บทที่ 5

1984 Words
พ่ายรักสามีเก่า บทที่ 5 แพที่พวกเขาจองไว้จอดรออยู่แล้ว แค่บอก number ของแพนั้นก็สามารถขึ้นไปรอบนแพได้ก่อนเลย "ตื่นเต้นจังเลยค่ะ" นิวเยียร์เป็นอีกคนที่ไม่เคยมาเที่ยวล่องแพ น้ำมนต์ยิ่งแล้วไปใหญ่เธอเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบมวลน้ำมากๆ ถ้าเป็นสระว่ายน้ำพอไหวแต่นี่เป็นเขื่อนเลย "ขึ้นมาสิน้ำ" "มันปลอดภัยแน่นะ" ชีวิตเธอมีค่ากับใครบางคนที่รออยู่ต่างประเทศมาก ถึงไม่อยากทำอะไรที่มันเสี่ยงๆ "ปลอดภัยสิ คุณนาคคะรับเพื่อนฉันหน่อยสิ" นาคราชให้เกียรติภรรยามากถึงแม้จะเป็นเพื่อนของเธอเขาก็ไม่อยากถูกเนื้อต้องตัว เลยรับแค่นิวเยียร์ข้ามมาขึ้นแพ "ไม่เป็นไรค่ะเพื่อนฉันเอง" เธอรู้ว่าทำไมเขาถึงไม่ได้ยื่นมือไปรับเพื่อนของเธอด้วย แต่สถานการณ์แบบนี้มันไม่ได้เกี่ยวกับการฉวยโอกาสอะไรเลย "ไม่เป็นไรเดี๋ยวฉันข้ามไปเองก็ได้ ขอทำใจนิดหนึ่ง" ตอนที่น้ำมนต์กำลังทำใจจะก้าวข้ามขึ้นแพ รถของเพื่อนที่นัดเจอกันที่นี่ก็มาจอดลานจอดรถสำหรับลูกค้า น้ำมนต์เลยยืนรอคนที่เหลือรอขึ้นไปพร้อมกันดีกว่า "นั่นไงกำลังขึ้นแพกันเลย" ธันวามองไปก็เห็นกำลังขึ้นแพกัน "เดี๋ยวช่วยยกครับ" สุดสาครหยิบเอากระเป๋าของเอวาแล้วก็เดินตามกันมาจุดขึ้นแพ ตรงลานจอดรถมืดเลยมองไม่ค่อยเห็นว่าเป็นใคร แต่พอคนกลุ่มนั้นเดินเข้ามาใกล้น้ำมนต์ถึงกับหน้าเปลี่ยนสี เธอไม่แปลกใจหรอกที่เห็นเขามาเพราะพวกเขาเป็นเพื่อนก๊วนเดียวกันอยู่แล้ว แต่ที่แปลกใจคือมีผู้หญิงอีกคนเดินมาข้างๆ กายเขาด้วย "สวัสดีครับคุณน้ำมนต์" ธันวาเดินมาก็เห็นเธอยืนอยู่ตรงท่าขึ้นแพ "สวัสดีค่ะ?" ทำไมผู้ชายคนนี้รู้จักชื่อเรา แต่เขาก็หน้าคุ้นๆ อยู่นะ "ผมธันวาเราเจอกันที่งานแต่งของคุณต้องตาไงครับ" "อ๋อจำได้แล้วค่ะ" "น้อยใจจัง" "คะ" จะมาน้อยใจอะไรเธอล่ะ ไม่ได้รู้จักมักจี่กันสักหน่อย "ก็น้อยใจที่คุณจำผมไม่ได้ในทันทีไงครับ" "วันนั้นคนเยอะค่ะไม่รู้ใครเป็นใครบ้าง" "เราขึ้นแพลำนี้ใช่ไหมคะปลัด" เอวาเห็นว่าคุณปลัดเอาแต่มองสองคนนั้นคุยกันเลยเรียกสติหน่อย "ครับผมว่าคุณเอวาขึ้นแพก่อนดีกว่า ถ้าจะยืนคุยกันกรุณาหลบด้วย" ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าประโยคหลังเขาว่าให้ใคร น้ำมนต์เลยต้องหลบทางปล่อยให้เขาพาผู้หญิงอีกคนขึ้นแพไปก่อน "อุ๊ย" ตอนที่เอวาก้าวเกือบพลาดตกน้ำเพราะคนที่ส่งเธอขึ้นแพเหมือนจะใจลอย "ไม่เป็นไรครับผมจับอยู่" สุดสาครต้องช่วยดันช่วงลำตัวของเอวาให้ข้ามผ่านไป "คุณปลัดข้ามมาสิคะเดี๋ยวเอวาช่วยค่ะ" "ไม่เป็นไรครับคุณรับกระเป๋าก็พอแล้ว" สุดสาครยื่นกระเป๋าที่เขาถือมาทั้งสองใบให้กับเอวาทีละใบ พอรับกระเป๋าแล้วเอวาก็ยื่นมือไปจะรับสุดสาครข้ามมาบ้าง "ยืนบื้อทำอะไรอยู่ทำไมมึงไม่ข้าม" แต่สุดสาครหันไปว่าให้ธันวาที่ยังคงยืนอยู่ไม่ข้ามไปขึ้นแพสักที "มึงก็ข้ามไปก่อนสิแฟนมึงไปโน่นแล้ว" "?" ตอนที่ธันวาบอกว่าเอวาเป็นแฟนดวงตาของสุดสาครมองดูผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆ เพื่อนโดยอัตโนมัติ แต่เขาก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าไม่ใช่แฟนกัน "กูบอกให้ข้ามไปไง" "อะไรของมึงวะเดี๋ยวกูจะพาคุณน้ำมนต์ข้ามมึงก็หลบทางไปสิ" "มึงนั่นแหละข้าม" ว่าแล้วสุดสาครก็ผลักธันวาให้ข้ามแพไปก่อน "ไอ้บ้ากูเกือบตกน้ำ" ขึ้นแพมาได้ธันวาก็ยื่นมือไปจะรับน้ำมนต์ให้ตามขึ้นมา แต่คนที่จับมือของธันวาคือสุดสาครแล้วก็เบียดธันวาให้เข้าไปด้านในก่อน "ขึ้นมาสิ" ขึ้นแพได้สุดสาครก็ยื่นมือจะไปรับน้ำมนต์ แต่เธอยังกลัวเพราะเห็นสองคนแล้วที่เกือบตกตรงร่องกลางระหว่างทุ่นลอยน้ำและแพ "ขึ้นมาสิน้ำไม่ตกหรอก" เสียงนิวเยียร์บอกเพื่อนให้ก้าวข้ามขึ้นมา และนิวเยียร์ก็บอกคนที่อยู่บนแพว่าน้ำมนต์กลัวน้ำเลยไม่กล้าก้าวข้าม เอวาที่ยืนอยู่ใกล้ๆ นิวเยียร์ได้ยินเลยหันไปมองผู้หญิงคนนั้นหรือที่ชื่อน้ำมนต์ กลัวจริงหรือแกล้งเนี่ย ทำเป็นเรียกร้องความสนใจ "เดี๋ยวผมช่วยอีกคนครับ" พอรู้ว่าน้ำมนต์กลัวน้ำธันวาเลยกระโดดข้ามกลับมาใหม่ เธอจะได้สบายใจว่าด้านหลังยังมีคนรอรับอยู่ ฝั่งที่เป็นแพก็มีสุดสาครยื่นมือไปรอรับเธออยู่ แต่น้ำมนต์เลือกที่จะหันกลับไปจับมือของธันวาเพื่อให้เขาพาเธอข้ามไป เห็นว่าเธอกลัวมากธันวาเลยกล่าวขอโทษก่อนจะโอบเอวเธอใช้แรงมืออีกข้างยกตัวเพื่อพาร่างของเธอข้ามขึ้นแพ "ขอบคุณมากนะคะ" ก็รู้อยู่หรอกว่าตัวเองเป็นคนกลัวน้ำ แต่พอมาเจอสถานที่จริงถึงได้รู้ว่าไม่ได้กลัวธรรมดากลัวถึงขั้นแพนิคเลย ไม่นานรถอีกสองคันก็มาถึงที่จอด ทุกคนที่ขึ้นแพได้แล้วมองไปเห็นว่าเป็นรถของน่านฟ้าและต้องตา จอดรถได้ทุกคนก็มาขึ้นแพ ถ้าคนไม่กลัวการก้าวข้ามขึ้นแพชิลด์มาก พอขึ้นมาก็เห็นว่ามีผู้หญิงอีกคนที่มากับเพียงฝัน "สวัสดีค่ะ" เรามาทำอะไรที่นี่เนี่ย โอ๊ยดูสิทั้งบอสทั้งผู้จัดการทั้งปลัดอยู่ที่นี่ครบเลย "เพื่อนฝันเองค่ะชื่อบัว" พวกพี่ๆ ยังไม่มีใครรู้จักสายบัว เพียงฝันเลยแนะนำให้ทุกคนรู้จัก "เราไปดูห้องกันดีกว่า" นาคราชก็ดูไว้ก่อนแล้วล่ะว่ามีกี่ห้อง แต่พอนับจำนวนคนและก็ห้องดูแล้วสงสัยว่าห้องจะไม่พอ เพราะห้องที่มีอยู่เตียงเดียวมีแค่สามห้อง ส่วนอีกห้องเป็นห้องเตียงใหญ่รองรับคนได้ถึงหกคนก็จริง แต่ปัญหามันคือมีทั้งผู้ชายและผู้หญิงนี่สิจะให้นอนห้องใหญ่ด้วยกันได้ยังไง "ไม่เป็นไรห้องใหญ่ให้ผู้หญิงนอนไป เดี๋ยวกูกับไอ้สุดจะนอนข้างนอก" ธันวาเป็นคนเสนอเพราะบนแพก็มีเต็นท์ให้กางนอนตรงดาดฟ้าของแพด้วย หลังจากได้ห้องกันครบแล้วผู้หญิงก็เข้าห้องใหญ่ในห้องนี้มีน้ำมนต์ สายบัวและเอวา ส่วนคนมีคู่เขาก็เข้าห้องกันไปก่อนแล้ว ตอนที่ทุกคนกำลังเก็บข้าวของอยู่ก็ได้ยินพนักงานของทางผู้บริการแพเอาอาหารมาให้ เพราะสุดสาครสั่งอาหารและเครื่องดื่มไว้ ไม่นานก็ได้ยินเสียงเรียกคนในห้องออกมาทานข้าวด้วยกัน "พี่ไม่ออกไปทานข้าวเหรอคะ" สายบัวเห็นว่าพี่ผู้หญิงอีกคนเหมือนจะไม่ออกไป "พี่ไม่หิวหรอกเราออกไปเถอะ" "ฉันชื่อสายบัวนะคะ แล้วพี่ชื่ออะไรคะ" "พี่ชื่อน้ำมนต์" "พี่สวยจังเลยนะคะ" นี่ขนาดบนแพมีแค่ไฟสลัวนะยังเห็นความสวยเลย "ขอบใจมากจ้ะเราก็สวยนะ" มองเด็กคนนี้แล้วคิดถึงตัวเองในวัยเดียวกัน ตอนนั้นคิดว่าตัวเองเจอรักแท้ แต่ถ้าคนที่เขารักเราจริงต้องยอมเสียสละเพื่อเราได้สิ แต่นี่หลังเรียนจบเขาก็ซื้อตั๋วจะบินกลับโดยที่ไม่ปรึกษาเธอเลย สายบัวออกมาแล้วยังไม่เห็นน้ำมนต์ตามออกมานิวเยียร์เลยเข้ามาตามเพื่อนในห้อง "แกเมาแพหรือเปล่า" เข้ามาก็เห็นเพื่อนนอนอยู่บนเตียง และเตียงนี้ก็กว้างมากสามารถนอนได้ 6 ถึง 7 คนเลยแหละ "พวกแกกินไปเถอะฉันไม่หิว" "ไม่หิวก็ออกไปสนุกด้วยกันก่อน มาล่องแพทั้งทีจะนอนทำไมอยู่ในห้อง" เห็นเพื่อนมาตามน้ำมนต์ที่คิดว่าจะเข้านอนก็ต้องลุกออกมากับเพื่อนก่อน แต่พอเดินออกมาถึงข้างนอกเรือก็เริ่มเคลื่อนตัว เธอไม่รู้ว่าตอนนี้เรือลากจูงกำลังจะพาแพลงไปกลางแม่น้ำ "น้ำ" นิวเยียร์ตกใจอยู่ดีๆ เพื่อนก็เหมือนจะวูบ และเธอก็ท้องด้วยจะรับเพื่อนก็รับไม่ได้ "อุ๊ย คุณปลัดคะ" เอวาเห็นว่าปลัดที่ยืนอยู่ข้างๆ กำลังจะเข้าไปรับผู้หญิงที่ชื่อน้ำมนต์ ตัวเองก็เลยทำเป็นจะล้มบ้าง และมันก็ได้ผลปลัดสุดสาครรับเอวาไว้ก่อน มองไปอีกทีก็เห็นทั้งนาคราชและธันวาเข้ามาช่วยน้ำมนต์กับนิวเยียร์แล้ว "ขอบคุณมากนะคะปลัด" "คุณไปนั่งดีกว่า" ปลัดพาเอวาไปนั่งลงแต่สายตาเขาก็มองไปที่น้ำมนต์ด้วยเพราะเธอดูหวาดกลัวมากตอนที่แพกำลังเคลื่อนตัว "พอก่อนครับคืนนี้เอาแค่นี้ก่อน" ปลัดสุดสาครตะโกนไปบอกคนขับเรือที่กำลังเคลื่อนย้ายแพลำนี้ไปจุดที่จะให้แพจอด เห็นว่าผู้เช่าบอกจะอยู่ตรงนี้ก่อนทางเรือลากจูงเลยหยุดแพแล้วก็เอาทุ่นลงเพื่อแพจะได้ไม่ไหลไปตามแรงลม "แกยังไหวไหม" "ไหว" ปากบอกไหวแต่ตอนนี้แพนิคมาก ในใจก็ภาวนาขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกปักรักษา "สวัสดีค่ะบอส" เอวาเห็นน่านฟ้าเดินออกมาพร้อมภรรยาเลยไหว้ "สวัสดีครับ?" เขาก็แปลกใจทำไมเด็กของปลัดสุดสาครถึงเรียกเขาว่าบอส "เอวาเป็นฝ่ายธุรการที่อนันต์ไพศาลค่ะ" เหมือนบอสจะไม่รู้จักเอวาเลยรีบแนะนำตัวไป "อ้าวเหรอครับขอโทษด้วยที่จำไม่ได้" พนักงานเขามีเป็นพันเป็นหมื่นคงจำไม่ได้ทุกคนหรอก "ไม่เป็นไรค่ะ" ตอนที่นั่งทานและดื่มกันอยู่ก็มีฝนโปรยปรายลงมาอากาศเริ่มเย็น นาคราชเห็นภรรยาลูบแขนตัวเองคงจะหนาวเขาเลยถอดเสื้อที่ใส่อยู่ออกมาคลุมให้กับเธอ "หนาวไหม" น่านฟ้าก็ถามเฌอเอมบ้าง "ไม่ค่ะ" และต้องตาที่นั่งอยู่ข้างกันก็หันไปถามเพียงฝันด้วย "ฉันใส่เสื้อแขนยาวอยู่ไม่เห็นหรือไงคะ" "ก็อยากจะมีฉากฟินๆ เหมือนพี่ชายคุณบ้าง" "ถ้ามีใครถอดเสื้อมาคลุมให้บ้างก็คงจะดี" เอวาพูดขึ้นมาลอยๆ และมันก็ได้ผลสุดสาครที่นั่งอยู่ข้างๆ เลยถอดเสื้อแจ็คเก็ตที่ใส่อยู่คลุมให้กับเอวา "ขอบคุณมากนะคะคุณปลัดเสื้ออุ่นจังเลยค่ะ" ตอนที่เอวาชมว่าเสื้อของสุดสาครอุ่นคนที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่มองมาแทบจะเป็นตาเดียวกันรวมถึงนิวเยียร์และนาคราชด้วย แต่มีคนหนึ่งที่ไม่มองมานั่นคือน้ำมนต์ ถึงแม้เธอจะไม่มองแต่ใจของเธอก็สั่นไหวมาก มันจบแล้ว ขอโทษนะที่ทำให้ไม่สำเร็จ เธอขอโทษใครบางคนที่รับปากว่าจะพาตัวเขากลับไปหาให้ได้.. 🖊ชะนีติดมันส์ @มัดหมี่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD