บทที่ 3 - ทำสัญญาสงบศึก [4]

1052 Words
หลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ ฟ้าพราวกับภูริดลก็เดินไปส่งน้ำมณีกับนทีที่รถที่จอดอยู่หน้าบ้าน “หนูฟ้าแน่ใจนะว่าจะอยู่ที่ไร่ได้” แม่สามีถามด้วยความเป็นห่วงและไม่สบายใจเป็นอย่างมากที่เห็นลูกสะใภ้ที่เคยอยู่ในวังใหญ่โตต้องมาอยู่บ้านไร่หลังเล็กๆ แบบนี้ “ฟ้าอยู่ได้ค่ะ” “พ่อจะส่งแม่บ้านมาช่วยทำงานบ้าน คุณหญิงจะได้ไม่ลำบาก พ่อรับปากกับท่านชายดนัยไว้แล้วว่าจะช่วยดูแลคุณหญิงเป็นอย่างดี พ่อก็ต้องทำตามที่รับปากกับท่านให้ได้” นทีบอก “ไม่ต้องหรอกครับพ่อ” ภูริดลปฏิเสธทันที “งานบ้านไม่มีอะไรมาก แค่ถูบ้าน ล้างจาน ซักผ้า ทำกับข้าว ไม่มีอะไรยาก คุณหญิงทำเองได้” “พ่อขอคุณหญิงให้มาเป็นเมียแก ไม่ได้ขอให้มาเป็นคนทำงานบ้านให้แก” นทีต่อว่าลูกชายเสียงแข็ง “คิดจะเป็นเมียชาวไร่ก็ต้องทำให้ได้ ถ้าไม่อยากทำก็ไปหาผัวใหม่เป็นพวกผู้ดีเหมือนกันโน่น จะได้มีคนรับใช้ไว้รองมือรองเท้า” “ไอ้ดิน! ปากแกนี่ให้มันน้อยๆ หน่อย แล้วก็รู้จักให้เกียรติคุณหญิงบ้าง” นทีชักจะเหลืออดกับความหัวดื้อของลูกชาย ก่อนกินข้าวกลางวันก็เกือบทะเลาะกันมาแล้วครั้งหนึ่ง เรื่องที่เขาขอให้ภูริดลกลับไปช่วยบริหารงานโรงแรมของครอบครัว ซึ่งเป็นโรงแรมระดับหกดาว สไตล์ล้านนาที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดและดีที่สุดในประเทศไทย แต่ภูริดลก็ไม่ยอม “ฟ้าทำได้ค่ะคุณพ่อ ถ้าไม่ไหว ฟ้าจะบอกนะคะ” ฟ้าพราวหาทางประนีประนอมทั้งสองฝ่าย แล้วแอบส่งสายตาบอกน้ำมณีให้พานทีกลับ ก่อนที่สองพ่อลูกจะทะเลาะกันหนักกว่านี้ “กลับกันเถอะคุณ วันหลังค่อยมาเยี่ยมลูกกันใหม่” น้ำมณีดึงแขนสามีไปขึ้นรถที่คนขับรถสตาร์ทรถรออยู่ หลังจากรถของน้ำมณีกับนทีขับออกไปแล้ว ฟ้าพราวก็หันมาจ้องหน้าภูริดลอย่างเอาเรื่อง “คุณดิน” “อะไร” ขานรับเสียงห้วนโดยไม่มองหน้าภรรยาแล้วเดินนำเข้าบ้าน ฟ้าพราวเดินตามไปติดๆ “เราต้องคุยกัน” “มีอะไรก็ว่ามา” ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่เดินข้ามตะกร้าแมวไปนั่งที่โซฟา แล้วหันมาแยกเขี้ยวใส่แมวอ้วนที่ร้อง ‘เมี้ยว’ ใส่ เหมือนจะต่อว่าที่เขาบังอาจเดินข้ามหัวมันไป “ฉันขอทำสัญญาสงบศึก” “ผมไปรบกับคุณหญิงตั้งแต่เมื่อไหร่” ตอบหน้านิ่งแบบจงใจกวนประสาทแล้วดึงร่างเล็กมานั่งคร่อมบนตัก สองแขนโอบเอวเธอไว้ไม่ให้ลุกหนี “นี่คุณ! นั่งคุยกันดีๆ ไม่ได้หรือไง ทำไมต้องก่อกวน” ยิ่งดิ้น เขาก็ยิ่งกอดรัดเธอแน่นขึ้น มือหยาบกร้านข้างหนึ่งสอดเข้ามาลูบไล้แผ่นหลังเรียบเนียนซึ่งปราศจากเส้นสายของบราเซีย ส่งผลให้ร่างเล็กหยุดชะงัก นั่งตัวแข็งทื่อ หายใจไม่ทั่วท้อง “โนบราเหรอ” เขาเลิกคิ้วถาม แววตาเป็นประกายไม่น่าไว้วางใจ ฟ้าพราวกัดริมฝีปากล่างไว้เพื่อข่มความรู้สึกวาบหวามเมื่อคนถามเลื่อนฝ่ามือร้อนผ่าวมาด้านหน้า กอบกุมทรวงอกข้างหนึ่งผ่านบราเซียร์แบบ ปีกนกที่แปะอยู่ เขาบีบแล้วคลายสลับกับเคล้นคลึงนุ่มนวล “อ้อ...ใส่นี่ บราเดี๋ยวนี้มีแบบแปลกๆ เนอะ แต่ก็ถอดง่ายดี” ว่าแล้วก็ดึงบราเซียร์รูปทรงแปลกตาออกมาชูไว้ตรงหน้าระดับสายตาของหญิงสาว แล้วโยนมันทิ้งแบบกวนประสาทสุดๆ “ถ้าคุณยังไม่พร้อมคุย เอาไว้เราค่อยคุยกันวันหลังก็ได้” ฟ้าพราวประคองสติแล้วจะดันตัวเองลุกขึ้นแต่ถูกเขาจับกดให้นอนหงายลงบนโซฟาตัวนุ่มแล้วพลิกตัวขึ้นคร่อม เขาจับรวบข้อมือทั้งสองข้างของเธอดันไว้เหนือศีรษะด้วยมือของเขาเพียงข้างเดียว แล้วใช้สะโพกกดตรึงท่อนล่างของเธอเอาไว้ “จะพูดอะไรก็พูดมา ผมรอฟังอยู่” น้ำเสียงของเขานิ่งเรียบทว่าเซ็กซี่จนฟ้าพราวขนลุกชันไปทั้งตัว เธอพยายามบิดตัวหนีเมื่อเขาเลิกชายเสื้อยืดตัวโคร่งของเธอขึ้นอย่างเชื่องช้า จงใจกรีดไล้ปลายนิ้วขึ้นไปตามผิวเนื้ออ่อน ก่อให้เกิดความวาบหวามแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย เมื่อชายเสื้อถูกม้วนขึ้นไปไว้บนเนินอก ใบหน้าคมคร้ามที่เต็มไปด้วยหนวดเคราก็ก้มลงซุกไซ้ดูดกลืนทรวงอกเต่งตึง “อื้อ...คนบ้า หยุดหื่นกับฉันสักวินาทีไม่ได้หรือไง” ภูริดลไม่สนใจเสียงหวานที่ต่อว่าต่อขาน เขารับรู้ได้จากการตอบสนองทางร่างกายของเธอว่าชอบสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ เพราะปลายถันสีกุหลาบที่ถูกไล้เลียและดูดดึงมันชูชันหดเกร็งอยู่ในปากของเขา ลมหายใจของเธอหอบกระชั้น มือที่ดันอยู่บนบ่าเลื่อนขึ้นไปโอบรอบคอแล้วกดศีรษะของเขาลงมาพร้อมกับแอ่นหน้าอกเข้าหาปากและลิ้นช่ำชองอย่างสุขซ่าน อาจเป็นเพราะความปรารถนาที่ยังคั่งค้างอยู่ตั้งแต่เมื่อคืนถึงทำให้เธอจุดติดเร็วขนาดนี้ เมื่อคืนนี้ หลังจากทุกอย่างหยุดชะงักลงกลางคัน เขาก็เข้าไปปลดปล่อยตัวเองในห้องน้ำ ส่วนฟ้าพราว เขาไม่รู้ว่าเธอได้จัดการกับความต้องการของตัวเองหรือไม่ แต่เท่าที่ดูจากความกระหายใคร่อยากของเธอตอนนี้ เขาคิดว่าไม่ “ถ้าอยากมาก ผัวก็จะจัดให้” เขาพูดพึมพำอยู่กับทรวงอกอวบอิ่มแล้วเลื่อนตัวขึ้นไปจูบที่ริมฝีปากของเธออย่างดูดดื่ม เธอตอบสนองเขาอย่างอ่อนหวาน เผยอริมฝีปากขึ้นเพื่อเปิดทางให้เขาสอดแทรกปลายลิ้นเข้ามาในปากเธอ ฝ่ามือใหญ่ร้อนผ่าวที่ลูบไล้อยู่ข้างลำตัวลากเลื่อนลงมาตามเนินหน้าท้องแล้วสอดเข้าไปใต้ขอบกางเกงชั้นในตัวบาง กอบกุมและฟอนเฟ้นเนินเนื้อนุ่มอย่างอ่อนโยนก่อนจะกรีดปลายนิ้วไปตามรอยแยกแล้วสะกิดตุ่มติ่งที่ไวต่อความรู้สึก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD