หนีงานแต่งงานครั้งนี้กว่าจะหนีออกมาจากคฤหาสน์ได้ สองพี่น้องก็เลือดตาแทบกระเด็น กว่าจะหนียามเฝ้าที่ผลัดกันเฝ้าเป็นเวรยาม พี่ชายเขาถึงกลับต้องแต่งหญิงเพื่อทำทีว่าเป็นเธอแล้วล่อการ์ดไปอีกทาง ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นอย่างไร เมื่อทางสะดวกเธอจึงรีบวิ่งออกมาโบกรถแท็กซี่แถวนั้นไปขึ้นเครื่องที่สนามบิน
สนามบิน สุวรรณภูมิ ประเทศไทย
“อ่า~ อากาศร้อนจังเลยนะ” เธอร้องบอกเมื่อเปิดต้องประทะกับไอแดดของประเทศที่อยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร
หญิงสาวมองซ้ายขวา ที่นี้เป็นระเบียบเรียบร้อยดีจัง มีการทำคิวให้รถแต่ละคันนักเดินทางก็แค่เดินตามเข้าซองเพื่อขึ้นรถ ไม่ต้องโบกรอ มากิเดินไปตามคิวที่เธอได้ คนขับเดินมาช่วยเธอเอาของใส่ไว้ท้ายรถ ก่อนจะขึ้นมาประจำตำแหน่งแล้วหันมาคุยด้วยท่าทางเป็นมิตร
“เฮลโล่ ๆ แวยูโก” สวัสดี จะไปไหน
“ซาหวัดดีค่า” เธอกล่าวทักทายเป็นภาษาไทยสำเนียงเปร่ง ก่อนที่แม่เธอจะเสียแม่ได้สอนเธอและพี่พูดอ่านเขียนจนเกือบคล่องแต่พอแม่เสียเธอก็ไม่ได้ฝึกพูดไทยกับใครอีกแต่ก็พอจะคุ้นคำบางคำอยู่ “โกเฮีย ๆ” ก่อนจะชี้ไปที่โทรศัพท์จิ้มให้คนขับดู
ลุงคนขับเหลือบมองแล้วขมวดคิ้ว ขอโทรศัพท์หญิงสาวมาซูมเข้าซูมออก ปากบ่นเป็นภาษาบ้านเกิด
“ยุไสน้อ ป๊าดด” ลุงคนขับคืนโทรศัพท์ก่อนจะพยักหน้าทำท่าโอเคให้หญิงสาวก่อนที่รถจะเคลื่อนตัวออกไปช้า ๆ มากิขึ้นรถมาได้เธอก็ทอดสายตาไปที่ข้างทาง บ้านเมืองประเทศไทยไม่ได้พัฒนาเท่าญี่ปุ่นแต่ก็ถือว่ามีความเจริญพอตัว ตึกรามบ้านช่องมากมายผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด
หญิงสาวถอนหายใจ เธอจะหนีพ่อตัวเองไปได้สักเท่าไหร่กันเชียว แล้วตอนนี้ยามาโมโตะจะเป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้ ถ้าโดนโอโต้ซังจับได้...คงจะน่วมน่าดู
“ดูยูโนซัมไทย” ลุงคนขับรถชวนคุย
มากิเลิกสนใจวิวข้างทางก่อนจะหันมาถาม “ห๊ะ อ่า..คะ ?”
ลุงคนขับมองเธอถามกระจก “อ่า...สปีคไทย ยูโน้ว”
มากิพอจะเดาได้ว่าเขาคงถามว่าเธอพูดไทยได้หรือไม่
“ฉันพูดได้นิดน่อยค่ะ” เธอบอกเป็นภาษาไทยสำเนียงเปร่ง
“เอ้ย เก่ง ๆ ใครสอนครับเนี่ย”
“แม่ค่ะ” เธอบอกไป ไม่ได้อยากต่อบทสนทนา แต่ก็ไม่ได้ทำท่าว่าจะรำคาญคนชวนคุย
“เหรอครับ แล้วนี่มาเที่ยวเหรอ”
“อ่อ...เยส มา..มาเที่ยว ไอ..อ่อ เพลส เอนี๊ ?” เธอทำท่าว่าเป็นคนอ่อนภาษาแล้วถามเขาเรื่องสถานที่เที่ยวซึ่งลุงขับแท็กซี่ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง พูดน้ำไหลไฟดับภาษาอังกฤษปนภาษาไทยบอกว่ามาเที่ยวไทยควรไปที่ไหนบ้าง
มากิฟังบ้างไม่ฟังบ้าง พยักหน้ารับบ้างเหมือนเข้าใจทั้งที่เธอจับใจความได้ไม่กี่ที่ จะให้ไปเที่ยวครบตามที่ลุงบอก เธอคงโดนหิ้วปีกลากกลับญี่ปุ่นในเร็ววัน
นั่งฟังลุงคนขับโม้ไปไม่เท่าไหร่ก็ถึงที่หมาย เธอลงมาจากรถลุงคนขับพอเห็นว่าเป็นบ้านหรูก็รีบลงมาช่วยเอากระเป๋าลงหวังว่าการช่วยครั้งนี้จะได้ค่าทิปน้องจากค่ารถ
หญิงสาวยื่นแบงค์สีเทาให้สองใบ
“อันนี้...” คนขับลากเสียงยาว
มากิเอียงคอ เขาต้องการอะไร เธอเหลือบมองมิเตอร์
อ้อ
มือเรียวหยิบกระเป๋าเงินขึ้นมาก่อนจะหยิบแบงค์สีเทาจากมือกร้านแดดกลับมาหนึ่งใบใส่เข้ากระเป๋าเงินตัวเอง แล้วลากกระเป๋าไขกุญแจเข้าบ้านไปไม่ได้สนใจคนขับแท็กซี่อีก
ด้านคนขับแท็กซี่ได้แต่ยืนอึ้ง เขาไม่น่าอ้ำอึ้งเสียแต่ทีแรก เดินกลับเข้ามาในรถมองมิเตอร์ที่ค่ารถครั้งนี้ เก้าร้อยห้าสิบบาท
เด็กสาวเมื่อกี้ให้ทิปมาห้าสิบบาท ทั้งที่บ้านหรูใหญ่โต
“กูน้อออ ผู้โดยสารขี้ตืดสุมื้อ เฮ้ออ” ลุงคนขับบ่น แต่กระนั้นมือกร้านก็หยิบแบงค์พันที่ได้มาตบไปทั่วหน้าคอนโซนรถเบา ๆ เป็นการเรียกทรัพย์ “หมาน ๆ เฮง ๆ”
หญิงสาวลากกระเป๋าเข้ามาในตัวบ้านทาวน์เฮาส์หรูสามชั้น ตกแต่งสไตล์มูจิ เธอเดินไปที่ครัวเปิดตู้เย็นก็เห็นว่ามีเพียงน้ำเปล่าเท่านั้นที่แช่เอาไว้
ที่นี่น่าจะเป็นบ้านที่ยามาโมโตะซื้อเอาไว้แล้วคอยจ้างคนที่ไทยมาดูแลเป็นแน่ เธอหยิบน้ำแร่ออกมาก่อนจะเดินกลับมานั่งที่โซฟาหน้าทีวี หยิบรีโมตมาเปิดช่องไปมาแก้เบื่อ ก่อนจะเจอช่องของญี่ปุ่นเธอจึงหยุดเปลี่ยนช่อง
มากิดื่มน้ำแร่ไปได้ครึ่งขวดเธอก็วางลงที่โต๊ะ หญิงสาวหลับตาลงเพื่อพักสายตา เธอเหนื่อยมาทั้งวัน การได้อยู่กับตัวเองสงบ ๆ ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี หญิงสาวปล่อยให้ความเงียบชำระล้างความอ่อนเพลียเป็นเวลาหลายชั่วโมงที่ร่างระหงนอนงีบไปในท่านั่ง ก่อนที่เธอจะค่อย ๆ รู้สึกตัวขึ้น เมื่อมองไปรอบ ๆ ทาวน์เฮาส์ก็เริ่มมืดแล้วเพราะด้านนอกท้องฟ้าเปลี่ยนสีเป็นสีส้มแล้ว
มากิเดินไปเปิดไฟเดินดูระบบของบ้าน เมื่อเรียนรู้ระบบเรียบร้อยเธอก็กลับมานั่งที่ห้องนั่งเล่นตามเดิมหญิงสาวเอื้อมือไปลากกระเป๋าเดินทางของตัวเองออกมาพลางถอนหายใจ
เสื้อผ้าที่เอามาก็ไม่ได้เยอะอะไร ของใช้ส่วนตัวก็หยิบมาได้ไม่ครบ เรียกว่ารีบเสียจนลืมอะไรหลายอย่าง หญิงสาวเลิกสนใจกระเป๋าเดินทางเมื่อโทรศัพท์ร้องเตือนว่ามีข้อความเข้ามา มากิรีบเปิดเช็คหวังว่าจะเป็นพี่ชายของเธอ
Yamamoto : ถึงหรือยัง
พี่ชายเธอจริง ๆ ด้วย มากิยิ้มรีบพิมพ์ข้อความตอบกลับ
Yumaki : ถึงนานแล้ว เผลอหลับ
Yamamoto : พรุ่งนี้พี่จะส่งแม่บ้านไปให้นะ
Yumaki : บ้านสะอาดแล้ว ยังไม่ต้องก็ได้
Yamamoto : บ้านซื้อเอาไว้นานแล้ว โอโต้ซังก็ไม่รู้ ปลอดภัยไปได้สักพัก
มากิเม้มริมฝีปาก สักพักนี่มันนานแค่ไหน
Yumaki : แล้วโอะนี่จังปลอดภัยมั้ย
Yamamoto : ปลอดภัยหายห่วง งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้จะรีบโอนเงินให้ใช้ก่อนก้อนนึงนะ ถ้าโอนให้เยอะ โอโต้ซังจะสงสัย
Yumaki : ขอบคุณนะพี่
Yamamoto : ดูแลตัวเองดี ๆ ด้วย
มากิกดปิดหน้าจอโทรศัพท์ก่อนจะขึ้นชั้นบนไปอาบน้ำเตรียมเข้านอน บางที...เธออาจจะไปเที่ยวแบบที่ลุงแท็กซี่แนะนำ...