ผมมองไปบริเวณทางเข้าห้องน้ำก็เห็นว่าน้ำเดินออกมาแล้ว ผมเลยเดินเข้าไปหาเธอเพื่อจะเดินไปส่งเธอที่รถ ก่อนออกจากโต๊ะไปเธอทำท่าว่าไม่ชอบใจที่ผมให้ความสนใจกับผู้หญิงอื่น
“น้ำ” ผมเดินเข้าไปดึงแขนเธอ
“ดิน! น้ำตกใจหมดเลย” เธอขืนตัวเองไว้คงเพราะกำลังตกใจ
“ทำไมรีบกลับ เพิ่งมาได้มานานเองนะ” ผมอยากรั้งให้เธออยู่เที่ยวด้วยกันในคืนนี้
“น้ำว่าดึกมากแล้ว พรุ่งนี้น้ำต้องไปซื้อของ น้ำกลับก่อนดีกว่า” เธอตอบผมหน้านิ่งและยืนยันว่าจะกลับจริงๆ ด้วย
“เรานึกว่าน้ำเคืองเรื่องที่เราพูดซะอีก” เธอเม้มปากและขมวดคิ้วอย่างกำลังใช้ความคิด
“ไม่ใช่แบบนั้นหรอกดิน น้ำกลับก่อนนะ” เธอปฏิเสธพร้อมกับบิดแขนออกจากมือของผมและเดินจากไป
“น้ำ! เดี๋ยวก่อน” หลังจากลังเลอยู่ไม่นาน ผมก็ตามเธอไป และเห็นว่าเธอกำลังสะบัดแขนออกจากมือของผู้ชายคนหนึ่ง
“กรุณาปล่อยมือด้วยค่ะ นี่ปล่อยนะ” เธอพยายามแกะมือของผู้ชายคนนั้นออกจากแขนของตัวเอง
“เห้ย! ปล่อยมือเดี๋ยวนี้เลยมึง” ผู้ชายคนนั้นมองหน้าผม แต่ก็ยังไม่ยอมปล่อย
“มึงมายุ่งอะไรด้วย เรื่องของ......” ผมไม่รอให้มันพูดจบก็ปล่อยหมัดกระแทกใส่หน้าของมันจนล้มคว่ำไปกองกับพื้น น้ำรีบวิ่งมากอดผม ตัวเธอสั่นมาก นั่นยิ่งทำให้ผมโกรธ อยากจะเข้าไปซ้ำแต่ติดที่เธอกอดเอวผมไว้แน่น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้คนแถวนั้นแตกตื่นกันไปหมด พร้อมกันกับที่พนักงานรักษาความปลอดภัยของร้านเข้ามาระงับเหตุ
พนักงานรักษาความปลอดภัยคนหนึ่งเชิญพวกเราเข้าไปพบเจ้าของคลับพร้อมกับหิ้วไอ้ขี้เมามาด้วย ไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะมีเรื่องกับคนเมา เจ้าของคลับแนะนำตัวว่าชื่อ ‘พี่โจ้’ พี่โจ้ให้เรานั่งรอ แล้วเปิดกล้องวงจรปิดดู หลังจากเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด พี่โจ้ขอโทษเราสองคนและห้ามไม่ให้ไอ้ขี้เมาคนนั้นมาใช้บริการที่คลับของเขาอีก เมื่อออกมาจากห้องของพี่โจ้ผมก็พบเพื่อนของเราทั้งคู่รออยู่ที่หน้าห้อง น้ำอาการดีขึ้นมาก เธอคงตกใจมากจริงๆ
“เป็นยังไงมั่งน้ำ หนึ่งบอกให้รอไปพร้อมกันก็ไม่เชื่อ” สามสาวเดินเข้ามากอดปลอบเพื่อนของเธอ
“น้ำโอเคแล้ว เมื่อกี้นี้ตกใจมากจริงๆ”
“ต่อไปต้องระวังให้มากและจะต้องไม่ไปเข้าห้องน้ำคนเดียวแบบนี้อีกนะ น้องตกใจมากเลย”
“ผู้ชายคนนั้นคงเมามาก น่ากลัวจริงๆ นุ่มนิ่มเห็นสภาพเค้าเมื่อกี้ยังตกใจเลย”
“กลับกันเถอะ เดี๋ยวเราไปส่ง ส่วนเพื่อนน้ำ เดี๋ยวเพื่อนเราไปส่งเอง” ผมแตะแขนให้เธอเดินไปด้วยกัน
