พ่ายรักสามีเก่า บทที่ 1
"คุณไม่ต้องกลัวหรอกว่าฉันจะกลืนน้ำลายตัวเอง"
"ถ้าไม่ใช่การกลืนน้ำลายตัวเองแล้วมันคืออะไรล่ะ"
"ถ้าฉันรู้ว่าผู้ชายคนที่เพื่อนจะติดต่อให้เป็นคุณ ฉันคงปฏิเสธไปตั้งแต่ก่อนขึ้นเครื่องแล้วล่ะ"
"ปฏิเสธตอนนี้ยังทันอยู่นะ"
"คุณก็ไปคุยกับแม่ของคุณให้รู้เรื่องก่อนสิ" เพราะวันนั้นแม่ของสุดสาครแอบตามลูกชายมา และพอเห็นผู้หญิงที่ลูกชายบอกเป็นแฟนก็รู้สึกรักและเอ็นดู จนขอพูดคุยกับผู้ใหญ่ฝ่ายเธอเพื่อสู่ขอ
"ถ้าเธอไม่กลับมาเรื่องนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น"
"เชื้อชาติและสัญชาติของฉันเป็นไทย ทำไมฉันถึงจะกลับมาไม่ได้"
"ก็เธอเองไม่ใช่เหรอที่บอกว่าจะไม่กลับมา แล้วไหนล่ะผู้ชายที่เธอบอกว่าจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยที่ต่างประเทศ หรือมันไม่เอาเธอแล้ว"
ตอนที่ความรักสุกงอมทั้งสองก็ได้แต่งงานกันอยู่ต่างประเทศ เขาไปเรียนต่อปริญญาโทที่นั่นและก็ไปรู้จักกับสาวสวยคนหนึ่งที่มีนามว่าน้ำมนต์
ครอบครัวของน้ำมนต์มีธุรกิจร้านอาหารไทยที่นั่น และทั้งสองก็ได้ปลูกต้นรักช่วยกันรดน้ำพรวนดินจนมันงอกงาม แต่พอเขาเรียนจบก็ชวนเธอกลับมาใช้ชีวิตที่ประเทศไทยด้วยกัน และนี่แหละมันเป็นเรื่องที่ทำให้ทั้งสองต้องได้เลิกลากัน เพราะน้ำมนต์ทิ้งครอบครัวที่อยู่ที่นั่นไม่ได้และเคยขอให้เขาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่ต่างประเทศ แต่สุดสาครก็ทำแบบนั้นไม่ได้เหมือนกันเพราะเขามีครอบครัวที่ประเทศไทยแถมเขาต้องกลับมารับราชการ
แต่ความรักทั้งสองก็ไม่ได้หมดสิ้นกันแค่เรื่องนี้ ก่อนที่สุดสาครจะเดินทางกลับน้ำมนต์ก็ตัดสินใจทำอะไรบางอย่างลงไป เธออยากให้มันจบโดยไม่คาราคาซังเลยควงหนุ่มตาน้ำข้าวไปแนะนำให้เขารู้จัก
