“แบ่งมาให้ฉันช่วยถือบ้างก็ได้” ฟ้าพราวบอกขณะเดินตามภูริดลที่ขนทั้งของใช้แมวและอาหารสด อาหารแห้งนานาชนิดที่ซื้อมาจากซุปเปอร์มาเก็ตเต็มสองมือมาที่รถ
“เดินมาจนถึงรถแล้วค่อยขอช่วยเนี่ยนะ”
“ก็คุณเดินเร็ว กว่าฉันจะเดินตามทัน”
“ขาสั้นก็งี้”
“ฉันตัวเล็กกว่าคุณตั้งเยอะ ก็ต้องขาสั้นกว่าอยู่แล้วป่ะ”
“สูงถึงร้อยหกสิบมั้ยเนี่ย” เขากวาดสายตามองคนตัวเล็กตั้งแต่หัวจรดเท้าเพื่อประเมินความสูง
“อย่าดูถูก” เธอย่นจมูกใส่เขา “ฉันสูงร้อยหกสิบแปด จะดูบัตรประชาชนมั้ย”
“ไม่ต้องๆ ล้วงกุญแจรถแล้วเปิดท้ายรถให้หน่อย เร็วเข้า หนัก” ว่าแล้วก็แอ่นสะโพกด้านขวาให้ภรรยา
ฟ้าพราวสอดมือเล็กเข้าไปในกระเป๋ากางเกง ไล้ผ่านต้นขาที่ตึงแน่น ผิวเนื้อที่เสียดสีกันผ่านผ้าเนื้อบางก่อให้เกิดความร้อนวาบแปลกประหลาด กระเป๋ากางเกงของเขาลึกมาก เธอต้องสอดมือเข้าไปจนมิดข้อมือ แล้วขยับมือยุกยิกควานหากุญแจรถ ปลายนิ้วปัดผ่านบางสิ่งที่เป็นท่อนลำใหญ่หนาแล้วกำแน่นโดยไม่ตั้งใจ
“คุณหญิง...นั่นไม่ใช่กุญแจรถ...” ชายหนุ่มกัดฟันบอกเสียงต่ำพร่า ให้ตายสิ เธอจะมาสะกิดอารมณ์เขากลางลานจอดรถในห้างแบบนี้ไม่ได้
“อร้าย!!!” ฟ้าพราวรีบชักมือออกมาจากกระเป๋ากางเกงของเขาพร้อมกับกำกุญแจรถออกมาด้วย แล้วรีบเดินหนีไปเปิดท้ายรถ สัมผัสนุ่มหนึบและร้อนผ่าวยังติดตรึงอยู่ที่กลางฝ่ามือ ทำเอาใบหน้าของเธอร้อนวาบตามไปด้วย
ภูริดลเอาของทั้งหมดมาวางใส่ท้ายรถแล้วโน้มตัวลงกระซิบที่ข้างหูคนตัวเล็ก “สะกิดผมแล้ว รับผิดชอบผมด้วยนะ”
“ถึงบ้านก่อนได้มั้ย กลางลานจอดรถฉันอาย” เธอต่อรองเสียงแผ่ว
คนที่กำลังมีอารมณ์วาบหวามกลั้นขำแทบไม่อยู่ เธอคิดว่าเขาจะหน้ามืดจับเธอกดตรงนี้เลยหรือไง “รู้เหรอว่าต้องรับผิดชอบยังไง”
ฟ้าพราวยังไม่ทันได้ตอบอะไร เสียงหวานของใครบางคนก็ดังขึ้น
“พี่ดิน”
“อ้าว...ไหม” ภูริดลหันไปทักทายหญิงสาวที่เดินเข้ามาหาอย่างคุ้นเคยกันดี
“ไม่คิดเลยว่าจะเจอพี่ดินที่ห้างแบบนี้”
“ทำไม? ห้างนี้เขาห้ามชาวไร่มาซื้อของเหรอ” ชายหนุ่มถามด้วยรอยยิ้มล้อเล่น และเพราะมัวแต่จ้องหน้าคู่สนทนาอยู่จึงไม่เห็นว่าภรรยาที่ยืนเยื้องอยู่ด้านหลัง มองเขาตาค้าง อ้าปากหวอ ที่เห็นเขายิ้มเป็นเหมือนคนอื่นด้วย
“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ” ม่านไหมรีบพูดแก้ “ก็ปกติพี่ดินไม่ชอบเข้าเมือง ไม่ชอบเดินห้าง แล้ววันนี้นึกยังไงถึงมาได้”
“คุณดินพาฉันมาซื้อของค่ะ” ฟ้าพราวชิงตอบขึ้นมาก่อน แล้วก้าวขึ้นมายืนคู่กับสามี
“อ้อ...ขอโทษค่ะ ฉันไม่เห็นว่าพี่ดินมีเพื่อนมาด้วย”
“ฉันไม่ใช่เพื่อนของคุณดินค่ะ ฉันชื่อฟ้าพราว เป็นภรรยาของคุณดิน” ฟ้าพราวย้ำคำว่า ‘ภรรยา’ เสียงหนัก แล้วปรายตามองสามีที่ยืนคุยกับผู้หญิงอื่นโดยทำเหมือนเธอเป็นหัวหลักหัวตออย่างไม่พอใจ
“ภรรยาเหรอคะ” ม่านไหมทวนคำอย่างไม่แน่ใจ แล้วมองสบตากับ ภูริดลเป็นเชิงถามว่า ที่ฟ้าพราวพูดเป็นความจริงหรือเปล่า
ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอนิดหนึ่งแล้วโอบเอวเล็กของภรรยาเอาไว้หลวมๆ “ฟ้าเป็นเมียพี่จริงๆ เราเพิ่งแต่งงานกันเมื่อวานนี้”
“พี่ดินแต่งงานแล้ว ทำไมไหมไม่เห็นรู้เรื่อง”
“มันกะทันหันน่ะ นี่ก็ไม่มีใครรู้ นอกจากคนในครอบครัว”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะคุณไหม” ฟ้าพราวฉีกยิ้มทักทายม่านไหมตามมารยาท ปกติเธอไม่ใช่คนเสียมารยาทกับใครแบบนี้ แต่สำหรับผู้หญิงคนนี้ ฟ้าพราวมองออกว่าเธอมี ‘ซัมติง’ กับภูริดล
“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ ฉันทำรีสอร์ตอยู่ติดกับไร่ชาของพี่ดิน ถ้าว่าง เชิญคุณฟ้าไปเที่ยวที่รีสอร์ตนะคะ”
“ถ้าว่างจะแวะไปค่ะ” ตอบรับเสียงราบเรียบ แล้วหันไปยิ้มหวานให้สามี จงใจวางมือทาบที่แผงอกของเขาอย่างแสดงความเป็นเจ้าของ “ฉันหิวแล้ว เรารีบกลับบ้านไปทำอะไรกินกันดีกว่านะคะ”
“ผมก็ ‘หิว’ เหมือนกัน หิวจนจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว” ภูริดลพูดคำว่าหิวด้วยน้ำเสียงเซ็กซี่แบบที่ฟ้าพราวรู้ดีว่าเขาหมายความว่ายังไง “ถึงบ้านแล้วผมขอกินแบบจัดหนักเลยนะ”
“ค่ะ...กินให้เต็มที่ไปเลยค่ะ” ฟ้าพราวยิ้มแหย เพิ่งรู้ตัวว่าเดินเกมผิด
ฟ้าพราวนั่งเงียบมาตลอดทางตั้งแต่ออกจากห้างสรรพสินค้า จนกระทั่งรถของภูริดลแล่นเข้ามาจอดที่หน้าบ้านพักในไร่
“เป็นอะไร นั่งหน้าหงิกมาตลอดทาง” ชายหนุ่มถามเสียงแข็งแบบรำคาญมากกว่าห่วงใยแล้วเดินลงไปเปิดท้ายรถเพื่อจะขนของเข้าบ้าน
ฟ้าพราวเดินตามไปช่วย “คุณมีผู้หญิงทั้งหมดกี่คน”
“ถามทำไม”
“ฉันจะได้เคลียร์ถูก”
“เคลียร์อะไร” ภูริดลหันมามองหน้าคนตัวเล็กอย่างงงๆ
“ก็เคลียร์ผู้หญิงพวกนั้นออกจากชีวิตคุณน่ะสิ ฉันต้องทำให้คุณลืมหม่อมก้อยให้ได้ แล้วยังต้องคอยกันคุณไหมอะไรนั่นให้อยู่ห่างๆ คุณอีก แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว” หญิงสาวถอนหายใจพรืดแล้วเงยหน้าขึ้นมองสำรวจใบหน้าคมคร้ามที่เต็มไปด้วยหนวดเคราของสามี “หน้าตาก็ไม่เห็นจะหล่อเลย ทำไมผู้หญิงเยอะจัง”
“หน้าตาไม่ดี แต่ลีลาเด็ดมาก” หนุ่มชาวไร่บอกด้วยแววตาวาววับแล้วก้มหน้าลงจุ๊บริมฝีปากภรรยาอย่างรวดเร็วครั้งหนึ่ง “รีบขนของเข้าบ้าน ผมหิว อยากกินเมียใจจะขาดอยู่แล้ว”
“ผู้ชายบ้าอะไร หื่นได้ตลอดเวลา” ฟ้าพราวบ่นอุบอิบแล้วหันไปหยิบของออกจากท้ายรถ เธอเจอถุงใส่ของใบเล็กที่เธอไม่ได้เป็นคนซื้อมาจึงหยิบขึ้นมาเปิดดู เห็นว่าของข้างในเป็นกล่องสี่เหลี่ยมขนาดเล็กสีสันสดใสดูคล้ายกล่องขนมหลายกล่อง บางกล่องเป็นรสสตอร์เบอร์รี่ บางกล่องเป็นรสช็อกโกแลต และมีอีกหลายรสชาติ รวมกันเป็นสิบกล่องได้
“นี่ขนมอะไร คุณชอบกินขนมจุบจิบแบบนี้ด้วยเหรอ”
“ไม่เคยเห็นเหรอ” ถามแล้วจ้องหน้าหญิงสาวตรงหน้าคล้ายจับพิรุธ ถ้าไม่ไร้เดียงสาถึงขนาดไม่รู้จักถุงยางอนามัยจริงๆ เธอก็แอ๊บแบ๊วตีหน้าซื่อได้เนียนมาก
“ไม่เคย แต่ดูน่ากินดี” ฟ้าพราวหยิบกล่องที่เป็นรสช็อกโกแลตขึ้นมาดม
“คืนนี้คุณได้กินแน่ จะให้กินครบทุกรสเลย” ว่าแล้วก็เลือกหิ้วของหนักๆ เดินนำเข้าไปในบ้าน ทิ้งของเบาๆ ไว้ให้ภรรยาขน “ตามมาให้ไวเลยคุณหญิง ผัวหิวจนจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว”
ฟ้าพราวยังติดใจ ‘ขนม’ น่ากินที่อยู่ในมือจึงพลิกหลังกล่องดูเผื่อว่าจะมีคำอธิบายว่าเป็นขนมอะไร พอรู้ว่าไม่ใช่ขนม แต่เป็นถุงยางอนามัย หญิงสาวก็แทบจะร้องกรี๊ดด้วยความอับอาย ยิ่งคิดถึงคำพูดของเขาที่บอกว่าจะให้กินให้ครบทุกรสก็ยิ่งอยากวิ่งหนีออกจากไร่ไปเลย
กินครบทุกรสในคืนเดียวได้จุกตายกันพอดี!