13 ผู้หญิงคนนี้กูยกให้
“คุณจางเหลียงครับ ผมมีของมาฝาก” อิคารัสผลักร่างของบัวบูชาลงบนพื้น แล้วออกคำสั่ง “คลานไปหาแขกของฉันสิ”
บัวบูชาเงยหน้าขึ้นสบตากับเขาทั้งน้ำตาทั้งๆที่พยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้แล้ว แต่ความกลัวทำให้เธอสั่นสะท้านไปทั้งร่าง น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าหล่นลงบนพื้นพรม ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามองแขกคนสำคัญว่าเป็นใคร
“นิ่งอยู่ได้ คลานเข้าไปสิ!” เขาก้มหน้าลงมากระซิบด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก “ถ้ายังไม่ไป คืนนี้เตรียมตัวรับแขกที่ซ่องได้เลย”
บัวบูชากัดฟันกร๊อดใหญ่ พยายามข่มเสียงสะอึกสะอื้นเอาไว้ หยาดน้ำตาที่ไหลออกมาในตอนนี้ไม่ใช่เพราะความกลัวอย่างเดียว แต่เป็นเพราะเธอรู้สึกเกลียดปีศาจร้ายตนนี้จนเข้าไส้ต่างหาก
หญิงสาวยอมคลานเข้าไปหาแขกคนสำคัญเพียงเพราะว่าไม่อยากไปขายตัวที่ซ่อง ตอนนี้ศักดิ์ศรีของเธอป่นปี้ไปหมดแล้ว ยิ่งคลานเข้าไปใกล้เท่าไหร่ก็เหมือนได้กลิ่นอายของความโหดร้ายชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งปลายเท้าของชายคนนั้นอยู่ตรงหน้าเขาถึงสั่งให้เธอหยุด
“ถูกใจไหมครับคุณจางเหลียง”
ชายคนดังกล่าวทิ้งบุหรี่ลงตรงหน้าบัวบูชาแล้วยกเท้าบดขยี้ ก่อนจะใช้มือช้อนคางของเธอขึ้นเพื่อสำรวจใบหน้า ทำให้รู้ว่าเขาเป็นมาเฟียจากแดนมังกรอายุราวๆห้าสิบนิดๆ
มุมปากหยักแสยะยิ้มแล้วแลบลิ้นเลียริมฝีปากทำให้บัวบูชากลั้นลมหายใจด้วยความหวาดกลัว
“เด็กนายหรอ”
“เปล่าหรอกครับ ก็แค่น้องสาวไอ้คนทรยศ ผมกินแค่ไม่กี่ครั้งเดี๋ยวก็อิ่มแล้ว เผื่อว่าคุณจางเหลียงอยากกินด้วย” อิคารัสปรายตามองหญิงสาวร่างเล็กที่นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นโดยที่จางเหลียงกำลังสำรวจใบหน้าของเธอ
“ถือว่าเป็นคนใจกว้างมากที่กล้ายกผู้หญิงของตัวเองให้คนอื่น แต่ว่าฉัน….ไม่ชอบผู้หญิงเอเชีย” มือหยาบสะบัดใบหน้างามทิ้ง ก่อนจะค้าบุหรี่ขึ้นมาสูบอย่างสบายใจ “เอากลับไป”
อิคารัสเดินเข้ามาดึงร่างของบัวบูชากลับไปก่อนจะเค้นหัวเราะออกมาเบาๆ
“ผมก็นึกว่าคุณจางเหลียงจะชอบซะอีก”
“ฉันแก่แล้ว คงไม่มีเรี่ยวแรงเหมือนคนหนุ่มหรอก” จางเหลียงพ่นควันบุหรี่ออกมาขาวคลุ้งทั้งห้อง บัวบูชาที่แพ้กลิ่นบุหรี่ทำได้เพียงกลั้นลมหายใจ แต่สุดท้ายก็สูดมันเข้าไปอยู่ดี
“น่าเสียดายนะครับ นานๆทีจะมีผู้หญิงเอเชียหลงเข้ามา แต่ถ้าคุณจางเหลียงไม่ชอบก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมจะเรียกโจนาธานมาเอาต่อ”
หัวใจของบัวบูชากระตุกวูบเหมือนโดนตบหัวแล้วลูบหลัง คิดว่ารอดพ้นจากเงื้อมือของมาเฟียแก่แล้ว แต่สุดท้ายเขาก็ยกเธอให้คนอื่นอยู่ดี เหมือนเธอเป็นเล่นที่จะโยนไปให้ใครก็ได้
“ฮึก…” คนตัวเล็กกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้ด้วยความอดสู เงยหน้ามองอิคารัสด้วยความเจ็บปวด ครู่หนึ่งเข้าหันหน้ามาสบตากับเธอ สายตาของเขาเย็นชาเกินกว่าจะเห็นใจใคร ไร้ความปราณี ไร้ความสงสาร เธอทำได้เพียงกำหมัดแน่นด้วยความโกรธแค้นใจ
“จะเอาไปทำอะไรก็เชิญ” จางเหลียงออกปากไล่เหมือนรู้สึกไม่พอใจที่มีบัวบูชาอยู่ในห้องนี้ เพราะการคุยเรื่องธุรกิจลับไม่ควรมีบุคคลที่สามนั่งฟังด้วย
“ครับ เดี๋ยวผมจะให้โจนาธานมาเอาเธอออกไปเอง” เหมือนอิคารัสจะรู้ว่าจางเหลียงไม่ค่อยถูกชะตากับผู้หญิงคนนี้เท่าไหร่ จึงเรียกลูกน้องคนสนิทที่ยืนเฝ้าหน้าประตูเข้ามานำตัวของบัวบูชาออกไป “เอาผู้หญิงคนนี้ออกไป”
เขาสั่งโจนาธานที่เพิ่งเดินเข้ามา
“ครับ” โจนาธานรับคำแล้วกำลังจะก้มดึงร่างของบัวบูชาขึ้นมา เขารู้สึกสะเทือนใจทุกครั้งที่เข้ามาแล้วพบว่าเจ้านายกำลังทำร้ายผู้หญิง แต่สักพักเขาก็ต้องชะงักกับประโยคถัดมา
“ผู้หญิงคนนี้กูยกให้มึง”
“นะ…นายว่าอะไรนะครับ”
“กูยกให้ จะเอาไปทำอะไรก็เชิญ” เขายักไหล่อย่างไม่สะทกสะท้านแต่อย่างได้ แถมยังยื่นกุญแจห้องให้โจนาธานอีก "กุญแจห้อง เอาเสร็จแล้วบอกป้าลูซี่ไปทำความสะอาดด้วย”
โจนาธานแทบอยากยกมือกุมขมับกับความโหดร้ายของเจ้านาย แล้วแบบนี้ผู้หญิงเขาจะรู้สึกยังไงที่โดนโยนไปโยนมาเหมือนของเล่น เขาเอื้อมมือไปรับกุญแจเพราะอยากพาเธอออกไปจากตรงนี้
“ไปกับฉันเถอะ” โจนาธานย่อเข่าลงกระซิบคนตัวเล็กที่กำลังร้องไห้สะอึกสะอื้นปานใจจะขาดลงตรงนั้น "ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำอะไร”
บัวบูชายกมือปาดน้ำตาออกจากใบหน้า ค่อยๆดันร่างลุกขึ้นโดยมีโจนาธานเป็นคนประคองร่างเอาไว้ การกระทำของทั้งสองคงหนีไม่พ้นสายตาคมของปีศาจร้ายที่ยืนมองดูอยู่ด้วยสีหน้านิ่งเรียบ
โจนาธานพาบัวบูชามาที่ห้องรับรองแขก ตอนนี้เขารู้สึกสงสารหญิงสาวจับใจ ไม่สบายอยู่แท้ๆเจ้านายก็ไม่น่าทำแบบนี้กับเธอเลย แล้วเมื่อไหร่จะหายป่วยสักที
“นอนพักเถอะ” เขาสั่งหญิงสาวแล้วขยับร่างออกห่างเพราะกลัวว่าเธอจะรู้สึกหวาดระแวงจนไม่กล้านอน “ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก สบายใจได้เลย”
“ขอบคุณที่ช่วยฉันนะคะ” บัวบูชายกมือไหว้ขอบคุณ ทำให้โจนาธานเห็นรอยช้ำที่อยู่บนแผ่นหลังของเธอ ซึ่งมันก็คงไม่ใช่ฝีมือของใครนอกจากเจ้านาย
“หลังของเธอ….” ชายหนุ่มถึงกับพูดไม่ออก ทุกอย่างมันจุกอยู่ในอกที่ต้องมาเห็นผู้หญิงตัวเล็กๆโดนทำร้ายขนาดนี้
“เขาเป็นคนทำ ฮึก!”
“ฉันไม่น่าหาตัวเธอเจอตั้งแต่แรกเลย ไม่งั้นเธอก็คงไม่เป็นแบบนี้”
“คะ…คุณหมายความว่ายังไง”
“ฉันตามล่าตัวทัชกรแต่ดันไปเจอน้องสาวของมัน ถ้าฉันไม่ได้บอกคุณอิคารัสตั้งแต่แรกว่ามันมีน้องสาว เธอก็คงไม่ต้องตกอยู่ในสภาพนี้ ฉันขอโทษนะ” โจนาธานกล่าวขอโทษด้วยความรู้สึกผิดอัดแน่นเต็มหัวใจ ตอนแรกเขาคิดว่าคงสนุกที่ได้จับน้องสาวของทัชกรมาเป็นตัวประกัน แต่ตอนนี้รู้แล้วว่ามันไม่ได้สนุกอย่างที่คิดเพราะอิคารัสทำเกินกว่าเหตุ
“เขาจะหาตัวพี่ชายฉันเจอไหมคะ” บัวบูชาที่เป็นห่วงพี่ชายสุดหัวใจ เอยถาม
“ไม่รู้สิ แต่ฉันคิดว่าสักวันคงต้องเจอ พี่ชายของเธอหนีไปได้ไม่นานหรอก”
“ละ…แล้วเขาจะฆ่าพี่ทัชจริงๆใช่ไหมคะ”
“…” โจนาธานกลืนน้ำลายลงคอเอื้อกใหญ่ ลำบากใจที่จะตอบเพราะอิคารัสวางแผนไว้หมดแล้วว่าจะให้ใครฆ่า “คุณอิคารัสทำได้ทุกอย่าง”
“ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ฮึก! ช่วยฆ่าฉันพร้อมพี่ชายได้ไหมคะ ฉันไม่อยากมีชีวิตอยู่บนโลกนี้แล้ว ฮื้อๆๆ”
“อย่าร้องไห้เลยนะ ฉันเองก็ไม่ได้อยากให้เธอตายเหมือนกัน แต่ว่า…คุณอิคารัสคงไม่ปล่อยไว้หรอก”
“เป็นแบบนั้นก็ดี ฉันจะได้ตายๆไปซะที ไม่ต้องอยู่ให้ทรมานใจแบบนี้หรอก”
“แต่คุณอิคารัสบอกว่า…จะให้เธอเป็นคนฆ่าพี่ชาย”
“ว่าไงนะ!”
“เขาจะให้เธอเป็นคนฆ่าไอ้ทัชกร แล้วหลังจากนั้นเขาจะเป็นคนฆ่าเธอเอง”
“ไม่นะ! ไม่…ฉันไม่มีวันทำแบบนั้นแน่นอน ฮื้อๆๆ” บัวบูชาร่ำไห้สะอึกสะอื้นอย่างหนัก
“ฉันว่าเธอคงทนไม่ได้ถ้าต้องเห็นพี่ชายของตัวเองทรมาน สุดท้ายทัชกรก็ต้องขอร้องให้เธอฆ่าอยู่ดี” โจนาธานเบือนหน้าหนีเพราะไม่อยากเห็นน้ำตาของอีกฝ่าย ตอนนี้เขากลับไม่อยากตามล่าตัวทัชกรแล้ว
“ฉันไม่ทำเด็ดขาด ฉันจะไม่มีวันฆ่าพี่ทัช ถ้าต้องทำแบบนั้นจริงๆ ฉันขอตายดีกว่า ฮื้อๆๆ”
โจนาธานเดินเข้าไปหาร่างเล็ก ใช้มือแตะไหล่มนที่กำลังสั่นสะท้านขึ้นลง เขาเห็นใจเธอ แต่ทว่าชีวิตทั้งหมดถูกกำหนดด้วยอิคารัส จะบีบก็ตาย...จะคลายก็รอด
ปึ้ง!!
“สรุปมึงไม่เอาใช่ไหม!”
เสียงประตูถูกผลักเข้ามาอย่างแรง ตามด้วยร่างของอิคารัสที่กำลังเดินฉับๆเข้ามาอย่างหัวเสียเมื่อเห็นลูกน้องคนสนิทกำลังนั่งคุยกับหญิงสาว
-----------