“เวรเอ๊ย… กว่าจะหาเจอนะยัยเมียใจมาร!!”
ผมสบถทันทีที่เห็นใบหน้าสวย ๆ โผล่พ้นประตูออกมา สีหน้าของเธอดูจะตกใจกับการปรากฏตัวของผมเล็กน้อย
เหอะ! ก็แน่ล่ะสิ! คงไม่คิดว่าฉันจะตามหาเธอจนเจอสินะ!
อยากรู้ไหมว่าทำไมผมถึงอารมณ์เสียได้เบอร์นี้ มันก็เป็นเพราะว่ายัยผู้หญิงใจมารตรงหน้าผมนี่แหละ! บีลีฟทำกับผมได้เจ็บแสบมาก! ก่อนหน้านี้เธอส่งโลเคชั่นให้ผมพร้อมบอกชื่อคอนโด ชั้น และเลขที่ห้องอย่างดิบดี ตอนแรกผมก็หลงคิดไปไกลว่าเธอคงยอมให้ผมมารับแบบดี ๆ แล้วเชียว แต่ที่ไหนได้… เธอหลอกให้ผมไปหาผิดห้อง!!
เออ! อย่างที่บอกเลย! บีลีฟบอกให้มารับที่คอนโด HK ซึ่งใช่เธอบอกพิกัดถูก แต่ที่แม่งผิดน่ะคือชั้น! เธอบอกผมว่าอยู่ชั้น 14 ห้อง 1404 แต่พอผมมาถึงจริง ๆ สรุปว่าไอ้ห้องที่เธอบอกนั่นดันเป็นลุงกับป้าแก่ ๆ อาศัยอยู่น่ะสิ!
พูดเลยตอนนั้นผมนี่ถึงกับแดกจุดเลยครับ มึนงงยิ่งกว่าโดนสิบล้อชนเสียอีก ไอ้ผมก็อุตส่าห์รีบซิ่งฝ่านรกมารับ แต่ดูยัยเมียใจมารนี่ทำกับผมสิ! เธอจงใจบอกชั้นผิดห้องผิดเพื่อปั่นประสาทผม แล้วพอผมส่งข้อความหา เธอก็ไม่ยอมอ่านไม่ยอมตอบเลยด้วย ไอ้ครั้นจะให้โทรหามันก็ไม่ใช่วิถีของผมซะด้วยสิ เพราะตั้งแต่ได้เบอร์บีลีฟมาผมยังไม่เคยโทรหาเธอเลยสักครั้ง เธอเองก็เช่นกัน
“เล่นตลกอะไรวะ! รู้ป่ะว่าเธอทำฉันโคตรเสียเวลาเลย!” ผมโวยวายต่อพลางเสยผมสีดาร์กช็อกโกแลตของตัวเองไปด้านหลังลวก ๆ เม็ดเหงื่อผุดขึ้นตามใบหน้าและลำตัว อย่าให้พูดเลยว่าทำไมสภาพผมถึงเป็นแบบนี้ นึกแล้วแม่งยิ่งเคือง!
“อะไร มาถึงก็โวยวาย” เธอพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ บวกกับแววตานิ่งเฉย ยิ่งทำให้ผมฉุนมากกว่าเดิม “แล้วนี่ไปทำอะไรมาล่ะ สภาพถึงได้ดู… แย่ขนาดนี้”
บีลีฟหลุบตามองตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วลากจากเท้าจรดหัวของผมอีกที ก่อนจะหยุดสบตากัน การกระทำของเธอนั้นเหมือนกับตบหน้าผมเลยว่ะ! นี่เธอกล้าพูดกับผมแบบนี้ได้ยังไงกันวะ?? ก็เพราะเธอเองไม่ใช่เหรอที่ทำให้ผมตกอยู่ในสภาพเวร ๆ แบบนี้อ่ะ!
“เธอนี่มัน… โคตรใจยักษ์ใจมารจริง ๆ! เธอจงใจบอกเลขห้องกับเลขชั้นผิดใช่ป่ะวะ?! นี่มันชั้น 15 ห้อง 1505 ชัด ๆ เลยนะเว้ย!”
“อ้าวเหรอ นี่ฉันบอกชั้นกับห้องผิดเหรอเนี่ย ตายแล้ว! แย่จังเลยเนอะ” บีลีฟตีหน้าตกใจอย่างโคตรการแสดง เด็กอนุบาลยังมองออกเลยว่าเธอจงใจอ่ะ!
“ไม่ตลกเลยนะบีลีฟ! รู้ไหมว่าฉันต้องตามกดออดแม่งทุกห้องบนชั้น 14 ก่อนจะขึ้นมาไล่กดบนชั้น 15 นี่ด้วยเพื่อตามหาเธอ เพียงเพราะว่าเธอไม่ยอมตอบข้อความฉันน่ะ!” ผมใช้มือข้างหนึ่งค้ำขอบประตู ปากก็ระบายอารมณ์ออกมาจนหมด แต่แทนที่บีลีฟจะมีสีหน้าสลดหรือรู้สึกผิดสักนิดบ้าง เธอกลับทำเพียงแค่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดดูพร้อมเงยหน้าขึ้นมองตาใส
“อุ๊ย ขอโทษทีนะเวฬา พอดีว่าฉันลืมอ่านน่ะ”
เวรเอ๊ย… ตอนนี้ผมโคตรอยากจะบีบคอผู้หญิงตรงหน้าเลยว่ะ! เธอแม่งโคตรของโคตรจะแสบเลย! ผมไม่น่าตามหาเธอทุกห้องแบบนั้นให้เหนื่อยเลยว่ะ รู้ไหมว่าตอนที่ผมตามกดออกทุกห้องเมื่อกี้ผมต้องเจอกับอะไรบ้าง ทั้งโดนพวกผู้ชายด่า โดนพวกผู้หญิงส่งสายตาหวานให้ แถมยังเกือบโดนพวกเก้งกวางบ่างชะนีลากเข้าห้องอีกด้วย!
แม่งโคตรบรรลัยกัลป์จริง ๆ!
“ใครมาเหรอครับ?”
และในระหว่างที่ผมกำลังเคียดแค้นบีลีฟในใจ อยู่ ๆ ก็มีเสียงผู้ชายตะโกนถามมาจากในห้องด้านหลังของเธอ ใบหน้าสวยชะงักเล็กน้อย เธอไม่ได้หันกลับไปตอบคำถามหมอนั่น และไม่ได้อธิบายอะไรกับผมเช่นกัน
“เสียงใคร?”
“สนทำไม มารับไม่ใช่? งั้นออกไปรอหน้าลิฟต์ก่อน เดี๋ยวฉันตามไป” เธอไม่ตอบ แถมยังไล่กันอีกต่างหาก มันทำให้ผมรู้สึกไม่ชอบใจอย่างแรง!
“ฉันถามว่านั่นเสียงใคร?!”
และผมก็จะไม่ยอมเช่นกัน ดังนั้นเมื่อสมองสั่ง ร่างกายมันก็ทำตามโดยพลัน ประตูห้องถูกผลักออกจนร่างบางเสียหลักเล็กน้อย ผมมองเธอด้วยสายตาดุดันก่อนจะแทรกตัวเข้ามาด้านในห้อง ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับร่างสูงของใครอีกคนเดินออกมาจากห้องนอนพอดี ผมชะงักเท้าหยุดอยู่กับที่แล้วกวาดสายตามองมันผู้นั้นตั้งแต่หัวจรดตีนทันที
เหอะ! ผู้ชายที่สามารถแต่งตัวสบาย ๆ แบบนี้อยู่ในห้องกับผู้หญิงสองต่อสองได้มันคงต้องสนิทกันมากพอดูเลยล่ะ!
งามหน้าแล้วไงยัยเมียใจมาร!!
“ทำบ้าอะไรของนายเนี่ยเวฬา! นายจะมาบุกรุกห้องคนอื่นแบบนี้ไม่ได้นะ!”
“ไอ้เด็กนี่เป็นใคร?” ผมถามกลับด้วยน้ำเสียงที่พยายามข่มอารมณ์เอาไว้ บีลีฟหยุดยืนตรงกลาง เธอปรายตามองมันนิด ๆ ก่อนจะลากกลับมาสบตากับผมนิ่ง แม้แววตาของเธอจะดูเรียบเฉยไร้ความรู้สึก แต่ผมเห็นนะ ริมฝีปากบางจิ้มลิ้มนั่นกำลังขบเม้มอย่างมีพิรุธ
“…”
“เงียบทำไม หรือต้องให้งัดปาก??”
บรรยากาศรอบตัวมาคุอย่างเห็นได้ชัด ผมกดดันบีลีฟทางสายตา ขณะเธอมองสลับไปมาระหว่างผมกับไอ้เด็กนั่น ส่วนมันจะทำสีหน้าแบบไหนอยู่นั้นผมไม่รู้ ไม่อยากมองแม่งมาก ไม่งั้นอาจได้งัดปากคนเร็ว ๆ นี้!
“จะไม่ตอบ?”
“ไม่จำเป็น แค่มารับไม่ใช่? งั้นก็รีบไปสิ” บีลีฟเดินไปที่โซฟาหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายแล้วหันหน้ากลับมา ดวงตาคมเฉี่ยวเหลือบมองไอ้เด็กนั้นด้วยสีหน้านิ่ง ๆ ตามสไตล์ของเธอ “ฝากรถไว้ที่นี่ก่อนนะ ไว้ฉันมาเอาทีหลัง”
“อาหะ ยินดีรับฝากครับ” ไอ้เด็กเวรนั่นรับคำด้วยรอยยิ้มแพรวพราว เห็นแล้วอยากเอาเลือดหัวมันออกจริง ๆ กล้าดียังไงถึงมายืนส่งยิ้มให้เมียคนอื่นแบบนี้วะ? ต้องหน้าด้านเบอร์ไหนถึงจะทำแบบมันได้!
“เฮ้ยเดี๋ยว! คิดจะหนีเหรอบีลีฟ!” ผมรีบขยับตัวขวางประตูห้องเพื่อไม่ให้เธอเดินออกไปง่าย ๆ บีลีฟถอนหายใจแรง ๆ ดวงตาสวยเลื่อนขึ้นสบกัน ยิ่งได้มองหน้าสวย ๆ หยิ่ง ๆ ของเธอผมก็ยิ่งโมโหว่ะ! และผมก็เป็นประเภทที่ว่าถ้าข้องใจอะไรแล้ว จะไม่ยอมปล่อยให้มันค้างคาซะด้วยสิ
ผมเดินกลับเข้ามาภายในห้องรับแขกก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้อง แล้วลากมาหยุดที่ไอ้เด็กหน้าตากวนตีนซึ่งน่าจะเป็นเจ้าของห้อง มันมองผมด้วยสายตาเหมือนจะเป็นมิตร แต่อย่าคิดว่าผมมองไม่ออกนะว่าภายใต้ใบหน้ายิ้มกริ่มของมันซ่อนเบื้องหลังอะไรเอาไว้
“ฉันจะถามเธออีกครั้ง” ผมเลื่อนสายตากลับไปหาร่างบางที่ยังคงยืนนิ่งอยู่หน้าประตูห้อง ผมถามขณะมือข้างหนึ่งหยิบแจกันดอกไม้ลายครามขึ้นมาหมุนเล่นช้า ๆ “ไอ้เด็กเวรนี่เป็นใคร??”
“…” แต่บีลีฟก็คือบีลีฟ ผู้หญิงใจมารแสนเย่อหยิ่ง และท้าทายผมได้ทุกเรื่อง! คงจะคิดสินะว่าผมไม่กล้าพังที่นี่ ขอโทษทีเถอะ! คาดหวังกับคนอย่างผมสูงเกินไปซะแล้ว ก็ดี… เก็บปากเอาไว้ เดี๋ยวได้ใช้แน่ ๆ
ปากหนักดีนัก ต้องจับงัดซะให้เข็ด!
“ถามดี ๆ ไม่ตอบ ชอบให้อาละวาดสินะ”
เพล้ง!