“อื้อ” ลมหายใจของฟ้าพราวหอบกระชั้น สะโพกบิดส่ายตอบสนองสัมผัสจากปลายนิ้ว เมื่อคืนเขาก็แตะต้องเธอแบบนี้ แล้วเขาก็ใจร้ายทิ้งเธอให้เคว้งคว้างอยู่กลางทางเพียงลำพัง ความโกรธที่ถูกปล่อยให้คั่งค้าง ทำให้ฟ้าพราวเผลอทุบไหล่เขาอย่างแรง
“โกรธอะไรผัว...หือ?” ภูริดลหัวเราะเสียงทุ้มต่ำในลำคอแล้วกดปลายนิ้วแทรกลึกเข้าไปในความอ่อนนุ่ม ไล้วนเป็นวงเชื่องช้าชวนบ้าคลั่ง บดขยี้ปุ่มเนื้ออ่อนไหวซึ่งซ่อนตัวอยู่ภายในอย่างลึกลับที่แม้แต่เจ้าตัวก็ยังไม่เคยแตะต้องมันมาก่อน
ฟ้าพราวรู้สึกเหมือนจะขาดใจตายให้ได้ ลมหายใจของเธอหอบลึกขาดเป็นห้วง ความร้อนผ่าวแผ่กระจายอยู่ใต้ผิวหนังทั่วร่าง ยามที่นิ้วแข็งแกร่งขยับเข้าออกเป็นจังหวะรัวเร็ว หญิงสาวก็รู้สึกถึงความแข็งเกร็งของร่างกาย ความเครียดครัดขมวดเป็นเกรียวแน่นขึ้นและแน่นขึ้นอยู่ภายในช่องท้อง กล้ามเนื้อภายในส่วนที่ลึกลับที่สุดบีบรัดเป็นจังหวะรุนแรง ครู่หนึ่งก็ระเบิดเสียงกรีดร้องหวานล้ำพร้อมกับแตกกระจายออกมาเป็นเศษเสี้ยวนับร้อยพัน ความอัดอั้นที่คั่งค้างมาตั้งแต่เมื่อคืนหายไปเป็นปลิดทิ้ง เหลือเพียงความสุขซ่านชนิดที่ไม่เคยพานพบมาก่อนในชีวิต
“ไม่ค้างแล้วนะ” เขายิ้มเยาะใส่นัยน์ตาเธอแล้วเช็ดนิ้วที่เปียกชุ่มกับชายเสื้อที่พันอยู่เหนือเนินอก
หญิงสาวอับอายแทบแทรกแผ่นดินหนี เขาร้ายกาจมากที่จับความรู้สึกของเธอได้ทั้งที่คิดว่าเก็บงำความรู้สึกไว้อย่างมิดชิดที่สุดแล้ว
“ไม่ต้องอายหรอกน่า รอบนี้ผมทำให้คุณหญิงแล้ว รอบหน้าคุณหญิงก็ทำให้ผมบ้างก็แล้วกัน” พูดพลางดึงชายเสื้อของคนที่ยังนอนหายใจหอบสะท้านหมดเรี่ยวแรงลงให้เรียบร้อย เสร็จแล้วขยับตัวไปนั่งพิงพนักโซฟาด้วยท่าทางสบายๆ
“จะให้ฉันทำอะไร” ฟ้าพราวยันตัวลุกขึ้นนั่งก้มหน้าด้วยความอับอาย ยิ่งเห็นบราเซียร์ตกอยู่ที่พื้นก็ยิ่งปั้นหน้าไม่ถูก
“คืนนี้จะบอก” ว่าแล้วก็รวบเอวคนตัวบางให้ขึ้นมานั่งบนตักสองแขนโอบกอดเธอไว้หลวมๆ แล้วซุกไซ้ใบหน้าเข้ากับซอกคอหอมละมุน โดยที่หญิงสาวก็ปล่อยให้เขานัวเนียเนื้อตัวเธออย่างอิสระ “จะทำสัญญาอะไรกับผมก็ว่ามา”
“อย่าใจร้ายกับฉันมากนักได้มั้ย มีอะไรก็คุยกันดีๆ คุณอยากให้ฉันทำอะไร หรือไม่อยากให้ทำอะไรก็บอก ฉันตั้งใจไว้แล้วว่าจะมาเป็นภรรยาของคุณ คุณก็ช่วยทำตัวเป็นสามีที่น่าอยู่ด้วยหน่อยได้มั้ย”
คำของร้องอย่างตรงไปตรงมาทำให้ภูริดลนิ่งเงียบไปพักใหญ่ก่อนตอบเสียงห้วน “จะพยายามก็แล้วกัน”
ฟ้าพราวมองสบตาสามีผู้แข็งกระด้างแล้วยิ้มให้เขาอย่างอ่อนหวานเป็นครั้งแรก แค่เขารับปากว่าจะ ‘พยายาม’ ก็ถือเป็นการเริ่มต้นชีวิตคู่ที่ดีมากแล้ว
ฟ้าพราวอาบน้ำชำระล้างรอยคราบแห่งความสุขที่ได้รับจากสามีแล้วแต่งตัวใหม่ด้วยชุดแม็กซี่เดรสสายเดี่ยวสีแดงลายดอกไม้สีขาวเล็กๆ น่ารัก จากนั้นรื้อของออกจากกระเป๋าเดินทางที่น้ำมณีขนมาให้จากกรุงเทพฯ จัดใส่ตู้เสื้อผ้ารวมกับของภูริดล โดยมีเจ้าแมวอ้วนเดินพันแข้งพันขาอยู่ไม่ห่าง
“เนี่ยเหรอ ‘ที่รัก’ ที่คุณหญิงละเมอหาเมื่อเช้า” คนที่นั่งเหยียดขาพิงหัวเตียงมองภรรยาจัดของถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
หญิงสาวมองค้อนนิดหนึ่ง เพราะยังไม่หายเคืองที่ถูกเขาตราหน้าว่าเป็นผู้หญิงสำส่อน ผ่านผู้ชายมานับไม่ถ้วนเพราะความเข้าใจผิดของเขาเอง “ใช่ ท่านพ่อเพิ่งซื้อให้เป็นของขวัญวันรับปริญญาเมื่อไม่กี่เดือนนี่เอง”
“เพิ่งเรียนจบ...?”
“ฮื่อ” ตอบพลางจัดเรียงเครื่องสำอางและเครื่องประทินผิวยี่ห้อดังจากต่างประเทศไว้บนโต๊ะเครื่องแป้งอย่างเป็นระเบียบ
“อายุเท่าไหร่” เขาเพิ่งสังเกตว่าหญิงสาวรูปร่างบอบบางที่สูงเพียงแค่ไหล่เขามีใบหน้าที่อ่อนวัยมาก ถ้าบอกว่าสักสิบแปดหรือสิบเก้าเขาก็เชื่อ
“ตอนนี้ยี่สิบเอ็ด แต่เดือนหน้าก็จะยี่สิบสองปีเต็มแล้ว” ตอบแล้วก็หันมาเขาด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตรมากขึ้น “แล้วคุณล่ะ”
“สามสิบ”
“แก่จัง” ฟ้าพราวพูดเบาๆ กับตัวเองแล้วหันไปจัดของต่อ แต่ภูริดลก็ได้ยิน เขาลุกพรวดมาสวมกอดเธอไว้แน่นจากทางด้านหลังแล้วพูดเสียงเข้มที่ข้างหูพลางมองสบตาเธอผ่านกระจกเงาบานใหญ่อย่างดุดัน
“แก่แล้วไง เป็นผัวคุณหญิงได้ก็แล้วกัน”
“หยาบคายอีกแล้วนะ” หญิงสาวต่อว่าเสียงเบาแล้วพลิกตัวอยู่ภายในวงแขนแข็งแกร่งเพื่อหันมามองหน้าเขา “เราตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าจะพูดกันดีๆ”
“แล้วผมพูดไม่ดีกับคุณหญิงตรงไหน” คราวนี้น้ำเสียงของเขาอ่อนลง แววตาสีเข้มก็ลดแววแข็งกระด้างลงไปมาก “จะให้ผมพูดสามีอย่างงู้น สามีอย่างงี้ ผมพูดไม่ได้หรอก เจ็บปาก”
“ฉันไม่เถียงกับคุณแล้ว อยากพูดอะไรก็พูดไปก็แล้วกัน เอาที่คุณสบายใจเลย” ว่าแล้วก็ดันตัวเองออกจากอ้อมกอดของเขา แล้วก้มลงอุ้มเจ้าแมวอ้วนไปนั่งที่เตียง
ภูริดลเดินตามไปนั่งข้างๆ มองหน้าแมวคู่อริด้วยสายตาไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย “ผมไม่ให้ไอ้แมวอ้วนนี่นอนเตียงเดียวกับเรานะ”
“แต่ฉันต้องนอนกอดที่รักถึงจะนอนหลับ”
“กอดผมแทนก็ได้” เขาบอกหน้าตาเฉย
“หือ?” ฟ้าพราวเลิกคิ้วมองหน้าเขา “ไม่เหมือนกัน”
“ไม่เหมือนตรงไหน”
“คุณไม่ได้น่ารักเหมือนที่รัก”
“แต่ผมทำให้คุณหญิงมีความสุขได้มากกว่าไอ้ที่รักหลายเท่าก็แล้วกัน อยากลองอีกมั้ย” ว่าพลางขยับตัวเข้ามาใกล้ วางมือลงบนลาดไหล่เล็กเปลือยเปล่าที่มีเพียงเส้นสายเล็กๆ ของชุดเดรสพาดผ่านแล้วปัดปลายนิ้วโป้งไปบนลำคอยาวระหงแผ่วเบาอย่างยั่วเย้า
“นี่คุณ อย่าแกล้งสิ” ฟ้าพราวบอกเสียงสั่น ความวาบหวามแล่นวาบไปตามเนื้อตัวราวกับมีกระแสไฟฟ้าแล่นผ่าน ถ้าจะบอกว่าเขาหื่นจัด ก็ต้องยอมรับว่าเธอเองก็จุดติดง่ายพอกัน
“เอาจริง ไม่แกล้ง” ใบหน้าคมคร้ามโน้มเข้าไปกระซิบเตือนด้วยน้ำเสียงแตกพร่าที่ข้างหูคนตัวเล็ก “เตือนไว้ก่อนนะว่าผมเซ็กซ์จัดมาก เป็นเมียผมต้องอึด ผมต้องการตอนไหน คุณหญิงก็ต้องพร้อมเสมอ”
“ไม่ต้องขู่” เธอแอบบิดกล้ามท้องเขาไปทีหนึ่ง แล้วอุ้มแมวหนีไปยืนริมหน้าต่าง เขาหัวเราะเบาๆ แล้วทิ้งตัวลงนอนแผ่บนเตียง