“โอ้ย!” เธอเบ้หน้าเมื่อรู้สึกเจ็บ ผมมองแขนซึ่งเป็นรอยแดงจากฝีมือของผู้ชายคนนั้น เพราะหน้าห้องของพี่โจ้สว่างกว่าในคลับจึงทำให้เห็นรอยนั้นชัดเจน ผมกำมือแน่น อยากจะซัดมันให้หนักกว่านี้จริงๆ
“ไปเถอะ” ผมเปลี่ยนมาโอบไหล่เธอแทน ตบไหล่เธอเบาๆ ให้เธอก้าวเดิน
“น้ำให้เพื่อนขับให้ก็ได้” เธอหยุดเดินเมื่อคิดได้ว่าเธอต้องเอารถกลับด้วย
“เอากุญแจมาให้เรา เดี๋ยวพรุ่งนี้เราขับไปส่งให้ เราเป็นคนชวนน้ำมาอย่างน้อยๆ ให้เราได้แสดงความรับผิดชอบเถอะ” ผมแบมือขอกุญแจรถของเธอ
“ทำอย่างที่ไอ้ดินว่าเถอะ เดี๋ยวพวกเราไปส่งเอง วันนี้แยกย้ายกันกลับไปพักผ่อนเถอะครับ อย่าดื้อเลย” ไอ้เดียวพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าน้ำและเพื่อนๆ ของเธอจะไม่ยอมทำตามที่ผมบอก พร้อมกับดึงแขนบัดดี้ของมันให้เดินตามออกจากร้านไป
ระหว่างทางกลับผมแวะร้านขายยาซื้อยาทาแก้ฟกช้ำให้เธอ คงเพราะผิวเธอบอบบางเกินไปจากรอยที่เป็นจ้ำสีแดงเริ่มเปลี่ยนเป็นสีคล้ำ หลังจากนี้เธอคงใส่เสื้อแขนกุดไม่ได้อีกหลายวัน
“น้ำ” ผมเรียกเธอ อยากชวนคุยให้เธอสบายใจขึ้น
“อืม” เธอตอบเสียงในลำคอ
“เป็นยังไงบ้าง โอเคขึ้นหรือยัง” ผมถามเพราะรู้สึกเป็นห่วง
“โอเค เมื่อกี้แค่ตกใจมากไปหน่อย” เธอถอนหายใจยาว
“แน่ใจนะ”
“จ้า ดินไม่ต้องห่วง” สีหน้าของเธอดูดีขึ้นมาก คงจะหายตกใจแล้วนั่นเอง
“ค่อยสมกับที่เป็นลูกสาวนายทหารหน่อย”
“ไม่มีกฎข้อไหนห้ามไม่ให้ลูกสาวนายทหารตกใจหรือกลัวอะไรพวกนี้นี่นา”
“โอ๋ โอ๋ ขวัญเอ๋ย ขวัญมา ขวัญมาอยู่กับดินนะ” ผมแกล้งหยอกเธอ
“ตลกแล้วดิน มีที่ไหนขวัญมาอยู่กับดิน มีแต่ขวัญมาอยู่กับตัว บ๊องจริงเชียว”
“บ๊องแต่น่ารักนะ”
“ใครเป็นคนบอกไม่ทราบ น้ำไม่เห็นจะเคยได้ยิน” เธอแย้งผมขำๆ เธอคงสบายใจขึ้นแล้วจริงๆ
“ที่หลังอย่าหนีเราแบบนั้นอีกนะ” ผมพูดกับเธอจริงจัง
“น้ำไม่ได้หนี แล้วน้ำก็บอกดินไปแล้วว่าน้ำต้องกลับเพราะพรุ่งนี้น้ำมีธุระ” เธอพยายามอธิบาย แต่น้ำเสียงที่เธอใช้มันบ่งบอกว่างอนผมชัดๆ
“โอเคครับ เอาตามนั้นก็ได้ เราแค่อยากจะบอกว่าถ้าน้ำอยากให้เราทำอะไรก็บอกเราตรงๆ ไม่อยากให้เราไปคุยกับผู้หญิงโต๊ะนั้นก็บอกตรงๆ”
“น้ำไม่ได้บอกว่าไม่อยากให้ดินไปคุยกับคนอื่นซะหน่อย ดินอย่าคิดไปเองสิ”
“ก็แค่เราบอกว่าจะไปคุยกับผู้หญิงโต๊ะนั้น น้ำก็บอกว่าจะกลับเลยนี่ จะให้เราคิดว่ายังไง ถ้าไม่ให้คิดว่าน้ำไม่พอใจ”
“ไม่มีใครชอบใจหรอกนะดินถ้าคนที่เรากำลังคุยด้วยให้ความสนใจกับอีกคนหนะ” เธออุ๊บอิ๊บตอบผม
“คนที่กำลังคุยหรอ” ผมถามล้อเลียนเธอยิ้มๆ
“ไม่ใช่นะ ไม่ใช่แบบนั้น น้ำหมายความว่า เรากำลังคุยกันกำลังเป็นเพื่อนกัน แล้วดินก็จะไปคุยกับคนอื่นทั้งๆ ที่ชวนน้ำกับเพื่อนมาไง มันไม่โอเคที่ดินคุยกับน้ำแล้วก็คุยกับคนอื่นด้วย โอ๊ย! พูดอะไรเนี๊ยะยัยน้ำ น้ำไม่พูดแล้วนะ ดินจะเข้าใจยังไงก็ช่างดินเถอะ” เธอรีบอธิบายแก้ตัวเขินๆ แล้วสุดท้ายก็มาพาลโกรธผมซะงั้น
“นี่คิดกับเราแค่เพื่อนหรอ” ผมแกล้งหยอกเธอ เพราะเธอเขินน่ารักมาก
“เพื่อนสิ เราเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นานเลย ก็ต้องเป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว”
“โอเค เพื่อนก็เพื่อนครับ เพื่อนคนพิเศษ” ผมยิ้มกับท่าทางโกรธแบบไม่จริงจังของเธอ คงจะทั้งโกรธทั้งเขินผมแน่ๆ
“.........” เธอหันหน้าหนีผม แต่ผมก็เห็นเธอแอบอมยิ้ม
“พรุ่งนี้น้ำจะไปซื้อของกี่โมง เดี๋ยวเรามารับ”
“ดินมีธุระที่ห้างเหมือนกันหรอ น้ำว่าจะไปช่วงบ่าย”
“ครับ” ผมตอบเธอสั้นๆ ความจริงผมไม่ได้มีธุระอะไรหรอก แค่อยากไปเป็นเพื่อนเธอแค่นั้น
“ดิน”
“หือ”
“วันนี้...... ขอบคุณนะที่ช่วยน้ำไว้ ไม่งั้นน้ำคงแย่”
“เราต่างหากที่ต้องขอโทษน้ำ ถ้าเราไม่ชวนน้ำมา และไม่ทำให้น้ำโกรธ น้ำคงไม่หนีออกมาแบบนั้น ขอโทษนะครับ” ผมรู้สึกผิดที่ทำให้เธอต้องไปเจอกับเรื่องแบบนั้น
“ถ้าอย่างงั้นเราหายกันนะ”
“ต้องพูดว่าเราดีกันนะต่างหาก”
“โอเค โอเค เราดีกันนะคะ” น้ำยกนิ้วก้อยขึ้นตรงหน้าผมเป็นสัญลักษณ์การทำสัญญาคืนดีกัน
“ครับ เราดีกันนะ” ผมยกนิ้วก้อยเกี่ยวเข้ากับนิ้วของเธอ
“จะถึงแล้วดิน เลี้ยวซ้ายข้างหน้าก็ถึงคอนโดน้ำแล้ว ดินจอดหน้า ‘ยูคอนโด’ ได้เลย น้ำอยู่ที่นี่” เส้นทางนี้ผมจำได้ดีเพราะคอนโดของผมก็อยู่แถวนี้ แต่ที่น่าแปลกใจคือเธอพักใกล้ผมมาก เพียงคนละฝั่งถนนเท่านั้น
“คอนโดเราอยู่ฝั่งตรงข้าม”
“อย่ามาอำ ดินจะบอกว่าพักที่ ‘แอลคอนโด’ ฝั่งโน้นเนี๊ยะนะ” น้ำแปลกใจ แต่ก็ไม่ใช่แค่เธอหรอกที่แปลกใจผมเองก็แปลกใจที่เราพักใกล้กันขนาดนี้
“จริงครับ เราบอกเลขห้องก็ได้ เผื่อน้ำคิดถึงเราจะได้มาหาเราได้”
“เก็บไว้บอกสาวๆ ที่อยากรู้เถอะดิน” เธอบอกผมค้อนๆ
“เราจอดรถไว้นี่แล้วเดินกลับยังได้เลยนะ”
“ถ้าดินจอดรถไว้นี่แล้วรถน้ำจะจอดที่ไหนล่ะ”
“ก็จอดคอนโดเราไง”
“อย่ามาตลก แล้วทำไมน้ำต้องเอารถไปจอดที่คอนโดดินด้วย”
“ก็น้ำไม่มีที่จอดรถไง”
“กวนอีกแล้วนะดิน”
“โอเคครับ ไม่กวนแล้ว พรุ่งนี้เราไปเอารถมาให้น้ำแล้วกันนะ” ผมตั้งใจจะไปเอารถมาคืนเธอวันนี้เลยต่างหาก
“ขอบคุณนะดิน และก็ขอบคุณสำหรับเรื่องวันนี้จริงๆ พรุ่งนี้เจอกันนะคะ”
“ครับ พรุ่งนี้เจอกัน”
“ขับรถดีๆนะ”
“ครับผม”