ที่อยู่ใหม่

1396 Words
แกร๊ง! เสียงประตูเหล็กบานใหญ่กระทบกันเมื่อถูกมือใหญ่ของใครบางคนเลื่อนออก ข้าวลือที่ว่าบ้านหลังนี้เจ้าที่แรง ผีเฮี้ยน ใครต่อใครที่มาเช่าบ้านหลังนี้มีอันต้องเจอดีจนย้ายหนีกันทุกรายนั้นถูกเล่าขานไปทั่วหมู่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้านเดียวกันหรือหมู่บ้านใกล้เคียงทุกคนต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกัน ในวันแต่งงานของพี่สาวเขาได้มีโอกาสมาที่นี่และได้เดินสำรวจหมู่บ้านจึงได้ยินกับหูตัวเองและก็ทำให้เขาเชื่อว่าบ้านหลังนี้ต้องมีอะไรแน่ ๆ นอกจากจะเป็นข่าวลือจากปากผู้คนแล้วเขาก็ยังหาข้อมูลตามอินเทอร์เน็ต มันทำให้เขารู้ว่าเรื่องเล่าในกระทู้ต่าง ๆ มากมายที่บอกชื่อหมู่บ้านและบอกใบ้บ้านเลขที่นั้นจะเป็นที่ไหนไม่ได้เลยถ้าไม่ใช่ที่นี่ แต่คนที่มองเห็นผีและมีสัมผัสพิเศษอย่างเขาไม่เคยกลัวเรื่องนี้ เขามาจากตระกูลหมอผีเก่าแก่ ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะเป็นอาชีพที่ผู้คนไม่นิยมแต่ตำราคาถาอาคมและของดีมากมายที่เก็บไว้ก็ได้ถูกส่งต่อมายังรุ่นสู่รุ่น และในตอนนี้เขาก็คือคนที่มีสมบัติเก่าแก่ของหมอผีในมือ “ถึงสักที” ชายหนุ่มพึมพำขณะเดินเข้าไปในตัวบ้าน ประตูบานใหญ่ที่ปิดเอาไว้ถูกเปิดออกช้า ๆ พร้อมกับสองขาแกร่งที่ก้าวเข้ามา วินาทีที่มือใหญ่แตะลูกบิดประตูชายหนุ่มก็สัมผัสได้ถึงบางอย่าง “มีจริง ๆ ด้วยสินะ” มุมปากหนายกยิ้ม “ก็ดีเหมือนกันจะได้ลองของสักที ฝึกฝนมาตั้งนานไม่เคยได้ใช้” ร่างใหญ่พึมพำขณะเปิดกระเป๋าใบโตออกเพื่อทำการจัดเก็บข้าวของให้เข้าที่เข้าทาง “แต่ตอนที่เรามางานแต่งคราวก่อนเหมือนจะแรงกว่านี้นะ ทำไมตอนนี้มันอ่อนลง” ใบหน้าคมคายกวาดสายตามองไปรอบห้องนอนก่อนจะหันกลับมาสนใจข้าวของในกระเป๋าต่อเมื่อพลังแปลก ๆ ที่เขาสัมผัสได้ตอนนี้มันอ่อนลงกว่าคราวก่อนมาก ไม้เป็นน้องชายของมัดหมี่ที่เช่าบ้านหลังนี้เอาไว้เมื่อหลายเดือนก่อน แต่ตอนนี้พี่สาวของไม้พาสามีกลับไปอยู่ต่างจังหวัดกับแม่เพราะแม่อยู่บ้านคนเดียว เนื่องจากไม้สอบติดมหา'ลัยที่นี่สองพี่น้องเลยต้องย้ายที่อยู่อาศัยกันชั่วคราว แต่กว่าไม้จะขอมาอยู่ที่นี่ได้มัดหมี่เองก็เคยแนะนำให้ไม้ไปอยู่หอพักหรือคอนโดฯ แทนโดยอ้างว่าจะสะดวกกว่า ทำให้ไม้นึกย้อนไปเมื่อคราวก่อนตอนพี่สาวกลับบ้านแล้วบอกว่ามีวิญญาณร้ายจะมาเอาไปอยู่ด้วย เนื่องจากว่าพี่สาวเป็นคนไม่เชื่อเรื่องผีมาแต่ไหนแต่ไร จู่ ๆ มาพูดแบบนั้นก็ยิ่งทำให้เขาดื้อดึงที่จะมาอยู่ที่นี่ให้ได้เพราะต้องการทำอะไรบางอย่าง “จะเอาชีวิตเจ้หมี่ของไอ้ไม้เหรอ มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก” ร่างใหญ่พึมพำขณะเดินสำรวจรอบบ้านหลังจากเก็บข้าวของเข้าที่เข้าทางเรียบร้อยแล้ว จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ เสียงนกที่จับกลุ่มกันเกาะบนสายไฟสีดำเส้นใหญ่กลางอากาศร้องระงมเมื่อดวงอาทิตย์กำลังจะลาลับขอบฟ้า แสงสีทองปนส้มเริ่มกระจายไปทั่วฝืนฟ้ามองแล้วก็ทำให้คิดถึงบ้าน คิดถึงบรรยากาศเก่า ๆ ที่เพิ่งจากมา “ถ้าอยู่บ้านคงได้เห็นพระอาทิตย์ตกดิน เห็นวิวสวย ๆ” ร่างใหญ่ยืนกอดอกพึมพำพลางมองขึ้นไปยังต้นไม้ใหญ่ที่ยืนต้นอยู่ข้างรั้วบ้าน “กิ่งมันโผล่ไปบ้านหลังข้าง ๆ หรือเปล่าวะนั่น พรุ่งนี้ต้องปีนขึ้นไปตัดสักหน่อย” ฟิ้วว 〜 สายลมอ่อน ๆ ยามเย็นพัดผ่านไปมาพาให้ไรขนอ่อนตามท่อนแขนแกร่งนั้นลุกชัน มือใหญ่ลูบท่อนแขนไปมาเบา ๆ ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในบ้านเมื่ออากาศยามพลบค่ำนั้นเริ่มเย็นแล้ว ทว่าสายตาของชายหนุ่มกลับปะทะเข้ากับอะไรบางอย่างบนหลังคา “หือ?” คิ้วเข้มสองข้างขมวดเข้าหากันเป็นปมเมื่อเงามืดสีดำเลือนลางลักษณะคล้ายคนนั่งอยู่บนหลังคาบ้าน มองจากตรงจุดที่ตนยืนอยู่ก็พอจะเดาออกว่าเป็นอะไร “เป็นผู้หญิงสินะ…” ริมฝีปากหนาพึมพำเบา ๆ ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในตัวบ้าน ตอนนี้เขารู้แล้วว่าวิญญาณร้ายในบ้านหลังนี้เป็นวิญญาณผู้หญิง ซ่า! สายน้ำอุ่น ๆ ไหลรดลงจากฝักบัวเพดานกระทบผิวกายของชายหนุ่มจนเปียกชุ่ม ร่างใหญ่เปลือยเปล่ายืนลูบไล้ท่อนแขนแกร่งที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดนูนก่อนจะเคลื่อนมาลูบไล้แผงอกกำยำที่บ่งบอกว่าเขาออกกำลังกายมาอย่างหนัก ทุกการกระทำในห้องน้ำมีสายตาคู่หนึ่งคอยจับจ้องอยู่โดยคนถูกมองนั้นตั้งใจให้เป็นแบบนี้อยู่แล้ว “ท่าทางต้องอาบน้ำนานหน่อยนะวันนี้” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพลางหันหน้าเข้าหาบานประตูห้องน้ำที่ปิดสนิทอยู่ ใบหน้าคมคายนิ่งเฉยไม่เผยอาการใด ๆ ออกมา ทว่าดวงวิญญาณสาวที่แอบตามเข้ามาในห้องน้ำตั้งแต่แรกกลับสงสัยว่าร่างสูงเบื้องหน้านั้นคุยกับตนหรือคุยคนเดียวกันแน่ ‘ทำไมเดินทะลุออกไปไม่ได้ล่ะ’ สาวเจ้าพยายามเดินทะลุประตูห้องน้ำออกไปแต่ก็ไม่ได้สักที ดวงตาคู่สวยเหลือบมองอาวุธร้ายกลางหว่างขาแกร่งที่ผงาดขึ้นก่อนจะหลับตาปี๋แล้วหันหลังให้ตามเดิม มือเรียวก็พยายามดันประตูออกเผื่อว่าวิญญาณของเธอจะทะลุออกไปได้ แต่ก็เป็นเช่นเดียวกับทุกครั้ง ‘ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ ทำไมเดินออกไปไม่ได้’ เสียงหวานพึมพำด้วยท่าทีร้อนใจโดยไม่รู้ตัวเลยว่าชายหนุ่มในห้องน้ำนั้นมองเห็นตนและได้ยินสิ่งที่ตนพูด “…หึ” แม้ชายหนุ่มจะมองเห็นเป็นเพียงเงาดำมืดมัวแต่ก็พอจะดูออกว่าวิญญาณร้ายตรงหน้านั้นพยายามหาทางออกจากห้องน้ำนี้ เขารู้อยู่แล้วว่าเธอแอบตามเขาเข้ามาในห้องอย่างเงียบ ๆ จึงตั้งใจลองวิชากักขังดวงวิญญาณและมันก็ได้ผล ยิ่งได้ยินเสียงพูดของเธอเขาก็ยิ่งมั่นใจว่าเธอคงจะเป็นวิญญาณสาวไม่ใช่วิญญาณหญิงชราอย่างที่เคยคิดเอาไว้ตั้งแต่แรก พรึ่บ! ‘อ๊ะ!’ เจ้าของเงาดำถึงกับสะดุ้งโหยงเหมือนท่อนแขนแกร่งข้างหนึ่งค้ำยันประตูห้องน้ำที่เธอยืนพิงอยู่เอาไว้ พอจะถอยหนีไปอีกทางก็คล้ายกับว่าร่างใหญ่พยายามขังเธอไว้กลางหว่างแขน แต่จะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อเขามองไม่เห็นเธอ… วินาทีนั้นเองที่ดวงวิญญาณสาวได้จ้องมองใบหน้าหล่อเหลานี้ชัด ๆ กรอบหน้าดั่งฟ้าประทานเต็มไปด้วยหยาดน้ำที่ไหลลงมาจากกลุ่มเส้นผมสีดำเปียกชื้น พลันนั้นหัวใจดวงน้อยของดวงวิญญาณสาวผู้ซึ่งไม่เคยมีความรักก็เต้นรัว “อ๊ะ ซี๊ดด” ทว่าหลงไหลกับความหล่อเหลาได้ไม่ทันไร คิ้วเรียวสองข้างก็ต้องขมวดเข้าหากันเป็นปมเมื่อใบหน้าคมคายของคนตรงหน้านั้นบิดเบี้ยวจนสาวเจ้านึกสงสัย ‘กรี๊ดด! อุบ!’ มือเรียวปิดปากตัวเองไว้แน่นพลางหลับตาปี๋ด้วยความตกใจ หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อภาพที่เห็นคือมือใหญ่ข้างหนึ่งของคนตรงหน้ากำลังชักรูดอาวุธร้ายกลางหว่างขาด้วยความเร็วระรัว เขากำลังช่วยตัวเอง ดวงวิญญาณสาวนึกในใจ “อ๊าสส” เสียงคำรามของชายหนุ่มดังขึ้นพร้อมกับเสียงหายใจเหนื่อยหอบเมื่อหยาดน้ำหวานพวยพุ่งออกมาจากปลายกระบอกอาวุธร้าย วินาทีนั้นเองที่มุมปากหนายกยิ้มกับผลงานของตัวเองเพราะเขาตั้งใจจะทำแบบนี้ให้วิญญาณร้ายได้เห็นอยู่แล้ว “หึ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD