง ฝูฮูหยินและฝูเกอออกมารับแขกด้วยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม "ท่านเสนาบดีช่างน่าอิจฉา มีบุตรีผู้งดงามตั้งสองแถมยังได้เกี่ยวดองกับตระกูลใหญ่อย่างจวนอ๋องไป๋ และตระกูลแม่ทัพที่มีชื่อเสียงอย่างตระกูลหนิงอีกด้วย ทั่วทั้งเมืองหลวงแห่งนี้คงไม่มีใครไม่อิจฉาท่านเสนาบดีหรอกนะขอรับ" ฝูเกอยกยิ้มให้น้องร่วมสาบานอย่างบัณฑิตฟู่หนาน น้องชายผู้นี้นั้นอ่อนน้อมและถ่อมตนยิ่งนัก แถมยังชอบพูดจายกยอและเอาใจเขาเป็นที่สุด นั่นทำให้ฝูเกอชื่นชอบในตัวฟู่หนานอยู่ไม่น้อย "เกินไปแล้วน่าฟู่หนาน ผู้เป็นบิดาเพียงเห็นลูกสาวเป็นฝั่งเป็นฝาก็ดีใจแล้ว" "ฟางเซียนนั้นเป็นสตรีที่เพียบพร้อม นางเหมาะสมกับตำแหน่งพระชายาในจวนอ๋องไป๋ที่แสนจะยิ่งใหญ่แล้วล่ะขอรับท่านเสนาบดี" ฝูเกอยกจอกสุราขึ้นมาดื่ม "เป็นเช่นนั้น ฟางเซียนเป็นเด็กดี นางจะเป็นพระชายาที่ดีของจวนไป๋อย่างแน่นอน..." เสียงพูดคุยดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงโห่ร้องยินดี แต่ทว่าสาวใช้ทางด้านหลังจวนกลับวิ่งวุ่นกันไปมา แต่ละนางมีสีหน้าไม่ค่อยดี บางรายก็วิ่งไปด้วยหยาดน้ำตาที่คลอเคลียอยู่บนใบหน้า "หาทั่วแล้วหรือยัง พวกเจ้าอาจจะถูกประหารกันหมดหากมิสามารถหาคุณหนูใหญ่ให้พบ!!!" แม่นมวัยชรารู้สึกได้เลยว่ามือของนางกำลังสั่นเทา ในชีวิตวัยหกสิบกว่าปีไม่เคยมีวันไหนที่รู้สึกหวาดหวั่นใจเท่าวันนี้มาก่อนเลย คุณหนูใหญ่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่มีแม้แต่เงา มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน เมื่อวานหญิงชรายังนั่งปักผ้าเช็ดหน้ากับคุณหนูใหญ่อยู่เลย คุณหนูใหญ่นั้นมิได้แสดงท่าทีหวาดหวั่นต่อการแต่งงานในครั้งนี้เลยด้วยซ้ำ แล้วเหตุใดถึงได้หนีไปเช่นนี้กันเล่า!! "แม่นมคะ ข้าคิดว่าเราควรจะบอกกล่าวเรื่องนี้กับนายท่านและฮูหยิน อีกไม่นานทางจวนไป๋จะส่งเกี้ยวมารับแล้ว เราควรจะต้องรีบแก้ปัญหาเรื่องนี้..." หญิงชรากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก "ข้าก็คิดว่าต้องทำเช่นนั้น ไปบอกกล่าวกับนายท่านและฮูหยินก่อนเถิด บอกกล่าวอย่างลับๆอย่าให้ผู้มางานคนใดได้ยินเรื่องนี้เด็ดขาด" "เจ้าค่ะ แม่นม" ...... "นี่ฟางหรง เจ้าสวมชุดสีฟ้าอ่อนเช่นนี้ก็ดูงดงามไม่น้อย เหตุใดถึงชอบใส่ชุดสีน้ำเงินเข้มอยู่ตลอดเล่า เป็นสตรีก็ต้องแต่งกายให้งดงามและสดใสสิ" ซูมี่กำลังหวีผมให้ฟางหรง ฟางหรงนั้นคือสตรีที่งดงามมากผู้หนึ่ง เรียวคิ้วโก่งรับเข้าหากันอย่างได้รูป ดวงตากลมโตรับกับจมูกที่โด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางได้รูป ยกยิ้มขึ้นมาแต่ละครานั้นย่อมทำให้ผู้พบเห็นหวั่นไหว แต่ว่าฟางหรงนั้นมิชอบแต่งตัว นางชอบสวมอะไรง่ายๆ ไร้เครื่องประดับราคาแพงที่ผมจึงมีเพียงแค่ปิ่นไม้เรียบๆอันหนึ่งเท่านั้น "....เพราะข้ามิรู้ว่าจะงดงามไปเพื่อผู้ใด ในเมื่อข้าเป็นสตรีที่มีคนรักแล้ว ข้าไม่ต้องการให้บุรุษผู้ใดมาสนใจข้าอีกแล้วซูมี่ เพราะฉะนั้นเป็นเจ้าต่างหาากที่ควรจะแต่งกายให้งดงามมากกว่านี้อีกหน่อย" ซูมี่เป็นองค์หญิงที่เกิดจากสนมที่เป็นนางกำนัล ฐานะของนางจะเรียกว่าเป็นเชื้อพระวงศ์ก็เรียกได้ไม่เต็มปาก เพราะฮ่องเต้นั้นจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าทรงมีองค์หญิงอยู่ตรงนี้อีกคน ปัจจุบันนางใช้เงินที่ท่านแม่ให้ไว้มาเปิดร้านขายสุราอยู่ใจกลางเมือง เรียกได้ว่ากิจการของนางไปได้ดีทีเดียว "บุรุษรูปงามคือของหวาน ข้ามิต้องการเป็นที่หมายปองของเหล่าบุรุษ แต่บุรุษต่างหากที่ต้องพยายามทำให้ข้าหมายปอง จะบอกอะไรให้นะฟางหรง แค่มีเงิน เงินเท่านั้นที่จะนำพาบุรุษดีๆมานอนกับเจ้า" ฟางหรงมองหน้าสหายผ่านทางกระจกเงา "เจ้านี่นะ แปลกประหลาดผิดวิสัยสตรี" "โถ...กล้าพูดนะฟางหรง เจ้าเองเป็นกุลสตรีเหลือเกินล่ะ กินเหล้าเข้าบ่อน นี่หากว่าหนิวหลงรู้ว่าภรรยาในอนาคตของเขาเป็นสตรีที่กินเหล้าเข้าบ่อนทุกวันเขาจะว่าอย่างไรกันนะ" ฟางหรงยกยิ้ม อาจจะเป็นเพราะว่าเราสองคนคือสตรีประหลาด ถึงสามารถคบหากันเป็นสหายได้อย่างนั้นสินะ "เกิดเรื่องใหญ่แล้วเจ้าค่ะคุณหนูรอง!!" อิงอิงวิ่งมาหาเจ้านายด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก "เกิดอะไรขึ้นอิงอิง ทางจวนไป๋ไม่ส่งเกี้ยวมารับพี่สาวของข้าหรืออย่างไร" สาวใช้ร่างท้วมรีบโบกมือปฏิเสธ นางกำลังพักหายใจเพราะตัวเองเผลอวิ่งมาที่นี่ด้วยความรวดเร็วจนร่างกายเกือบหายใจไม่ทัน "คะ...คุณหนูใหญ่หายตัวไปเจ้าค่ะ นายท่านให้ข้ารีบมาตามคุณหนูรองไปพบเป็นการเร่งด่วน!!!" เป็นครั้งแรกที่ฟางหรงนั้นรู้สึกว่าใบหน้าของนางนั้นกำลังชา หัวใจพลันบีดรัดขึ้นมาด้วยความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส นกที่แสนเชื่องและอยู่ในกรงทองมาตลอด บัดนี้ได้โบยบินหนีไปเพื่อตามหาอิสรภาพที่จางหายไปตั้งแต่แรก... ในใจไม่กล้าแม้แต่จะโทษพี่สาวกับการกระทำในครั้งนี้ เพราะฟางหรงรู้ว่าพี่สาวของเธอนั้นก็อดทนมาเนิ่นนาน และคนที่ต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากเธอ... ชุดแต่งงานสีแดงสดปักลายหงส์ถูกสวมลงมาที่ร่างของเธอ พร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินของท่านแม่และใบหน้าที่เจ็บปวดของท่านพ่อ ทุกคนทั้งร้องไห้และเจ็บปวดกันไปหมดแล้ว เธอจะยังร้องไห้ออกมาอีกได้อย่างไรกันเล่า อย่างน้อยชุดแต่งงานที่แสนงดงามนี้พี่สาวของเธอก็บรรจงปักมันขึ้นมาด้วยตัวเอง ส่วนผ้าคลุมหน้าและมงกุฎหงส์นี้ ท่านแม่เป็นคนสั่งทำให้พิเศษ "...ข้ารู้ว่าเจ้าจะไม่เป็นไร" สหายที่ดูจะไม่ได้เรื่องของเธอ กำลังลูบหลังปลอบใจเธออยู่ สาวใช้ในจวนฝูต่างก็คุกเข่าและก้มหน้าด้วยความรู้สึกผิด... ทั้งที่นี่คืองานมงคล แต่กลับไม่มีใครที่มีสีหน้าที่แสดงความยินดีเลยสักคนเดียว พี่ฟางเซียน...ข้าไม่โทษพี่เลยแม้แต่น้อย พี่เองก็รู้สึกเช่นนี้ใช่ไหม รู้สึกเจ็บปวดแต่ทว่าก็แสดงความเจ็บปวดออกมามิได้ เพราะว่าพี่คือความหวังของคนในตระกูลฝู อาจจะเป็นเพราะว่าที่ผ่านมา เป็นข้าที่มีความสุขแต่พี่กลับเป็นฝ่ายทุกข์ทรมาน ในวันนี้หัวใจของข้านั้นเฝ้าภาวนา ข้าเฝ้าภาวนาอย่างแรงกล้าว่าให้ปีกของพี่นั้นพาพี่บินไปให้ไกลแสนไกล ขอให้พี่บินไปพบเจอกับความสุขที่พี่ไม่เคยพบเจอในคราที่พี่อยู่ที่จวน ข้าขอให้พี่มีความสุข ส่วนเรื่องงานแต่งในครั้งนี้ ข้าจะรับผิดชอบเอง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD