Episode 1 หวงอย่างกับไข่ในหิน
Korea
ฤดูหนาวที่ปกคลุมมายาวนานใกล้สิ้นสุดลงในปลายเดือนมีนาคม อุณหภูมิต่ำติดลบเกือบสิบองศา เหมาะแก่การทอดกายบนเตียงมากกว่าออกไปข้างนอกเป็นไหนๆ
Rrrrrrrr
Rrrrrrrr
สมาร์ทโฟนเครื่องหรูที่ถูกวางบนหัวเตียงดังต่อเนื่อง มันส่งเสียงรบกวนร่างบางที่นอนเปลือยกายไร้เครื่องนุ่งห่มจนต้องเอื้อมมือยกขึ้นมารับ
“ฮัลโหล” เสียงหวานของสาวน้อยอังเปาวัย 22 ปี กล่าวทักคนปลายสาย เธอเป็นน้องสาวคนเดียวของอังกูร ชายหนุ่มผู้ถูกขนานนามว่าเป็นดั่งมาเฟีย แม้เจ้าตัวจะไม่เคยประกาศตนว่าเป็นเช่นนั้น แต่พฤติกรรมที่มักจะไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายหรือเกรงใจมารยาททางสังคมก็ไม่ต่างกับมาเฟียเอาเสียเลย
“พรุ่งนี้ก็กลับแล้ว พี่ก็ขยันตามอังกลับจัง”
“……..”
“ไม่ต้องเป็นห่วง อังโตมากแล้วนะพี่อังกูร ดูแลตัวเองได้และดูแลตัวเองเป็นอย่างดี”
“…….”
“ค่าาาา รู้แล้วน่า บ่นจัง ตกลงเป็นพี่ชายหรือเป็นพ่อกันแน่”
เสียงหวานประชดเมื่อพี่ชายห่วงอย่างกับไข่ในหิน
“……”
“ถ้าพี่บ่นอีกคำ อังจะเลื่อนไฟล์บิน”
“…….”
“โอเคค่ะ ไว้เจอกันที่ไทย แค่นี้นะคะ”
หลังจากวางสายจากพี่ชาย เธอก็หันไปซุกบนแผงอกแฟนหนุ่มชื่อวาโยที่คบหาดูกันมานานกว่า 6 เดือนแต่ไม่ได้เปิดเผย ทั้งคู่แอบนัดกันมาพักผ่อนที่เกาหลี โดยอังเปาเป็นฝ่ายโกหกพี่ชายว่ามากับเพื่อนสาว จริงๆเธอก็มากับเพื่อนของเธอนั้นล่ะ แต่ทว่าเอามาเป็นข้ออ้างเพื่อที่จะได้มากับแฟนหนุ่มและใช้ชีวิตเรียนรู้ใจคอกันนานเกือบสองอาทิตย์
“ใครโทรมาเหรอครับ”
“พี่อังกูร” บอกแฟนหนุ่มเพื่อให้สบายใจ
วาโยเป็นผู้ชายสุภาพแต่เรื่องขี้หึงก็มาเป็นอันดับหนึ่ง ซ้ำแฟนสาวยังหน้าตาน่ารักราวกับสาวเกาหลี ก็คงอยากรู้เป็นธรรมดาว่าใครโทรมาทั้งเช้าทั้งเย็น
“พี่ชายอังก็หวงน้องสาวจริงๆ โทรหาทุกวันจนพี่คิดว่าเป็นหนุ่มๆโทรมาขายขนมจีบสะอีก”
“อังไม่ให้ใครมาจีบหรอก ทั้งตัวทั้งหัวใจอังยกให้พี่คนเดียว”
“พี่ก็รักอังคนเดียวเหมือนกันนะครับ”
“ถ้ากลับไทยแล้ว พาอังไปเจอแม่พี่ได้ไหม อังอยากให้ท่านรู้ว่าเราคบกันและอยากให้ท่านได้ไปคุยกับพี่อังกูร”
“ไหนบอกพี่ว่ายังไม่อยากให้พี่ชายรู้ว่าคบกับพี่อยู่ ทำไมวันนี้กลับเปลี่ยนใจล่ะครับ”
ขยับหัวทุยเล็กขึ้นหนุนหัวไหล่พลางใช้มือลูบผมเบาๆ
“ตอนแรกก็กลัว แต่ว่าอังยอมให้พี่ไปแล้วทั้งตัว ถ้าเกิดพี่อังกูรรู้เรื่องนี้ขึ้นมา อังกลัวพี่จะไม่ปลอดภัย เราให้ผู้ใหญ่ไปคุยกันดีกว่า พี่อังกูรน่าจะยังเกรงใจแม่พี่อยู่”
“อังแน่ใจใช่ไหม ว่าพี่ชายจะเข้าใจและใจเย็นกับเรื่องที่มันเกิดขึ้น”
อังเปาแหงนหน้ามองชายคนรัก ไม่ได้แน่ใจหรอกว่าพี่ชายจะแสดงอาการแบบไหน ถ้ารู้ความจริงว่าน้องสาวสุดหวงแหนพลีกายให้กับผู้ชายทั้งที่ยังไม่ได้แต่งงานกันจะเกิดอะไรขึ้น
“พี่อังกูรต้องเข้าใจสิ พี่เขาไม่ใจร้ายขนาดนั้นหรอก และต่อให้ไม่เข้าใจ อังก็จะไม่ปล่อยมือพี่ไปไหนเราจะพิสูจน์ไปด้วยกัน”
เป็นดั่งคำสัญญาว่าจะรักผู้ชายที่นอนบนเตียงเดียวกันมาทั้งคืน อังเปามีความสุขอย่างมากตลอดเวลาเกือบสองอาทิตย์ที่ได้อยู่กันตามลำพังประสาคู่รัก และหวังว่ากลับไทยคราวนี้คงจะต้องบอกพี่ชายให้ได้รับรู้ ว่าน้องสาวคนเดียวได้มอบหัวใจและร่างกายให้กับผู้ชายที่ชื่อวาโยไปแล้วเรียบร้อย
ประเทศไทย
บ้านหลังใหญ่มีพื้นที่กว้างมากกว่า 10 ไร่ มองดีๆก็ช่างราวกับคฤหาสน์ มรดกหลังเก่าตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น และปัจจุบันเจ้าหลังบ้านมูลค่าเกือบ 50 ล้านก็เป็นของอังกูร สหสิงค์วาณิชย์ ชายคนเดียวที่เหลือของตระกูล อีกทั้งตระกูลนี้ยังเป็นที่เลื่องลือว่าเป็นมาเฟียเก่า แม้รุ่นลูกรุ่นหลานจะพยายามออกจากคำครหานี้ก็ตาม
“นายครับ คุณอังไปกับไอ้วาโยจริงๆ”
เคนโด้ ลูกน้องคนสนิทเข้ารายงานเจ้านายหลังจากมีคำสั่งให้สืบว่าน้องสาวไปเกาหลีกับใคร
“แล้วเพื่อนที่ชื่อเอ๋ย”
ถามอย่างใจเย็นพลางดูดบุหรี่ยี่ห้อโปรดอัดควันเข้าปอดมวลแล้วมวลเล่า
“คุณเอ๋ยเดินทางไปพร้อมกับคุณอังก็จริง แต่หลังจากไปถึงสนามอินชอนก็แยกย้ายกันไป คุณเอ๋ยไปหาแฟนที่ปูซาน ส่วนคุณอังเดินทางเข้ากรุงโซลและเช็คอินที่โรงแรมยอกซัม หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงนายวาโยก็เดินทางไปถึงเกาหลีและเข้าพักโรงแรมด้วยกัน”
“มันคงกินน้องกูเรียบร้อยแล้วสินะ”
เป็นคำถามที่คนฟังต้องกลืนน้ำลายลงคอ แม้กระทั่งคนสนิทก็ยังขนหัวลุกเมื่ออังกูรเอ่ยออกมา
เคนโด้ได้แค่พยักหน้าตอบ อยู่ด้วยลำพังเป็นอาทิตย์ขนาดนั้นใครเล่าจะอดทนเป็นพระอิฐพระปูน
“มันไม่รู้จริงๆ เหรอว่าอังเปาเป็นน้องกู”
“น่าจะไม่ทราบครับ คงทราบแค่ว่าคุณอังมีพี่ชายชื่ออังกูร แต่ไม่รู้ว่าต้นตระกูลมีความเป็นมายังไง”
“กูหวงยิ่งกว่าไข่ในหิน กูถนอมของกูมาอย่างดี แต่แม่ง ไอ้จัญไร!! ไม่เข้าตามตรอกไม่ออกตามประตู แถมยังแอบไปกินน้องกูไกลถึงเกาหลี”
ของบนโต๊ะถูกปัดตกกระจัดกระจายด้วยความโมโห เหมือนโดนหยามหน้ากันชัดๆ