''เปล่า ไม่มีไรหรอกป๋า''
‘'เล่ามา'' ว่าเสียงเข้มเดินเข้ามาใกล้
‘'ไม่มี'' เลิกลั่ก
‘’จาเล่าลี ๆ หรือต้องเสียน้ำตา'' ไม่ว่าเปล่ามือหนายกขึ้นมาล็อกคอลูกชาย
“รู้ช่ายมั้ย อั้วสายดำเก่านะเว้ย”
‘'ป๋า อย่า ยอม ๆ คือ...เรื่องมันเป็นแบบนี้อะป๋า.....''
เขายอมเล่าทุกอย่างให้พ่อฟัง เดาไม่ถูกว่าพ่อคิดอะไรอยู่
''บ๊ะ ไอ้ลูกคงนี้ ปล่อยเวลาให้มังเลยมาขนาดนี้ได้ไงวะ แล้วนี่อีหนูเนยว่ายังไงบ้าง''
''ไม่ยังไง หลบหน้าหลบตาตลอด พยายามเจอหน้าแล้ว นี่ลูกป๋ายอมเสียการเสียงานไปแอบรอ ยังรู้ตัวหนีก่อนอีก เนยโกรธผมแน่เลยป๋า’' ประโยคหลังเสียงงอแง
''สมน้ำหน้า หึ!’' ทีงี้มาทำตัวน่าสงสาร
''เอ้าป๋าทำไมพูดงั้นอะ ผมเคลียดอยู่นะ เนยเป็นเพื่อนซี้ที่สุดในชีวิตผม ถ้าเรื่องนี้ทำให้เนยมองหน้าผมไม่ได้ ผมจะทำไงอะป๋า''
''ทำอะไรไม่คิดก็เป็นแบบนี้แหละ แล้วพ่อแม่ฝั่งนู้นอีรู้หรือยัง''
''เนยน่าจะยังไม่กล้าบอกอะ ป๋าผมจะทำไงดี” งอแงไม่พอยังชักดิ้นชักงอบนโซฟาให้เคืองลูกกะตาพ่อตัวเอง
‘'ถามอยู่ได้ ตอนเอากังไม่เห็นถามทำไงวะ” ว่าอย่างฉุน ๆ แต่พอสบตาลูกชายคนเดียวก็ใจอ่อนยวบ
“เออ ๆ ๆ เดี๋ยวช่วย อย่างน้อยอาหนูเนยป๋าก็ชอบ ยังงี้ป๋าก็ลบขี้ปากชาวบ้านได้ละ’'
''อะไรใครว่าไรป๋า ลูกไม่มีน้ำยาเหรอ''
เมื่อได้ยินว่าพ่อของเขาจะช่วยฌอร์นก็แหย่พ่อตัวเองอย่างติดตลก
''ยิ่งกว่าลื้อไม่มีน้ำยาอีก เขาลือกันว่าลื้อเปงเกย์เนี้ย อั้วละอยากจะถีบปากมัน อั้วมีลูกชายคงเดียวของตระกูลมาแช่งให้เปงเกย์ ซี้ซั้วจริงๆ''
เหี้ย! เวรเอ้ยถ้าป๋ารู้ ป๋าแดกหัวแน่ เขาคิดอย่างสยอง
''เอ่อ ป๋าก็ปล่อย ๆ ไปเน้อะ แหะๆ’'
ไม่ว่าเปล่าเข้าไปบีบนวดไหล่เอาใจ
‘'ซี้ซั่วจริง ๆ ไอ้พวกปากมาก ลื้อก็ไปเคลียกะอีให้เรียบร้อย เดะอั้วไปคุยกะพ่อแม่อีเอง''
ป๋าพูดพลางต่อสายถึงเตี่ยของเนยทันที โอ้โห จะไวไปไหน แล้วเขาจะคุยกับเนยยังไง แค่หน้ายังหลบยังไม่อยากเจอ หนีตลอด ไปง้อที่บ้านก็ไม่อยู่บ้าน เอาวะไม่ว่ายังไงก็จะต้องคุยกับเนยให้ได้ บูรณ์พิภพหยิบโทรศัพท์ส่งข้อความไปหาปิญชาน์ทันที
S: เนย
N: Read
S: มีเรื่องจะคุยด้วย
N: มีอะไร
S: ป๋ารู้เรื่องแล้วนะ
หญิงสาวเงียบไปจนเขาใจหายแต่สุดท้ายข้อความก็เด้งขึ้นมา
N: ไหนบอกว่าจะรู้กันสองคนไง
S: ออกมาคุยกัน ร้านเดิม
อ่านไม่ตอบอีกแล้ว ส่งข้อความไปหญิงสาวก็แค่อ่านไม่ตอบ ทำไมวะ ขัดใจจริง ๆ เพื่อนคนนี้
ชายหนุ่มนัดเพื่อนสาสไว้ที่ร้านกาแฟใกล้ ๆ บ้าน นั่งรอไม่นานคนที่นัดก็มา นึกว่าจะให้รอจนรากงอก ปิญชาน์เดินมานั่งตรงข้าม
‘’ทำไมไม่มานั่งข้างกู'' ไหนบอกไม่โกรธดูทำหน้าเข้า
''เรานั่งตรงนี้ดีกว่า''
มารงมาเรา หงุดหงิด ''บ้าป้ะเนี่ย''
''ฌอร์นมีอะไรจะพูดกับเราเหรอ''
‘'ทำไมหลบหน้า''
หญิงสาวถอนหายใจ ''เราไม่ว่างเราไม่ได้หลบหน้า''
‘'แต่เมื่อก่อนเนยไม่ว่างแค่ไหนเนยก็มาหาได้'' เขาว่าอย่างไม่ยอม
''นั้นมันเมื่อก่อน''
จุก คำเดียวที่พอจะสื่อออก พูดออกมาได้ไงวะ
''แต่ตอนนี้เราไม่เหมือนเมื่อก่อนเหรอ เราลดความสนิทกันแล้วเหรอเนย''
''เปล่านะฌอร์น''
''แล้วทำไมวะเนย ทำไมต้องหนีตลอด''
‘'เพราะเราไม่อยากให้ฌอร์นคิดว่าเราง่ายไง'' ปิญชาน์ตะคอกจนคนทั้งร้านมอง พอรู้ว่าตัวเองเสียมารยาทกระแอ้มไอแก้เก้อ
''กูไม่เคยคิดว่ามึงง่าย''
''แล้วไอ้การที่เรามีอะไรกันแล้วเราไม่รู้สึกเสียดายตื่นเช้ามาตลกได้ ฌอร์นคิดว่าผู้หญิงแบบนี้มีที่ไหน’'
ก็แบบมึงนี่ไง
แต่เขาจะไม่พูดออกไปเขาจะไม่ชักใบให้เรือเสีย
''แล้วเนยจะสนทำไมอะ เรารักกันไม่ใช่เหรอ''
หญิงสาวหลับตาสงบสติอารมณ์
''ฌอร์นรักของเรามันต่างกัน มันไม่เหมือนคนทั่วไป’'
มันไม่ได้ต่างอะไรหรอก เขาเลยว่าตัดรำคาญ "แต่งงานกับกูให้มันจบ ๆ อิซ้อ”
"ตีนกูนี่ ไอ้ห่าพูดมาได้เฮงซวย” เธอสวนทันควัน ไม่คุยหวานด้วยแล้ว
''เนยแต่งงานกับฌอร์นนะ'' เขาเปลี่ยนสรรพนามเผื่อเพื่อนเห็นใจ
''.....''
‘'นี่เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเนยเสียหาย ฌอร์นจะรับผิดชอบ''
‘'ไม่'' ตอบเสียงแข็ง
‘'ทำไม'' นี่ก็งอแง
‘'เราไม่อยากผูกมัดฌอร์น ''
''แต่เราอยาก เราเต็มใจ อีกอย่างพ่อแม่เราก็รู้แล้ว เราไม่ได้เป็นแฟนกัน ถ้ายังอยู่สถานะเดิม พ่อแม่เราจะคิดยังไงมันจะมองหน้ากันไม่ติดนะมึง’'
มาสิกูง้อขนาดนี้แล้วนะยกเหตุผลมาทั้งแม่น้ำแยงซีเกียงแล้วโว้ยย
กริ๊งง
เสียงโทรศัพท์ดังขัดการสนทนา
‘'แป๊บนะฌอร์น'' เนยว่าก่อนจะรับสาย ''ฮัลโหลเตี่ย''
(เนย อยู่ไหน!)
''อยู่ร้านกาแฟกับฌอร์น''
(กลับมาบ้านละน่าดูไอ้เด็กชิงสุกก่อนห่าม!)
ตู้ด
เตี่ยตัดสายไปแล้วแต่เนยยังนั่งอึ้งกับสิ่งที่กำลังจะเกิด
''เนย เป็นไร''
หญิงสาวมองหน้าฌอร์นตาแดงก่ำ
‘'ฌอร์น''
‘’หือ"
“เตี่ยตบกูดิ้นแน่เลย อิฌอร์น ทำไงดี ฮืออ’'
เนยเริ่มคร่ำครวญออกมาน้ำหูน้ำตาไหลพรากจนฌอร์นตามอารมณ์แทบไม่ทัน
‘'ใจเย็น ๆ นะ โอ๋ ๆ ไม่ร้อง ฮึบ หนึ่ง สอง อึ้บ''
เนยทำตามที่ฌอร์นบอกจนปรับอารมณ์ได้จึงถามเพื่อนเสียสั่น
''ฮึก ทะทำไงดี''
''กูจะบอกเตี่ยมึงเอง''
เอาวะ ป๋าช่วยแล้วตายเป็นตาย!