“ไหนบอกว่าจะนั่งรออยู่ที่เดิม ไม่ไปไหน”
เสียงทุ้มต่ำของเดย์ดังขึ้นจากด้านหลัง ทำให้คาริสาสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะรีบหันกลับไป
“เอ่อ… คือ…” เธอยิ้มแห้ง “พอดีริสาชนกับน้องปลาวาฬค่ะ แล้วปลาวาฬก็หลงกับแม่… ริสาเลยว่าจะพาไปฝ่ายประชาสัมพันธ์ แต่แวะซื้อไอติมกินก่อนนิดนึง”
เดย์มองภาพตรงหน้า ผู้หญิงในชุดเกาะอกสีดำ กางเกงยีส์เอวสูงถือไอศกรีมอยู่ในมือ ข้าง ๆ มีเด็กชายตัวเล็กยืนเลียไอติมอย่างตั้งใจ ภาพมันอบอุ่นจนเขาอดยิ้มมุมปากไม่ได้
แต่ยังไม่ทันที่เขาจะพูดอะไร เสียงเล็ก ๆ ก็ดังขึ้นตัดบท
“พี่คนสวยครับ…” เด็กชายเงยหน้าขึ้นมองด้วยตาแป๋ว “พี่ชายคนนี้เป็นแฟนพี่คนสวยเหรอครับ?”
คาริสาชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะยิ้มขำ “ดูเหมือนเหรอปลาวาฬ?”
“ใช่ครับ!” เด็กชายพยักหน้าหงึก ๆ อย่างมั่นใจ “ก็พี่สาวสวย ส่วนพี่ชายก็หล่อ พี่สองคนต้องเป็นแฟนกันแน่ ๆ เลยครับ!”
คาริสาหัวเราะออกมาทันที “ฮ่า ๆ ใช่แล้วปลาวาฬ ตาถึงมากเลยนะเนี่ย~ พี่คนสวยกับพี่ชายคนนี้เป็นแฟนกันจริง ๆ”
เดย์ถึงกับกลอกตา กัดฟันพูดเสียงต่ำ “พูดอะไรของเธอ… จะโกหกเด็กไปทำไม”
คาริสาหันมายิ้มเจ้าเล่ห์ “เฮียเดย์ก็เล่นตามน้ำหน่อยสิ เดี๋ยวเด็กเสียใจนะ”
เขาขมวดคิ้วแต่สีหน้ากลับปนขำ “เธอนี่มัน…” ก่อนจะถอนหายใจยาว “ก็เอาเถอะ ตามใจเลย”
“เย้~!” ปลาวาฬกระโดดดีใจเล็ก ๆ มือเล็ก ๆ ถือไอติมไว้แน่น “ปลาวาฬทายถูกด้วย!”
คาริสาหัวเราะเบา ๆ พลางลูบหัวเด็กน้อย “เก่งมากครับ เด็กฉลาดของพี่คนสวย”
เดย์มองภาพตรงหน้า หญิงสาวที่หัวเราะเสียงใส พร้อมรอยยิ้มอบอุ่นขณะลูบหัวเด็กชาย ภาพนั้นเรียบง่ายแต่กลับทำให้หัวใจเขาอุ่นขึ้นอย่างบอกไม่ถูก
“ทายถูกแบบนี้ต้องมีรางวัลแล้วสิ~”
คาริสาทำท่าคิดพลางยกนิ้วแตะคาง ดวงตาเป็นประกาย “ว่าแต่… รางวัลอะไรดีน้า?”
ปลาวาฬทำตาโต ก่อนจะชี้นิ้วเล็ก ๆ ไปยังตู้คีบตุ๊กตาไม่ไกล “ปลาวาฬอยากได้ตุ๊กตาในตู้นั่นครับ!”
คาริสาหันไปมองตาม ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ “โอ๊ะ! นั่นมันตุ๊กตาปลาวาฬเลยนี่นา~”
เธอหันมายิ้มให้เด็กชาย “งั้นเดี๋ยวพี่คนสวยกับพี่ชายคนนี้… จะช่วยคีบให้นะครับ”
“จริงเหรอครับ!?” เด็กชายเงยหน้าขึ้นถามตาเป็นประกาย
“จริงสิ~ รับรองปลาวาฬได้ตุ๊กตาไปนอนกอดแน่นอน”
คาริสาพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ พลางจับมือน้อย ๆ ของปลาวาฬแล้วเดินดุ่ม ๆ ไปทางตู้คีบตุ๊กตาอย่างกระตือรือร้น
เดย์ที่เดินตามหลังมารีบจะเอ่ยห้าม “คาริ—”
แต่ยังไม่ทันพูดจบ หญิงสาวก็พาเด็กน้อยไปยืนหน้าตู้เสียแล้ว เขาจึงได้แต่ถอนหายใจเบา ๆ และเดินตามไปอย่างจำยอม
เสียงเครื่องคีบตุ๊กตาดังแผ่ว ๆ สลับกับเสียงหัวเราะใสของเด็กน้อยและเสียงเชียร์ของคาริสา
“อีกนิดนึงปลาวาฬ! เอ้า ๆ เกือบแล้ว!”
“อื้อ… มันไม่คีบเลยครับพี่คนสวย…”
เวลาผ่านไปหลายนาที ทั้งคู่พยายามคีบอยู่หลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ ตุ๊กตาปลาวาฬตัวนุ่มยังคงวางอยู่ในตู้เหมือนเดิม
ใบหน้ากลมเล็กเริ่มย่นลง เสียงสะอื้นเบา ๆ ดังขึ้น “ฮึก… ปลาวาฬอยากได้ตัวนั้น…”
คาริสารีบก้มลงปลอบ “ไม่ร้องนะ เดี๋ยวพี่ลองอีกทีก็ได้”
แต่ก่อนที่เธอจะหยอดเหรียญ เสียงทุ้มต่ำของใครบางคนก็ดังขึ้นจากด้านหลัง
“มานี่… ฉันคีบเอง”
คาริสาหันขวับกลับไปมอง “เฮียเดย์?”
เขาก้าวเข้ามายืนข้าง ๆ ด้วยท่าทีจริงจังเกินกว่าที่เธอคิดไว้ มือใหญ่รับเหรียญจากเธอแล้วค่อย ๆ หยอดลงตู้ เสียงเครื่องเริ่มทำงานอีกครั้ง
เดย์โน้มตัวลงเล็กน้อย สายตานิ่งจ้องตุ๊กตาในตู้พลางขยับคันโยกอย่างตั้งใจ
คาริสาแอบยืนมองอยู่ข้าง ๆ พลางอมยิ้ม “เฮียจริงจังเหมือนจะไปจับผู้ร้ายเลยนะ”
“เงียบก่อนสิ เดี๋ยวเสียจังหวะ” เขาตอบเสียงเรียบ ดวงตายังไม่ละจากเป้าหมาย
ปลาวาฬยืนเกาะกระจกแน่น “พี่ชายสู้ ๆ ครับ!”
เสียงเครื่องคีบดัง แกร๊ก… แกร๊ก…
คีบเหล็กค่อย ๆ หนีบเข้าหาตุ๊กตาปลาวาฬตัวใหญ่ จังหวะนั้นทุกคนแทบกลั้นหายใจ
ตุ๊กตาขยับ… ลอยขึ้นมา… แล้วตกลงตรงช่องพอดี
“ว้ากกกก! ได้แล้ววว!” ปลาวาฬร้องลั่นด้วยความดีใจ กระโดดโลดเต้นจนคนแถวนั้นหันมามอง
คาริสาหันไปยิ้มกว้าง “เฮียเดย์! เฮียทำได้จริง ๆ ด้วย!”
เดย์แค่ยักไหล่เบา ๆ “ก็ไม่เห็นจะยาก…” แต่แววตาของเขากลับเต็มไปด้วยความอ่อนโยนเมื่อเห็นทั้งคู่หัวเราะ
ปลาวาฬรีบวิ่งไปเก็บตุ๊กตาแล้วโผเข้ากอดเดย์ “ขอบคุณครับพี่ชาย! ปลาวาฬดีใจมากเลย!”
เดย์ชะงักไปนิด แต่ก้มลงลูบหัวเด็กเบา ๆ “ไม่เป็นไรครับ”
“ดีใจด้วยสิ~”
คาริสาพูดเสียงสดใส พลางยิ้มกว้าง ก่อนจะโน้มตัวเข้าหาเดย์อย่างตั้งใจจะกอดด้วยความดีใจ
แต่ยังไม่ทันได้แตะตัว เสียงทุ้มเรียบของเขาก็ดังขึ้นพร้อมกับปลายนิ้วชี้ที่แตะหน้าผากเธอเบา ๆ
“หยุด”
แรงผลักไม่ได้แรงมาก แค่พอให้เธอชะงัก แต่กลับทำให้คาริสาเงยหน้ามองเขาตาค้าง ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยรอยขำปนแกล้ง
“หวงตัวเหรอ?” เธอแกล้งถามยิ้ม ๆ
เดย์ยักคิ้วเล็กน้อย “ป้องกันไว้ก่อน เธอน่ะ… อันตรายกว่าโจรห้าร้อยเสียอีก”
คาริสาเบะปากน้อย ๆ ก่อนจะบ่นพึมพำเสียงเบา
“แย่จัง… อดกอดคนหล่อเลย”
เขาเลิกคิ้วขึ้น “ว่าไงนะ?”
