ไม่มีใครเข้าใจ

3575 Words
"หลีกไปเดี๋ยวนี้ หลีกไป!" หญิงสาวเอ่ยออกมาด้วยความโกรธ เธอแค่ไม่อยากอยู่ไม่อยากที่จะคุยอะไรทั้งนั้น แต่ทำไม ไม่มีใครเข้าใจเธอเหมือนหมอเรศเลยสักคน ไม่มีใครเข้าใจเลยว่าเธอไม่อยากให้เรื่องบ้าๆนั่นเกิดขึ้นเลยสักนิด "ไม่ได้ครับคุณหนู ผมทำตามคำสั่งของนายใหญ่ ขอโทษจริงๆครับคุณหนู" ถิงถิงยังไม่ลดละความพยายาม แค่เธอไม่อยากอยู่ จะอะไรกับเธอนักหนา เกิดมาเธอไม่เคยหงุดหงิดอะไรได้ขนาดนี้เลย เธออยากจะออกไปให้ไกลจากบ้านเลย เธอทีจะหนีออกไปด้วยซ้ำ แต่เพราะเธอรู้นิสัยของบิดาของเธอดี ว่าไม่ว่าเธอจะหนีไปไหนยังไงเธอก็ไม่มีทางไปรอด "ทำตัวให้มันดีๆ กลับเข้าไปในบ้าน พ่อกับคุณเคนมีธุระจะคุยกัน และธุระนี้ก็เกี่ยวกับแกโดยตรง" เมื่อถิงถิงไม่มีทางเลือก เธอก็เลยเลือกที่จะเดินกลับเข้าไป แน่นอนว่าสีหน้าของเธอบ่งบอกได้ชัดเจนว่าเธอไม่อยากที่จะอยู่เลยสักนิด ก่อนที่เธอจะหย่อนสะโพกนั่งลงบนโซฟา  แล้วตามด้วยพ่อของเธอและะธีระเดินตามเข้ามา ก่อนที่บิดาจะนั่งข้างๆเธอ โดยที่ธีระนั่งที่เก้าอี้ที่อยู่ไม่ไกลจากเธอนัก สายตาของเธอไม่ได้ทอดสายตามองไปทางเขาเลยแม้แต่น้อย ธุระครั้งนี้เธอรู้อยู่แล้วว่ามันคือการดูตัว "สวัสดีครับคุณเคน คราวนี้ได้เห็นลูกของอาสักทีนะ" พ่อของเธอยกมือไหว้คนที่อายุน้องกว่าอย่างธีระ ไหว้อย่างนอบน้อม โดยที่ธีระไม่ได้ไหว้กลับแต่อย่างใด เนี่ยนะหรอ คนที่พ่อของเธออยากที่จะฝากเธอไว้กับคนอย่างเขา แค่คำว่ามารยาทยังสะกดไม่เป็นเลย แล้วจะให้เธอไปอยู่กับคนไร้มารยาทแบบนี้หรอ บอกเลยว่าไม่มีทา เธอไม่มีทางที่จะไปอยู่กับคนแบบนี้แน่นอน "เป็นไงบ้าง ลูกสาวของอาสวยไหม" เมื่อพ่อของเธอเอ่ยกับธีระ ถิงถิงก็รีบเบือนหน้าโดยทันที เพราะเธอไม่อยากให้ธีระเห็นหน้าของเธอ  "สวยดี แต่...อวดดีอวดเก่งไปหน่อย เผอิญว่าผมไม่ค่อยชอบคนอวดดี" เขาพูดพลางใช้สายตาจ้องเธอราวกับเจอของเล่นชิ้นใหม่ และพยายามนึกคิดว่าจะกำราบพยศของเธอได้อย่างไรดี เพราะดูแล้วนิสัยน่าจะคุณหนูไม่ยอมใคร "มีเรื่องจะพูดแค่นี้ใช่ไหมคะ หนูไม่เห็นว่าหนูจะอยู่หรือไม่อยู่ ก็ไม่เห็นต่างกันเลย หนูขอตัวก่อนนะคะ" พูดจบถิงถิงก็ลุกขึ้น เพราะดูเหมือนว่าพวกเขาพูดกันแค่สองคน เธอเป็นเหมือนอากาศธาตุที่ให้พวกเขาพูดข้ามหัวกัน "นั่งลงเดี๋ยวนี้ ฉันไม่ได้สั่งให้แกออกไป แกก็ไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น ไม่เห็นหรือไง