EP.07 #ฝาแฝด

1228 Words
“นี่มึงไปทำอีท่าไหนถึงโดนบีลีฟเล่นงานเข้าให้ล่ะ” ไอ้หมอหน้าตาหล่อน้อยกว่าผมเดินเข้ามาภายในห้องพร้อมกับโยนเสื้อผ้าที่ผมสั่งให้มันเอามาให้ลงบนเตียง และผมจะไม่หัวเสียขนาดนี้เลยถ้ามันไม่เสือกถามถึงยัยผู้หญิงใจมารนั่นขึ้นมาอีกรอบ นึกแล้วโคตรของโคตรของโคตรจะหงุดหงิดเลย! ยัยนั่นทำกับผมได้เจ็บแสบมาก ๆ หลอกล่อผมด้วยเสน่ห์อันล้นเหลือจนตายใจ แล้วก็ดับไฟอารมณ์ของผมด้วยการเผาเสื้อผ้าผมทิ้งด้วยไฟ! ร้ายมาก… อย่าพลาดแล้วกันยัยเมียใจมาร!! “ถามไม่ตอบ ฮึ ดูจากสภาพแล้วคงไม่พ้นเรื่องใต้สะดืออีกล่ะสิ” ผมมองแรงใส่นาฑีเพื่อให้มันหุบปากเสียที มือก็เร่งใส่เสื้อผ้าของมันอย่างรีบร้อนเพราะอากาศในห้องแม่งโคตรจะหนาวเลย รู้อะไรไหมว่าผมต้องแก้ผ้าอยู่ในห้องนี้มาเกือบครึ่งชั่วโมงเลยนะเว้ยกว่าไอ้หมอเวรนี่มันจะว่างมา เสือกมาติดผ่าตัดห่าเหวอะไรอยู่ก็ไม่รู้ ไม่ได้สนใจคนรออย่างผมเลยสักนิด “ชุดห่าอะไรวะเนี่ย” คิ้วผมขมวดปมอย่างไม่ชอบใจกับเครื่องแต่งกายที่มันดู… ดีเกินไป เสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงขายาวสีดำ นี่ถ้ามีเนกไทหน่อยผมคงไปงานเลี้ยงเต้นรำได้เลยอ่ะ บอกตรง ๆ ชุดแม่งโคตรไม่ให้เกียรติรองเท้า SPARCO รุ่น Limited ของผมเลย! พูดก็พูดเถอะ! ถึงผมกับนาฑีจะเป็นฝาแฝดกัน แต่เรื่องนิสัยและรสนิยมนี่ต่างกันราวฟ้ากับเหวอ่ะ เอาแบบที่ชัดมากเลยก็คือการแต่งตัวนี่แหละ ผมน่ะมันสายซิ่งสายบิด ชอบแต่งแนวทะมัดทะแมงพวกแจ็กเกตหนังสไตล์นักแข่งไรงี้ ส่วนนาฑีน่ะเหรอ… สไตล์คุณชายมาดหรูดูดีแบบนี้ไง แต่ก็นะ… มันเป็นหมอนี่นา สายอาชีพอย่างมันก็ต้องแต่งตัวให้ดูน่าเชื่อถือแบบนี้นี่แหละ “เออ มึงแต่งแบบนี้ค่อยดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาหน่อยนะไอ้เว” นาฑีเกาคางตัวเองเหมือนกำลังประเมินผมอยู่ ก่อนมันจะทำเรื่องปัญญาอ่อนด้วยการถอดเสื้อกาวน์ของตัวเองมายื่นให้ ผมหลุบตามองอย่างนึกหงุดหงิด “ไหนลองใส่ให้ดูหน่อยดิ อยากจะเห็นตัวเองผ่านตัวมึงว่ะ” “หน้ากูเหมือนคนอยากจะเล่นกับมึงเหรอ ไร้สาระ!” ผมว่าพลางปัดเสื้อให้พ้นทางแล้วเดินออกจากห้องมา ผมไม่มีเวลาว่างมาทำเรื่องไร้สาระกับมันหรอก ตอนนี้ต้องตามหายัยตัวดีนั่นให้เจอก่อน กล้าดียังไงมาเผาเสื้อสุดรักของผมแบบนั้นกันวะ รู้ไหมว่าราคาแม่งไม่ใช่ขี้ ๆ เลยนะ แสนกว่าเลยนะเว้ย! แสนกว่า! คิดแล้วโคตรแค้น! ฮึ่ย ๆ คอยดูเถอะยัยเมียใจมาร… ฉันเอาคืนเธอแน่! “คุณหมอนาฑีคะ! มีเคสด่วน เชิญที่ห้องฉุกเฉินด้วยค่ะ” “หะ เฮ้ย ๆ อะไร ๆ ?!” ผมโวยวายออกมาเสียงดังเมื่อจู่ ๆ ถูกป้าพยาบาลที่โผล่มาจากไหนไม่รู้เข้ามาดึงแขนแล้วทำท่าจะลากกลับไปทางเดิม สายตาของคนรอบข้างมองมาทางผมเป็นตาเดียว พูดเลยว่าโคตรอายอ่ะ! ทำไมชีวิตผมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยวะ! แล้วในขณะที่ผมกำลังเงิบแดกอยู่นั้น ป้าพยาบาลคนเดิมก็ลากผมมาจนถึงหน้าประตูห้องฉุกเฉินจนได้ แถมยังคะยั้นคะยอให้เข้าไปในห้องนั้นด้วยอีกต่างหาก นี่มันอะไรกันวะ?? “รออะไรอยู่คะคุณหมอ ตอนนี้คนไข้วิกฤติแล้วนะคะ” ผมอ้าปากกำลังจะแย้งว่าผมไม่ใช่หมอ แล้วผมก็ไม่ใช่ไอ้นาฑีด้วย ถึงหน้าตาผมกับมันจะคล้ายกันมากก็จริง แต่สีผมคนละสีป่าววะ สีผมของไอ้เวรนั่นมันสีน้ำตาลเทา ๆ ส่วนของผมอ่ะสีดาร์กช็อกโกแลตเฟ้ย! มันโคตรต่างกันเลยนะ! หรือเป็นเพราะผมใส่เสื้อผ้ามันอยู่วะ? แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไร ป้าพยาบาลตรงหน้าก็ชะโงกไปทางด้านหลังของผม ก่อนจะเผยรอยยิ้มดีใจออกมา “หมอบี! คุณหมอยังไม่ออกเวรเหรอคะ รบกวนเชิญทางนี้หน่อยได้ไหมคะ คนไข้วิกฤติแล้วค่ะ!” “ว่าไงนะคะ! แล้วทำไมหมอนาฑีถึงไม่… อ้าว… เวฬา? นายมาทำบ้าอะไรตรงนี้เนี่ย?!” ทันทีที่ร่างบางในชุดกาวน์เดินเข้ามาหยุดยืนตรงหน้าประตูห้องฉุกเฉิน เธอถึงกับชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะถามออกมาด้วยน้ำเสียงประมาณว่า… ผมมายืนโง่อะไรอยู่ตรงนี้? ซึ่งผมเองก็ยังงง ๆ อยู่ว่าตกลงกูมาทำห่าอะไรตรงนี้วะเนี่ย! แต่รู้อะไรไหม? แวบหนึ่งในใจผมแอบรู้สึกดีนะที่ผู้หญิงคนนี้สามารถแยกแยะระหว่างผมกับนาฑีได้ในทันทีที่เห็นหน้า และเธอก็มักจะเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว ทั้งที่ตอนเด็ก ๆ ผมกับนาฑีเหมือนกันแทบจะทุกอย่าง ทั้งหน้าตาและสีผม จนบางครั้งพ่อกับแม่ผมเองยังสับสนเลยด้วยซ้ำ แต่เธอคนนี้ก็ยังสามารถแยกแยะเราสองคนออกทุกครั้งเลย นี่คงจะเป็นเรื่องเดียวมั้งที่ทำให้ผมรู้สึกทึ่งในตัวของผู้หญิงคนนี้ที่ชื่อ… บีลีฟ! “เอ๊ะ คุณไม่ใช่หมอนาฑีเหรอคะ?” ก็ไม่ใช่น่ะสิครับป้า ผมหล่อกว่ามันขนาดนี้ ไม่เห็นต้องสับสนเลยนะ! ผมอยากจะตอบแบบนั้นมากเลยนะถ้าไม่ติดว่าสถานการณ์ตอนนี้มันไม่เหมาะแก่การกวนตีนสักเท่าไหร่ ลองนึกภาพบรรยากาศหน้าห้องฉุกเฉินที่เต็มไปด้วยเสียงไซเรนแสนร้าวรานของรถพยาบาลดูสิ… เหอะ ๆ “ไม่ใช่หรอกค่ะ ผู้ชายคนนี้เป็นน้องชายฝาแฝดของหมอนาฑีน่ะค่ะ บีว่าอย่าเสียเวลาสนใจเขาเลย เรารีบไปตรวจคนไข้ด้านในกันเถอะค่ะ” เมื่อเห็นว่าผมไม่ตอบอะไร บีลีฟจึงเป็นฝ่ายตัดบทขึ้นมา เธอปรายตามองผมนิด ๆ พร้อมกับเปิดประตูให้ป้าพยาบาลคนนั้นเดินเข้าไปก่อน ผมรีบคว้าท่อนแขนเล็กเอาไว้ด้วยความลืมตัว เลยได้รับสายตามองแรงตอบกลับมาแทน “ออกเวรเมื่อไหร่ฉันจัดการเธอแน่… บีลีฟ!” “ถ้าคิดว่าฉันจะกลัว… ก็ลองดู” บีลีฟสะบัดแขนออกแล้วเดินเชิดหน้าเข้าห้องฉุกเฉินไปเลย ทิ้งให้ผมยืนหัวร้อนหน้าร้อนอยู่คนเดียวหน้าประตูห้อง คือมันน่าโมโหจริง ๆ ว่ะ ปกติผมคอนโทรลผู้หญิงได้ทุกคนเลยนะ ยกเว้นยัยเมียใจมารนี่แหละที่ผมทำห่าไรไม่ค่อยได้เลย! เธอแม่งโคตรลองดี ลองของสุด ๆ งานท้าทายเนี่ยถนัดนัก! แล้วบังเอิญวันนี้ผมว่างด้วยสิ นั่งเฝ้าแม่งตรงนี้นี่แหละ! ดูซิจะมีปัญญาหนีผมไปไหนได้!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD