ภูริดลพาฟ้าพราวมาซื้อของให้ ‘ที่รัก’ ที่ห้างสรรพสินค้าในตัวเมืองเชียงรายซึ่งมีร้านขายของใช้สำหรับแมวโดยเฉพาะ หญิงสาวเลือกซื้อของอย่างเพลิดเพลินจนลืมระวังตัว เดินสะดุดเกือบหกล้มหน้าคะมำ โชคดีที่สามีซึ่งคอยหิ้วตะกร้าใส่ของเดินตามหลังคว้าเอวไว้ได้ทันก่อนเจ็บตัว
“ระวังหน่อยสิ” คนเป็นสามีดุเสียงเข้ม
ฟ้าพราวก้มมองเท้าตัวเอง เห็นว่าเชือกรองเท้าผ้าใบหลุดจึงก้มลงจะผูกเชือกรองเท้าใหม่แต่ภูริดลจบไหล่เธอให้เงยหน้าขึ้นมาแล้วย่อตัวลงผูกเชือกรองเท้าให้พลางส่งสายตาดุดันไปยังชายแก่หัวล้านลงพุงที่แอบมองภรรยาของเขาอยู่ที่มุมหนึ่ง ชายแก่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แล้วเดินหลบออกไป
ภูริดลยืดตัวขึ้นแล้วถอดเสื้อแจ็คเก็ตยีนของตัวเองออกมาคลุมไหล่ให้ฟ้าพราวแล้วดึงสาบเสื้อเข้ามาชิดกัน ปกปิดเนื้อหนังเธอไว้ทั้งตัว “วันหลังห้ามใส่แล้วนะชุดสายเดี่ยวเปิดหน้าเปิดหลังแบบนี้ คอเสื้อก็กว้าง จะก้มก็ระวังด้วย หรือว่าเป็นพวกชอบโชว์”
“จะบ้าเหรอ” เธอทำหน้าง้ำใส่เขา “เรื่องแค่นี้ไม่เห็นต้องดุเลย แล้วชุดนี้ก็ไม่ได้โป๊ะสักหน่อย ปกติฉันก็แต่งตัวแบบนี้อยู่แล้ว ท่านพ่อไม่เห็นว่าอะไรเลย”
“พ่อไม่ว่า แต่ผัวไม่ชอบ” เขาดุเสียงแข็งจนพนักงานในร้านแอบทำหน้าสงสารฟ้าพราว “แล้วนี่ได้ของครบหรือยัง”
“ครบแล้ว คุณไปหาที่นั่งรอข้างนอกก็ได้ ฉันจ่ายเงินเสร็จแล้วจะตามออกไป” ฟ้าพราวหยิบตะกร้าที่วางอยู่ที่พื้นขึ้นมาแล้วเดินไปที่เคาน์เตอร์คิดเงิน รอจนพนักงานสแกนบาร์โค้ดครบทุกชิ้นแล้วแจ้งยอดเงินที่ต้องชำระ จากนั้นก็ยื่นบัตรเครดิตให้
“บัตรถูกระงับนะคะ รูดไม่ได้” พนักงานส่งบัตรเครดิตคืนให้
“งั้นลองใบนี้นะคะ” ฟ้าพราวส่งบัตรเครดิตอีกใบให้
“ใบนี้ก็รูดไม่ได้เหมือนกันค่ะ”
“ลองอีกใบนะคะ ใบนี้เป็นบัตรเดบิต รูดได้แน่นอน”
พนักงานรับบัตรไปเสียบกับเครื่องรูดบัตรแล้วถอดออกมาส่งคืนให้ “ยอดเงินคงเหลือในบัตรไม่พอชำระค่าสินค้าค่ะ”
“อ้าว...เหรอคะ” ฟ้าพราวเริ่มจะหน้าชาด้วยความอับอาย เกิดมาไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน “เท่าไหร่นะคะ ฉันจ่ายเงินสดก็ได้”
“สี่พันเก้าร้อยสี่สิบบาทค่ะ”
หญิงสาวเปิดกระเป๋าเงินดูแล้วทำหน้าจ๋อยสนิท เพราะมีเงินสดติดกระเป๋าอยู่แค่ห้าร้อยกว่าบาท “เงินไม่พอ ฉันขอคืนของก็แล้วกันนะคะ ขอโทษด้วยที่ทำให้เสียเวลา”
“ไม่เป็นไรค่ะ” พนักงานตอบรับด้วยรอยยิ้มแล้วเตรียมขนของไปเก็บ แต่ทันใดนั้นเสียงเข้มๆ ของภูริดลก็ดังขึ้น
“เอาทั้งหมดนั่นแหละ ใส่ถุงเลย” หนุ่มชาวไร่ยื่นบัตรเครดิตแบบที่พนักงานมองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นบัตรเอกสิทธิ์เฉพาะ ‘คนรวย’ ผู้ที่จะถือบัตรระดับนี้ได้ ต้องมีเงินหรือหลักทรัพย์อยู่กับกับธนาคารเจ้าของบัตรขั้นต่ำสองร้อยล้านบาท
“รับไปสิ” ภูริดลย้ำเสียงหนักเมื่อเห็นพนักงานเอาแต่มองหน้าเขาสลับกับบัตรเครดิตในมืออย่างไม่แน่ใจว่าเขาเป็นเจ้าของบัตรจริงหรือไม่ จะให้พนักงานไว้ใจได้ยังไง ในเมื่อการแต่งตัวและหนวดเครารกรุงรังบนหน้าของเขาไม่บ่งบอกความเป็นเศรษฐีเลยสักนิด
“ค่ะๆ” พนักงานรับบัตรไปรูดแล้วส่งบัตรคืนพร้อมกับสลิปให้ภูริดลเซ็น จากนั้นจึงส่งถุงของทั้งหมดให้ชายหนุ่มอย่างนอบน้อมเพราะเกรงใจเงินในบัญชีของเขา
ปกติถ้าไม่จำเป็น ภูริดลจะไม่ยอมใช้บัตรเครดิตใบนี้เลยแต่วันนี้เขาอยากลองใจภรรยาผู้สูงศักดิ์ ว่าถ้าเห็นเงินของเขาแล้วจะตาวาวขนาดไหน แต่เธอไม่สนใจเลยสักนิด แถมยังบอกว่าจะคืนเงินค่าซื้อของให้เขาอีก
“ฉันจะโทร. ไปถามท่านพ่อว่าทำไมบัตรเครดิตรูดไม่ได้ เพราะบัตรสองใบนี้เป็นบัตรเสริมของท่านพ่อ ถ้าเคลียร์เรียบร้อยแล้วฉันจะคืนเงินให้คุณนะ” ฟ้าพราวหยุดคิดนิดหนึ่งแล้วพูดต่อ “ฉันขอเงินท่านพ่อมาใช้หนี้คุณก่อนดีกว่า ไม่อยากมีอะไรติดค้างกัน”
“ไม่ต้อง” คนที่หิ้วของใช้แมวเต็มสองมือบอกเสียงกระด้าง “เงินที่พ่อคุณมีอยู่ตอนนี้ก็เงินผมทั้งนั้น คุณหญิงจะเอาเงินผมมาใช้หนี้ผมเนี่ยนะ ใช้ตาตุ่มคิดเหรอ”
“แต่ฉันเกรงใจคุณ ไม่อยากใช้เงินคุณ”
“เอาเป็นว่า ของทั้งหมดนี่ ผมซื้อให้ไอ้แมวอ้วนนั่นก็แล้วกัน ไม่ได้ซื้อให้คุณหญิง”
“ยังไงฉันก็เกรงใจคุณอยู่ดี” ฟ้าพราวบอกเสียงเบาอ้อมแอ้มด้วยความเกรงใจมากจริงๆ
“อย่าเรื่องมาก น่ารำคาญ จะซื้ออะไรอีกมั้ย”
“ไม่ซื้อแล้ว ไม่มีเงิน”
“คุณหญิงไม่มี แต่ผัวคุณหญิงมี อยากได้อะไรก็ไปเลือกเอา ผมจ่ายให้เอง”
ฟ้าพราวได้ยินแล้วปรี๊ด เลือดขึ้นหน้า เธอเท้าเอวสองข้างเงยหน้ามองเขาท่าทางขึงขัง “ไม่ต้องมาอวดรวยกับฉันเลยนะ เงินมันหาง่ายนักหรือไง คุณต้องเก็บใบชากี่ใบถึงจะได้เงินแต่ละบาท หรือว่าสมองไหลไปอยู่ที่ตาตุ่มหมดแล้วเลยคิดไม่ได้”
“ด่าผมเหรอ” ภูริดลอยากจะขย้ำคนตัวเล็กให้จมเขี้ยว แสบนักนะที่เอาคำพูดของเขามาย้อนด่าเขา และที่สำคัญ เกิดมาเขาไม่เคยโดนผู้หญิงด่าเรื่องที่จะซื้อของให้มาก่อนเลย ที่ผ่านมามีแต่คนออดอ้อนอยากได้นู่น อยากได้นี่จากเขาทั้งนั้น
“ใช่! ฉันด่าคุณ อย่ามาทำตัวรวยไร้สาระ ฉันไม่ชอบ”
“โอเคๆ ถ้าไม่ซื้ออะไรแล้วก็กลับ”
หญิงสาวเดินนำไปได้สองก้าวแล้วกลับหลังหันมาขออนุญาตสามี “ขอซื้อของในซุปเปอร์หน่อยได้มั้ย ตู้เย็นที่บ้านไม่มีอะไรเหลือเลย”
“ไปสิ” ตอบแล้วก็เดินนำหน้าพาไปยังซุปเปอร์มาร์เก็ต
“คุณชอบกินอะไร ฉันจะได้ซื้อไปทำให้กินถูก” คนเดินตามถามอย่างใส่ใจ
“ผมกินได้หมด ซื้อของที่คุณหญิงชอบไปก็แล้วกัน”
“ไม่ได้สิ อยู่ด้วยกัน กินด้วยกัน จะซื้อแต่ของที่ฉันชอบกินคนเดียวได้ยังไง คุณชอบกินอะไร บอกมาให้ไว อย่าเรื่องมาก”
ภูริดลยอมบอกรายการอาหารที่ตัวเองชอบเพราะรำคาญคนพูดมาก ส่วนฟ้าพราวก็ตั้งใจฟังพร้อมกับหยิบสมาร์ทโฟนออกมากดบันทึกรายการตามที่เขาบอกไปด้วยกันลืม แล้วสุดท้าย ของกินทั้งรถเข็นที่หญิงสาวหยิบมาเต็มรถเข็นก็มีแต่ของชอบของสามีทั้งนั้น