สุดสาครยังจำได้อยู่เลยวันที่บินกลับมาเขาเสียน้ำตาให้ผู้หญิงที่ไม่เห็นค่าในความรักที่เขามอบให้ และจากนั้นทั้งสองก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย จนมาถึงวันที่เขาขอให้ด็อกเตอร์นาคราชช่วยหาผู้หญิงสักคนมาให้ เพราะแม่เร่งเร้าจะให้เขาแต่งงานกับผู้หญิงที่ท่านหามาให้
วันที่น้ำมนต์เดินทางกลับมาจากต่างประเทศทั้งสองก็ได้นัดเจอกันที่ร้านอาหาร ก่อนที่เขาจะไปที่นั่นก็ได้บอกแม่ไว้ว่าเดี๋ยวจะพาลูกสะใภ้มาไหว้ แม่ตื่นเต้นที่ลูกชายจะมีเมียได้สักทีเลยแอบตามมาดูหน้าลูกสะใภ้
ตั้งแต่วันที่แม่มาเจอเธอที่ร้านอาหารทั้งสองก็ไม่ได้เจอหน้ากันจนมาถึงงานแต่งของน้องสาวด็อกเตอร์นาคราช เพราะน้ำมนต์มาร่วมงานนี้ด้วยเลยต้องมาเจอกับสุดสาครที่นี่ และก็ได้ประลองคารมกันนี่แหละ แต่ถึงแม้สุดสาครจะไม่ได้เจอหน้าน้ำมนต์ไม่ใช่ว่าแม่เขาจะไม่เจอ เพราะนัดเธอออกมาช้อปปิ้งและทานข้าวทุกครั้งที่เธอว่าง
ที่แม่กระตือรือร้นอยากจะได้ลูกสะใภ้เพราะลูกชายก็ขึ้นเลข 3 แล้ว มีหน้าที่การงานเป็นถึงปลัด เลยกลัวว่าลูกจะไปคว้าแม่หม้ายมาทำเมีย เป็นหม้ายเฉยๆ นางไม่ว่าหรอกกลัวมีลูกติดมาด้วยนี่สิ
"ทำไมหรือคะ ดูคุณจะสนใจชีวิตฉันจังเลยนะ อย่าบอกว่าคุณยังอาลัยอาวรณ์ฉันอยู่"
"ไม่มีทางเสียหรอกผู้หญิงคนที่ฉันเคยโละทิ้งไปแล้วทำไมฉันต้องไปหยิบขึ้นมาใช้อีกด้วยล่ะ" เขาอยากจะทำให้เธอเจ็บเหมือนที่เขาเคยเจ็บมาก่อน จนถึงตอนนี้เขายังเปิดใจให้ผู้หญิงเข้ามาในชีวิตอีกไม่ได้เลย
"ทำไมหรือคะ ดูคุณจะสนใจชีวิตฉันจังเลยนะ อย่าบอกว่าคุณยังอาลัยอาวรณ์ฉันอยู่"
"ไม่มีทางเสียหรอกผู้หญิงคนที่ฉันเคยโละทิ้งไปแล้วทำไมฉันต้องไปหยิบขึ้นมาใช้อีกด้วยล่ะ"
"จำคำพูดของคุณไว้" โละทิ้งงั้นเหรอเธอเองต่างหากที่ทิ้งเขาก่อน
"ครับผมจะจำคำพูดของผมไว้" ถึงแม้คำพูดจะดูเป็นสุภาพบุรุษแต่ท่าทีของเขายียวนมาก ถ้าเป็นสมัยตอนที่ยังคบกันอยู่ฝ่ามือเธอคงฟาดเข้าให้แล้ว
"ปลัดคะ" จังหวะนั้นมีสาวนางหนึ่งเดินเข้ามาทัก ทั้งสองที่กำลังตึงใส่กันอยู่ก็หันไปมอง
"ครับ?"
"ไม่คิดว่าจะเจอปลัดที่งานแต่งของผู้จัดการ"
"คุณคือ.."