ฉันกับคุณเคนกำลังคุยเรื่องของแกอยู่" สินธรเอ่ยออกมา ทำให้ถิงถิงหันไปมองธีระ ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย แล้วนั่งลงอีกครั้ง ตามคำสั่งของธีระ "งั้นเดี๋ยวผมจะเป็นคนกำหนดงานแต่งเอง แล้วช่วยบอกลูกสาวของคุณอาว่าเคลียร์เรื่องของตัวเองให้พร้อม ผมไม่อยากมีปัญหาวันแต่งงาน แล้วไม่ต้องห่วง ผมจะจัดงานแต่งในเร็วๆนี้แน่นอน" คำพูดของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวงุงงงและตกใจไม่น้อย เพราะเธอปฏิเสธมาตลอดว่างานนั้นมันจะต้องเกิดขึ้นระหว่างคนที่เธอรัก ไม่ใช่มาคลุมถุงชนกันแบบนี้ ทำให้ร่างกายของเธอลุกึ้นพรวดพลาดทันที  "งานแต่งบ้าบออะไร ป๊า นี่มันอะไรกัน หนูก็บอกป๊าไปแล้วนิทำไมไม่ฟังหนูบ้าง" ถิงถิงลุกขึ้น ก่อนจะโวยวายออกมา การกระทำของเธอแบบนี้มันไม่ได้บ่อยนัก หรือถ้าให้คิด มันแทบจะไม่มีเลยด้วยซ้ำที่หญิงสาวโวยวายออกมาแบบนี้ เพราะเธอคือคนที่ใจดี แล้วอ่อนน้อมถ่อมตน "คุณอาคงไม่ได้บอกเธอสินะว่าเธอต้องแต่งงานกับฉัน และเธอก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธ เพราะฉะนั้น ช่วยเคลียร์ตัวเองด้วย โดยเฉพาะกับไอ้หมอคนนั้น อย่าให้มันมาวุ่นวายกับงานแต่งของฉันและเธอ" ธีระลุกขึ้น ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ๆร่างของหญิงสาว ก่อนที่หญิงสาวจะใช้มือเล็กผลักเขาออกไปให้ไกลตัว ความรู้สึกตอนนี้มันชา เธอควรทำยังเธอเหมือนโดนบังคับให้ไปฆ่าตัวตายไม่มีผิด แล้วทำไมเธอจะไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ ในเมื่อนี้มันชีวิตของเธอ "ไม่ถิงไม่มีทางแต่งกับคนไร้มารยาทแบบนี้แน่นอน ป๊าทำแบบนี้กับหนูทำไมอ่ะ หนูก็บอกไปหลายครั้งแล้วไม่ใช่หรอ หนูเคยบอกป๊าว่าหลังจากเรียนจบหนูขอใช้ชีวิตของตัวเอง เหมือนที่คนอื่นๆเป็น หนูขอเลือกเส้นทางเอง หนูอยากเลือกคนที่หนูรัก ไม่ใช่คนที่ป๊าเลือกให้" พูดจบถิงถิงก็วิ่งออกไปทันที เมื่อเท้าก้าวออกมาไม่กี่ก้าวก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อลูกน้องของสินธรขว้างเธอไว้ ไม่ให้เธอออกไปตามคำสั่งของสินธร เธอเคยบอกไปหลายครั้งแล้วว่าเธอแค่อยากเลือกชีวิตของตัวเอง ตั้งแต่เด็กจนโตเธอเชื่อฟังสินธรมาโดยตลอด เธอขอแค่เมื่อโตมาเธออยากใช้ชีวิตที่ตัวเองเลือก อยากที่จะเลือกคนรักเอง แค่เรื่องนี้เรื่องเดียว อยากจะสร้างครอบครัวกับคนที่รัก ไม่ใช่คนที่โดนจับคลุมถุงชน "หลบไป