ตอนที่1 หาเมียอีกคน
แพทองธาร
“นี่ก็แต่งกันมาเป็นปีแล้ว เมื่อไหร่จะมีหลานสักทีล่ะ” พ่อสามีฉันพูดขึ้นระหว่างนั่งกินข้าวเย็นกันพร้อมหน้าพร้อมตาในครอบครัว
“เอ่อ...” ฉันอึกอักขึ้นทันทีหลังจากไม่รู้จะตอบคำถามนี้ยังไง เพราะมันเป็นคำถามที่ฉันไร้ซึ่งคำตอบมาตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา
“เราพยายามกันอยู่ครับ” เป็นคุณจิณณวัตร หรือคุณจิณ สามีตามนิตินัยและพฤตินัยของฉันตอบกลับแทนอย่างทุกครั้ง
“พยายามอะไรกัน ย่าเห็นเราพูดกันแบบนี้มานานแล้วนะจิณ” คุณท่านเพ็ญพักษ์ศร หรือคุณย่าของสามีฉันเสริมขึ้นอีกคน
“ก็เขายังไม่มานี่ครับ” คุณจิณตอบกลับออกไปเหมือนทุกรอบอย่างไม่รู้จะหาคำตอบไหนมาตอบได้ดีกว่านี้ เพราะเหตุผลของการแต่งงานจริงๆก็คือการมีลูกชายที่จะมาสืบสกุลต่อจากผู้เป็นสามีฉันนั่นเอง
“แต่ปีนี้เรายี่สิบเก้าแล้วนะ ไม่ถึงปีเราก็จะสามสิบแล้วแต่ยังไม่มีคนแรกสักที แบบนี้จะให้ย่าสบายใจได้ยังไง” คุณย่าพูดขึ้นอีกครั้ง
“ผมทราบครับ แล้วผมจะรีบทำให้เขาเกิดให้เร็วที่สุด” คุณจิณตอบกลับไปอย่างไม่อยากเรื่องมาก
“พรุ่งนี้พากันไปตรวจร่างกายอีกรอบซะ แล้วถามหมอให้รู้เรื่องว่ามีวิธีไหนที่จะทำให้มีลูกได้เร็วๆ” แล้วคุณพ่อก็พูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะลงมือกินข้าวต่อ
คุณจิณหันมามองหน้าฉันโดยที่ฉันก็มองเขากลับไปก่อนจะก้มหน้าอย่างรู้สึกผิดเหมือนทุกครั้ง เพราะฉันเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมฉันถึงยังไม่ท้องสักที ทั้งที่ตั้งแต่แต่งงานกันมา ฉันกับเขาก็ไม่เคยขาดเรื่องอย่างว่าเลยสักครั้ง จนตอนนี้พวกท่านเริ่มจะตำหนิฉันกับคุณจิณแล้ว เพียงแต่คนที่เป็นเพียงสะใภ้อย่างฉัน จะกล้ามีปากมีเสียงได้ยังไง ขนาดคุณจิณเป็นลูกเป็นหลานแท้ๆยังพูดอะไรแทบไม่ได้เลย
ฉันแพ หรือแพทองธาร ตอนนี้ฉันอายุ 24 ปี ฉันเป็นคนธรรมดาๆทั่วไป ไม่ได้มีพิษภัยต่อใคร แต่ก็ไม่ได้ยอมคนจนปล่อยให้ใครรังแกได้ สถานะฉันตอนนี้คือ แต่งงานแล้ว เรียกได้ว่าเรียนจบก็แต่งงานทันทีอย่างปฏิเสธไม่ได้ เพราะมันเป็นเรื่องของหน้าที่และบุญคุณ
ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องตลกใช่ไหมที่มันไม่มีความรักเข้ามาเกี่ยวข้องเลย แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะในหน้าที่ครั้งนี้ มันยังมีความรักของฉันอยู่ด้วยนั่นเอง เพียงแต่ความรักจากสามีของฉัน เขาคงไม่มี
“หรือว่าย่าจะหาเมียให้เราอีกคน” แล้วอยู่ๆคุณย่าก็พูดขึ้น
เคร้ง! เสียงช้อนตกกระทบจานอย่างดัง
“ขอโทษค่ะ” ฉันรีบก้มหัวขอโทษทุกคนขึ้นทันที แต่จะให้ฉันทำยังไง ฉันยอมรับว่าตกใจกับสิ่งที่คุณย่าพูดเมื่อกี้มาก
“เธอจะไม่พอใจย่าไม่ได้หรอกนะ ในเมื่อเธอเองก็ไม่ยอมท้องสักที ตอนนี้ย่าก็อายุไม่ใช่น้อยๆแล้ว ย่าไม่รู้จะอยู่ทันเห็นหน้าเหลนหรือเปล่า” แล้วคุณย่าก็พูดขึ้นเหมือนเข้าใจความรู้สึกของฉัน แต่ท่านคงลืมคิดไปว่ามันแค่เหมือน
“หนูทราบค่ะ” ฉันตอบกลับอย่างเข้าใจ ทั้งที่ในใจแล้วไม่ได้เข้าใจอะไรสักนิด มันคงไม่มีใครทำใจได้กับการที่ต้องมารับรู้ว่าสามีเรากำลังจะมีเมียอีกคน เพียงแต่ฉันไม่ได้อยู่ในสิทธิ์ที่จะเรียกร้องอะไรได้
“แต่มันไม่ง่ายเลยนะคะ จะมีใครยอมกันเพราะตาจิณก็แต่งงานแล้ว” ครั้งนี้เป็นคุณแม่สามีพูดขึ้น ฉันคิดว่าคงมีท่านคนเดียวที่เข้าใจความรู้สึกของฉันมากที่สุด เพราะท่านก็อยู่ในฐานะสะใภ้มาก่อน
หลายๆคนคิดว่าการได้เป็นสะใภ้ตระกูลใหญ่โตเก่าแก่จะมีแต่ความสุขสบายในทุกๆด้าน แต่ฉันบอกไว้ตรงนี้เลยว่ามันสบายแค่กายเท่านั้นแหละ แต่ความรู้สึกในใจพวกคุณอาจจะติดลบก็ได้ เพราะไม่ว่าจะทำอะไร ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่ที่ความเห็นสมควรของผู้ใหญ่ ว่าจะเห็นชอบหรือไม่
“แม่มีก็แล้วกัน”