"ฉันชื่อเอวาค่ะ เป็นฝ่ายเอกสารของบริษัทอนันต์ไพศาล"
"อ๋อคุณเอวานี่เอง คุณแต่งตัวแบบนี้ผมจำไม่ได้เลยนะครับเนี่ย" เอวาเป็นพนักงานเดินเอกสารให้กับบริษัท เวลาที่มีเอกสารที่ต้องยื่นทางราชการเอวาก็จะจัดการและส่วนมากก็ต้องติดต่อกับท่านปลัดโดยตรง
"ดีใจจังเลยค่ะคุณปลัดจำเอวาได้ด้วย เอ่อ..ว่าแต่เอวามารบกวนอะไรหรือเปล่าคะ" เอวามองไปดูผู้หญิงที่กำลังยืนคุยอยู่กับปลัดสุดสาคร
"ไม่ได้รบกวนเลยครับมาถูกจังหวะด้วยซ้ำ ว่าแต่คุณเอวานั่งอยู่โต๊ะไหนครับเนี่ย"
"ทำไมคะ ปลัดจะไปนั่งด้วยเหรอคะ"
"ถ้าโต๊ะนั้นยังมีที่ว่างให้ผมนะครับ"
"สำหรับคุณปลัดไม่ได้ว่างแค่โต๊ะนะคะใจก็ว่างค่ะ"
"หึหึ ไปกันครับ"
"แล้วว.." เอวามองดูผู้หญิงที่ปลัดยืนคุยอยู่ด้วยเพราะถ้าไปตอนนี้มันจะดูเป็นการเสียมารยาทไปไหม
"ไม่ต้องไปสนใจหรอกครับ แค่คนที่เคยรู้จักกัน"
"เคยรู้จักกันงั้นเหรอ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ฉันก็ไม่อยากรู้จักคุณหรอก" เธอได้แต่พูดกับตัวเองเพราะคนฟังไม่อยู่แล้ว
"น้ำอยู่นี่เอง" นิวเยียร์กำลังจะไปส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าหอที่บ้านของพ่อสามี แต่จะไปโดยไม่บอกเพื่อนก็ไม่ได้เลยต้องมองหาว่าเพื่อนอยู่ที่ไหน
"น้อง" กำลังโมโหเพื่อนเดินเข้ามาหาเลยต้องปรับอารมณ์หน่อย
"เมื่อกี้แกยืนคุยอยู่กับปลัดเหรอ" น้องคือชื่อเล่นของนิวเยียร์ ตอนที่เดินมาก็เห็นว่าปลัดเดินออกไปพร้อมกับผู้หญิงที่ไหนไม่รู้
"ใครจะอยากคุยด้วยล่ะ"
"แกว่าอะไรนะ" เพื่อนพูดเสียงเบาเลยไม่ค่อยได้ยิน
"เปล่าไม่มีอะไรหรอก แล้วนี่แกหาฉันทำไม"
"ฉันว่าจะไปส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่บ้านพ่อแกไปด้วยไหม"
"แกไปเถอะเดี๋ยวฉันก็กลับแล้ว"
"ขอบใจมากนะที่มาร่วมงาน ไว้เรานัดเจอกันอีกทีนะ"
"จ้ะ" ทั้งสองแยกกันตรงนั้นเลย น้ำมนต์ออกมาเรียกแท็กซี่ เธอไม่มีรถไว้ใช้หรอก คิดว่าแค่จะมาพอให้หายคิดถึงประเทศบ้านเกิดแล้วก็จะกลับ ทำไมเธอจะไม่อยากกลับมาใช้ชีวิตที่บ้านเกิดล่ะ แต่อยู่ที่นี่ไม่มีทางทำมาหากินเปิดร้านอาหารก็มีแต่เจ๊งกับเจ๊ง พ่อกับแม่เลยต้องย้ายไปหาถิ่นฐานทำมาหากินที่อื่น
น้ำมนต์พักอยู่บ้านน้า ถึงแม้ครอบครัวเธอจะย้ายไปอยู่ต่างประเทศแต่ในประเทศเธอก็ยังพอมีญาติอยู่
แท็กซี่มาจอดส่งตามสถานที่ที่ลูกค้าบอกมันคือบ้านปูนหลังไม่ใหญ่นัก ในเมืองหลวงแบบนี้ถ้ามีบ้านเป็นของตัวเองก็ถือว่าดีมากแล้ว และบ้านหลังนี้ก็เป็นบ้านมรดกของตระกูลทางฝ่ายแม่ ตอนนี้น้าเป็นคนอาศัยอยู่
แก๊ก.. น้ำค้างน้าของน้ำมนต์ได้ยินเสียงเปิดประตูรั้วหน้าบ้านเลยออกมาดู
"น้ำกลับมาแล้วเหรอ"
"น้ายังไม่นอนอีกเหรอคะ"
"ก็รอเรานั่นแหละ"
"น้ำก็บอกแล้วไงคะว่าไปร่วมงานแต่งน้องสาวเพื่อนกลับดึก"
"ถ้าเราไม่กลับน้าก็นอนไม่หลับ เราไปอาบน้ำเข้านอนเถอะเดี๋ยวน้าจะปิดบ้านเอง" ว่าแล้วน้ำค้างก็เดินออกไปดูรั้วหน้าบ้านก่อนว่าหลานสาวปิดหรือยัง พอเดินออกมาก็เห็นรถคันหนึ่งจอดสตาร์ทเครื่องอยู่อีกฝั่งของถนนในหมู่บ้าน แต่พอรถคันนั้นเห็นว่ามีคนมองมาก็เคลื่อนตัวออกไป "รถใคร?"
"มีอะไรคะน้า"
"เรานั่งรถอะไรมาเหรอ"
"แท็กซี่ค่ะ"
"เมื่อกี้น้าเห็นรถใครไม่รู้จอดสตาร์ทเครื่องอยู่ฝั่งโน้น"
"เขาคงมาธุระแถวนี้มั้งคะ" พูดไปเพื่อให้น้าสบายใจ แต่เธอก็คิดเหมือนกันว่าทำไมถึงมีรถตามเธอมา
วันต่อมา..
"สวัสดีค่ะปลัด"
"สวัสดีครับ"
"เมื่อคืนเห็นว่าไปร่วมงานแต่งกับท่านผู้ว่าหรือคะ"
"ใช่ครับ"
"ไม่ชวนสาบ้างเลย"
"พอดีงานแต่งจัดกะทันหันครับ"
"ทีหลังถ้าไม่มีคู่ควงใช้บริการสาก็ได้นะคะ" สาหรือนิสาเป็นข้าราชการที่นี่เหมือนกัน แต่ก็ไม่ใช่แค่นิสาหรอกที่หมายตาท่านปลัด ยังมีสาวๆ อีกหลายคน แม้จะมีสามีแล้วก็ยังหมายตาเลย
เที่ยงวันนั้น.. กันตนาแม่ของปลัดสุดสาครก็โทรนัดลูกชายออกมาทานข้าวด้วยกัน ถ้านัดไกลที่ทำงานส่วนมากลูกชายจะปฏิเสธนางเลยต้องนัดใกล้ๆ ที่ทำงานของลูกชาย
"แม่?" ว่าแล้วทำไมแม่ถึงนัดมาทานข้าวเที่ยงทุกครั้งแม่จะนัดทานข้าวเย็น และถ้านัดทานข้าวเย็นก็ต้องมีใครสักคนแหละที่ติดมาด้วยเพื่อให้เขาดูตัว
"มานั่งสิลูกแม่กับหนูน้ำมนต์เพิ่งมาถึงเหมือนกัน"
ทุกครั้งถ้าแม่ของเขาโทรชวนมาทานข้าวเธอชอบจะปฏิเสธ บอกว่าไม่ว่าง แต่วันนี้เธอยอมรับนัดของท่านแถมยังแต่งตัวสวยเช้งเลยแหละ
"ชุดนี้สวยจังเลย แต่อย่าไปใส่ให้ใครเห็นนะผมหวง" ถ้าเธอแต่งตัวแบบนี้ทีไรชอบได้ยินคำพูดนี้จากเขา แต่เธอก็อ้อนขอแต่งตัวแบบนี้ออกไปข้างนอกประจำและเขาก็ทนลูกอ้อนของเธอไม่ได้ แต่ทุกครั้งเขาก็จะเตรียมเสื้อไปอีกตัวเพื่อไว้คลุมร่างของเธอ
"มองตาค้างเลยนะ วันนี้หนูน้ำมนต์สวยใช่ไหมล่ะ"
"ก็งั้นๆ แหละครับ ผู้หญิงแต่งตัวแบบนี้หาได้ทั่วไป"
ไอ้ปากหมา! คอยดูนะฉันจะทำให้คนที่บอกว่าโละฉันทิ้งกลืนน้ำลายตัวเองให้ได้
🖋ชะนีติดมันส์ @มัดหมี่