ฉันบอกให้หลบไปไง!!" หญิงสาวตวาดออกมา ทำให้ลูกน้องของสินธรต่างสดุ้งกันทั่วถึง เพราะหญิงสาวไม่ใช่คนที่จะใช้อารมณ์แบบนี้ และเธอเป็นคนที่ใจดีที่สุดในบ้าน เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่ถือตัว แม้ว่าจะมีบางครั้งที่เธอโกรธ แต่ก็ไม่เคยใช้น้ำเสียงที่ตวาดพวกเขาแบบนี้เลย หากเธอเป็นแบบนี้มันสามารถทำให้พวกเขากลัวได้ง่ายๆเลย  เพราะเขาว่ากันว่าคนที่ใจดี และคนที่ไม่เคยโกรธไม่เคยตวาด จะดูน่ากลัวที่สุด และตอนนี้มันทำให้พวกเขากลัวก็เพราะเธอว่าหญิงสวไม่เคยโกรธใส่พวกเขานั่นเอง "แกขึ้นไปบนห้องเดี๋ยวนี้ แล้วก็อยู่ในห้องจนถึงพรุ่งนี้เช้า ไม่ต้องลงมา เพราะพรุ่งนี้คุณเคนจะมารับแกไปลองชุดแต่งงาน อย่าคิดที่จะหนี เพราะแกก็รู้ว่าฉันสามารถหาตัวแกได้ไม่ยาก พวกแกเฝ้าคุณหนูถิงถิงเอาไว้ให้ดี อย่าให้คุณหนูถิงถิงออกไปไหนเด็ดขาด" คนเป็นพ่ออย่างสินธรเอ่ยสั่งลูกน้อง ก่อนที่จะก้าวขาไปส่งว่าที่ลูกเขย หญิงสาวได้แต่โกรธหัวใจของเธอมันร้อนหรุ่มปนกับเสียใจ เธออยากจะออกไปจากที่นี่แล้วไม่กลับมาอีกเลย แต่ใครๆก็รู้ว่าเธอไม่สามารถทำได้ เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง ก๊อก ก๊อก ก๊อก "คุณหนูครับ คุณหนูถิงถิงครับ ออกมาทานข้าวก่อนเถอะนะครับ คุณหนู" เอกเอ่ยเรียกหญิงสส เพราะเขาเป็นห่วงเธอมาก เขารู้ว่าหญิงสาวอย่างคุณหนูถิงถิงนั้นเวลรักใครแล้วเธอจะรักมาก แล้วที่สำคัญยิ่งตอนนี้เธอมีคนที่เธอรักแล้วอยากที่จะแต่งงานอยู่แล้วด้วย เธอยิ่งไม่ยอมแต่งงานกับคนที่ไม่รัก เพราะเธอนั้นมีคนที่รักเธอและคนที่เธอรักอยู่แล้วื และที่เขาได้ขึ้นมาเองนั้นก็เพราะว่าตอนแรกเขาให้คนอื่นเอาขึ้นมาแล้ว และก็ไม่เห็นว่าเธอจะลงไปทานเหมือนทุกๆวัน ก็เลยเกิดความเป็นห่วง ไม่อยากให้หญิงสาวเจ็บป่วย เพราะเขาทั้งรักแล้วก็เป็นห่วงเพราะเขาเห็นเธอเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง "......." แต่เสียงกลับเงียบ หญิงสาวไม่ได้ตอบอะไรออกมาเลยสักคำ แม้แต่ส่งเสียงสัญญาณออกมาก็ไม่มีเลย ทำให้เขานั่นหวั่นใจ กลัวว่าหญิงสาวจะเสียใจหนักจนคิดสั้น เมื่อคิดได้ดังนั้นเขาก็รีบวิ่งลงไปเอากุญแจห้องของเธอมาไข เพื่อดูว่าหญิงสาวเป็นอะไร หัวใจแกร่งสั่นระรัวมันบีบรัดเพราะกลัวว่าจะเสียเธอไป แกร๊ก แกร๊ก แกร๊ก  เมื่อเขาเปิดประตูเข้ามาในห้องของหญิงสาวหัวใจของเขามันบีบรัดด้วยความสงสาร เมื่อเห็นหญิงสาวหญิงนั่งในห้องที่มีเพียงแสงจากไฟประดับ เธอนั่งอยู่ปลายเตียง และนั่งตรงพื้น เธอเงียบตาไม่มองที่เขาเลยสักนิด เธอกดไฟประดับนั้นซ้ำๆจนมันติดๆดับๆ จิตใจของถิงถิงมันล่องลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัว มบหน้าของเธอนั้นเปื้อนคราบน้ำตาอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเห็นดังนั้นเอกก็รีบเดินเข้าไปดูหญิงสาวทันที  "คุณหนูถิงถิง พอเถอะครับ คุณหนู" เมื่อเธอไม่สนใจเขาเอาแต่กดไฟให้มันติดๆดับๆอยู่อย่างนั้น เขาจึงจับมือของหญิงสาวก่อนจะแย่งปุ่มนั้นมาไว้ในมือของตนเอง "คุณหนูครับ ทานข้าวเถอะนะครับ เดี๋ยวคุณท่านจะเป็นห่วงเอา" หญิงสาวหันมองเอกด้วยแววตาว่างเปล่า เธอไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เอกเอ่ยออกมามันคือคำโกหกที่ไม่เนียนที่สุด "ห่วงงั้นหรอ ป๊าไม่เคยห่วงถิง เรื่องนั้นพี่ก็รู้ดีนิ ป๊ากลัวถิงตยแล้วไม่มีใครแต่งงานกับนายนั้นมากกว่า พี่อย่ามาโกหกดีกว่า เพราะป๊าไม่เคยเป็นห่งถิงด้วยซ้ำ" มันคือเรื่องจริง เพราะวันวันสินธรเอาแต่ยุ่งเรื่องที่บริษัท เธอมีแค่เงินที่เยียวยาจิตใจ หรือเรียกง่ายๆเลยก็คือ สินธรไม่เคยเลี้ยงดูเธอด้วยความรัก ทั้งหหมดสินธรเลี้ยงดูเธอด้วยเงิน  "หนูแค่ไม่อยากแต่งงานกับนายนั่น หนูมีคนที่เขารักหนูและหนูก็รักเขาอยู่แล้วอ่ะ แล้วทำไม ทำไมเรื่องที่เราสองคนเคยคิดกันไว้เรื่องที่หนูกับพี่เรศบอกจะแต่งงานกัน มันถึงมีอุปสรรคมากขนาดนี้ หนูแค่อยากแต่งงานกับคนที่หนูรักก็เท่านั้น แต่ไม่มีใครเข้าใจหนูเลย" เธอบรรยาออกมาตามความรู้สึกที่มันอยู่ก้มบึ้งจิตใจของเธออกมาจนหมด แม้วว่าเอกจะสงสาร แต่เขาก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้เลย เพราะเขานั้นไม่มีอำนาจมากพอที่จะช่วยหญิงสาว "พี่ออกไปเถอะค่ะ ถิงไม่หิว ถิงอยากอยู่คนเดียว" เธอว่าจบก็เดินเข้าห้องน้ำไป เอกที่ทำอะไรไม่ได้มากก็เลือกที่จะตั้งอาหารเอาไว้ที่หัวเตียง เผื่อว่าเธอหิวเธอก็คงจะทานเอง  แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าคืนนี้เธอจะทำอะไร เพราะท่าทางของเธอมันเหมือนคนที่ไปไหนไม่ได้ และคืนนี้เธออยากจะหนีออกห่างจากคฤหาสน์ที่ไร้ความสุขแห่งนี้ เธอไม่อยากที่จะอยู่อีกต่อไป การหนีคือทางเดียวของเธอ ไม่หนีเธอก็แต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก ถ้างั้นเธอก็เลลือกหนีไปตายเอาดาบหน้าซะยังดีกว่า ดีกว่านอนรอวันที่เธอต้องอยู่อย่างทุกข์ทรมาน  เธออศัยจังงหวะที่ทุกคนในบ้านนอนกันหมดแล้ว ก่อนจะค่อยๆหย่องเดินออกไป แม้ว่าการหนีมันจะลำบากเพราะแน่นอนว่าพ่อของเธอมีอิทธิพล เลยทำให้มีคนมาสลับเวรกันเพื่อกันรอบๆบ้าน แต่แล้วเธอก็สามารถหนีออกมาได้ ก่อนจะมุ่งหน้ไปยังที่ที่หนึ่ง ที่ที่เธอคิดว่ามันปลอดภัยสำหรับเธอ ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูห้องของหมอเรศดังขึ้นรัวๆทำให้ร่างหนาของหมเรศเดินออกมาเปิดประตูด้วยความสงสัย เพราะไม่ค่อยมีใครมาหาเขาตอนดึกดื่นๆแบบนี้  "ถิง อึก" เขาเอ่ยเรียกหญิงสาวตรงหน้า ก่อนที่ถิงถิงจะสวมกอดเขา "ฮื่อ ช่วยถิงหน่อยได้ไหม พาถิงหนีออกไปที ถิงไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว อึก...ถิงไม่อยากแต่งงานกับคนอื่นนอกจากพี่ แต่ป๊าไม่เข้าใจอะไรถิงเลย พาถิงหนีไปหน่อยนะ" หญิงสาวร้องไห้ออกมาอย่างหนัก ก่อนที่เธอจะขอร้องและอ้อนวอนให้หมอเรศพาเธอหนีออกไปจากที่นี่ หนีไปให้ไกล ไกลที่สุดจนสินธรหาเธอไม่เจอ  "ถิง...." หมอเรศเอ่ยออกมาเสียงเบาเรียบนิ่ง ก่อนที่มือใหญ่จะทำหน้าที่ปาดน้ำตาออกจากพวงแก้มของเธอ เพราะเขานั้นไม่เคยชอบน้ำตาของหญิงสาวเลยสักนิด ยิ่งเห็นแบบนี้เขายิ่งรับไม่ได้  "ได้ รอพี่อยู่ตรงนี้ก่อนนะ เราจะไปด้วยกัน" หมอเรศตัดสินใจได้อย่างง่ายดาย เพราะเขาเองก็ไม่อยากเห็นเธอทรมาร และที่เขาไม่ให้หญิงสาวอยู่ตรงนี้ ก็เพราะรู้ดีว่าสินธรพ่อของหญิงสาวนั้นเป็นคนมีอิทธิพลแค่ไหน หากจะหาตัวของลูกสาวคนเดียวก็คงจะหาได้ไม่ยาก และถ้าเกิดสินธรรู้ไม่นานเกินรอลูกน้องของสินธรก็จะแห่มาที่คอนโดของเขาเพื่อตามหญิงสาวกลับไป "ไปกันเถอะ ก่อนที่พ่อจะมาที่นี่" ว่าจบหมอหนุ่มก็จับมือของหญิงสาวเพื่อพาเธอไปยังลานจอดรถของคอนโดเขา หมอหนุ่มและหญิงสาวต้องทำเวลาเป็นอย่างมาก เพราะไม่นานคนพวกนั้นก็จะตามมาหาหญิงสาว เขารักหญิงสาวมาก มากเกินกว่าเห็นงานแต่งของเธอกับผู้ชายคนอื่น เขารักเธอยิ่งกว่าอะไร และเธอเองก็รู้ว่าเขารักเธอมากเพียงไหนและเธอเองก็รักเขาจนไม่มีคำบรรยาย วินาทีนี้ไม่ว่าจะเสี่ยงแค่ไหนเขาก็ยอมทำเพื่อคนรัก เพื่อที่เขาทั้งสองจะได้อยู่ด้วยกัน  "ขอบคุณนะคะ ที่รักหนูมาตลอด ขอบคุณที่พี่อยู่เคียงข้างหนูมาตลอด" ยังไงเขาก็จะพาหญิงสาวหนีเขาไม่อยากเห็นหญิงสาวต้องจมปรักกับความทุกข์ที่เกิดขึ้นเพราะผู้ใหญ่แต่หากวันไหนที่หญิงสาวเป็นคนบอกว่าเธอตัดสินใจทำแบบนั้นเองเขาก็จะไม่ขัดอะไรเลยสักอย่าง  เช้าวันต่อมา "นายครับ...