ผมสีดำที่นุ่มสลวยของฟางหรงนั้นปลิวไปตามสายลม นางสวมชุดนอนสีขาวบริสุทธิ์ ใบหน้าที่แสนงดงามนั้นซบลงบนแขนที่วางไว้บนขอบหน้าต่าง
ทิวทัศน์ด้านนอกในยามค่ำคืนนั้นดูแปลกตาเพราะว่าที่นี่มิใช่จวนฝูที่เธอเติบโตมา แต่คือจวนไป๋ที่เธอไม่รู้จักสักนิด
เสียงน้ำตกยังคงดังเบาๆราวกับเครื่องดนตรีที่กำลังขับกล่อมเธอให้เข้าสู้ห้วงนิทรา ฟางหรงยกถ้วยสุราขึ้นมาดื่มด้วยดวงใจที่แสนเศร้า
ใบหน้าที่งดงามนั่นแค่นยิ้มขึ้นมาก่อนจะวางถ้วยสุราลง ครั้งพอจอจะยกกาสุราเทใส่ถ้วย สุรามงคลที่เตรียมเอาไว้กลับหมดลงเสียแล้ว...
เป็นเพราะซูมี่สินะที่มาดื่มเหล้าของเธอจนหมด มันน่าตีสักที
ซูมี่ยังคงนอนหลับบนตั่งตัวยาว นั่นทำให้ฟางหรงอดจะยกยิ้มขึ้นมามิได้ อย่างน้อยในวันที่แย่ๆก็ยังมีสหายที่คอยอยู่เคียงข้างล่ะนะ
พี่ฟางเซียนล่ะ ป่านนี้จะอยู่ที่ไหน จะมีคนคอยเคียงข้างในยามนอนรึเปล่า?
สิ่งที่ดึงความสนใจของฟางหรงไปนั่นคือประตูที่ถูกเปิดออกพร้อมกับบุรุษที่เดินเข้ามา ภาพเบื้องหน้ามันพร่ามัวไปหมดจนเธอไม่อาจมองหน้าบุรุษที่เข้ามาใหม่ได้ชัดเจน
"...ขอเหล้าเพิ่มได้รึเปล่า?"
เฟยเทียนถอนหายใจ เขามองพระชายาของตัวเองด้วยความเหนื่อยหน่าย หากว่านี่มิใช่คำขอของเสนาบดีละก็เขาไม่มีทางมาที่นี่อย่างแน่นอน
"ฟางหรงนั้นเป็นดั่งแก้วตาดวงใจ ท่านอ๋องจะหย่ากับนางในภายหลังก็ย่อมได้ข้ามิคิดจะขัดขวาง เพียงแต่ในวันแต่งงานได้โปรดอยู่ร่วมห้องกับนางจนถึงฟ้าสาง ข้ามิอยากให้บุตรสาวต้องมีข่าวคราวไม่ดีตั้งแต่วันแรกที่เข้าจวนไป๋"
แก้วตาดวงใจอย่างนั้นหรือ นี่คงเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงเข้มงวดกับบุตรสาวคนโต แต่ตามใจบุตรสาวคนรอง
แต่การที่ได้แต่งงานกับฟางหรงนั่นก็ถือว่ามีเรื่องดี ตรงที่เขาสามารถต่อรองกับเสนาบดีได้ง่ายกว่าเดิม เพราะว่านางเป็นแก้วตาดวงใจนี่นา...
เขาสั่งให้องครักษ์เกราะดำพาสหายของฟางหรงออกไป ก่อนที่จะเดินไปนอนบนเตียงโดยไม่สนใจฟางหรงที่นั่งอยู่ริมหน้าต่างแม้แต่น้อย
ฟางหรงลืมตาขึ้นมาช้าๆเพราะแสงแดดยามสายนั้นกำลังเสียดแทงเข้าไปในตา นางรู้สึกปวดหลังมากทีเดียวเมื่อลุกขึ้นมาถึงได้ล่วงรู้สาเหตุ นั่นก็เพราะว่าเมื่อคืนนางนอนหลับบนพื้น
ให้ตายเถอะ!!
พอกวาดสายตามองรอบๆกลับไม่เห็นสหายรัก...นี่ซูมี่หนีกลับไปแล้วอย่างนั้นหรือ?
"ตื่นแล้วหรือเพคะพระชายา เนื่องจากท่านอ๋องมีรับสั่งให้งดเว้นพิธียกน้ำชา เพราะต้องการให้พระชายาพักผ่อน แต่ถึงอย่างนั้นพระชายาก็ควรจะไปทำความเคารพแก่ผู้อาวุโสในจวนนะเพคะ"
คำกล่าวไม่คุ้นหูของอิงอิงทำให้ฟางหรงแอบขนลุก แต่พอกวาดสายตามองรอบๆก็พบว่ามีสาวใช้ราวห้านางยืนอยู่ในห้อง
นี่คงจะเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมอิงอิงถึงได้ใช้คำพวกนั้นกับเธอ
"อืม พาข้าไปเปลี่ยนชุดหน่อย ซูมี่กลับไปแล้วงั้นหรือ"
อิงอิงส่ายหน้าเบาๆ
"เรื่องท่านหญิงซูมี่ข้าไม่ทราบเพคะ"
กว่าฟางหรงจะออกจากจวนเก็บตะวันก็เกือบจะเที่ยงวัน ที่นี่กว้างใหญ่มากกว่าจวนตระกูลฝูหลายสิบเท่า และตอนนี้เธอกำลังเดินไปยังห้องรับประทานอาหารเพื่อขอเข้าเฝ้าฮูหยินเฒ่าและพระสนมไป๋
คนที่นี่นั้นถึงจะอายุมากแต่ทว่าส่วนใหญ่ก็เป็นเชื้อพระวงศ์ อย่างพระสนมไป๋ที่เป็นมารดาของท่านอ๋อง พระนางปฏิเสธที่จะดำรงยศของไทเฮา แต่เลือกจะมาอยู่ที่จวนแห่งนี้แทนวังหลวงที่แสนกว้างใหญ่
ส่วนฮูหยินเฒ่านี่คือพระมารดาของอดีตฮ่องเต้ ซึ่งเป็นพ่อของท่านอ๋องและฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน
นั่นทำให้ฟางหรงเกร็งพอสมควรเพราะว่าเธอจะต้องทำตามกฏระเบียนอันแสนเคร่งครัดไม่ต่างจากวังหลวง
"ฟางหรงอย่างนั้นหรือ ใบหน้าละม้ายคล้ายฝูเจินมากทีเดียว"
เธอก้มหน้าลงเพื่อทำความเคารพแก่พระสนมไป๋ที่ดูใจดีและเป็นมิตร
"มิต้องมากพิธี ข้ากับฝูเจินถือเป็นสหายเก่ากันมา เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วเพราะฉะนั้นจากนี้ไปเจ้าถือเป็นลูกสาวของข้าอีกคน"
"ได้ที่ไหนกันสนมไป๋ ลูกสะใภ้ก็คือลูกสะใภ้สิ!!!"
ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของฟางหรงพลันสลดลงเมื่อได้ยินคำกล่าวของฮูหยินเฒ่า
"เมื่อใดที่มีหลานให้ข้าเมื่อนั้นเจ้าจึงจะถือเป็นคนตระกูลไป๋โดยสมบูรณ์!!!"
ไม่ได้...อยากเป็นคนตระกูลไป๋สักหน่อย...
"รับทราบเพคะท่านย่า"
ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงจะต้องยิ้มแย้มให้หญิงชรา นี่คือหญิงชราที่ฮ่องเต้ยังต้องเกรงใจ แล้วเธอเป็นใครจะกล้าไปเถียงหญิงชราผู้นี้กันเล่า!!
"ดี ดูจากเมื่อคืนที่เฟยเทียนไปหาเจ้าแล้ว เรื่องหลานก็คงไม่น่าจะยากเย็นอันใดหรอก ข้ามิใช่สตรีที่บ้าในยศศักดิ์ เพราะฉะนั้นไม่ต้องมายกน้ำชาไหว้ข้าทุกเช้า เอาเวลาไปทำเรื่องที่สมควรจะทำเถิด"
อ่า...ดูๆไปแล้วที่นี่ก็มิได้เลวร้ายอย่างที่คิดเอาไว้
ไม่ต้องมีพิธีรีตองสิดี นี่มันเรื่องถนัดเลยไม่ใช่รึไงกัน
"ขอบคุณท่านย่าที่เมตตาเพคะ"
"หนึ่งปี นับจากนี้อีกหนึ่งปีหากว่าเจ้าไม่อาจมีหลานให้ข้าได้ ข้าจะให้เฟยเทียนหย่ากับเจ้า!!! นี่ไม่ใช่คำขู่หรอกนะฟางหรง ทว่านี่คือโอกาส ตำแหน่งพระชายาจวนไป๋อ๋อง เจ้าจะรักษามันได้หรือไม่ก็อยู่ที่ความสามารถของเจ้าแล้ว"
หนึ่งปี...
นั่นหมายความว่าในหนึ่งปีนี้ถ้าหากเธอไม่ท้อง เธอก็จะได้หย่ากับท่านอ๋อง...ดีอะไรเช่นนี้กันนะ จากที่ไร้ซึ่งโอกาส
บัดนี้เธอได้มองเห็นโอกาสแล้ว!!! มองเห็นเต็มสองตาเลย!!
"ขอบคุณท่านย่าที่เมตตา"
หญิงชราและสนมไป๋มองหน้ากันก่อนที่จะยกยิ้มขึ้นมา นางรู้ดีว่านี่คือการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ทางอำนาจ รู้ดีว่าหลานทั้งสองมิได้รักกัน
แต่ทว่าสำหรับราชวงศ์แล้วเราไม่นิยมหย่ากันเพราะจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง หญิงชราเองก็ไม่คิดจะให้เด็กสาวที่น่าสนใจผู้นี้หย่ากับหลานสุดที่รักของเธอเช่นกัน
แต่การบีบบังคับนั่นคือหนทางแห่งการทรมาน สู้เอาความหวังที่แสนริบหรี่นั่นมาทำให้ตัวของฟางหรงคาดหวังถึงทางรอดนั่นอาจจะดีกว่า
เพราะฟางหรงจะอยู่ที่นี่นับจากนี้อย่างมีความสุข ส่วนเรื่องการตั้งครรภ์ขอให้เป็นไปตามลิขิตของสวรรค์ก็แล้วกัน
ฟางหรงเอ๋ย เจ้าก้าวข้ามประตูของจวนไป๋เข้ามาแล้ว อย่าหวังว่าจะได้ออกไปเลย!!