“เปล่า~” เธอยิ้มกลบเกลื่อน ก่อนจะรีบหันไปหาปลาวาฬที่ยังยืนกอดตุ๊กตาแน่นอยู่ “ปลาวาฬ! ได้ของแล้ว เราไปหาแม่กันดีกว่าเนอะ”
เดย์มองตามแผ่นหลังของเธอที่เดินนำไปข้างหน้า พลางส่ายหัวน้อย ๆ แต่รอยยิ้มมุมปากก็ผุดขึ้นโดยไม่รู้ตัว
เธอนี่มัน… ตัวป่วนชัด ๆ
ไม่นาน ทั้งสามคนก็เดินมาถึงฝ่ายประชาสัมพันธ์
คาริสาเดินจับมือปลาวาฬเข้ามาด้วยรอยยิ้ม แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร เสียงผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังขึ้นอย่างดีใจสุดขีด
“ปลาวาฬ!”
แม่ของเด็กชายรีบวิ่งเข้ามาก่อนจะทรุดตัวกอดลูกไว้แน่น
“อื้ออ… แม่ครับ” เด็กชายร้องเบา ๆ พลางยิ้มทั้งน้ำตา
“หายไปไหนมาลูก แม่ออกมาจากห้องน้ำก็ไม่เจอแล้ว รู้ไหมแม่ตกใจหมดเลย”
แม่ของปลาวาฬพูดเสียงสั่นด้วยความโล่งใจ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองคาริสา
“ขอบคุณมากเลยนะคะ ที่ช่วยลูกชายฉันไว้ ขอบคุณจริง ๆ ค่ะ”
คาริสาส่งยิ้มอบอุ่น “ไม่เป็นไรเลยค่ะ แค่บังเอิญเจอกัน แล้วน้องปลาวาฬก็น่ารักมาก ๆ ด้วย”
“พี่สาวคนสวยครับ” เสียงเล็ก ๆ ดังขึ้นอีกครั้ง ปลาวาฬเดินมาหาเธอพร้อมกวักมือเบา ๆ “พี่คนสวยย่อลงมาหน่อยได้ไหมครับ”
คาริสาหัวเราะก่อนจะย่อตัวลงตามคำขอ
ยังไม่ทันตั้งตัว…
จุ๊บ!
ริมฝีปากเล็ก ๆ ของเด็กชายแตะแก้มเธอเบา ๆ
คาริสาชะงักไปหนึ่งวินาที ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ ขณะที่แม่ของปลาวาฬรีบร้องเสียงหลง
“ปลาวาฬ! ไปหอมแก้มพี่เขาได้ยังไงลูก! ขอโทษแทนลูกชายด้วยนะคะ!”
คาริสาส่ายหน้าแล้วยิ้ม “ฮ่า ๆ ไม่เป็นไรเลยค่ะ น่ารักออก”
ปลาวาฬพูดเสียงใส “ก็พี่คนสวยช่วยปลาวาฬไว้ แถมยังเลี้ยงไอติม พาไปคีบตุ๊กตาอีก… พี่คนสวยใจดี ปลาวาฬชอบพี่คนสวยครับ!”
คาริสาหัวเราะอย่างเอ็นดู “พี่คนสวยก็ดีใจเหมือนกันนะ ที่ได้เจอปลาวาฬ”
เด็กชายยิ้มกว้าง ก่อนจะพูดต่อด้วยความมั่นใจเต็มร้อย “โตขึ้นปลาวาฬจะแต่งงานกับพี่คนสวยครับ!”
คาริสาชะงักค้าง ส่วนเดย์ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็ยกมือขึ้นไอเบา ๆ
“อะแฮ่ม…” เสียงทุ้มดังขึ้นอย่างนิ่งเรียบ “พี่คนสวยเขามีแฟนแล้ว”
ปลาวาฬหันมาทำหน้ายู่ทันที “มีแล้วก็เลิกได้ครับ!”
“ปลาวาฬ!” แม่ของเด็กชายร้องเรียกเสียงหลง ก่อนจะหันไปยิ้มเก้อ ๆ ให้ทั้งสอง “ขอโทษด้วยนะคะ ลูกพูดไม่รู้เรื่องเลย…”
คาริสาหัวเราะเบา ๆ “ไม่เป็นไรจริง ๆ ค่ะ เด็กน่ารักจะตาย”
เธอก้มลงลูบหัวเด็กชายเบา ๆ “งั้นพี่คนสวยไปก่อนนะครับ ปลาวาฬ”
“ครับ! พี่คนสวยต้องมาหาปลาวาฬอีกนะ!”
คาริสายิ้ม “ได้สิ ถ้ามีโอกาสนะ”
เธอหันไปสบตาเดย์ที่ยืนมองอยู่ ทั้งคู่เพียงส่งรอยยิ้มบาง ๆ ให้กัน ไม่มีคำพูด แต่สายตากลับอบอุ่นกว่าทุกคำที่พูดได้