เอ่อ...คือ" ลูกน้องของสินธรเอ่ยออกมาอย่างตะกุกตะกะ เพราะไม่รู้จะรายเกี่ยวกับคุณหนูบ้านยังไงดี  "มัวแต่อ้ำๆเอิ่มๆแล้วมันจะได้เรื่องอะไรไหมวะห่ะ!" เพราะตอนนี้สินธรนั้นโกรธมากมันเลยทำให้พวกเขากลัว เขาโมโห เมื่อรู้ว่าลูกสาวคนเดียวอย่างถิงถิงหนีออกจากบ้านเพื่อหนีการแต่งงานครั้งงนี้ "ผมไปเช็คที่โรงพยาบาลแล้วครับ หมอเรศออกเวรตั้งแต่ตอนเย็น หลังจากนั้นก็กลับคอนโด ก่อนที่หมอคนนั้นจะโทรหา ผ.อ แล้วบอกว่าจะลาพักร้อน แล้วนี่ครับ ผมได้ไปที่คอนโดหมอเรศ ยามบอกว่าเห็นคุณหนูไปที่นั่น ก่อนที่ทั้งสองจะออกไปด้วยกัน" เอกรายงานสิ่งที่ตนได้ไปสืบมา หลังจากที่ได้ข่าวว่าหญิงสาวได้หนีออกจากบ้านไป และที่ทุกคนรู้ว่าหญิงสาวหนีออกไป ก็เพราะว่าเขานั้นเดินขึ้นไปบนห้องของเธอ เพื่อที่จะเก็บจานข้าว แต่แล้วเขาก็ไม่เห็นร่างของหญิงสาว  ปั่ก!!! เดี๋ยวนี้ยัยถิงมันชักจะปีกกล้าขาแข็งเกับฉันมากเกินไป ตั้งแต่คบกับไอ้หมอคนนั้นก็นิสัยเสีย ฉันบอกให้เลิกคบไปก็ไม่เชื่อ ไอ้ลูกไม่รักดี!" สินธรเลือดขึ้นหน้าอย่างเห็นได้ชัด ห่อนหน้านั้นหญิงสาวเคยพาหมอหนุ่มมาแนะะนำตัวกับเขา แต่เขาไล่เพ่นกลับไป เพราะยังไงเธอก็ไม่มีทางได้ใช้ชีวิตคู่กับหมอนั่น เพราะเขาได้เลือกคู่ครองให้เธอแล้ว แต่หญิงสาวกลับไม่เชื่อฟังเขา หนำซ้ำยังไม่เลิกยุ่งกับหมอเรศตามคำสั่งของเขาด้วยซ้ำ "เอ่อ...นายครับ คุณหนูถิงถิง อาจจะไม่อยากแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักก็ได้นะครับ คุณหนูอยากเลือกที่คนที่เขารักคุณหนูมากกว่านะครับ" เอกพูดเสียงเบา แต่ยังไงมันก็ดังพอจนทำให้สินธรได้ยินสิ่งที่เอกพูดออกมาทั้งหมด และแน่นอนว่าเขายิ่งโมโหมากกว่าเดิมเมื่อได้ยินแบบนั้น   "มึงมีสิทธิ์มาออกความเห็นเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ลูกของกูกูอยากให้มันแต่งงานกับใครมันก็เรื่องของกู และมันก็ต้องเป็นคนที่กูเลือกให้เท่านั้น เพราะถ้าเลือกแล้วมันคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกของกู" เอกก้มหน้าก้้มตาไม่อยากจะพูดอะไรต่อเขารู้นิสัยของเจ้านายของตัวเองดี เขาไม่ยอมฟังความเห็นต่าง ไม่ยอมรับฟังใครแม้แต่ลูกสาวของตัวเอง "มึงไปลากตัวของมันกลับมาให้ได้ ก่อนที่คุณเคนจะรู้ เพราะยังไงถ้าเกิดว่าคุณเคนรู้ คุณเคนคงไม่ปล่อยมันทั้งมันแล้วก็ไอ้หมอเวรนั้นไว้แน่ๆ" เพราะธีระเป็นคนที่ไม่ยอมเสียศักดิ์ศรีให้ใครง่าย ยิ่งถิงถิงทำแบบนี้ อย่าคิดว่าธีระเขาจะยอม  ด้านหญิงสาว  "พี่หวังว่าถิงจะอยู่ได้นะ พี่ไม่อยากไปเช่าโรงแรมหรู เพราะยังไงป๊าของถิงก็ต้องเช็คข้อมูลของโรงแรมได้อยู่แล้ว" หญิงสาวรู้ข้อนี้ดีที่หมอเรศไม่พาเธอไปพักโรงแรมหรูๆก็เพราะว่าสินธรพ่อของเธอสามารถตามหาตัวของเธอได้ง่ายขึ้น เพราะยังไงสินธรก็ต้องเช็ครายชื่อตามโรงแรมอยู่แล้ว แล้วที่สำคัญคนที่เธอต้องแต่งงานด้วยเขาก็คงจะต้องตามหาเธอด้วยเหมือนกัน จริงๆหมอหนุ่มก็มีบ้านพักตากอากาศเขาก็อยากที่จะพาเธอไปที่นั่น แต่เขารู้ว่าสินธรสืบประวัติเขามาหมดแล้ว การหาบ้านพักตากอากาศของเขาคงหาง่ายไม่ต่างจากคอนโดของเขาหรอก  "ได้ค่ะ ถิงอยู่ได้ ขอแค่ไม่ต้องกลับบ้านไปแต่งงานกับคนอื่นก็พอ" หญิงสาวเดินเข้าไปในห้องเช่าเล็กๆ อาจจะเป็นเพราะว่าเธอเคยอยู่แต่ที่กว้างๆทำให้เธอไม่คุ้นชินกับสถานที่แบบนี้  ถ้าว่าตามความเป็นจริงลูกคุณหนูอย่างเธอไม่เคยต้องมาอยู่ห้องเล็กๆแบบนี้ พอมาอยู่มันก็รู้สึกแปลกๆไปอีกแบบ ลูกคุณหนูอย่างเธอเคยอยู่ที่กว้างๆห้องกว้างๆหรูๆมีคนเรียกให้ใช้ตลอดเวลา แต่ยังไงแล้วเธอต้องอยู่ให้ได้ แม้ว่าห้องจะเล็กแต่หากเธอมีคนที่รักแค่นี้ก็พอแล้ว "เป็นอะไรหรือเปล่ถิง อยู่ได้แน่นะ" หมอหนุ่มเป็นกังวลเมื่อเห็นว่าหญิงสาวมองห้องพักอย่างกล้าๆกลัวๆ "อยู่ได้คะ ขอแค่อยูุ่กับพี่ยังไงถิงก็อยู่ได้แน่นอน เชื่อใจเถอะน่าาา" เธอแสร้งยิ้มออกมาเพราะกลัวว่าหมอเรศจะไม่สบยใจ เพราะไม่ว่ายังไงงเธอก็ต้องอยู่ให้ได้ ไม่ว่ายังไงก็ต้องอยู่ "จริงเลยนะเราเนี่ย" หมอเรศยิ้มออกมาด้วยเอ็นดู แม้ว่าสีหน้าจะกังวล แต่หญิงสาวยังเป็นห่วงความรู้สึกของเขา และไม่ให้รักได้ยังไง "แล้วพี่จะทำยังไงกับงานคะ พี่ไม่ต้องอยู่เวรหรอคะ" หญิงสาวสงสัยเล็กน้อย เพราะเธอรู้ดีว่าคนเป็นหมอแทบจะไม่มีเวลาเลย แล้วนี่หมอเรศเล่นพาเธอหนีมาแบบนี้ เธอก็กลัวว่าหมอเรศจะเสียการเสียงาน "ไม่เป็นไรหรอก พี่โทรไปลาพักร้อนแล้วล่ะ  ไม่ต้องห่วง เพื่อตัวเล็กของพี่พี่ทำได้ทุกอย่าง" เขาลูบหัวหญิงสาวอย่างนึกเอ็นดู 3 ปีที่คบกันมาเขาไม่เคยเสียดายเวลาที่เขาแลละเธอได้อยู่ด้วยกันเลยสักนิด เพราะทุกเวลาที่มีเธอมันทำให้เขามีความสุขมากเลยล่ะ "ไม่รู้เมื่อไหร่ ที่ป๊าจะหาตัวของหนูเจอ ถ้าเกิดถึงตอนนั้นหนูจะกอดแขนพี่ หนูจะไม่ไปไหนทั้งนั้น และไม่ให้พี่ไปไหนด้วย"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD