พ่ายรักสามีเก่า บทที่ 2
"ก็งั้นๆ แหละครับ ผู้หญิงแต่งตัวแบบนี้หาได้ทั่วไป"
"ทำไมพูดแบบนั้นล่ะลูก น้องแต่งตัวออกจะสวย" ผู้เป็นแม่รีบตำหนิลูกชาย แต่แม่ก็แปลกใจไหนบอกว่าเป็นแฟนกันแต่ดูยังไงก็ไม่เหมือนแฟน
"แม่สั่งอะไรหรือยังครับ"
"สั่งไปแล้วล่ะ ว่าแต่เราอยากทานอะไรเพิ่มอีกไหม"
"ไม่เป็นไรครับผมต้องรีบเข้าไปทำงาน ไม่ได้ว่างงานเหมือนใครบางคนแถวนี้"
"ลูกว่าแม่เหรอ?"
"หึหึ" น้ำมนต์ที่นั่งฟังกลั้นขำไม่อยู่
"ผมจะว่าแม่ทำไมครับ"
"ก็นั่งกันอยู่สามคนแม่ว่างงานอยู่คนเดียว"
"อีกคนก็ไม่เห็นได้ทำงานอะไรนี่ครับ" ตอนที่พูดสายตาเขาชำเลืองมองมาที่เธอเหมือนบอกแม่ว่าเขาหมายถึงใคร
"หนูไม่ได้ทำงานเหรอ เวลาแม่โทรไปทุกครั้งทำไมหนูบอกว่ากำลังยุ่งงานอยู่ล่ะ"
"ทำไมคุณปลัดรู้ล่ะคะว่าฉันไม่ได้ทำงาน" เธอตอกกลับเขาได้ไวมาก
"รู้สิคนทำงานที่ไหนจะมีเวลามาแต่งตัวขนาดนี้ และวันนี้ก็เป็นวันธรรมดาคนทำงานที่ไหนจะออกมาเริงร่าได้" ถ้าเป็นสมัยตอนที่ยังคบกันอยู่เขาอาจจะยอมฝีปากของเธอแต่ตอนนี้ไม่ใช่
"ก็ฉันนี่ไงคะ"
"เดี๋ยวก่อนนะ เราสองคนเป็นแฟนกันจริงไหมเนี่ย"
ทั้งสองที่กำลังโต้วาทีกันอยู่หยุดแล้วหันกลับมามองที่แม่ของเขาพร้อมกัน
แต่เหมือนมีระฆังมาช่วย เพราะอาหารที่สั่งไปพนักงานยกมาเสิร์ฟพอดี
"ผมว่าทานข้าวดีกว่าครับอย่าพูดเรื่องไร้สาระเลย" ลืมไปเลยถ้าไม่มีเธอเป็นไม้กันหมาเดี๋ยวแม่ก็คงหาผู้หญิงมาให้ดูตัวอีก
หรือว่าเราจะคิดมากไปเอง.. กันตนาเลยตักอาหารวางใส่จานให้กับว่าที่ลูกสะใภ้ "ชิมนี่ดูสิลูก ร้านอาหารของเราที่ต่างประเทศทำอาหารพวกนี้ไหม"
"ทำค่ะแต่ส่วนมากลูกค้าจะชอบสั่งอาหารอีสานมากกว่าค่ะ" พ่อเธอเป็นคนทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือเลยทำอาหารพวกนี้เป็นและทำได้อร่อยมาก
"จริงเหรอ อยากลองไปชิมอาหารร้านเราดูสักครั้ง"
"แอะๆ" สุดสาครกำลังซดน้ำซุปพอดีได้ยินแม่บอกว่าอยากไปชิมอาหารร้านเธอที่อยู่ต่างประเทศเขาถึงกับสำลัก
"ค่อยๆ ทานสิลูก จะรีบไปไหนเหลือเวลาอีกตั้งครึ่งชั่วโมง"
"ผมมีงานราชการต่อครับ ผมไปก่อนดีกว่า" กลัวแม่จะมีความคิดแผลงๆ เขาเลยต้องชิ่งก่อน เดี๋ยวชวนไปทานอาหารร้านของเธอที่อยู่ต่างประเทศแย่เลย
"ดูเจ้าลูกคนนี้สิออกมาทานแค่ไม่กี่คำก็ไปแล้ว" จะเอายังไงกับลูกคนนี้ดี กว่าจะหาโอกาสให้ทั้งสองได้เจอกัน ไอ้ลูกชายก็เอาแต่งานแล้วเมื่อไรจะมีเมียมีหลานให้แม่อุ้มสักที เดี๋ยวผู้หญิงก็หนีกลับต่างประเทศกันพอดี
"น้ำว่าคุณป้าทานเถอะค่ะ เขาคงรีบจริงๆ นั่นแหละ"
"เอาแบบนี้ไหมบ้านป้าสะสมเครื่องประดับเก่าไว้เยอะเลย หนูอยากไปชมดูไหม"
"เครื่องประดับเก่าหรือคะ"
"ใช่แล้วล่ะจ้ะ ของตกทอดมาตั้งแต่รุ่นปู่ของตาสุดสาคร"
เธอก็ไม่มีความรู้ทางด้านเครื่องประดับเก่าหรอกแต่เห็นท่านตั้งใจชวนเลยตอบตกลง
พออีกฝ่ายตกลงกันตนาก็เริ่มแผนต่อไปในเมื่อแผนนัดมาทานข้าวไม่ได้ผลก็ชวนเข้าบ้านเลยแล้วกัน
เย็นวันนั้นสุดสาครกลับมาที่บ้านก็ได้ยินแม่บ้านบอกว่าคุณท่านกำลังคุยกับแขกอยู่ข้างใน
"แขกที่ไหน?" เขาเอาของลงจากรถแล้วก็เดินเข้าไปในบ้าน พอเข้ามาก็รู้เลยว่าแขกคนนั้นคือใคร นี่แม่พาเข้าบ้านเลยเหรอ
"ไม่ดีกว่าค่ะ" น้ำมนต์ปฏิเสธกำไรข้อมือที่ท่านจะเอาให้ เห็นเธอเหมือนจะชอบมันมาก
"อีกหน่อยหนูก็จะเข้ามาเป็นลูกสะใภ้ของแม่แล้ว ของทุกชิ้นในบ้านก็จะตกทอดมาเป็นของหนูอยู่ดี"
ตอนที่น้ำมนต์ไม่รู้จะทำยังไงมองไปก็เห็นว่าสุดสาครกลับมาพอดี เธอเลยส่งสัญญาณด้วยสายตาบอกให้เขาเข้ามาช่วยหน่อย
"ทำอะไรกันอยู่ครับ"
"อ้าวเรามาแล้วเหรอมาดูอะไรนี่สิ หนูน้ำมนต์ใส่กำไลข้อมือแล้วสวยมากเลย"
เขาแค่มองแต่ก็ไม่ได้ออกความคิดเห็นอะไร และก็ไม่สนใจท่าทีของเธอที่ส่งสัญญาณบอกให้พูดกับแม่หน่อย
"คุณป้าคะไว้ให้น้ำเข้ามาอยู่ในบ้านก่อนค่อยเอาให้ก็ได้ค่ะ"
"ถ้างั้นแต่งงานกันเลยดีไหม แม่ยังเหลืออีกหลายชิ้นนะ อยู่ในธนาคารก็มี"
"แต่งงานเหรอคะ ไม่ได้ค่ะ" น้ำมนต์รีบปฏิเสธไปก่อนเลย แต่พอเห็นแม่ของเขามองมาเธอก็เลยบอกว่าครอบครัวยังไม่รู้เรื่องนี้ แต่เธอไม่เห็นแววตาและสีหน้าของเขาตอนที่เธอปฏิเสธโดยไม่ต้องเสียเวลาคิดเลย
"อ้าวแล้วนั่นเราจะไปไหน" เห็นลูกชายกำลังจะเดินกลับไปทางที่เพิ่งเข้ามา "เดี๋ยวก่อนสิสุดสาคร!"
แต่เหมือนเขาจะไม่ฟังออกมาถึงรถก็สตาร์ทแล้วขับออกไปเลยโดยไม่สนใจ เธอกลับมาเพื่อเล่นกับความรู้สึกของเขาอีกแล้วเหรอ ดีถ้างั้นเขาจะเล่นกลับบ้าง
🖋ชะนีติดมันส์ @มัดหมี่